ทางเล่นดวงนวางค์จักร (ผสมภพเรือน)
ปัญหาโหร : เรื่อง ทางเล่นดวงนวางค์จักร (ผสมภพเรือน)
อรุณ ลำเพ็ญ
๑๖ ธันวาคม ๒๕๓๑
เรียนอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ ที่นับถือ
กระผมเป็นผู้ที่เพิ่งเริ่มหัดเรียนรู้วิชาโหราศาสตร์ มาได้เพียง ๗ เดือนเท่านั้น เพิ่งมีความรู้เพียงงูๆ ปลาๆ ก็เกิดมาเจอปัญหากับชะตานี้ซะแล้ว ดวงชะตาที่ผมได้มานี้(ที่แนบมาด้วย) ผูกมาจากโหรท่านหนึ่ง ซึ่งเพื่อนของกระผมได้ไปดูมาซึ่งตัวกระผฒได้ดูแล้วเห็นขัดแย้ง กับโหรอาชีพ จึงต้องขอพึ่ง อาจารย์อรุณ ซึ่งผมเชื่อถือให้ช่วยวิจารณ์ดวงนี้ เพื่อเป็นวิทยาทานด้วย ผมกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อย่างสูง
ปัญหามีดังนี้ ชะตานี้เป็นชะตาชาย ซึ่งมีปัญหาด้านครอบครัวมากมาย อาทิด้าน การเงิน ความแตกแยกของบิดดามารดาของเจ้าชะตา แม้แต่การเรียนการสอบของเจ้าชะตาในปีนี้ก็แย่มาก แต่เมื่อได้ไปให้โหรท่านอื่นพยากรณ์แล้วท่านบอกว่าชะตานี้ดียากจะหาใครทานได้ และ จะสมหวังในเรื่องชีวิตคุ่มากๆ ด้วย แต่จากที่ผมสังเกตุแล้วอย่างน้อยๆ ชะตานี้ก็มีจุดเบียนมากคือ เจ้าเรือนวินาสน์เป็นวรโคดมนวางค์ จึงไม่น่าที่จะเป็นไปได้ว่าชะตานี้มีอำนาจวาสนา มากมายแต่ประการใด และแถมยังมีดาวเสาร์(๗) ภพพันธุด้วยแล้วชะตานี้ความสุขในชีวิตคู่ได้อย่างไร และแถมด้วยเรือนปัตนิ มีจุดมัธยะตกนวางค์กาลีอีก(นวางค์ ๓) นอกจากนี้โหรท่านอื่น ได้วิจารณ์ว่าชะตานี้จะไม่รวย แต่กระผมคิดว่าไม่น่าจะใช่ เพราะแม้เจ้าเรือนกดุมภะ จะเป็นประในนวางค์ แต่บังเอิญว่าเจ้าเรือนกดุมภะไปตกภพพันธุ ซึ่งได้ต่ำแหน่งที่เข้มแข็งเหลือเกิน คือดาวพฤหัส(๕) ได้องศามหาอุจจ์และได้คู่ธาตุอีกต่างหาก จึงน่าจะเป็นว่าเจ้าชะตามีทรัพย์สินในรูปอสังหาริมทรัพย์เป็นส่วนมาก และสุดท้ายนั้นเป็นสิ่งที่เจ้าชะตากลุ้มใจมากคืออยากรู้ควรจะประกอบอาชีพอะไรดีเพราะดูเหมือนว่าจะทำอะไรก็ไม่ค่อยจะก้าวหน้าเอาเสียเลย แต่กระผมได้วิจารณ์ไปว่า ชะตานี้น่าจะเล่นการเมืองดีเพราะว่าเป็นชะตาที่มีความสามารถในการพูดที่สุงดี
ด้วยความนับถือ อย่างสูง
ไวกูณฐ์ สถาปนาวัตร

เรียน คุณไวกูณฐ์ สถาปนาวัตร
