ดาวคู่ธาตุไฟ อาทิตย์ เสาร์

     ความหมาย ดาวคู่ธาตุ

     พระเคราะห์คู่ดาว ถือว่ามีความสำคัญในการอ่านดวง ในการออกคำพยากรณ์ ซึ่งจะต้องอาศัยความเข้าใจ และความจำในความหมายของดาวแต่ละดวง  เพื่อนำดาวมาผสมผสานนำมาออกคำทำนาย ซึ่งความหมายของพระเคราะห์ดาวคุ่นี้ จะเป็นในส่วนการอ่านขยายความในตัวตนเรือนชะตา ในภพเรือนๆนั้นให้ได้ละเอียดมากขึ้น ขยายความได้มากขึ้น ซึ่งในสมัยโบราณจะใช้พระเคราะห์คู่ดาวหลักๆ ที่ก่อให้เกิดความหมายพิเศษขึ้นมา ก็คือ
    
    พระเคราะห์ดาวคู่ ดาวคู่ธาตุ .. 
อาทิตย์ (๑) - เสาร์ (๗) = คู่ธาตุไฟ    
จันทร์ (๒) - พฤหัส (๕) = คู่ธาตุดิน    
อังคาร (๓) - ราหู (๘) = คู่ธาตุลม  
พุธ (๔) - ศุกร์ (๖)  = คู่ธาตน้ำ 


      พระเคราะห์ดาว ดาวคู่ธาตุ .. ไฟ  
ดาวอาทิตย์ (๑) - ดาวเสาร์ (๗)  = คู่ธาตุไฟ 

อาทิตย์ (๑) หมายถึง เกรียติยศ ชื่อเสียง ศักดิ์ศรี ความมีหน้าตา (อ่านเพิ่มเติมที่ความหมายดาวอาทิตย์ ) 
ส่วน เสาร์(๗) หมายถึง เก่า แก่ ช้า นาน อดทน รอคอย อดกลั้นต่อสิ่งที่ต้องการ(อ่านเพิ่มเติมที่ความหมายดาวเสาร์) 

การแปรธาตุ เมื่อไฟ กับ ไฟ มาอยู่ด้วยกัน  จึงทำให้หน้าที่ ส่งเสริม เกื้อกูลกัน ที่ร้อนอย่างไฟอาทิตย์ ก็ว่าร้อนอยู่แล้ว เมื่ออยู่ร่วมกับไฟอย่างเสาร์ จึงส่งผล ร้อนทวีมากขึ้น  จึงทำให้มุ่งมั่นมากขึ้น มีความอดทน อดกลั้นได้มากขึ้น เพื่อชื่อเสียง เพื่อเกรียติยศ เพื่อการงาน เพื่อการเงิน ขึ้นกับว่าคุ่ธาตุคู่นี้ ไปอยู่ภพเรือนไหนนั่นเอง 
 
ความที่เป็นคู่ธาตุไฟ ฉะนั้นความคิด จึงเป็นในลักษณะมุ่งมั่น ตั้งใจมาก บากบั่น แค่ดาวธาตุไฟดวงเดียว ก็ใจร้อน เร้าร้อนภายในใจ ก็หาความสบายใจไม่ค่อยได้อยู่แล้ว และเมื่อดาวธาตุไฟ 2 ดวงมาอยู่ด้วยกัน จึงทำให้ความคิดความอ่าน ไม่ใคร่สงบสุข ในชีวิตมักเป็นไปด้วยความปราถนาและความอยาก จึงทำให้ชีวิตมักมีแต่เรื่องไม่สบายใจ มีแต่เรื่องร้อนใจเข้าสม่ำเสมอ เนอะ 55555
 
ด้านดี ก็จะมีความอดทน อดกลั้น รอคอย มากขึ้นเพื่อสร้างชื่อเสียง เพื่อสร้างฐานะ เพื่อเกรียติ มีความละเอียด ความสุขุมในการดำเนินชีวิต  มีความกล้าคิด กล้าตัดสินใจ มีลักษณะของการเป็นผู้นำที่ดี 
 
ด้านเสีย  เอาแต่ใจ เห็นแก่ตัว หยิ่งถือตัว ให้ความสำคัญกับชื่อเสียง เกรียติยศ หน้าตา ฐานะของตัวเอง เกรงกับเฉพาะสิ่งรอบๆข้างมากเกินไป จึงทำให้ขาดความเป็นตัวของตัวเอง กลัวเสียเกรียติ กลัวเสียหน้า ประมาณนี้
 
 คุณลักษณะของ ธาตุไฟ  
ธาตุไฟ  มีคุณลักษณะ ให้ความร้อน ให้พลังงาน ให้แสงสว่าง ร้อนแรง รวดเร็ว จึงส่งผลแน่นอน โถมใส่(รวดเร็ว รุนแรง)
 
