ดาวย้ายราศี

 

2. ดวงชะตา “ดาวย้ายราศี” นี้มักเอามาอ่านดวงเมือง ผูกดวงโดยอ้างอิงท้องฟ้าจาก ละติจูด-ลองจิจูด ไหนก็ใช้พยากรณ์ให้ท้องถิ่นนั้นๆได้
ส่วนการอ่านดวงคนก็ทำได้ โดยเอาดวงจรดาวย้ายราศีนี้มาตั้งเทียบกับดวงกำเนิด ความจริงบ้านเมืองที่มีดวงเมือง (รู้เวลากำเนิดของเมืองที่แน่นอน) ก็ใช้วิธีนี้ในการพยากรณ์ได้เช่นกัน

 

3. หลักวิชาโหราศาสตร์นั้น เท่าที่ทราบคือทั้งโลกนี้ (หมายถึงโหรไทย แขก ฝรั่ง อื่นๆ) มีคติเรื่อง “ดาวย้ายราศี” นี้ตรงกันหมด โดยถือว่าเป็น “จังหวะฟ้าสำคัญ” เอามาใช้พยากรณ์ได้ขลังดี โดยเฉพาะการพยากรณ์เหตุการณ์บ้านเมืองดังที่ได้กล่าวถึงไปแล้วในข้อ 2

 

4. ท่านต้องเข้าใจว่าโหราศาสตร์ในโลกนี้มี 2 ระบบใหญ่ๆ คือ “นิรายนะ” (เช่นโหรไทย อินเดีย) และ “สายนะ” (เช่นโหรฝรั่งทั้งหลาย) ทั้ง 2 ระบบนี้ใช้ปฏิทินคนละแบบคนละหลักคิด จึงมีจุดแบ่งราศีที่ไม่ตรงกัน ทุกวันนี้คลาดเคลื่อนไปประมาณ 24 องศา โดยค่าความคลาดเคลื่อนกันนี้เรียกว่าค่า “อายนางศ” ดังนั้น ปรากฏการณ์ “ดาวย้ายราศี” ของโหรทั้ง 2 สำนักนี้จึงไม่ตรงกัน เช่นระบบนิรายนะที่ใช้กันในโหราศาสตร์ไทย-อินเดีย ระบุว่า ดาวพฤหัสย้ายจากราศีเมษเข้าสู่ราศีพฤษภ ในวันที่ 13/04/2567 เวลา 13.03 น. (อ้างอิงจาก myhora.com เจ้าเก่า) ก็คือที่เป็นกระแสสังคมกันในตอนนี้ แต่ในระบบสายนะซึ่งใช้กันในโหราศาสตร์สากล-ยูเรเนี่ยน ท่านว่าดาวพฤหัสในเวลาเดียวกันนี้อยู่ที่ราศีพฤษภ ในตำแหน่ง 20 องศา 2 ลิปดา จะเห็นว่าในระบบสายนะนั้นพฤหัสย้ายราศีแซงหน้าไปก่อนนานโขแล้ว

(และโปรดอย่าได้ถามว่าอันไหนแม่นกว่ากันเพราะตอบไม่ได้ ที่แม่นโคตรๆ และไม่แม่นเลยมีทั้ง 2 สำนัก)

ซึ่งที่เราเห็นเขามีการประโคมข่าว ว่าดาวย้ายนั่นก็คือสายนะ  “นิรายนะ” ซึ่งเป็นที่นิยมใช้โดยส่วนใหญ่ในโหราศาสตร์ไทย

 

5. ดาวเคราะห์แต่ละดวงโคจรวนไปรอบดวงอาทิตย์ด้วยความเร็วเฉพาะของตัวเอง ดาวยิ่งอยู่ไกลยิ่งเคลื่อนที่ช้าเพราะวงโคจรมันยาวกว่า (ลองนึกถึงลู่วงกลมๆ ใครวิ่งวงนอกโคตรเสียเปรียบ) ดังนั้นโดยธรรมชาติแล้วจึงสนใจหรือให้ความสำคัญเรื่องดาวย้ายราศีกับดาวที่วงนอกๆหน่อย เช่นดาวพฤหัสเป็นต้นไปด้วยเหตุผลว่านานๆ มันจะย้ายที (พฤหัสย้ายราศีทุกๆ 1 ปี ส่วนดาวเสาร์ย้ายทุก 2 ปีครึ่ง  ราหูจะย้ายทุกๆ 1 ปีครึ่ง หรือ มฤตยูย้ายทุกๆ 7 ปี) ส่วนดาวที่ใกล้โลกมากๆ อย่างดวงจันทร์ย้ายกันรัวๆ เป็นหลักชั่วโมง ความน่าสนใจก็จะน้อยหน่อย เป็นธรรมชาติของคนที่มักสนใจอะไรที่มันนานทีปีหน

 

6.โหราศาสตร์ไทยเขียนด้วยวิธี “ราศีจักร” คือแบ่งท้องฟ้าออกเป็น 12 ช่องสำหรับ 12 ราศี ดาวใดอยู่ในราศีใดก็เขียนลงไปในช่องนั้น เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่าจะอยู่ในตำแหน่งต้นราศี กลางราศี หรือท้ายราศีก็อยู่ช่องเดียวกันหมด จะไม่เห็นความแตกต่างในเรื่องนี้ยกเว้นแต่จะเขียนดวงกันอย่างละเอียดในระดับนวางค์ (ซึ่งในทางปฏิบัติจริงก็ไม่ค่อยมีคนทำกันเพราะเสียเวลามากยกเว้นใช้โปรแกรมคำนวณ)

แต่ในขณะที่ดาวเคราะห์นั้นเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆ ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว เพราะฉะนั้นหากพิจารณาในดวงราศีจักร เราจะมองไม่เห็นการเคลื่อนไหวนี้ (ไม่เห็นว่าดาวมันค่อยๆ เดินไปวันล่ะหน่อย) จนกว่าจะเกิดดาวย้ายราศีหรือก็คือดาวย้ายช่อง มันจึงเกิดเป็นความเปลี่ยนแปลงขึ้นในดวงชะตา(จร)อย่างชัดเจน และอย่างที่กล่าวไปแล้วว่าดาววงนอกๆ เช่น พฤหัส เสาร์ เป็นต้นไปนั้นเดินช้า นานๆ จะย้ายช่องที ดังนั้นจึงน่าสนใจแน่ๆ เมื่อเทียบกับดาวเดินเร็ว

 

7. โหราศาสตร์ทั่วโลกให้ความสำคัญกับดาวพฤหัส(โชค) และดาวเสาร์(เคราะห์) มานั้นแต่สมัยโบราณ การที่ดาวเหล่านี้เคลื่อนที่เปลี่ยนตำแหน่งของตัวเองจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถือว่าส่งผลโดยตรงโชคและเคราะห์ของคนบนโลก 


ขอบคุณที่มา : https://www.facebook.com/astrofutureplanner