คุณไวกูณฐ์ ได้ผูกดวงมาด้วยปฎิทิน ดาวทางดาราศาสตร์ตัดอยนางค์ ซึ่งทำให้ผมทีถนัด ทางดวงดาวที่คำนวณด้วยคัมภีร์สุริยาตร์ ตามแบบอย่างโหรอาชีพทั่วๆไป จึงผูกดวงอีกดวงหนึ่งขึ้นตามแบบสุริยาตร์ เพื่อจะได้ถนัดในการอ่านพยากรณ์โดยทำเป็นดวงนวางค์จักร์ตามความประสงค์ของคุณไวกูณฐ์ ที่ถามมาโดยวางดาวดวงราศีจักร์ ไว้ภายใน และดาวชอบดาวเป็นดาวดวงนวางค์จักร์ เพื่อสะดวกในการอ่านแบบของผม

ตำแหน่งดวงดาวทั้ง ๒ ระบบ แตกต่างบ้างในดวงราศีจักร์ และทางดวงนวางค์จักร์ ซึ่งเป็นธรรมดา
และคุณคงสังเกตุเห็นว่าผมมิได้ขับลัคนาเข้านวางค์จักร์ เพราะจะใช้ลัคนาในดวงเดิมราศีจักร์เป็นตัวหลักในการอ่านดาวที่สัมพันธ์กับลัคนา
โดยปกติทั่วไปในกลุ่มนักพยากรณ์ดวงนวางค์จักร์มักนิยมอ่านดาวเจ้าเรือนทางราศีจักร์ อยู่ภพใดของลัคนาเป็นความหมายดีชั่วในเบื้องแรก และตามดาวนั้นไปทางดวงนวางค์จักร์พิสูจน์ว่ามีตำแหน่งดีเด่นหรือด้อย เป็นอุจจ์ เป็นนิจ เป็นเกษตร และอย่างใด และเอาความหมายจากดวงนวางค์เป็นการตัดสินดีชั่วพยากรณ์ และบางครั้งมีปลีกย่อยตามเกจิอาจารย์ที่จะยักเยื้องพยากรณ์แปลกเปลี่ยนออกไปบ้างตามความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของอาจารย์รู้พยากรณ์
ผมไม่อาจวิจารณ์ว่าการอ่านดวงนวางค์เช่นนั้นผิดหรือถูก แต่มักมีปัญหาเกิดขึ้นเสมอ คือ ความหมายทางดวงราศีจักร์ดีเด่นแต่ตำแหน่งดาวทางดวงนวางค์ด้อยไป หรือความหมายทางดวงราศีด้อย แต่ทางดวงนวางศืดาวดีเด่น ทำให้ตัดสินใจในการพยากรณ์
เมื่อสมัยผมยังอายุ ๓๐ คือเมื่อ ๔๐ ปีที่แล้วมาเป็นสมัยที่ปมบ้าคลั่งโหราศาสตร์ไทยไม่ว่าจัวหวัดไหนใก้ลไกล สักเท่าใด ถ้ามีอาจารย์โหราศาสตร์ดัง ผมมักหาโอกาสลงไปไต่ถามเรียนรุ้ให้ได้เสมอมา
ได้พบอาจารย์ท่านหนึ่งท่านเล่นทางดวงนวางค์ และวิธีอ่านนวางค์ของท่านของท่านแนบเนียนด้วยเหตุผล และเป็นคำพยากรณ์กลมกลืนกับชีวิตมนุษย์ ผมว่าแปลกจากวิธีเดิมๆ และแปลกกว่าวิธีในปัจจุบัน ตั้งใจว่าจะเขียนเปิดเผยไว้เป็นแบบอย่างให้ดวงนวางค์พิจารณา ลองใช้พยากรณ์ เพราะวิชาโหราศาสตร์เป็นวิทยาการที่ต้องคิดค้น ละก้าวหน้าปรับปรุงอยู่เสมอ จึงจะทันเหตุการณ์
วิธีของท่านคงเหมือนกับวิธีปัจจุบันแต่อ่านเอาภพจากดวงนวางค์รวมความหมาย เข้ามาเป็นความหมายเป็นการพยากรณื เพื่อให้ได้ความหมายชีวิตที่ชัดเจนขึ้น
