ธาตุ ประจำราศี

   ธาตุ มีความสำคัญสำหรับการพยากรณ์  ไม่ว่าจะธาตุในดาวพระเคราะห์  หรือ ธาตุในราศี


   โหราศาสตร์ไทย มี 4 ธาตุ ดังนี้คือ ไฟ ดิน ลม น้ำ  ได้แก่ 1.ธาตุตามราศี  และ 2.ธาตุของดาว

   ในที่นี้ เราจะกล่าวถึงธาตุตามราศี  

   ใน ๑๒ ราศี ตั้งแต่ราศีเมษจนถึงราศีมีน ก็จะธาตุ ไฟ ดิน ลม และ น้ำอยู่ด้วย เริ่ม ราศีเมษ ธาตุไฟ ถัดไปราศีพฤษภธาตุดิน ลำดับธาตุมาราศีมิถุนธาตุลม และราศีกรกฎธาตุน้ำ และเราก็เริ่มแบบนี้ต่อไป ไฟ ดิน ลม น้ำ ไล่ราศีแบบนี้ไปจนถึงราศีมีน 

ฉะนั้นเราจะเห็นได้ว่า ทุกๆ ๕ ราศีก็จะเป็นราศีธาตุนั้น เช่น ราศีเมษนับเป็น1 นับไป 5ราศีเป็นราศีสิงห์ ก็จะเป็นธาตุไฟ นับจากราศีสิงห์ไปอีก ๕ ราศีก็จะเป็นราศีธาตุไฟ นั่นก็คือราศีธนู เราอ่านแบบนี้เหมือนกัน ในราศีธาตุดิน ราศีธาตุลม ราศีธาตุน้ำ ตามนี้ 


  ธาตุราศี  ได้แก่

   ราศีธาตุไฟ  ได้แก่ราศี เมษ สิงห์ ธนู
ธรรมซาติของไฟ ย่อมให้ความร้อน ย่อมให้พลังงาน ย่อมให้แสงสว่าง ความเร่าร้อน รวดเร็ว รุนแรงความกระตือรือร้น ความก้าวหน้า ความสร้างสรรค์  สติปัญญา ก่อเกิดปัญญา 
ในทางพยากรณ์ส่งผลถึง ความแน่นนอน  

   ราศีธาตุดิน  ได้แก่ราศี มังกร พฤษภ กันย์
ธรรมซาติของดิน ให้ความมั่นคง ความหนักแน่น การสะสม สะสมอย่างค่อยเป็นค่อยไป เงียบขรึม เชื่องช้า การพัฒนาได้อย่างช้าๆ เป้าหมายความสำเร็จใช้ระยะเวลานาน  
นทางพยากรณ์ส่งผลถึง ความแน่นนอน   

   ราศีธาตุลม  ได้แก่ราศี ตุลย์ กุมภ์ เมถุน
ธรรมซาติของลม ย่อมมีการเคลื่อนไหว เคลื่อนไหวได้รวดเร็ว ผันผวน แปรปรวน เปลี่ยนแปลงง่าย
ไม่แน่ไม่นอน คล่องแคล่ว รวดเร็ว รุนแรง(อย่างลม) 
ในทางพยากรณ์ส่งผลถึง  ไม่ความแน่นนอน   

   ราศีธาตุน้ำ ได้แก่ราศี กรกฎ พิจิก มีน
รรมซาติของน้ำ ย่อมให้ความชุ่มชื่น ให้ความเยือกเย็น อ่อนไหว อ่อนโยน ไม่แน่ไม่นอน เชื่องช้า เฉื่อยช้า
ไม่เร่งไม่รีบ เรื่อยๆเอื่อยๆ ความเมตตา ขาดความเด็ดขาด 
ในทางพยากรณ์ส่งผลถึง ไม่ความแน่นนอน
  

   ในธาตุทั้ง 4 นี้ ยังแบ่งลำดับของชั้นธาตุไว้อีกด้วยนั่นก็คือ ราศีต้นธาตุ  ราศีกลางธาตุ  ราศีปลายธาตุ 

    

    ธาตุทั้ง 4 นี้ ยังมีการแบ่งลำดับของชั้นธาตุไว้อีกด้วย คือ ราศีต้นธาตุ ราศีกลางธาตุ ราศีปลายธาตุ เพื่อประโยชน์ในการพยากรณ์นั่นเอง

   
   ราศีต้นธาตุ(จรราศี)  คือ ราศีแกน ได้แก่ เมษ กรกฎ ตุลย์ มังกร
ดาวที่เข้ามาอยู่ย่อมมีอิทธิพล มีอานุภาพมาก ให้ความเข้มแข็ง หนักแน่น รุนแรง ขยายออกไป ไม่หยุดนิ่ง 

