อาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ
ผมกลับมาเล่าเรื่องของท่านอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ ตามที่รับปากคุณเอาไว้ เป็นเรื่องที่ท่านเขียนลงในหนังสือพยากรณ์สาร ฉบับเดือนกรกฎาคม 2525 โดยใช้หัวข้อเรื่องว่า "ชีวิตโหรเก่าที่ผมรู้จัก" ท่านได้เขียนถึงวิถีชีวิตของท่าน ได้เขียนถึงโหรเก่าๆ และเขียนถึงการได้เล่าเรียนในหลักวิชาโหราศาสตร์ที่ภายหลังท่านนำมาใช้จนมีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่นักโหราศาสตร์ในปัจจุบัน ก็ขอเชิญมารับชมรับฟังกันได้ครับ
"ชีวิตโหรเก่าที่ผมรู้จัก" อรุณ ลำเพ็ญ (พยากรณ์สาร กค.2525)
ชีวิตโหราศาสตร์ของผมเริ่มต้นมาแต่เด็กวัย ๑๐ ขวบเศษ ผมเกิดและเติบโตจากหมู่บ้านที่ติดกับวัดเชิงเลน (วัดบพิตรภิมุข) บิดาผมคุ้นเคยกับพระรูปหนึ่งในวัดโดยไปมาหาสู่และถวายภัตตาหารเสมอมา ผมว่างผมก็ตามบิดามาเล่นบนกุฏิท่าน ส่วนบิดาก็เสวนาเรื่องโหราศาสตร์ตามที่ท่านชอบกับพระรูปนั้น พอผมหมดเรื่องเล่นผมก็มานั่งฟังรู้เรื่องมั่งไม่รู้เรื่องมั่งเป็นกิจวัตรประจำ ภิกษุรูปนั้นก็คือ "โหรแดง" แห่งวัดบพิตรภิมุข ผู้โด่งดังในวงการโหรยุคเมื่อ 50 ปีก่อน โหรรุ่นเก่าทุกท่านรู้จักท่านดีว่า ท่านเชี่ยวชาญในการใช้ดาวใหญ่ คือ เสาร์ ราหู พฤหัส เท่านั้นในการพยากรณ์ ซึ่งเป็นที่แม่นยำน่าพิศวง
พอชีวิตเริ่มเป็นหนุ่ม ๒๐ เศษ ได้เข้าฝึกงานหนังสือพิมพ์ สยามนิกรยุค ซึ่งคุณโชติ แพร่พันธุ์ (ยาขอบ) เป็นคนคุมหนังสือฉบับนั้น และมีเพื่อนสนิทคนหนึ่งทำงานกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยใหม่ คือคุณจำนง วงศ์ข้าหลวง (ต่อมาท่านได้เป็นนักประพันธ์ผู้มีชื่อเสียงมาก) ผมได้ไปมาหาสู่ จนได้พบนักโหราศาสตร์ท่านหนึ่งในยุคนั้นถือกันว่ามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก เพราะท่านเขียนเรื่องโหราศาสตร์ไทยไว้เป็นเล่มมากเล่ม เป็นนักโหราศาสตร์ร่วมยุคกับท่านอายัณโฆษ ใช้นามปากกาว่า "ธงดำ" ผมเรียกชื่อจริงของท่านว่า พี่ชอุ่ม ท่านชอบเสพสุราและผมก็กำลังหัดกินเหล้าจึงถูกชักชวนมาร่วมวง ขณะกินเหล้าพี่ชอุ่มมักชอบสาธยายความรู้ทางโหราศาสตร์เสมอ ไม่เอาใจใส่ก็เหมือนต้องเอาใจใส่ เพราะต้องเอาใจพี่ชอุ่มซึ่งเป็นเจ้าของเหล้า เสวนากันเป็นแรมปี จนบางครั้งเรามาตั้งวงกินเหล้ากันลำพัง พอใครเอ่ยเรื่องดวงเรื่องดาวขึ้นมามักถูกเรียกเป็นพี่ชอุ่มเสมอ
