การเรียนโหราศาสตร์
อาจารย์อรุณ ตอบปัญหาโหร เรื่อง: การเรียนโหราศาสตร์
เรียนอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญที่นับถือ
ผมเป็นสมาชิกใหม่ของสมาคมโหร และรับพยากรณ์สารได้ติดตามบทความในหน้าปัญหาโหรมาตลอด เพราะให้ความรู้ทางโหราศาสตร์ ด้วยเหตุผลซึ่งเป็นข้อเท็จจริงให้หายสงสัยได้ดีมาก
ผมเองสนใจโหราศาสตร์ แต่จับจดมิได้จริงจังสักที เหตุที่มิได้จริงจัง เพราะจะเริ่มเรียนทีไรมัเกิดปัญหาที่ตัดสินใจไม่ได้สักที เคยนำปัญหาขึ้นหารือกับอาจารย์โหรใหญ่ๆ หลายท่าน แต่ที่ท่านตอบไม่อิ่มเลยมิหนำซ้ำ คำตอบของท่านขัดแย้งกันเอง ยิ่งทำให้เกิดปัญหาซ้อนขึ้นมาอีก ความคิดมืดสลัวอยู่แล้วกลับมืดสนิทลงไปอีก ปัญหาของผมคือ :-
ปัญหาโหราศาสตร์อันเป็นวิชาพยากรณ์ ที่มีทางเสนออยู่ในปัจจุบันที่ผมติดตามอยู่มีหลายแขนงมีทั้งของฝรั่งและโหราศาสตร์แขก รวมทั้ของไทยแท้
มเองสนใจเกือบทุกสาขา แต่ยังมิได้เริ่มเรียนจริงจัง เพราะการเรียนโหราศาสตร์ต้องใช้ทุนรอนการเงินและเวลามากเป็นปี ถ้าเรียนผิดทางจะเสียทั้งเงินทั้งเวลาไปเปล่าๆ หันมาเริ่มใหม่ ก็มักสายเกินไป ผมเห็นตัวอ่ย่างเพื่อนๆ หลายๆ คนเป็นเช่นนั้น เรียนไปเรียนไปนานเข้ากลายเป้นนักคุยโหราศาสตร์มากกว่าเป็นนักพยากรณ์ที่แท้จริง
โดยใจจริงผมสนใจโหราศาสตร์ไทย เพราะเป็นมรดกตกทอดมาเป็นพันปี แต่ก็พบปัญหาตรงที่โหราศาสตร์ไทย ก็มีหลายระบบ ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเริ่มจับเรียนระบบใดได้ถูก
ขณะนี้กำลังสนใจโหราศาสตร์ไทยไทยระบบนวางค์จักร เพราะระบนวางค์จักรเล่นดาว ๒ ชั้น คือชั้นแรกดาวมีตำแหน่งในราศี และชั้นที่ ๒ ดาวเกาะนวางค์ ทำให้รู้ผลว่า ดาวในราศีๆนั้นๆ ไปสถิตราศีใดในนวางค์ เป็นการการตัดสินสุดท้ายดาวดีหรือดาวชั่ว เพราะดาวเกาะนวางค์ทำให้จรไปสถิตในราศีต่างบอกตำแหน่งที่แท้จริงได้ทุกกรณี คิดว่าเป็นระบบดีที่สุด
แต่อย่างไร ก็ตามผมเชื่อความคิดอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ ว่าเป็นผู้รู้แตกฉานจริง พอที่จะให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่ผมได้อย่างแท้จริง ได้โปรดกรุณาด้วยจะเป็นพระคุณยิ่ง แก่คนโง่อย่างผม
ด้วยความนับถืออย่างแท้จริง
ชโยดม ดำรงชัย
------------------------------
เรียน คุณชโยดม ดำรงชัย ที่นับถือ
ปัญหาของคุณข้อแรกคือ คุณเป็นคนฉลาดเกินไป พยายามหาเหตุผลในสิ่งที่คุณไม่รู้แจ้ง จึงไม่อาจแก้ปัญหาได้ ถ้าคุณโง่สักหน่อยจับเรียนโหราศาสตร์สายใดสายหนึ่งไปด้วยความศรัทธาเชื่อมั่นแล้ว ป่านนี้คุณอาจเป็นนักพยากรณ์ไปแล้วก็ได้