   ต้นธาตุไฟ ราศีเมษ เป็นไฟลุกโชน ร้อนอย่างไฟกรด ย่อมส่งผลให้ มีความเร่าร้อน รุนแรงมาก 

   ต้นธาตุดิน ราศีมังกร เป็นดินแห้ง ดินแข็งอย่างหิน ย่อมส่งผลให้ มีความหนักแน่น เปลี่ยนแปลงได้ยาก   

   ต้นธาตุลม ราศีตุลย์ เป็นลมแรงอย่างลมพายุ ย่อมส่งผลให้ มีความผันผวนมาก เปลี่ยนแปลง แปรปรวน รวดเร็วมาก 

   ต้นธาตุน้ำ ราศีกรกฎ เป็นน้ำมาก เป็นน้ำมากอย่างน้ำมหาสมุทร ย่อมส่งผลให้ ความไม่แน่นอน อ่อนไหวมาก

 

   ราศีกลางธาตุ (สถิรราศี) คือ ราศีที่อยู่หน้าราศีแกน (ทวนเข็มนาฬิกา) ได้แก่ สิงห์ พิจิก กุมภ์ พฤษภ
ดาวที่เข้ามาอยู่ย่อมมีอิทธิพล มีอานุภาพปานกลาง ให้ความมั่นคง หยุดนิ่ง ไม่เปลี่ยนแปลง สม่ำเสมอ 

   กลางธาตุไฟ ราศีสิงห์ จัดเป็นไฟที่จะสามารถควบคุมความแรง นำมาใช้งานได้
ย่อมส่งผลให้ มีความกระตือรือร้นสม่ำเสมอ 

   กลางธาตุดิน ราศีพฤษภ จัดเป็นดินร่วน เป็นดินที่อุดมสมบรูณ์ เหมาะแก่การเกษตรกรรม
ย่อมส่งผลให้ ความอุดมสมบรูณ์ ความสะดวก ความสบาย 

   กลางธาตุลม ราศีกุมภ์ จัดเป็นลมแปรปรวนระดับกลาง แบบลมบกลมทะเล เป็นนลมคงที่
ย่อมส่งผลให้ เกิดประโยชน์ในการใช้ลม กำหนดทิศทางได้ พอควบคุมได้ 

   กลางธาตุน้ำ ราศีพิจิก จัดเป็นน้ำขุ่น แบบแม่น้ำ ลำคลอง เป็นน้ำที่สามารถดื่มกินได้ น้ำที่สามารถใช้ได้ 
ย่อมส่งผลให้ ย่อมปรับตัวเข้าสถานได้ดี คลุมเครือ ไม่แสดงตนแบบชัดเจน 
 


   ราศีปลายธาตุ (อุภัยราศี) คือ ราศีที่อยู่หลังราศีแกน (ทวนเข็มนาฬิกา) ได้แก่ ธนู มีน เมถุน กันย์ 

ดาวที่เข้ามาอยู่ย่อมมีอิทธิพล เบาบาง ให้ผลน้อยหาประโยชน์มิได้มากนัก มีความไม่แน่นอน มีการเปลี่ยนแปลงเสมอ ทั้งดีและร้าย 

   ปลายธาตุไฟ ราศีธนู จัดเป็นไฟใกล้มอด ไฟดวงเล็กๆ กองเล็กๆ ส่องแสงได้น้อย ไม่มาก
ย่อมส่งผลให้ ย่อมส่งผลให้ แสงสว่างเฉพาะกลุ่ม เฉพาะที่ แต่เราต้องไม่ลืมคุณสมบัติของไฟด้วยนะ 

   ปลายธาตุดิน ราศีกันย์ จัดอยู่ประเภทดินเหลว ประเภทดินกึ่งเลน หรือดินเลน ไม่สามารถที่จักทรงได้ 
ย่อมส่งผลให้ ย่อมเกิดประโยชน์เฉพาะสิ่ง เฉพาะอย่าง 

   ปลายธาตุลม ราศีเมถุน จัดเป็นลมประเภทตามฤดูกาล ลมพัดเรื่อยๆเอื่อยๆ ลมโชย การละเล่นอย่างลมว่าว ลมพัดแบบธรรมดา ย่อมส่งผลให้ ย่อมเหมาะแก่การสังสรรค์ การละเล่น การสนุกสานาน 

   ปลายธาตุน้ำ ราศีมีน จัดเป็นน้ำ ตามห้วยหนอง คลองบึง ห้วยน้ำขนาดเล็ก 
ย่อมส่งผลให้ เหมาะกับทำอะไรตามสบาย ไม่เน้นต้องเป็นสาระ  