วิธีของท่านคือ จับเจ้าเรือนภพทางดวงราศีจักร์ อ่านมุมสัมพันธื กับลัคนาเสียก่อนเป็น จังหวะแรกนี้ และตามดาวเจ้าเรือนภพนั้นไปทางดวงนวางค์ ดูว่าสถิตภพใด มีคุณภาพตำแหน่ง ดี , ด้อย , กับลัคนา (ราศีจักร์) เป็นความหมายชั้นที่ ๒ พยากรณ์เป็นความหมายหลักก่อนแล้วจึงพิจารณาดาวลอยในภพโทษ เมื่อครองเรือนนั้นและเป็นมิตร เป็นศัตรูแก่เรือนนั้นๆ และพิจารณาทางดวงราศี จักร์ ว่าเจ้าเรือนที่ประสงค์รู้นั้น ถูกดาวลอยจากภพใดเกาะกุม รุมล้อมเป็นคุณเป็นโทษอย่างไร
ท่านถือว่าดวงดาวทางราศีจักรเป็นเหตุ และดาวทางดวงนวางค์เป็นผลดังนี้
มาลองอ่านดวงนี้ตามกฎท่านอาจารย์ว่าจะได้ผลอย่างไร
กดุมภะในดวงราศีจักร์เจ้าเรือนกดุมภะคือ ดาวเสาร์(๗) แห่งราศีมังกร ดาวเสาร์(๗)ไปสถิตราศีกุมภ์ เป็นสหัสชะติดตามอ่าน ดาวเสาร์(๗) ไปทางดวงนวางค์ ดาวเสาร์(๗)ราศีมิถุนอันเป็นภพปัตนิกับลัคนา ถ้าทำเป็นโน๊คความหมายก็คือ กดุมภะ - สหัสชะ - ปัตนิ อันเป็นความหมายแรกว่า การเงินเป็นการจัดแจงของครอบครัวหรือภรรยา แต่ความหมายกดุมภะยังมีอยู่อีกคือ ในภพกดุมภะ ราศีมังกรยังมีดาวลอยอีก ๓ ดวง สถิตอยู่ให้ผลแก่กดุมภะจึงค่อยให้สิ้นกระแสร์ความคือ
อาทิตย์ (๑) มาจากภพ ศุภะราศีสิงห์
ศุกร์(๖) มาจากภพอริ และ ลาภะ
พุธ(๔) มาจากภพปัตนิ และกัมมะ
เก็บเอาความหมายดาวลอยจากความหมายภพมารวมเรื่องของกดุมภะ คือ :-
อาทิตย์(๑) ย้ำความหมายกดุมภะจะเกิดศุภะ คือมีคนช่วยเหลือสนับสนุนและมีความราบรื่น
ศุกร์(๖) อริ -ลาภะ - การเงินเจ้าชะตาต้องต่อสู้ดิ้นรนขวนขวายจึงจะเกิดความสำเร็จผลได้
พุธ(๔) ปัตนิ - กัมมะ ครอบครัวหรือภรรยา ประกอบกิจการคนช่วยสร้างสรค์ฐานะการการเงินอยู่ด้วย
สรุปคือการเงิน เจ้าชะตาพอสามารถเลี้ยงตัวได้ดีโดยทางครอบครัว ได้ช่วยกันหาช่วยกินสร้างสรรฐานะการเงินจะได้เมียเป็นหลัก แต่เจ้าชะตาอยู่ได้ก็ต้องปากกัดตีนถีบต่อสู้อยู่ตลอดเวลา เพื่อหนีความยากจน
ข่อที่น่าสังเกตุ คือ พุธ(๔) ในดวงราศีจักร์กับดาวเสาร์(๗) ในดวงนวางค์สลับเรือนเกษตร หมายถึงจะเกิดความมั่นคงได้จากอนุเกษตร
หรือจะพิจารณาครอบครัวบิดามารดาได้จากจับเจ้าเรือนภพ ดาวพุธ(๔)คือภพพันธุ ในดวงราศีจักร์คือราศีมีน เจ้าเรือนคือ ดาวพฤหัส(๕) และ ดาวพฤหัส(๕) สถิตราศีกรกฎภพมรณะแก่ลัคนา-มรระ แปลว่า จาก ไกล ตาย เสื่อมสลาย แตกแยก ถ้าหยุดพิจารณา เพียงแค่นี้อาจสงสัยว่าครอบครัวบิดามารดาอาจตายจากหรือบิดา มาจากไกลก็ได้