ต่อมาได้ย้ายงานหนังสือพิมพ์มาทำอยู่หนังสือพิมพ์ สยายรีวิว ของนายชอ้อนอำพล ผู้เป็นน้าชาย เป็นหนังสือพิมพ์รายสัปดาห์ออกทุกวันเสาร์ ฉะนั้นวันจันทร์ถึงวันศุกร์จึงเป็นวันที่เร่ร่อนเที่ยวไปทุกแห่งเพื่อพบผู้คนมากมายเพื่อหาข่าวมาเขียนในวันเสาร์ น้าชอ้อนเป็นคนกว้างขวางมีเพื่อนมากได้ไปทุกแห่ง แต่พอตกบ่ายมักจะมาหยุดลงที่วัดยานนาวา ที่กุฏิริมแม่น้ำ อันเป็นกุฏิของพระมหาบุญช่วย เพราะที่นี่เป็นที่ชุมนุมผู้คนไปมามากหน้าหลายตาทั้งแขกขาประจำและแขกจรได้เรื่องราวมาเขียนมาก
พระมหาบุญช่วยก็คือ "ญาณโชติยศาสตร์" นักโหราศาสตร์ซึ่งต่อมาเขียนตำราโหราศาสตร์ไว้มากมายหลายเล่ม และนักโหราศาสตร์รุ่นเก่ารู้จักกันทุกคน แขกขาประจำมักจะมาสนทนาโต้แย้งสนับสนุนกันถึงเรื่องโหราศาสตร์ไทยกันอย่างสนุกสนาน บางครั้งร่วมวงกว่า ๑๐ คน ส่วนแขกจรมักเป็นคุณหญิงคุณนาย และผู้ใหญ่ที่มาดูดวงกัน
ท่านชอบทายต่อหน้านักโหราศาสตร์อื่นๆ พอทายถูกโดยไม้เด็ดเคล็ดลับ บ้างหัวร่อเฮฮากันจนคนมาดูอายม้วนก็เคยมีหลายๆครั้ง พอเจ้าตัวกลับไป ท่านก็จะอธิบายดวงโดยนักโหราศาสตร์อื่นๆดูเป็นความรู้ติดตัวไปเสมอต่อมาผมได้ย้ายบ้านมาอยู่กับน้าชอ้อนที่บ้านถนนข้าวสาร น้าชอ้อนคุ้นเคยอยู่กับโหรใหญ่ท่านหนึ่ง ผู้ลาออกจากกรมโหรหลวงในขณะที่เป็นรองเจ้ากรมโหรฯ เหตุที่ลานัยว่าเพื่อหนีตำแหน่งเจ้ากรมโหรฯ เพราะได้รับการทาบทามแล้วแต่ท่านต้องการที่จะหลีกทางให้เพื่อนรัก คุณพระญาณเวทท่านชอบเสพสุราเป็นนิจ จึงถูกอัธยาศัยกับน้าชอ้อนเป็นอันดี บ้านท่านอยู่หลังวัดบวรนิเวศน์ ซึ่งห่างจากบ้านผมเพียงถนนเดียวเอง
น้าชอ้อนมักมาติดแหมะอยู่บ้านคุณพระญาณเวทตั้งแต่เย็นจนดึกดื่นเสมอ และเมื่อผมถูกใช้ให้มาตามกลับ มักติดแหมะอยู่ด้วยอีกคน เพราะท่านเป็นคนคุยสนุก ท่านเป็นคนแปลกกว่าผู้มีความรู้ทางโหราศาสตร์ทั่วไป ถ้าไม่ถามเรื่องโหราศาสตร์ท่านก็จะไม่พูดเรื่องโหราศาสตร์เลย แต่เวลาท่านพูดท่านจะพูดและบอกให้อย่างจริงจังและแจ่มแจ้ง
ผมชอบเลียบเคียงถามเรื่องโหราศาสตร์กับท่าน มิใช่ประสงค์จะเรียนรู้เอาจริงเอาจังเพียงแต่ได้สังเกตเห็นว่าคราวใดที่ท่านได้พูดคุยถึงโหราศาสตร์ สีหน้าท่านจะเบิกบานมีความสุขเป็นอันมาก และสิ่งที่ผมต้องการคือ จดจำขี้ปากท่านไว้สนทนากับวงสนทนาอื่นแสดงภูมิเท่านั้น ยังมิได้คิดจะเรียนรู้อย่างจริงจังประการใด