พระเคราะห์ ดาวคู่ธาตุไฟ
ดาวคู่ธาตุไฟ : จะบอกถึงวาสนา ความรุ่งโรจน์ความก้าวหน้า ความลำบากการฝ่าฟันไปสู่ความสำเร็จ การบากบั่นในสิ่งที่ได้มา การต่อสู้เพื่อความสำเร็จ ความอุดมสมบรูณ์ในเรื่องคาดหวังในสิ่งที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะฐานะ เงินทอง เกรียติยศ ชื่อเสียง ฯ
 
 
อาทิตย์(๑) เป็นดาวธาตุไฟตามทักษา ต้นธาตุ จึงทำให้มีความร้อนแรง แบบไฟโถมใส่ ร้อนมาก โหมร้อน แผดเผา ไม่มีการรั้งรอ ร้อนแบบแผดเผาให้ความร้อนให้พลังงาน ให้แสงสว่าง ให้ความรุ่งเรืองรุ่งโรจน์ ฉะนั้นจึงให้ผลถึงความก้าวหน้า ความอุดมสมบรูณ์ ความมั่งคั่ง มั่นคง แต่ต้องเหน็ดเหนื่อยนะ 
 
คำว่าต้น หมายถึง ต้นคิด ต้นการกระทำ ต้นตัวอย่าง ต้นแบบ จึงทำให้มีความคิดแบบเบ็ดเสร็จ ใจร้อน ใจเร็ว คิดปุบทำปับ ขาดการไตร่ตรอง ถ้ายิ่งได้ดาวตนุเศษ(จิตใจ) เป็นดาวต้นธาตุไฟ และอยู่ราศีธาตุไฟด้วยแล้ว ก็ทำให้ใจยิ่งร้อนมากขึ้น ใจเร็วกว่าเดิมเข้าไปอีก จึงทำให้มีความคิดเป็นแบบผู้นำ เช่น ผู้นำเมืองก็นายก  ผู้นำบ้านก็พ่อบ้าน  ผู้นำบริษัทก็ผู้จัดการหรือเจ้าของบริษัท ฯ
 
ดาวเสาร์(๗) ปลายธาตุไฟตามทักษา จัดเป็นดาวธาตุไฟสุมขอน ก็ความร้อนเหมือนกัน แต่ความร้อนไม่เท่าดาวอาทิตย์(๑) ชื่อก็บอกแล้วต้นกับปลายอ่ะนะ  !!!ถึงจะเป็นปลายธาตุไฟ แต่ก็ยังมีการกรุ่นด้วยไอความร้อนอยู่ตลอดเวลา เรียกว่ารอวันปะทุว่าง้านเถอะ 
ฉะนั้นเมื่อดาวธาตุไฟอย่างดาวเสาร์จึงจัดว่าเป็นเหมือนไฟมีเชื้อความร้อนอยู่ตลอดเวลา เป็นแบบสุมขอน รอวันปะทุ ลุกฮือ

เสาร์(๗) เป็นดาวธาตุไฟ ปลายธาตุ จัดว่าเป็นไฟสุมขอน เป็นไฟที่กรุ่นอยู่ตลอดเวลา เป็นไฟที่รอวันลุกฮือ แต่จะดับไม่ดับ เรียกว่าฉันรอวันของฉันอยู่ เมื่อดาวธาตุไฟจรเข้ามากระทบหรือสัมพันธ์กระทบถึง ก็จุดไฟลุกฟรึ๊บพรั๊บได้เลย ฉะนั้นไฟปลายธาตุนี้ เป็นไฟที่กระทำหน้าที่ของมัน ไปเรื่อยๆ เงียบๆแต่ไม่ดับรอแค่วัน เวลา เหตุการณ์ เข้าช่วยหนุน ก็ทำให้ไฟนั้น โชติช่วงขึ้นอีกครั้ง 

หากอาทิตย์(๑) และ เสาร์(๗) เป็นดาวธาตุไฟเมื่อเข้าร่วมเรือนกัน ไฟกับไฟ ย่อมทำหน้าที่เกื้อกูล ส่งเสริมกัน สนับสนุน ค้ำจุนกัน ไม่มีใครขัดกัน ย่อมไม่มีหักล้างกัน
  เปรียบการทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดไปเรื่อยๆ  เกื้อกูล ส่งเสริมกัน สนับสนุน ค้ำจุนกัน ไม่มีใครขัดกัน ให้ถึงซึ่งความสำเร็จในเรื่องที่มุ่งหวัง คาดหวัง
    