จึงติดตามดาวพฤหัส(๕) ไปทางดวงนางค์จักร์สถิตราศีสิงห์ ภพศุภะแก่ลัคนา อันศุภะหมายถึง คัลลองชีวิต และในดวงนวางค์จักร์นั้นยังมี ดาวพุธ(๔) ร่วมดาวพฤหัส(๕) อยู่ด้วยพิจารณา ดาวพุธ(๔) มาจากภพปัตนิ และกัมมะแห่งราศีจักร์ จึงได้คำอธิบายเพิ่มเติมว่าความแตกแยกนั้นมาจากการกระทำ (กัมมะ) แตกแยกจากกันในความเป็น (ปัตนิ) สามีภรรยาก็คือบิดามารดาหย่าร้าง แยกทางกันนั้นเอง และ ดาวพฤหัส(๕) ยังมาทับมฤตยู(๐) ในภพราศีจักร์ทำให้แน่ชัดถึงการหย่าร้ายอีกโลดหนึ่งด้วย
หรือจะอ่านเรื่องของปัตนิเจ้าชะตาก็จะจับเจ้าเรือนราศีมิถุน คือ ดาวพุธ(๔) เจ้าเรือนปัตนิ ในดวงราศีจักร์ ดาวพุธ(๔) ไปสถิตในราศีมังกรภพกดุมภะ ความหมายคือ ภรรยาเกี่ยวแก่เงินติดตาม ดาวพุธ(๔) ไปทางดาวนวางค์จักร์สถิตภพศุภะ แปลว่า ช่วยเหลือเกื้อกูลการเงินแก่เจ้าชะตา หรือช่วยสร้างสรรค์ฐานะการเงิน และ ดาวพุธ(๔) ร่วมด้วย ดาวพฤหัส(๕) ในดวงนวางค์ ดาวพฤหัส(๕) มาจากภพตนุและภพพันธุ ก็คือช่วยสร้างสรรค์ ความมั่นคงปึกแผ่น(พันธุ) แก่ตนุเจ้าชะตานั่นเอง
ถ้าคุณอ่านเอาภพทั้งราศีจักร์บวกด้วยภพทางนวางค์จักร์ และรวมความหมายดาลอยที่สัมพันธ์ถึงจะได้เรื่องราวรายละเอียดชัดเจน วิธีการเช่นนี้ทางโหรเขาเรียก " อ่านดาว ๒ ขา"
การอ่านดวงอย่าอ่านเพียงสรุปดีหรือเลว สถานเดียวมิได้ เพราะชีวิตคนละเอียดอ่อน อาจไม่เป็นบวกหรือเป็นลบ อย่างเดียว อาจเป็นกลางธรรมดาก็ได้
ชีวิตปัจจุบันของเจ้าชะตานี้มีอายุเพียง ๒๒ ปี ยังอ่อนวัยนักชีวิตเบื้องหน้ายังมีอีกยาวนานมากนัก อย่าเพิ่งนำเอาชีวิตปัจจุบันเขามาสรุปดวงทั้งดวง ซึ่งคุณชีวิตทั้งชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย
ผมนำเอาของเก่าเก็บที่เหลือใช้ สำหรับผมนำมาฝากกับนักโหราศาสตร์รุ้นใหม่ๆ หวังว่าคงเป็นทางอ่านดาวและดวงได้ชัดเจนขึ้น ดีกว่าจับดาวอ่านหลับๆ ตื่นๆ พยากรณ์กันไปตามบุญตามกรรม
อรุณ ลำเพ็ญ
หน้าปัญหาโหรนี้ จะเปิดเป็นประจำทุกเล่มเพื่อเป็นการอนุเคราะห์แก่บรรดานักโหราศาสตร์ ริเริ่ม และกำลังเรียนรู้ในโหราศาสตร์ มักเกิดปัญหาขัดข้องในการเรียน การอ่าน ตำรับตำราทั้งหลายขึ้น แล้วมักไม่รู้จะถามใคร ถ้าท่านเกิดปัญหาในการเรียนโหราศาสตร์นี้ โปรดจดหมายถามมาที่บรรณาธิการ พยากรณ์สาร และโปรดส่งซองจ่าหน้าถึงตัวท่านด้วย เพราะการจะตอบปัญหาทุกปัญหาในหน้าพยากรณ์สาร อาจไม่สะดวกจะได้ตอบเป็นส่วนตัวให้ท่าน