พระสิวลี/พระฉิมพลี

             ประวัติพระสีวลี   
   
  

                ประวัติพระสีวลี
                     ชาติภูมิ 
พระสีวลีท่านเป็นโอรสของพระนางเจ้า “สุปปะวาสา”  ซึ่งเป็นพระราชธิดาของกษัตริย์โกลิยวงศ์แห่งกรุงโกลิยะ ท่านอาศัยอยู่ในท้องของพระมารดานานถึง ๗ ปี  ๗  เดือน  ๗ วัน  ในขณะที่ท่านอยู่ในท้องของพระมารดานั้นทำให้พระมารดาของท่านมีโชคลาภสักการะ เกิดขึ้นอย่างมากมายอย่างไม่ขาดสาย อยากได้อะไรก็มีคนนำเอามาให้โดยไม่ต้องซื้อไม่ต้องขาย ท่านอาศัยอยู่ในท้องของพระมารดานานถึง ๗ ปี  ๗ เดือน  ๗ วัน

       ตรงนี้มีคำถามสอดแทรกเข้ามาเพราะความอยากรู้ว่า “ทำไม? พระสีวลีท่านจึงอยู่ในท้องของพระมารดานานถึง ๗ ปี  ๗ เดือน  ๗ วัน  ซึ่งมันเป็นเรื่องผิดปกติกว่าผู้หญิงทั้งหลายที่มีอยู่ในโลกนี้  ธรรมดาผู้หญิงถ้ามีท้องก็จะมีท้องนานไม่เกิน  ๙  เดือน  นี่ท่านอาศัยอยู่ในท้องของพระมารดานานถึง ๗ ปี  ๗ เดือน  ๗ วัน จะไม่ทำให้พระมารดาของท่านต้องเจ็บปวดทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสมากดอกหรือ?

   ตรงนี้มีคำตอบเพื่อให้ท่านผู้อ่านทั้งหลายได้หายสงสัยว่า “สาเหตุที่ทำให้พระสีวลีต้องอยู่ในท้องของพระมารดานานถึง ๗ ปี  ๗ เดือน  ๗ วัน  นั้นก็เป็นเพราะอดีกรรมฝ่ายอกุศลของท่านที่ทำเอาไว้ในอดีตชาติซึ่งมีประวัติความเป็นาดังนี้

   ในสมัยหนึ่งกาลก่อนที่ท่านจะมาเกิดเป็นพระสีวลีนี้  ท่านได้เกิดเป็นพระราชา คือเกิดเป็นพระเจ้าแผ่นดินของเมืองกะสินครในประเทศอินเดีย  มีครั้งหนึ่งเมืองกสินครและเมืองปะสินครเกิดมีศึกสงครามระหว่างกัน  พระราชาของเมืองกะสินครได้ทรงยกกองทัพใหญ่ไปปิดล้อมเมืองปะสินครเอาไว้ด้วยหวังว่าถ้าชาวเมืองปะสินครถูกปิดล้อมเอาไว้ไม่ให้ ประชาชนออกไปทำมาหากินนอกเมืองได้ เดี๋ยวพวกมันก็จะยอมแพ้ไปเอง 

พระเจ้ากะสินครทรงให้กองทัพยกไปล้อมเมืองปะสินครเอาไว้เป็นวลานานถึง ๗ ปี  ๗ เดือน  แล้วชาวเมืองปสินครก็ยังไม่ยอมแพ้   พระเจ้ากสินครก็ทรงแปลกพระทัยว่าทำไมเราให้กองทัพไปปิดล้องเมืองปะสินครเอา ไว้นานถึง ๗ ปี  ๗ เดือนแล้วพวกมันก็ยังไม่ยอมแพ้  พระองค์จึงทรงมีพระบัญชาให้ราชบุรุษไปสืบดูซิว่ามันเป็นเพราะอะไร 

เมื่อราชบุรุษไปสืบดูแล้วก็รู้ว่าสาเหตุที่ชาวเมืองปะสินครยังไม่ยอมแพ้นั้น ก็เป็นเพราะชาวเมืองปะสินครยังออกไปทำมาหากินนอกเมืองได้อยู่ โดยการออกไปทางประตูเล็กซึ่งอยู่ทางด้านหลังของกำแพงเมือง  เมื่อพระเจ้ากะสินครทรงทราบดังนั้นแล้วจึงได้ส่งกองทัพเล็กซึ่งมีทหารหมื่นหนึ่งไปปิดล้อมประตูเล็กเอาไว้เป็นเวลา ๗ วัน  ประชาชนชาวปะสินครทนต่อความอดอยากไม่ไหวเพราะออกไปทำมาหากินนอกเมืองไม่ได้ จึงได้จับเอาพระะเจ้าปะสินครผู้ที่เป็นพระราชาของตนฆ่าเสียแล้วยกราชสมบัติ ให้แก่พระเจ้ากะสินคร การยกทัพมาล้อมประตูเล็กของเมืองเอาไว้นี้ได้ผลดีทำให้ชาวปะสินครต้องยกธงขาว ยอมแพ้อย่างราบคาบ  

ด้วยผลแห่งกรรมอันนี้ๆแหละทำให้ท่านพระสีวลีต้องมานอนทนทุกข์ทรมานอยู่ในท้องของพระมารดายาวนานถึง ๗ ปี  ๗ เดือน  ๗ วัน  ตามประวัติของท่านพระสีวลีตอนนี้ทำให้เราได้ทราบว่าใครทำกรรมอะไรไว้ไม่เร็วก็ช้าผู้นั้นจะต้องได้รับผลแห่งกรรมนั้นอย่างแน่นอนจะหลีกเลี่ยงหนีไปไม่พ้นโดยเด็ดขาด