 
    อาทิตย์(๑)-เสาร์(๗) คู่ธาตุไฟ อยู่เรือนราศีเมษธาตุไฟ   
 
ดาวอาทิตย์(๑) ธาตุไฟ สภาวะของไฟ ไฟย่อมให้ความร้อน ไฟให้พลังงาน ไฟให้แสงสว่าง 
เมื่ออาทิตย์(๑) มาอยู่ในราศีเมษนี้ ราศีเมษเป็นราศีธาตุไฟ เมื่อดาวธาตุไฟมาอยู่ราศีธาตุไฟ ย่อมเกื้อกูลกัน ส่งเสริมกันไม่ใครห้ามใคร สนับสนุนให้ไฟอย่างดาวอาทิตย์(๑) มีกำลังให้ความร้อนมาก ให้พลังงานมาก ให้แสงสว่างมาก

ราศีเมษเป็นราศีต้นธาตุไฟ ต้นธาตุหมายถึง มาก เมื่อดาวอาทิตย์(๑)ธาตุไฟ มาอยู่ราศีเมษต้นธาตุไฟ เราก็จะทราบว่าดาวอาทิตย์(๑) มีกำลังให้ความร้อนมากขึ้น ให้พลังงานมากขึ้น ให้แสงสว่างมากขึ้น ตามแรงเกื้อกูลราศีเมษธาตุไฟต้นธาตุ นั่นเอง
 
แต่ดาวอาทิตย์(๑)ในราศีเมษนี้ มีตำแหน่งเป็นถึงอุจน์ 
อุจน์ หมายถึง สูงส่ง โดดเด่น มีความเข้มแข็งมาก มีอำนาจมาก กำลังสูง กำลังมาก
เมื่ออาทิตย์(๑)ในราศีเมษนี้ มีตำแหน่งเป็นถึงอุจน์ จึงทำให้อาทิตย์(๑) ที่เดิมมีกำลังอยู่แล้ว มีกำลังให้ความร้อนมากขึ้นไปอีก ให้พลังงานมากขึ้นไปอีก ให้แสงสว่างมากขึ้นไปอีก

ย่อมบอกถึงว่าดาวอาทิตย์อย่างที่เคยร้อน เร็ว แรง ย่อมมีกำลังร้อน เร็ว แรง เพิ่มขึ้น สูงขึ้นไปอีก 
ฉะนั้นเมื่อดาวอาทิตย์(๑)ในราศีเมษนี้ มีตำแหน่งเป็นถึงอุจน์ มีความใจร้อนก็ใจร้อนเพิ่มมากขึ้น ดาวอาทิตย์(๑)มีตำแหน่งเป็นถึงอุจน์ เป็นคนเอาแต่ใจก็จะเอาแต่ใจมากขึ้น อาทิตย์เป็นรักเกรียติรักศักดิ์ศรี ก็จะรักเกรียติรักศักดิ์ศรีเพิ่มมากขึ้น ฯ 
 
ที่ราศีเมษ มีอังคาร(๓)เป็นเจ้าเรือนเกษตรใน
ดาวอังคาร(๓)เป็นดาวธาตุลม สภาวะของลม ผันผวน แปรปรวน เปลี่ยนแปลงได้ง่าย ไม่มีรูปลักษณ์
ดาวอังคาร(๓) ก็จะผันผวน แปรปรวน เปลี่ยนแปลงได้ง่าย แบบไม่มีทิศทาง นั่นหมายความว่า ดาวอังคาร(๓)มีสภาวะแบบไม่แน่นอน นึกอยากทำอะไรก็ทำ นึกอยากเปลี่ยนแบบเปลี่ยนแผน ก็เปลี่ยนได้ง่ายๆ 
 
เมื่อดาวธาตุไฟอย่างอาทิตย์(๑)มาอยู่เรือนดาวอังคาร(๓)ธาตุลมที่ราศีเมษ อาทิตย์(๑)กับอังคาร(๓)เป็นดาวคู่ศัตรู เมื่อดาวอาทิตย์(๑)ธาตุไฟ มาอยู่เรือนดาวอังคาร(๓)คู่ศัตรูแน่นอนว่า เมื่อดาวอาทิตย์(๑)ไฟมาอยู่เรือนดาวอังคารลม ไฟที่ลุกแรงจนเหนื่อยจนอยากชะลอลงบ้างก็คงจะยาก เพราะอยู่เรือนดาวอังคารธาตุลม ลมก็จะถาโถม เข้าหาไฟ ก็จะทำให้ไฟลุกฮือขึ้นอีก อยากทำอะไรอย่างคิดก็คงลำบากเนอะ
 