ต่อมาหนังสือพิมพ์สยามรีวิวเลิกไป ผมก็เร่ร่อนแต่ส่วนใหญ่ก็มารวมกลุ่มนักสุราบาลที่บ้านถนนดำรงรักษ์ อันเป็นบ้านของ ม.ล.บัว มารดาคุณก้าน พึ่งบุญ ณ อยุธยา(ไม้ เมืองเดิม) สมาชิกแต่ละท่านล้วนเป็นนักเขียนชื่อดังทั้งสิ้น เช่น สุมทุม บุญเกื้อ มนัส จรรยงค์ , ยศ วัชรเสถียร , พาณี นานครั้งคุณเลียว ศรีเสวก (อรวรรณ) คุณเหม เวชกร ก็เคยมาร่วมด้วย ขณะนั้นมีสมาชิกใหม่คือคุณสะอาด จันทรกานตานนท์ เป็นผู้จัดการโรงพิมพ์รองเมือง ชวนให้ตั้งคณะออกหนังสืออ่านเล่น พวกเราจึงตกลงรับปากตั้งคณะรองเมือง มีจดหมายแฟนหลั่งไหลเข้ามามาก คุณก้านเป็นผู้ตอบจดหมายตั้งนามปากกาผู้ตอบว่า"นายเถาวัลย์" หนักๆเข้าคุณก้านก็โอนให้ผมเป็นผู้ตอบแทน ประมาณปี 2490 เศษ น้าชอ้อน อำพลได้ลงสมัครผู้แทนราษฎรจังหวัดประจวบฯ
ความผูกพันที่ผมมีอยู่จึงทิ้งงานไปชั่วระยะหนึ่งเพื่อไปช่วยหาเสียงช่วยน้าชอ้อน นับตั้งแต่ปิดใบปลิวปิดโปสเตอร์ ปาฐกถาและพูดจาแสดงคารมชักชวน เมื่อเข้าตัวจังหวัดสถานที่ชักจูงคนระดับแนวหน้าของจังหวัดนั้น ที่ไหนก็ไม่เหมาะเท่าวัดของหลวงพ่อวัดเกาะหลักเพราะศิษย์ของท่านไปมาหาสู่ท่านไม่ขาด ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นคนสำคัญของจังหวัดทั้งสิ้น น้าชอ้อนเคยรับราชการอยู่จังหวัดประจวบ และเป็นศิษย์ของหลวงพ่อวัดเกาะหลัก บางครั้งมากินมานอนอยู่ที่วัดหลายวันหลายๆครั้ง ผมก็ได้ติดตามมาด้วยทุกครั้ง บนกุฏิของหลวงพ่อเวลาค่ำลงเหมือนมีงานมหรสพผู้คนไปมามากมาย
ส่วนใหญ่จะเป็นศิษย์ทางด้านโหราศาสตร์และทางธรรม น้ำชากาแล้วกาเล่า หลวงพ่อนั่งบนอาสนะ รายล้อมไปด้วยศิษย์ จำได้ว่าศิษย์ท่านคนหนึ่งคือ คุณอำนวยพร เป็นผู้จัดการโรงแรมรถไฟหัวหิน เป็นศิษย์โหราศาสตร์มักไต่ถามมากกว่าคนอื่นๆ ท่านก็จะชี้แจงให้ฟังเหมือนครูสอนศิษย์ในชั้นเรียน บรรดาศิษย์ที่สนใจก็จะรุมกันซักสารพันปัญหา ท่านก็จะชี้แจงแตกฉานรอบรู้สมกับเป็นปราชญ์ทางโหราศาสตร์อย่างแท้จริง
ต่อมาประมาณปี 2495 ผมก็เปลี่ยนเข็มชีวิตจากนักเขียนและนักหนังสือพิมพ์เข้าทำงานที่บริษัทนิวอีสต์เอเชีย เป็นบริษัทเดินเรือลำเลียง ผมทำหน้าที่เป็นหัวหน้าชิปปิ้ง การทำงานครั้งนี้ได้พบโหรดังเข้าอีกท่านหนึ่ง คือ "อาจารย์เทอม เสตะกสิกร" ในยุคนั้นท่านดังมาก เพราะผลการพยากรณ์แม่นยำเป็นที่เล่าลือมาก คุณเทอมเป็นโหรสมัครเล่น เข้ามารับหน้าที่ในบริษัทเป็นคนไปติดต่อกรมเจ้าท่าเพื่อตรวจเรือของบริษัท คุณเทอมสามารถทำงานนี้ได้ดีเป็นพิเศษ เพราะอาศัยความคุ้นเคยชอบพอกับคุณหลวงดรณี ซึ่งท่านเป็นผู้รอบรู้วิชาโหราศาสตร์เป็นเอกอีกท่านหนึ่งในสมัยนั้น ขณะนั้นท่านมีตำแหน่งนายช่างใหญ่หรือรองอธิบดีกรมเจ้าท่า ผมก็เลือนๆไปบ้าง