อนึ่งในประวัติของท่านพระสีวลีตอนนี้ทำให้เรารู้ว่าศึกสงครามในสมัยโบราณนั้น พระเจ้ากะสินครคือพระสีวลีที่เป็นพระเจ้าแผ่นดินในสมัยนั้น  ท่านยังมีมนุษยธรรมอยู่ในใจ ไม่สั่งให้ทหารฆ่าคนตายเป็นบือเหมือนสงครามในสมัยปัจจุบันนี้  ข้าพเจ้าคิดว่าถ้าพระเจ้ากะสินครคือพระสีวลีในสมัยนี้ท่านสั่งให้ทหารฆ่าคนตายเป็นหมื่นเป็นแสน ท่านก็คงจะไม่ได้กลับมาเกิดเป็นพระสีวลีอย่างแน่นอน  ท่านจะต้องไปตกนรกหลายหมื่นหลายแสนปี เพราะอำนาจแห่งผลกรรมนั้นอย่างแน่นอน

อีกประการหนึ่งพระนางสุปปะวาสาผู้ที่เป็นพระมารดาคือแม่ของพระสีวลีนั้นท่านทำกรรมอะไรไว้ถึงมาเกิดเป็นแม่ของพระสีวลีจะต้องมาอุ้มท้องพระสีวลียาวนานถึง ๗ ปี  ๗ เดือน  ๗ วัน  อันเป็นความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัสมากเช่นนี้  ตามประวัติของพระนางบอกเอาไว้ว่าพระนางสุปปะวาสาได้เกิดเป็นพระมารดาของพระเจ้ากะสินครในสมัยนั้น  พระนางก็ได้บอกให้พระราชาที่เป็นราชโอรสคือลูกชายในสมัยนั้นให้ยกกองทัพไป ปิดล้อมประตูเล็กเอาไว้อย่าให้ประชาชนเข้าออกนอกเมืองเพื่อทำนา,หาฟืน,เก็บผัก,ตักน้ำได้ 

พระราชาคือพระสีวลีในสมัยนั้นก็ได้ปฏิบัติตามคำที่พระมารดาได้ทรงแนะนำ  ด้วยผลแห่กรรมที่พระนางได้แนะนำให้พระราชาผู้เป็นราชบุตรคือพระเจ้ากะสินครใน สมัยนั้นให้ยกกองทัพไปปิดล้อมประตูเล็กของเมืองเอาไว้  จึงทำให้พระนางได้มาเกิดเป็นพระนาง “สุปปะวาสา”  เป็นแม่ของพระสีวลีเพื่ออุ้มท้องเสวยผลกรรมที่พระนางได้ทรงแนะนำให้พระเจ้ากะสินครผู้เป็นพระราชโอรสกระทำทุรกรรมเอาไว้  นานถึง ๗ ปี  ๗ เดือน  ๗ วัน

เพราะเหตุฉะนี้จึงเป็นอันสรูปได้ว่าด้วยผลกรรมที่พระเจ้ากะสินครได้ทรงยกกองทัพไปปิดล้อมเมืองปะสินครเอาไว้นั้น ทำให้พระองค์ต้องมาเกิดเป็นพระสีวลีและด้วยผลกรรมที่พระมารดาได้ทรงแนะนำให้ลูกชายยกกองทัพไปปิดล้อมประตูเล็กของเมืองเอาไว้เพื่อทำให้ประชาชนภายในเมืองอดอยากจึงทำให้พระนางต้องมาเกิดเป็นพระนางสุปปะวาสา เพื่ออุ้มทองพระสีวลีเสวยผลกรรมที่พระนางได้ทรงกระทำทุรกรรมนั้นเอาไว้  ตรงนี้ทำให้เราทั้งหลายเข้าใจได้ว่า "การทำกรรมชั่วนั้นไม่ต้องทำทางกายคือไม่ต้องฆ่าสัตว์ตัดชีวิตการพูดแนะนำผู้อื่นให้กระทำชั่วก็เป็นบาปกรรมเหมือนกัน ขอให้ท่านผู้อ่านโปรดคิดดูให้ดี" 

 พอมาถึงตอนนี้ก็ได้มีคำถามสอดแทรกขึ้นมาอีกเพื่อความอยากรู้ว่า “ในขณะที่พระสีวลีอยู่ในท้องของพระมารดานั้น  ทำให้พระมารดาของท่านมึโชคลาภหลั่งไหลมาเทมาโดยไม่ขาดสายทั้ง ๑๐ ทิศ  ไม่ว่าจะเป็นแก้วแหวนเงินทองเพชรนิลจินดาเครื่องบริโภคและอุปโภคทรัพย์สมบัติทั้งหลายหลั่งไหลมาจนไม่มีที่เก็บ   และในตอนที่ท่านบวชเป็นพระแล้วท่านก็ได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่า “เป็นผู้เลิศกว่าพระสาวกทั้งหลายในทางเป็นผู้มีโชคลาภมาก”  

ที่มา : 
http://www.internetuniversity999.com/16181000/๒๖ประวัติพระสีวลี



หมายเหตุ : คัดลอกเขามาอีกที ไม่เก่ง ไม่ชำนาญ  มีความชอบและศรัทธาเฉพาะตน จึงทำให้อยากแบ่งปันจ๊ะ 




#By_คุณยายกลิ่นโสม
#เรียนโหราศาสตร์ไทยด้วยตนเอง ที่: #www.baankhunyai.com
-----------------------
ดูดวงติดต่อ Line : baankunyai  

Visitors: 172,927