ฉะนั้นจึงทำให้รุู้ว่าดาวอาทิตย์(๑)มาอยู่ราศีเมษนี้ ก็ต้องเหน็ดเหนื่อย ต้องบากบั่น ต้องฝ่าฟัน นะ!! มันต้องต่อสู้ เพื่อที่จะทำการให้สำเร็จแต่ดาวอาทิตย์(๑)มาอยู่เรือนดาวอังคารลมคู่ศัตรูกัน จะทำการไม่ราบรื่น ง่ายๆได้อย่างนั้นรึ อย่างว่าแร่ะ ดาวอาทิตย์(๑)มาอยู่บ้านศัตรูนี่นะ จะได้อะไรมาง่ายๆสบายๆได้ยังไง จริงไม๊ 55555
 
ดาวอาทิตย์(๑)ธาตุไฟอยู่กับดาวเสาร์(๗)ธาตุไฟ ไฟเข้ามาอยู่กับราศีธาตุไฟ(ราศีเมษ) 
ไฟ-ไฟ เหมือนกันย่อมส่งเสริมไม่มีการหักล้างกัน สนับสนุนกัน เกื้อกูลกูลกัน
 
ดาวอาทิตย์(๑) เป็นธาตุไฟต้นธาตุตามทักษา ไฟอย่างอาทิตย์โชติช่วง สว่างไสว กระตือรือร้น กระตุ้นความคิด ตื่นตัวให้อยากทำนู้นทำนี่อยู่เรื่อยๆ คิดอะไรใหม่ๆได้ตลอดเวลา คิดทำอะไร
 
อ้าวๆๆๆ ยายพูดถึงดาวเสาร์(๗) แล้วดาวเสาร์(๗)ล่ะเป็นไฟอะไรคะ ดาวเสาร์เป็นดาวธาตุไฟปลายธาตุแบบไฟสุมขอน  แต่ไฟก็จะกรุ่นๆ คุอยู่ภายในอยู่นาน เรียกว่ายังมีไฟให้ความร้อน ยังพลังงาน แต่ไม่โชติช่วง สว่างไสว แบบดาวอาทิตย์(๑)

เมื่อดาวอาทิตย์ย่อมส่งเสริมไม่เคยคิดหักล้างกัน ไม่คิดคัดค้าน แถมยังช่วยทำกุลีกุจอ ช่วยมาเป็นแรงงาน ออกแรงทำให้โดยมิคัดค้าน โดยมิเหน็ดเหนื่อย เมื่อดาวธาตุไฟทั้งสองมาอยู่ในเรือนธาตุไฟ ซึ่งเป็นที่ที่พร้อมจะสนับสนุน เป็นทำเลทองของดาวอาทิตย์และดาวเสาร์ ที่จะร่วมทำนำไปสู่ความสำเร็จ สิ่งที่คาดหวัง
 
 
 
ยายเขียนยัง .. ว่างๆ มาเขียนต่อนะ   
 
เมื่อเสาร์(๗) มาร่วมเรือนในราศีนี้ ถึงจะมีตำแหน่งเป็นนิจน์ ซึ่งหมายถึงการด้อยกำลังลงก็ตาม แต่เมื่อได้กำลังของธาตุไฟของอาทิตย์(๑) เข้ามาเสริม ก็สามารถทำให้ดาวเสาร์(๗) ฟื้นคืนกำลังขึ้นมาได้ นั่นเอง 

หมายเหตุ : ดาวอาทิตย์และดาวเสาร์ ร่วมเรือนกันราศีนี้ ต้องไม่เป็นอริ มรณะ และ วินาศน์ จึงจะถือเป็นดาวคู่ธาตุไฟ ที่ส่งเสริมในดวงชะตา
 
 
 
    
 : เพื่อนๆสามารถใช้ หลักการอ่านดาวคู่ธาตุไฟ ในราศีอื่นๆ และเรือนต่างๆ ได้ในหลักการเดียวกันนะ
หากท่านใดต้องการ "ฝึกการอ่านดวง" ฉบับเต็มๆ ยายทำเป็นหนังสือเมื่อไหร่จะแจ้งขึ้นน่าเวปฯให้ทราบนะจ๊ะ
   By คุณยายกลิ่นโสม:: 141
#อ่านดวงไทยสบายสบาย ตามสไตล์คุณยายกลิ่นโสม
#เรียนโหราศาสร์ไทยฟรีด้วยตนเองได้ที่เวปบ้านคุณยายกลิ่นโสม 102 100450
:: 
https://www.baankhunyai.com
   --------------------
 

หมายเหตุจ๊ะโหราศาสตร์ไทยที่ยายเขียนในบล๊อคนี้ เป็นการเขียนการอ่านดวงแบบดวงอีแปะ ซึ่งจะเขียนวิธีการให้อ่านง่ายๆตามแบบสไตล์ของยายเท่านั้น วัตถุประสงค์ก็เพื่อเป็นการแบ่งปันกัน ซึ่งยายหวังว่าคงเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆผู้ที่สนใจและกำลังศึกษาในวิชาโหราศาสตร์ ได้บ้างนะจ๊ะ
 
Visitors: 218,878