ตอนนั้นเนื่องจากผมถูกโหราศาสตร์ครอบงำมาก จึงสนใจอาจารย์เทอมมาก เลียบเคียงจะขอเรียนด้วย แต่คุณเทอมมักปิดประตูหมดจนผมไม่มีโอกาสจนแล้วจนรอดจนท้อไปเอง คนสุดท้ายนี้ ประหลาดกว่าท่านอื่นๆเป็นอันมาก คือ มิได้เป็นทั้งโหร มิได้เป็นหมอดู แต่เป็น ช่างก่อสร้าง ในปี 2500 ผมมาดำเนินธุรกิจของตนเอง โดยได้ร่วมหุ้นตั้งบริษัทโรงพิมพ์อำพลพิทยา จำกัด ขึ้นที่บ้านน้าชอ้อน ที่ถนนข้าวสาร จำเป็นต้องปลูกสร้างตัวโรงพิมพ์และต่อเติมบ้านผมเองในบริเวณที่ว่างในบ้านใหญ่
มีเพื่อนชักนำช่างรับเหมาก่อสร้างมาให้คนหนึ่ง ท่าทางเป็นคนต่างจังหวัดเต็มตัว ดูท่าทางขยันขันแข็งดี ทั้งๆที่วัยล่วงเข้า 50 ปีเศษแล้ว ช่างไม้ช่างปูนล้วนแต่เป็นลูก หลานทั้งสิ้น ท่านชื่อว่า "อิน" ผมเลยเรียกว่า ครูอิน การก่อสร้างต่อเติมบ้านจำเป็นต้องรื้อห้องหนังสือผมออกเสียก่อน ครูอินแกยืนคุมให้รื้อและช่วยผมยกย้ายหนังสือต่างๆในตู้ซึ่งมีอยู่ร่วมพันเล่ม เมื่อแกได้เห็นหนังสือโหราศาสตร์ที่ผมสะสมไว้ทั่วทุกสารทิศมีมากมาย แกยิ้มๆถามผมว่า ถ้าคงจะเก่งโหราศาสตร์ ผมตอบแกตามตรงว่า ยังไม่ได้เรื่องอะไรเลย ยิ่งเรียนยิ่งโง่ลงทุกที คิดจะเลิกหลายหน
ครูอินกลับซักไซร้ผมว่า เรียนมาทางสายไหนผมยิ่งงงหนัก ไม่เข้าใจว่าโหราศาสตร์ มีสายมีทางเหมือนทางดนตรีไทยหรือไร ครูอินอธิบายให้ฟังว่าโหราศาสตร์มีหลายสายคือสายทางภาคเหนือ สายทางภาคกลางและสายทางภาคใต้ ส่วนสายทางภาคอีสานมีน้อยมักเป็นเลข ๗ ตัวเสียมาก แต่ละภาคมักจะมีทางเล่นทางพยากรณ์แตกต่างกันบ้างในวิธีการพยากรณ์
ผมชักเอะใจ ครูอินเป็นช่างก่อสร้าง ทำไมดูรอบรู้เรื่องราวของโหราศาสตร์กว้างขวางนัก ผมจึงถามเอาตรงๆว่า ครูอินมีความรู้ทางด้านโหราศาสตร์บ้างหรือเปล่า แกรับโดยไม่ลังเลเลยว่า เมื่อหนุ่มๆเคยเรียนมาเพราะถูกบังคับให้รับถ่ายทอดจากน้าชายซึ่งขณะนั้นอยู่นครศรีธรรมราช และครูอินท่านมีพื้นเพเป็นคนนครฯ ครูอินท่านว่า เรียนมาแล้วก็มิได้ใช้เป็นกิจลักษณะ นอกจากเข้าวงอับวงรา จำเป็นจึงใช้ ทั้งนี้เพราะท่านไม่ชอบเป็นหมอดู ท่านว่ามักอาภัพไม่ร่ำรวยเหมือนอาชีพอื่น