ปัญหาใดที่น่าสนใจและประโยชน์แก่ส่วนรวมก็จะตอบในหน้าพยากรณ์สาร ผู้ตอบมิได้คิดจะตั้งตนเป็นสัพพัญญูอยู่ในโหราศาสตร์ เพียงปราถนาดีที่จะเป็นเพื่อนและพี่เลี้ยงให้นักโหราศาสตร์ที่เพิ่งเข้ามาสู่วงการโหราศาสตร์จะได้แก้ปัญหาได้ ปัญหาใดที่ผมไม่รู้ก็จะพยายามไถ่ถามผู้รู้หาคำตอบมาให้ แต่ถ้าปัญหาใดสูงสุดเกินสติปัญญาก็จนใจตอบไม่ได้ |
๑๖ ธันวาคม ๒๕๓๑
เรียนอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ ที่นับถือ
กระผมเป็นผู้ที่เพิ่งเริ่มหัดเรียนรู้วิชาโหราศาสตร์ มาได้เพียง ๗ เดือนเท่านั้น เพิ่งมีความรู้เพียงงูๆ ปลาๆ ก็เกิดมาเจอปัญหากับชะตานี้ซะแล้ว ดวงชะตาที่ผมได้มานี้(ที่แนบมาด้วย) ผูกมาจากโหรท่านหนึ่ง ซึ่งเพื่อนของกระผมได้ไปดูมาซึ่งตัวกระผฒได้ดูแล้วเห็นขัดแย้ง กับโหรอาชีพ จึงต้องขอพึ่ง อาจารย์อรุณ ซึ่งผมเชื่อถือให้ช่วยวิจารณ์ดวงนี้ เพื่อเป็นวิทยาทานด้วย ผมกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์อย่างสูง
ปัญหามีดังนี้ ชะตานี้เป็นชะตาชาย ซึ่งมีปัญหาด้านครอบครัวมากมาย อาทิด้าน การเงิน ความแตกแยกของบิดดามารดาของเจ้าชะตา แม้แต่การเรียนการสอบของเจ้าชะตาในปีนี้ก็แย่มาก แต่เมื่อได้ไปให้โหรท่านอื่นพยากรณ์แล้วท่านบอกว่าชะตานี้ดียากจะหาใครทานได้ และ จะสมหวังในเรื่องชีวิตคุ่มากๆ ด้วย แต่จากที่ผมสังเกตุแล้วอย่างน้อยๆ ชะตานี้ก็มีจุดเบียนมากคือ เจ้าเรือนวินาสน์เป็นวรโคดมนวางค์ จึงไม่น่าที่จะเป็นไปได้ว่าชะตานี้มีอำนาจวาสนา มากมายแต่ประการใด และแถมยังมีดาวเสาร์(๗) ภพพันธุด้วยแล้วชะตานี้ความสุขในชีวิตคู่ได้อย่างไร และแถมด้วยเรือนปัตนิ มีจุดมัธยะตกนวางค์กาลีอีก(นวางค์ ๓) นอกจากนี้โหรท่านอื่น ได้วิจารณ์ว่าชะตานี้จะไม่รวย แต่กระผมคิดว่าไม่น่าจะใช่ เพราะแม้เจ้าเรือนกดุมภะ จะเป็นประในนวางค์ แต่บังเอิญว่าเจ้าเรือนกดุมภะไปตกภพพันธุ ซึ่งได้ต่ำแหน่งที่เข้มแข็งเหลือเกิน คือดาวพฤหัส(๕) ได้องศามหาอุจจ์และได้คู่ธาตุอีกต่างหาก จึงน่าจะเป็นว่าเจ้าชะตามีทรัพย์สินในรูปอสังหาริมทรัพย์เป็นส่วนมาก และสุดท้ายนั้นเป็นสิ่งที่เจ้าชะตากลุ้มใจมากคืออยากรู้ควรจะประกอบอาชีพอะไรดีเพราะดูเหมือนว่าจะทำอะไรก็ไม่ค่อยจะก้าวหน้าเอาเสียเลย แต่กระผมได้วิจารณ์ไปว่า ชะตานี้น่าจะเล่นการเมืองดีเพราะว่าเป็นชะตาที่มีความสามารถในการพูดที่สุงดี