ฉะนั้นเมื่อลัคนาเข้าสู่ราศีใด ย่อมส่งผลบังคับการให้เป็นไปตามเช่นนั้นด้วย ซึ่งเราจะนำมาใช้ในการออกคำพยากรณ์ สภาวะแวดล้อม อารมณ์ บุคลิก ลักษณะรูปร่าง เรื่องราวหนัก-เบาตามสถานะ ตามลัคนาราศี ซึ่งจะเป็นไปตามลักษณะของธาตุของราศีนั้นๆ 

 

   ธาตุในการออกคำพยากรณ์ จะแสดงผลถึง ความหนัก-เบา ของเรื่องราว เป็นตัวแทนแห่งการเคลื่อนไหว อารมณ์ เช่นบ่งบอกถึงอุปนิสัย หรือเหตุการณ์ ว่าจะรุนแรง หนักเบา จะค่อนข้างชี้ชัดในเรื่องราวได้  เช่น ดาวการเดินทางสัมผัสสัมพันธ์  เช่น

... ธาตุลม - เจ้าชะตา มักจะมีบุคลิก ผันผวน แปรปรวน เปลี่ยนแปลงได้ง่าย บ่งถึงสภาวะว่าบ่มให้เจ้าชะตาเป็นคนไม่แน่ไม่นอน เมื่อนำ ต้นธาตุ กลางธาตุ ปลายธาตุ ใส่ขยายลงไป ก็จะทำให้ได้ละเอียดมากขึ้น 

  
... ธาตุไฟ - เจ้าชะตา มักจะมีบุคคลิกลักษณะ ตามคุณสมบัติของธาตุไฟ ไฟให้ความร้อน ให้พลังงาน ให้แสงสว่าง ธาตุไฟ
บ่งถึงสภาวะว่าบ่มให้เจ้าชะตา ทำอะไรรวดเร็ว ดูกระตือรือร้น


... ธาตุดิน - 
เจ้าชะตา มักจะมีบุคคลิกลักษณะ ตามคุณสมบัติของธาตุดิน ค่อยเป็นค่อยไป ค่อยๆทำ ค่อยๆสะสม ธาตุดินบ่งถึงสภาวะว่าบ่มให้เจ้าชะตา ทำอะไรต้องการความมั่นคง เชื่องช้า รีบแค่ไหนก็ดูช้า555 เดินทางก็จะล่าช้าประมาณนี้  

... ธาตุน้ำ - เจ้าชะตา มักจะมีบุคคลิกลักษณะ ตามคุณสมบัติของธาตุน้ำ ดูเรื่อยๆ ดูเฉื่อยๆ ชิลๆ ตามภาวะธาตุน้ำ บ่งถึงสภาวะว่าบ่มให้เจ้าชะตา ทำอะไรไม่รีบไม่เร่ง ดูเฉื่อยๆ ทำให้ดูเป็นคนไม่ค่อยแอคทิฟ จะทำอะไร จะเดินทางไปด้วยความสบายๆ ไม่ต้องรีบเร่ง อยู่ด้วยต้องเซะบ่อยๆนะ5555 


   เมื่อลัคนาสถิตย์ลงในราศีใด ก็จะทำให้เจ้าชะตา จะติดบุคคลิก นิสัย พฤติกรรม สภาวะแวดล้อมของธาตุในราศีนั้นๆ ติดมาด้วย

   ในดวงชะตาลัคนาราศีหนึ่ง ในทุกๆราศีก็จะมีดาวเกษตรประจำราศีอยู่ด้วย ดาวเกษตรในลัคนาราศีนั้นๆ เมื่อลัคนาสถิตย์ลงราศีใด ดาวในราศีนั้นก็คือตนุลัคน์ของเจ้าชะตานั่นเอง 

ดาวตนุลัคน์นั้นก็คือตัวตนอันเป็นวาสนาของเจ้าชะตา ในดาวที่อยู่ประจำราศีนั้นๆก็จะมีธาตุของดาวอยู่ด้วย ซึ่งจะอ่านธาตุของดาวในบทถัดไป นะจ๊ะ Smile

 

 

.. อัพเดทแก้ไขเพิ่มเติม 24 เมษายน 2568 ..

ขอบคุณที่มา : บทเรียนทางไปรษณีย์เล่ม1-2 ของอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ (หมอเถา)วัลย์

 
#By_คุณยายกลิ่นโสม
#อ่านดวงไทยสบายสบาย ตามสไตล์คุณยายกลิ่นโสม
#เรียนโหราศาสร์ไทยฟรีด้วยตนเองได้ที่เวปบ้านคุณยายกลิ่นโสม 
:: https://www.baankhunyai.com
   --------------------
 
Visitors: 216,711