ผมซักไซร้ทุกด้านทุกมุมของโหราศาสตร์เท่าที่ปัญญาและความรู้ที่ผมมีอยู่ขณะนั้น ข้อความที่อธิบายสูงข้ามหัวผมไปทุกเรื่องทุกปัญหา จนผมเองยอมรับว่า ครูอินมีความรู้ความสามารถในวิชาโหราศาสตร์ไทยอย่างเจนจัดแท้จริง ผมเอ่ยปากขอเรียนกับท่าน แต่ท่านไม่รับปากทันทีกลับย้อนถามผมว่า อาชีพผมก็ร่ำรวยแล้ว จะเรียนเอาไปทำอะไร
ผมตอบตามจริงว่า เอาไว้ช่วยทุกข์ของคนที่เขามีทุกข์มาจะได้รู้ทันชีวิต ครูอินท่านว่า ถ้าความตั้งใจเรียนเป็นกุศลจิตก็พอจะเรียนได้ ท่านรับปากจะสอนให้จนหมดพุง ส่วนจะดีเลวกว่าทางโหรกรุงเทพหรือเปล่าท่านไม่รู้
รุ่งขึ้น ครูอินให้ผมจัดธูป เทียน ดอกไม้ อย่างละ ๙ ดอก พากันไปในโบสถ์วัดชนะฯ
ท่านให้จุดธูปเทียนบูชาพระประธานในโบสถ์ และรับสัจจะทีละข้อ
๑. อย่านำเอาวิชานี้ไปใช้ในทางทุจริตผิดศีลธรรม ทั้งเพื่อตนเองหรือผู้อื่น
๒. เวลาพยากรณ์ผู้ใด อย่าพึงมี โลภะ โทสะ โมหะ เพราะจะทำให้จิตเอนเอียง จะทำให้พิจารณาผิดพลาด
- โลภะ คือเห็นเขาเป็นเศรษฐีหรือผู้มีอำนาจ หวังได้ลาภยศเกินกว่าควรจะได้
- โมหะ คือมีความหลงผิดในผู้มาให้พยากรณ์ หรือหลงว่าตนเก่ง
- โทสะ คืออย่าเกิดความโกรธ ความเกลียด ความรัก ผู้มาให้พยากรณ์ จะเกิดจิตใจเอนเอียงในคุณในโทษ ทำให้พยากรณ์ผิด
๓. ข้อสุดท้ายเป็นข้อที่สำคัญยิ่งคือ เมื่อดาวพฤหัสเดินครบรอบจากวันที่ผมเรียนนี้ให้สอนถ่ายทอดวิชานี้ไว้แก่ศิษย์ให้จงได้ เพราะวิชานี้เป็นกุศล เมื่อศิษย์คนใดใช้เป็นกุศลแก่ผู้อื่น อาจารย์เก่าต้นตำรับท่านจะได้กุศลด้วยเสมอ
การเรียนโหราศาสตร์ไทยกับครูอินครั้งนี้ เป็นการเรียนครบถ้วนกระบวนความทุกประการ กฎเกณฑ์การอ่านดวงเดิมและการพยากรณ์จร อันเป็นวิธีที่วิจิตรพิสดารอย่างมิได้เคยเรียนรู้มาก่อน นับแต่นั้นเป็นต้นมา ชีวิตโหราศาสตร์ของผมก็ได้แตกฉานรอบรู้เป็น หมอเถา(วัลย์) ตั้งแต่นั้นได้พยากรณ์แก่ผู้ใกล้ชิดและเพื่อนฝูงเสมอมามิได้ขาด แต่มิได้เป็นหน้าเป็นตา เพราะขณะนั้นผมมีกิจธุระทำโรงพิมพ์ของตนเอง
โหรเอกคนสุดท้ายที่ได้พบกันคือ คุณประทีป อัครา ผมได้สมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมโหรแห่งประเทศไทย ประมาณปี พ.ศ.2497 แต่มิได้มาสมาคม ต่อมาปี 2512 จึงได้มีโอกาสมาสมาคมบ่อยครั้ง ได้สังเสวนากับคุณประทีป อัครา ก็เป็นที่ต้องอัธยาศัยกันตามประสาเพื่อน
..............................................