ปัญหาของคุณเป็นปัญหาชุมชนส่วนใหญ่ที่กำลังที่กำลังจะเริ่มเรียนรู้วิชาโหราศาสตร์ ทุกคนที่กำลังประสบมาแล้วและกำลังประสบอยู่ แต่ละคนไม่อาจแก้ปัญหาของตนได้
โหราศาสตร์ไทยทุกวันนี้ได้ถูกแบ่งระบบพยากรณ์ออกเป็นแขนง แต่ละแขนงก็มีความเฉพาะในระบบของตน แบ่งคร่าวๆ ได้หลายระบบ
๑. โหราศาสตร์ไทยผสมระบบโหรศาสตร์ตะวันตก
๒. โหราศาสตร์ไทยผสมโหราศาสตร์แขกระบบฮินดู
๓. โหราศาสตร์ระบบนวางค์จักร
๔. โหราศาสตร์ไทยที่ใช้ทักษา เดช , ศรี , กาลี , เป็นหลัก
๕. โหราศาสตร์ที่ยึดคัมภีร์โบราณเป็นทางพยากรณ์ เช่น อินทภาสบาทจันทร์ กาลจักรลัคน์จร จักรทีปนี
๖. โหราศาสตร์ไทย ที่ใช้ดาวลอยอาศัยเรือนเป็นดวงพยากณ์
๗. โหราศาสตร์ไทยที่เล่นทางภพ , ทางเรือน , และธาตุ ,และความหมายดาวเป็นหลักพยากรณ์
แต่ละระบบ ต่างมีจุดจุดด้อยแตกต่างกันทุกระบบ แต่ละระบบที่ดีจะมีจุดพยากรณ์ ทางจรอันเป็นจุดปราถนาอันสูงสุดของการพยากรณ์โดยสมบรูณ์
การเรียนของผู้ริเริ่มประเภทหนึ่ง คือพวกที่เป็นปัญญาชน มักชอบซื้อหนังสือตำหรับตำรามาอ่านเรียนด้วยตนเอง โดยความเชื่อมั่นว่าสรรพความรู้ย่อมมีอยู่ในตำราทั้งสิ้น
บรรดาท่านเหล่านี้มักเรียนไปแล้วจะพบจุดจบจนมุมได้ง่ายๆ ตรงที่ตำราต่างๆที่มีอยู่เป็นส่วนมากมักเขียนอย่างบันทึกมากกว่าตำราเรียนด้วยตนเอง มีแต่บทที่เป็นกฎ และกฎแต่มักไม่มีวิธีปฎิบัติเกี่ยวกับการใช้กฎนั้นๆ การเขียนตำรานั้นๆ มักเขียนให้ท่องจำมากกว่าเขียนให้เกิดความเข้าใจ และที่เหมือนๆกันเป็นส่วนมากคือ ตำราโหราศาสตร์ไทยไม่มีระบบทายจร อันเป็นหัวใจสำคัญ ทำให้ความรู้ทางโหราศาสตร์ถูกจำกัดไม่สมบรูณ์
อีกพวกหนึ่งเป็นพวกมีความคิดว่า การเรียนรู้หลายๆระบบ แล้วนำผสมผสนกัน จะทำให้สามารถมากกว่าปกติ พวกนี้มักเรียนสิ่งละอันพันละน้อยผสมกันจนจำรูปร่างมิได้ ใครบอกบอกอะไร พบในตำราใดเก็บสะสมเอาจนหมดไม่เว้นเลย
ทั้งสองพวกนั้นเรียนมากเข้ามักเป็นนักโหราศาสตร์ประเภทมีความรู้ แต่ไม่มีความสามารถ ถึงรู้แต่พยากรณ์จริงๆ มิได้เหมือน "ค้างคาว" คือจะเป็นนก แต่ก็มีหู จะเป็นหนูแต่ก็มีปีก เป็นอย่างอย่างหนึ่งมิได้อย่างแท้จริง
โหราศาสตร์ไทยที่มีโครงสร้างเดียวกันแต่แยกออกไปถึง ๗ สายนั้น เพราะเหตุที่โบราณจารย์สมัยเก่าก่อนผู้ริเริ่มได้ใช้สถิติดาวคนละมุม ท่านพบเห็นมามากในกฎของท่าน ท่านจึงนำมาตั้งกฎพยากรณ์ในแนวของท่าน และอาจารย์ท่านอื่นท่านก็เก็บสถิติ มาคนละทางจึงมีกฎพยากรณ์คนละสายแตกต่างจากนั้นไปมากน้อยตามระบบของท่าน ศิษย์รับถ่ายทอดมาจึงเป็นคนละสาย ทั้งๆที่เป็นโหราศาสตร์ไทยด้วยกัน