ด้วยความนับถือ อย่างสูง
ไวกูณฐ์ สถาปนาวัตร

เรียน คุณไวกูณฐ์ สถาปนาวัตร
คุณไวกูณฐ์ ได้ผูกดวงมาด้วยปฎิทิน ดาวทางดาราศาสตร์ตัดอยนางค์ ซึ่งทำให้ผมทีถนัด ทางดวงดาวที่คำนวณด้วยคัมภีร์สุริยาตร์ ตามแบบอย่างโหรอาชีพทั่วๆไป จึงผูกดวงอีกดวงหนึ่งขึ้นตามแบบสุริยาตร์ เพื่อจะได้ถนัดในการอ่านพยากรณ์โดยทำเป็นดวงนวางค์จักร์ตามความประสงค์ของคุณไวกูณฐ์ ที่ถามมาโดยวางดาวดวงราศีจักร์ ไว้ภายใน และดาวชอบดาวเป็นดาวดวงนวางค์จักร์ เพื่อสะดวกในการอ่านแบบของผม

ตำแหน่งดวงดาวทั้ง ๒ ระบบ แตกต่างบ้างในดวงราศีจักร์ และทางดวงนวางค์จักร์ ซึ่งเป็นธรรมดา
และคุณคงสังเกตุเห็นว่าผมมิได้ขับลัคนาเข้านวางค์จักร์ เพราะจะใช้ลัคนาในดวงเดิมราศีจักร์เป็นตัวหลักในการอ่านดาวที่สัมพันธ์กับลัคนา
โดยปกติทั่วไปในกลุ่มนักพยากรณ์ดวงนวางค์จักร์มักนิยมอ่านดาวเจ้าเรือนทางราศีจักร์ อยู่ภพใดของลัคนาเป็นความหมายดีชั่วในเบื้องแรก และตามดาวนั้นไปทางดวงนวางค์จักร์พิสูจน์ว่ามีตำแหน่งดีเด่นหรือด้อย เป็นอุจจ์ เป็นนิจ เป็นเกษตร และอย่างใด และเอาความหมายจากดวงนวางค์เป็นการตัดสินดีชั่วพยากรณ์ และบางครั้งมีปลีกย่อยตามเกจิอาจารย์ที่จะยักเยื้องพยากรณ์แปลกเปลี่ยนออกไปบ้างตามความรู้ความสามารถและประสบการณ์ของอาจารย์รู้พยากรณ์
ผมไม่อาจวิจารณ์ว่าการอ่านดวงนวางค์เช่นนั้นผิดหรือถูก แต่มักมีปัญหาเกิดขึ้นเสมอ คือ ความหมายทางดวงราศีจักร์ดีเด่นแต่ตำแหน่งดาวทางดวงนวางค์ด้อยไป หรือความหมายทางดวงราศีด้อย แต่ทางดวงนวางศืดาวดีเด่น ทำให้ตัดสินใจในการพยากรณ์
เมื่อสมัยผมยังอายุ ๓๐ คือเมื่อ ๔๐ ปีที่แล้วมาเป็นสมัยที่ปมบ้าคลั่งโหราศาสตร์ไทยไม่ว่าจัวหวัดไหนใก้ลไกล สักเท่าใด ถ้ามีอาจารย์โหราศาสตร์ดัง ผมมักหาโอกาสลงไปไต่ถามเรียนรุ้ให้ได้เสมอมา
ได้พบอาจารย์ท่านหนึ่งท่านเล่นทางดวงนวางค์ และวิธีอ่านนวางค์ของท่านของท่านแนบเนียนด้วยเหตุผล และเป็นคำพยากรณ์กลมกลืนกับชีวิตมนุษย์ ผมว่าแปลกจากวิธีเดิมๆ และแปลกกว่าวิธีในปัจจุบัน ตั้งใจว่าจะเขียนเปิดเผยไว้เป็นแบบอย่างให้ดวงนวางค์พิจารณา ลองใช้พยากรณ์ เพราะวิชาโหราศาสตร์เป็นวิทยาการที่ต้องคิดค้น ละก้าวหน้าปรับปรุงอยู่เสมอ จึงจะทันเหตุการณ์
วิธีของท่านคงเหมือนกับวิธีปัจจุบันแต่อ่านเอาภพจากดวงนวางค์รวมความหมาย เข้ามาเป็นความหมายเป็นการพยากรณื เพื่อให้ได้ความหมายชีวิตที่ชัดเจนขึ้น