ข้อความที่เหลือก็ไม่ค่อยมีอะไรแล้ว เป็นเรื่องของท่านกับอ.ประทีป อีกนิดหน่อยผมเลยตัดไป หวังว่าทุกคนที่ได้อ่านคงจะรู้เรื่องของ อ.อรุณ ลำเพ็ญ มากขึ้น หลักวิชาของท่านเป็นหลักวิชาที่ใช้ได้กว้างขวาง วิจิตรพิสดาร เป็นอย่างยิ่ง ผมเองยังเสียดายอย่างยิ่งที่มาเริ่มเรียนโหราศาสตร์หลังจากที่ท่านได้มรณะไปแล้ว ทำให้ไม่ได้รับการถ่ายทอดจากท่าน เป็นศิษย์ของท่าน แต่อย่างไรก็ตามผมก็ยังนับถือท่านและถือว่าท่านเป็นอาจารย์ในจิตใจของผมเสมอมา ขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบนะครับ
ขอบคุณที่มา : https://www.horathai.com/webboard/topic.aspx?00574








-
หน้าพากย์ อ.อรุณ ลำเพ็ญ - หมอเถา(วัลย์)[3 กรกฎาคม พ.ศ.2543] ศึกษาโหราศาสตร์จากงานเขียนหมอเถา(วัลย์) "ศิษย์ขออภิวาท กราบครูโหร" ศิษย์ขออนุญาตินำเสนอบทความ ที่เป็นเนื้อหาที่เกี่ย...
-
เรียนโหราศาสตร์ โดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ ย่างเข้าเดือน 6 ข้างแรม ฝนต้นฤดูตกรำมาแต่เช้ามือเรื่อยมากระทั่งเช้ายิ่งกลับลงหนาเม็ดขึ้นทุกที หมอเถาถูกตบประตูปลุกจากที่นอนขณะกำลังหลับสบายสุข...
-
เกณฑ์ชันษา โดยอาจารย์อรุณลำเพ็ญ ขบวนรถเร็วสายใต้เข้าเทียบชานชลาสถานธนบุรี ตรงตามเวลา16.00น.คนโดยสารตั้งแต่โบกี้หน้าถึงโบกี้หลังต่างเบียดเสียดแย่งกันลงอย่างรีบร้อน เพราะจะต้...
-
ดวงพระ โดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ พ้นข้างขึ้นเดือน11ออกพรรษามาแล้วหลายวันจนย่างเข้าเดือน12กฐินหลวง กฐินราษฎร์ ก็ทอดกันทั่วแล้วทุกวัด พระบวชใหม่เมื่อครบพรรษาก็ลาสึกขาบทกลับไปครงเหย้...
-
ดวงสองชั้น โดย อาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ เป็นเวลาโรงเรียนหยุดเทอมครูสมศักดิ์ว่างจากการสอนนักเรียน จึงเปลี่ยนจากหน้าที่ครูกลับเป็นนักเรียน พอกินข้าวเช้าเสร็จก็ชวนศิษย์ร่วมชั้นคือครูก้นและ...
-
ดาวแฝงแสง โดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ เช้าวันอาทิตย์เป็นวันว่างครุก้อนและครูสมศักดิ์ จึงพากันทำภัตตาหารมาถวายเพลหลวงตาชื้นผู้เป็นอาจารย์ แม่บ้านครูก้อนถนัดทางทำกับข้าวจึงรับหน้...
-
ดวงชาวเกาะ โดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ วันสุดท้ายในกรุงเทพมหานครหลวงตาชื้นและศิษย์เป็นวันว่าง ธุระที่ตั้งใจมาสำเร็จเรียบร้อยแล้ว และตั้งใจว่าวันรุ่งขึ้นก็จะออเดินทางกลับวัดในต่างจัง...