แต่จะเป็นสายใดแขนงใด กฎที่มีของท่านจะสมบรูณ์แบบ และศักยภาพในการพยากรณ์ ทั้งดวงเดิมและดวงจร โดยสมบรูณ์แบบแม่นยำทุกแขนง
ขออย่างเดียวคุณอย่าทำตัวเป็นคนเก่ง คือเรียนทุกแขนงแล้วนำมาผสมปะปนกัน จนทำให้มิได้ผลในการเรียนรู้ เพราะแต่ละระบบจะมีเอกทัศน์เป็นของตนเอง โดยไม่อาจนำเอามาผสมรวมกันได้สนิท
และอีกประการหนึ่งที่ควรเรียนโดยมีครูบาอาจารย์เป็นตัวตน เพราะจะทำให้การเรียนรู้ของคุณเดินได้ตรงทางไม่คดเคี้ยวเลี้ยวลดเข้าป่าไป
คุณจะเรียนระบบใดก็ได้ แต่ขอให้ตั้งปณิธานว่า จะขึ้นต้นด้วยระบบนั้น จะต้องเรียนให้สุดปลายของระบบนั้นจึงจะได้ผลทางพยากรณ์ ส่วนการที่จะสามารถเก่งกาจอยู่ที่ตัวคุณเองที่จะมี ศรัทธา วิริยะ จิตตะ วิมังสา ได้มากน้อยเพียงใด วิชาที่อาจารย์สอนเหมือนน้ำ ผู้เรียนเป็นภาชนะ ตุ่มที่รับน้ำ ถ้าตุ่มเล็กย่อมเติมแม้เต็มก็น้อยกว่าตุ่มใหญ่ และถ้าตุ่มรั่วเติมน้ำเท่าใดก็ไม่รู้จักเต็ม
ก่อนเรียนระบบใดกับอาจารย์ใดก็ตาม ควรได้พิสูจน์เป็นการแน่ใจเสียก่อนว่าระบบโหราศาสตร์นั้นๆ มีศักยภาพในการพยากรณ์เพียงใด ระบบพยากรณ์ที่ดีและสมบรูณ์แบบ ย่อมมีศักยภาพดังนี้
๑. ง่าย และสะดวกรวดเร็ว และมีผลทางพยากรณ์
๒. พยากรณ์ได้รอบตัวถึงพฤติกรรมของชีวิตมนุษย์ เช่น งาน , เงิน . ครอบครัว , สุขภาพ ฯ
๓. การพยากรณ์ต้องมีรายละเอียดประกอบ และมีกำหนดเวลาที่จะเกิดเหตุร้ายและดีด้วย โดยเฉพาะทางจร
๔.ควรหลีกเลี่ยงระบบคำนวณละเอียดมากมาย แต่ผลพยากรณ์สั้นนิดเดียว ไม่ได้ความละเอียดชัดเจน
และเมื่อได้พิสูจน์ตามหลักการที่ผมกล่าวมาแล้ว ก็จะเรียนในระบบใดก็ได้เพราะผลปลายทางจะมีจุดสุดยอดเช่นเดียวกัน
ขอเรียนถึงจุดของความบกพร่องในระบบนวางค์จักร ที่คุณคิดว่าดีกว่าราศีจักรหรือ ระบบนวางค์จักรเป็นระบบที่สมบรูณ์ที่สุดนั้น ความจริงในระบบตัวระบบก็ยังมีจุดไม่พร้อมครบสมบรูณ์ดังต่อไปนี้
ดาวดวงใดดวงหนึ่ง สถิตราศีหนึ่งมีสิทธิเกาะนวางค์ในราศีนั้นเพียง ๙ ลูกนวางค์ นวางค์แต่ละลูก มีเกษตรประจำราศีต่างๆ เป็นดาวนวางค์ พูดตรงๆ คือดาวในราศีนวางค์มีสิทธิที่จะเกาะนวางค์ แล้วก้าวไปสถิตในราศีหนึ่งๆ ตามผลของเจ้านวางค์ แล้วก้าวไปสถิตในราศีอีกราศีหนึ่งๆ ตามผลของเจ้านวางค์ไปได้เพียง ๙ ราศีเท่านั้น ขาด ๓ ราศี เช่น..