วิธีของท่านคือ จับเจ้าเรือนภพทางดวงราศีจักร์ อ่านมุมสัมพันธื กับลัคนาเสียก่อนเป็น จังหวะแรกนี้ และตามดาวเจ้าเรือนภพนั้นไปทางดวงนวางค์ ดูว่าสถิตภพใด มีคุณภาพตำแหน่ง ดี , ด้อย , กับลัคนา (ราศีจักร์) เป็นความหมายชั้นที่ ๒ พยากรณ์เป็นความหมายหลักก่อนแล้วจึงพิจารณาดาวลอยในภพโทษ เมื่อครองเรือนนั้นและเป็นมิตร เป็นศัตรูแก่เรือนนั้นๆ และพิจารณาทางดวงราศี จักร์ ว่าเจ้าเรือนที่ประสงค์รู้นั้น ถูกดาวลอยจากภพใดเกาะกุม รุมล้อมเป็นคุณเป็นโทษอย่างไร
ท่านถือว่าดวงดาวทางราศีจักรเป็นเหตุ และดาวทางดวงนวางค์เป็นผลดังนี้
มาลองอ่านดวงนี้ตามกฎท่านอาจารย์ว่าจะได้ผลอย่างไร
กดุมภะในดวงราศีจักร์เจ้าเรือนกดุมภะคือ ดาวเสาร์(๗) แห่งราศีมังกร ดาวเสาร์(๗)ไปสถิตราศีกุมภ์ เป็นสหัสชะติดตามอ่าน ดาวเสาร์(๗) ไปทางดวงนวางค์ ดาวเสาร์(๗)ราศีมิถุนอันเป็นภพปัตนิกับลัคนา ถ้าทำเป็นโน๊คความหมายก็คือ กดุมภะ - สหัสชะ - ปัตนิ อันเป็นความหมายแรกว่า การเงินเป็นการจัดแจงของครอบครัวหรือภรรยา แต่ความหมายกดุมภะยังมีอยู่อีกคือ ในภพกดุมภะ ราศีมังกรยังมีดาวลอยอีก ๓ ดวง สถิตอยู่ให้ผลแก่กดุมภะจึงค่อยให้สิ้นกระแสร์ความคือ
อาทิตย์ (๑) มาจากภพ ศุภะราศีสิงห์
ศุกร์(๖) มาจากภพอริ และ ลาภะ
พุธ(๔) มาจากภพปัตนิ และกัมมะ
เก็บเอาความหมายดาวลอยจากความหมายภพมารวมเรื่องของกดุมภะ คือ :-
อาทิตย์(๑) ย้ำความหมายกดุมภะจะเกิดศุภะ คือมีคนช่วยเหลือสนับสนุนและมีความราบรื่น
ศุกร์(๖) อริ -ลาภะ - การเงินเจ้าชะตาต้องต่อสู้ดิ้นรนขวนขวายจึงจะเกิดความสำเร็จผลได้
พุธ(๔) ปัตนิ - กัมมะ ครอบครัวหรือภรรยา ประกอบกิจการคนช่วยสร้างสรค์ฐานะการการเงินอยู่ด้วย
สรุปคือการเงิน เจ้าชะตาพอสามารถเลี้ยงตัวได้ดีโดยทางครอบครัว ได้ช่วยกันหาช่วยกินสร้างสรรฐานะการเงินจะได้เมียเป็นหลัก แต่เจ้าชะตาอยู่ได้ก็ต้องปากกัดตีนถีบต่อสู้อยู่ตลอดเวลา เพื่อหนีความยากจน
ข่อที่น่าสังเกตุ คือ พุธ(๔) ในดวงราศีจักร์กับดาวเสาร์(๗) ในดวงนวางค์สลับเรือนเกษตร หมายถึงจะเกิดความมั่นคงได้จากอนุเกษตร
หรือจะพิจารณาครอบครัวบิดามารดาได้จากจับเจ้าเรือนภพ ดาวพุธ(๔)คือภพพันธุ ในดวงราศีจักร์คือราศีมีน เจ้าเรือนคือ ดาวพฤหัส(๕) และ ดาวพฤหัส(๕) สถิตราศีกรกฎภพมรณะแก่ลัคนา-มรระ แปลว่า จาก ไกล ตาย เสื่อมสลาย แตกแยก ถ้าหยุดพิจารณา เพียงแค่นี้อาจสงสัยว่าครอบครัวบิดามารดาอาจตายจากหรือบิดา มาจากไกลก็ได้