-
ดาวลอย โดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ เช้าวันอาทิตย์หมอเถา ครูก้อน ครูสมศักดิ์ ออกจากร้านกาแฟเจ้าโก ต่างคนต่างว่างธุระ จึงสมคบชวนกันมากุฏิหลวงตาหมอเถาออกเดินนำหน้า ครูก้อนเดินกลาง และค...
-
ตนุเศษ โดยอาจารย์อรุญ ลำเพ็ญ เป็นวันพระ ตรงกับวันอาทิตย์หมอเถาและครูก้อนมาถึงกุฏิหลวงตาตั้งแต่เช้า ครูสมศักดิ์ซึ่งมิได้สอนนักเรียนก็พลอยติดตามเป็นเกลอมากับเขาด้วย เพราะเป็นหน้าที่...
-
พระเคราห์ถ่ายเรือน โดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ ฝนฤดูมรสุม ฝั่งทะเลตะวันตก ลงเม็ดปรอยๆมาตั้งแต่ตนสายๆพอพ้นเพล ยิ่งตกหนักแน่วเหมือนฟ้ารั่ว หมอเถาและครูก้อน แวะกุฏิหลวงตาตั้งแต่ก่อนเพล ตั้...
-
ฤกษ์งาม-ยามดี โดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ พอตกเวลาสายวันอาทิตย์สามศิษย์ซึ่งเป็นหนึ่งหมอกับสองครู อยู่พร้อมหน้ากันบนกุฏิหลวงตาชื้นเช่นเคย เพราะวันอาทิตย์หลวงตาชื้นมักจะมีแขกมาเยี่ยมเยื...
-
ลักคเนย์ โดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ วันนักขัตฤกษ์จนสายแดดกล้าร่วม10.00น.ร้านกาแฟเจ้าโกมีลูกค้าคับคั่ง ทุกโต๊ะเต็มร้านเพราะเป็นวันหยุดราชการด้วยนายห้างเจ้าโกเดินเก็บเงินหน้าตายิ้มแย้มเบ...
-
พินทุบาทว์ โดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ เช้าวันอาทิตย์ราชการก็หยุดและโรงเรียนก็ไม่ต้องสอนจตึงเป็นอาสวันว่างของครูสมศักดิ์จึงตื่นแต่เช้าชวนครูก้อนซึ่งบ้านอยุ่ห่านกันเพียง3หลังคาเรือน ออก...
-
ดาวบุพกรรมโดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ งานทำบุญบ้านนายอำเภอซึ่งเป็นปกติของผู้มีอำนาจวาสนาแม้จะไม่มีการ์ดบอกกล่าวเชิญแต่พอตกบ่ายแดดร่มลมตก แขกเรื่อก็มากันเองมากมาย บ้านที่อยู่เป็นบ้านหลวงเ...
-
บุษบามีคู่โดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ จังหวัดที่ผมอยู่เป็นจังหวัดเล็กๆริมทางผ่านของถนนสายใหญ่เป็นเมืองชนบทที่มีธรรมชาติและผู้คนสงบ ครั้งหนึ่งโหราศาสตร์เคยรุ่งโรจน์ ณ ที่นี้ และท...
-
ยามอัฎฐกาล โดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ วันนี้ ครูก้อนไปรับเบี้ยบำนาญ เสร็จแล้วก็แวะมาหาผมตั้งแต่เพลมีส้มสูกลุกไม้ติดมือมาฝากผมห่อใหญ่ตามประสาคนใจนักเลง และอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ...
-
กฎแห่งกรรมโดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ วันนั้นเป็นวันพระ ขึ้น8ค่ำเดือนยี่อากาศหนาวจัดเช่นทุกๆปี ถึงกระนั้นผมก็ตื่นแต่เช้าใสบาตร์อันเป็นกิจวัตร์ที่ผมทำมาหลายปีดีดักจนเป็นนิสัยบางทีก็หลายอง...
-
ตั้งชื่อเด็กโดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ ย่างเข้าเดือน ๗ มาจนจะเข้าข้างแรม ฝนประจำฤดูการขาดหายไปร่วมเดือน บนท้องฟ้าว่างไม่มีเค้าเมฆเค้าฝนให้เห็น อากาศร้อนอบอ้าวไปทุกหนทุกแห่ง ราวกับฤดูร้...