๑. อาทิตย์เป็นประ ในราศีกุมภ์ ไม่ว่าเกาะนวางค์ใดไม่อาจเปลี่ยนสภาพเป็นเกษตรได้ เพราะนวางค์ไม่ถึงราศีสิงห์
๒. จันทร์เป็นอุจน์ ในราศีพฤษภไม่ว่าจะเกาะนวางค์ใด ไม่มีทางเป็นนิจได้ เพราะนวางค์จักรไม่ถึงราศีพิจิกได้
๓. อังคาร เป็นเกษตรราศีเมษ ไม่มีทางเป็นอุจน์ในราศีมังกร เพราะนวางค์ไม่ถึงราศีมังกร
๔. จันทร์เป็นเกษตรราศีกรกฎ ไม่มีทางเป็นอุจน์ในราศีพฤษภได้ เพราะนวางค์ ไม่ถึงราศีพฤษภ
๕. ราหูเป็นอุจน์ราศีพิจิก ไม่มีทางเป็นนิจ ราศีพฤษภได้เพราะนวางค์ ไม่ถึงราศีพฤษภ
ยังมีอีกหลายกรณี จะไม่กล่าวถึง เป็นแต่เพียงยกตัวอย่างให้เห็นว่านวางค์จักรมีการพิสูจน์ดาวได้ ๑๐๐ เปอร์เซนต์ มิได้อย่างคุณเข้าใจ
ถ้าคุณโชคดีและแสวงหา อาจจะได้พบระบบราศีจักรบางระบบ ที่พิสูจน์ดาวได้ชัดเจนกว่าระบบนวางค์จักร
หวังว่าในอนาคตอันใก้ลๆ คงได้เห็นชื่อคุณได้ขึ้นทำเนียมเป็นพยากรณ์ฝ่ายโหราศาสตร์ไทย
ในการศึกษาโหราศาสตร์ไทยทุกแขนงแล้ว ไม่ควรนำศาสตร์ทุกแขนงมาผสมปนเปกัน จนทำให้ไม่สามารถอ่านผลในการเรียนรู้ได้
เพราะแต่ละระบบจะมีเอกเป็นของตนเอง และ
อีกประการหนึ่งที่ควรเรียนโดยมีครูบาอาจารย์เป็นตัวตน เพราะจะทำให้การเรียนรู้ของคุณเดินได้ตรงทางไม่คดเคี้ยวเลี้ยวลดเข้าป่าไป
เว้นแต่คุณจะมัพรสวรรค์ด้านโหราศาสตร์จริงๆ
ระบบพยากรณ์ที่ดีและสมบรูณ์แบบ ย่อมมีศักยภาพดังนี้
๑. ง่าย และสะดวกรวดเร็ว และมีผลทางพยากรณ์
๒. พยากรณ์ได้รอบตัวถึงพฤติกรรมของชีวิตมนุษย์ เช่น งาน , เงิน . ครอบครัว , สุขภาพ ฯ
๓. การพยากรณ์ต้องมีรายละเอียดประกอบ และมีกำหนดเวลาที่จะเกิดเหตุร้ายและดีด้วย โดยเฉพาะทางจร
๔.ควรหลีกเลี่ยงระบบคำนวณละเอียดมากมาย แต่ผลพยากรณ์สั้นนิดเดียว ไม่ได้ความละเอียดชัดเจน
#เล่าเรื่องจากเรือนดาวByคุณยายกลิ่นโสม