จึงติดตามดาวพฤหัส(๕) ไปทางดวงนางค์จักร์สถิตราศีสิงห์ ภพศุภะแก่ลัคนา อันศุภะหมายถึง คัลลองชีวิต และในดวงนวางค์จักร์นั้นยังมี ดาวพุธ(๔) ร่วมดาวพฤหัส(๕) อยู่ด้วยพิจารณา ดาวพุธ(๔) มาจากภพปัตนิ และกัมมะแห่งราศีจักร์ จึงได้คำอธิบายเพิ่มเติมว่าความแตกแยกนั้นมาจากการกระทำ (กัมมะ) แตกแยกจากกันในความเป็น (ปัตนิ) สามีภรรยาก็คือบิดามารดาหย่าร้าง แยกทางกันนั้นเอง และ ดาวพฤหัส(๕) ยังมาทับมฤตยู(๐) ในภพราศีจักร์ทำให้แน่ชัดถึงการหย่าร้ายอีกโลดหนึ่งด้วย
หรือจะอ่านเรื่องของปัตนิเจ้าชะตาก็จะจับเจ้าเรือนราศีมิถุน คือ ดาวพุธ(๔) เจ้าเรือนปัตนิ ในดวงราศีจักร์ ดาวพุธ(๔) ไปสถิตในราศีมังกรภพกดุมภะ ความหมายคือ ภรรยาเกี่ยวแก่เงินติดตาม ดาวพุธ(๔) ไปทางดาวนวางค์จักร์สถิตภพศุภะ แปลว่า ช่วยเหลือเกื้อกูลการเงินแก่เจ้าชะตา หรือช่วยสร้างสรรค์ฐานะการเงิน และ ดาวพุธ(๔) ร่วมด้วย ดาวพฤหัส(๕) ในดวงนวางค์ ดาวพฤหัส(๕) มาจากภพตนุและภพพันธุ ก็คือช่วยสร้างสรรค์ ความมั่นคงปึกแผ่น(พันธุ) แก่ตนุเจ้าชะตานั่นเอง
ถ้าคุณอ่านเอาภพทั้งราศีจักร์บวกด้วยภพทางนวางค์จักร์ และรวมความหมายดาลอยที่สัมพันธ์ถึงจะได้เรื่องราวรายละเอียดชัดเจน วิธีการเช่นนี้ทางโหรเขาเรียก " อ่านดาว ๒ ขา"
การอ่านดวงอย่าอ่านเพียงสรุปดีหรือเลว สถานเดียวมิได้ เพราะชีวิตคนละเอียดอ่อน อาจไม่เป็นบวกหรือเป็นลบ อย่างเดียว อาจเป็นกลางธรรมดาก็ได้
ชีวิตปัจจุบันของเจ้าชะตานี้มีอายุเพียง ๒๒ ปี ยังอ่อนวัยนักชีวิตเบื้องหน้ายังมีอีกยาวนานมากนัก อย่าเพิ่งนำเอาชีวิตปัจจุบันเขามาสรุปดวงทั้งดวง ซึ่งคุณชีวิตทั้งชีวิตตั้งแต่เกิดจนตาย
ผมนำเอาของเก่าเก็บที่เหลือใช้ สำหรับผมนำมาฝากกับนักโหราศาสตร์รุ้นใหม่ๆ หวังว่าคงเป็นทางอ่านดาวและดวงได้ชัดเจนขึ้น ดีกว่าจับดาวอ่านหลับๆ ตื่นๆ พยากรณ์กันไปตามบุญตามกรรม
#By_คุณยายกลิ่นโสม 

#อ่านดวงไทยสบายสบายตามสไตล์คุณยายกลิ่นโสม

#ฟรี!!เรียนดูดวงฟรี!!เรียนโหราศาสตร์ไทยฟรีที่บ้านคุณยายกลิ่นโสม
#โหราศาสตร์ไทยเรียนด้วยตนเองฉบับคุณยายกลิ่นโสม ได้ที่ #htthttp://www.baankhunyai.com 



------------------------------------
สนใจดูดวงติดต่อ: baankunyai