-
ยามกาลชะตา โดยอาจารย์อรุญ ลำเพ็ญร้านกาแฟเจ้าโกหลังตลาดสด เป็นร้านใหญ่ร้านเดียวในตัวจังหยวัดที่มีขาประจำมากที่สุดตั้งแต่เช้าจดสาย คอกาแฟจะแน่นขนัดทุกวันไม่ขาดและเพราะรสมือกาแฟดีน...
-
ดาวคู่มิตร-คู่ธาตุ โดยอาจารย์อรุญ ลำเพ็ญ วันแรม1ค่ำ11เดือนตั้งแต่ฟ้าสางมาจนกระทั่งเช้าได้อรุณทั่งชาววัดและชาวบ้านคึกคักเป็นพิเศษเพราะเป็นวันออกพรรษา รอบอุโบสถเช้าวันนี้ ชาวบ้านร...
-
ห้ามฤกษ์ โดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ ลมหนาวเดือนยี่พัดโกรกทุ่งหนาวเย็นยะเยือกมาตั้งแต่เช้ามืดจนกระทั่งสายตะวันขึ้นนาแปลงใหญ่หลังวัดกลาง เป็นนาธรณีสงฆ์ซึ่งชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจ...
-
จับโจร โดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ ดวงตะวัน เพิ่งจะด้นขอบฟ้า แม้จะเป็นเดือน11ฤดูฝน แต่เช้าวันนี้ท้องฟ้าปลอดโปร่งแจ่มใส ลมเช้าพัดระรื่นเย็นสบายหลวงตาชื้นกลับจากบิณฑบาตรเดินกลับวัดตามทา...
-
บุพกรรมแห่งดาว โดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญเช้าวันนี้ เป็นวันที่หมอเถามีอารมณ์เบิกบานเป็นพิเศษเพราะเมื่อวานโชคดีได้ค่าบูชาครูเพราะรักษาไข้เขาหายเป็นเงินถึง 5 ชั่ง จึงตื่นแต่เช้า ตั้งแ...
-
ทักษาประสมเรือน โดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ เป็นวันพระสิ้นเดือนชาวบ้านร้านตลาดในจังหวัด ทำบุญตักบาตรกันแทบทุกบ้านวันนี้ไม่ว่าพระหรือเณร ภัตตาหารสันบาตรจนปิดฝาบาตรไม่ลงทุกองค์ แม้ฉันเช...
-
จุดคราสในดวงชะตา โดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ วันนักขัดตฤกษ์ นักเรียนไม่ต้องไปโรงเรียน ข้าราชการไม่ต้องไปทำงาน ชีวิตชุมชนในจังหวัดเล็กๆจึงดูเหมือนจะพลอยหยุดพักผ่อนในวันนี้ไปด้วยแม้แต่ด...
-
ทักษาสมเด็จ โดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ เช้าวันนี้เป็นวันว่างทั้งศิษย์ทั้งอาจารย์จึงชุมนุมกันพร้อมหน้าบนกุฏิหลวงตาชื้น หมอเถา ครูก้อน ครูสมศักดิ์ ครบองค์ การสนทนากันจึงเป็นกันเอง เริ่มเ...
-
๓ ลัคนา โดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ การอ่านดวงและอ่านดาวโดยทั่วๆไป แม้จะอ่านความหมายอย่างละเอียดถี่ถ้วยอย่างไร ก็ยังถือว่าขาดความสมบูรณ์แบบที่แท้จริง เพราะยังขาดจุดสำคัญอีกจุดหนึ่ง จุดนี...
-
อ่านดาว โดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ ดวงตะวันยังไม่ทันเยี่ยมฟ้าอากาศเช้ามืดขมุกขมัว หมู่ไม้และบ้านเรือนห่างๆออกไป ดูเป็นสีดำมืดไปทุกสารทิศ ทุกบ้านข่องกำลังหลับไหลสุขารมณ์ แต่…อีกบ้านหนึ...
-
ลัคนาจันทร์ โดยอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ เรียน ท่านบรรณาธิการหนังสือพยากรณสารที่นับถือ ผมเป็นสมาชิกพยากรณสารของท่านมานานตั้งแต่ผมยังเป็นนักโหราศาสตร์ สมัครเล่น จนกระทั้งบัดนี...