ปัญหาโหรา_การพิจารณาฯ

     ปัญหาโหรา_การพิจารณาความหมายฯ
            โดย.. อาจารย์ประทีป อัครา
      ปัญหาเรื่องการพิจารณาความหมายของภพที่มีดาวสถิตอยู่หลายดวงด้วยกันในพยากรณสารเดือนมิถุนายน ๒๕๑๒ นั้น ได้รับความกรุณาจากคุณ ทพ.กาญจนบุรี ให้ข้อคิดเห็นและวิธีการพิจารณามาดังนี้   
      ปัญหามีว่า ในกรณีที่มีดาวอยู่หลายดวงในภพ "กัมมะ" เช่น คู่มิตร คู่ธาตุ คู่สมพลและคู่ศัตรู ควรจะกรองความหมายอย่างไร
 
     ขอตอบว่า ควรใช้วิธีตรวจสอบคุณค่าของดาวเคราะห์แต่ละดวงว่า ส่งเสริมกันหรือตัดทอนกันอย่างไร โดยวิธีชั่งน้ำหนักดังต่อไปนี้
      วิธีที่ ๑.
     ๑. ตรวจสอบความสัมพันธ์ของดาวเคราะห์แต่ละดวง
   ๑.๑ ดวงอาทิตย์ได้พลังส่งเสริมจากดาวศุกร์ในฐานะเป็นคู่สมพล และเป็นดาวผู้วิชากับดาวพุธ ทั้งยังเป็นดาวเจ้าเรือนลัคนา (ตนุลัคน์) อีกด้วย จึงมีพลังสูงพอใช้ใด้ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ให้คุณ
   ๑.๒ ดาวจันทร์ได้พลังส่งเสริมจากดาวพุธในฐานะเป็นคู่มิตรใหญ่ มีพลังเหนือกว่าอาทิตย์ ศุกร์ ตามข้อ ๑.๑ แต่จะต้องตัดทอนลงในฐานะที่เป็นเจ้าเรือนวินาศน์ลัคนา
   ๑.๓ ดาวพุธ ได้พลังส่งสริมจากดาวนั้นดาวจันทร์ในฐานะคู่มิตรใหญ่ และได้เพิ่มพลังสูงขึ้นจากดาวศุกร์ในฐานะเป็นคู่ธาตุ และยิ่งกว่านั้นพุธยังเป็นเจ้าเรือนกฎมพะและลาภะด้วย จึงนับว่ามีพลังมากพอดู
   ๑.๔ คาวศุกร์ได้พลังส่งเสริมจากดาวพุธในฐานะเป็นคู่ธาตุ และยังได้เพิ่มพลังสูงขั้นอีก จากดาวอาทิตย์ซึ่งเป็นคู่สมพล กับได้เพิ่มกำลังโดยโยคหลังของดาวอังคาร ท้ังได้สถิตอยู่ในเรือนตนุเอง (เกษตร) อีกด้วย และโดยที่ศุกร์เบ็นเจ้าเร้อนสหัสชะและกัมมะ จึงเป็นการเพิ่มพลังขึ้นอีกโสดหนึ่ง จึงถือได้ว่า ดาวศุกร์มีพลังมากเบ็นอันดับ ๑. ในกลุ่มดาวทั้งหลายที่ร่วมในราศีเดียวกัน

           วิธีที่ ๒
      ๒. ตรวจดูคุณภาพของดาวเคราะห์จากดวงมาตรฐาน ปรากฎว่ามีดาวจันทร์ดวงเดียวที่ครองตำแหน่งเป็นมหาอุจจ์ แต่ดามกฎจะต้องมีองศาไม่เกิน ๑๕ องศา ส่วนดาวอื่นไม่มีตำแหน่งครองเลย ตามวิธีนี้จึงถือได้ว่า จันทร์มีพลังมาก
 
วิธีที่ ๓
๓. ตรวจดูธาตุของดาวเคราะห์กับราศีธาตุ
    ๓.๑ ดาวอาทิตย์ธาตุไฟ  สถิตราศีธาตุดิน เป็นอกุศลธาตุ ไม่ส่งผล
    ๓.๒ ดาวจันทร์ธาตุดิน  สถิตราศีที่ธาตุดิน เป็นกุศลธาตุ  ส่งผลให้เต็มที่
    ๓.๓ ดาวพุธธาตุน้ำ สถิตราศีธาตุดิน เป็นอกุศลธาตุ ไม่ส่งผล
    ๓.๔ ดาวศุกร์ธาตุน้ำ สถิตราศีธาตุดิน เป็นอกุศลธาตุ ไม่ส่งผล

วิธีที่ ๔
๔. ตรวจดูความสัมพันธ์ของดาวเคราะห์ทางองศา ๓ องศา ๘ ลิปดา ปรากฎว่าไม่มีดาวดวงใดมีความสัมพันธ์กันเลย

วิธีที่ ๕
๕. ตรวจดูคุณภาพของดาวเคราะห์ตามกฎขององค์เกณฑ์และอุดมเกณฑ์  ลัคนาสถิตราศีสิงห์เป็นปปัศวะราศีเกณฑ์ ๑๐. มีดาวอาทิตย์และจันทร์ได้ตำแหน่งเป็นองค์เกณฑ์ คุณภาพสูงให้คุณมาก แต่แม้ว่าจะได้ "อุดมเกณฑ์" ด้วยอีกก็ไม่ถือว่าเป็นอุดมเกณฑ์ เพราะไปซ้ำกับองค์เกณฑ์ดังกล่าวข้างต้นเสีย
     วิธีที่ ๖
๖. พิจารณาดวงดาวจากตำแหน่งของตนุเกษตร
     ๖.๑ ดาวอาทิตย์  เป็นอริ เสีย
     ๖.๒ ดาวจันทร์ เป็นปุตตะ ไม่ส่งเสริม
     ๖.๓ ดาวพุธ เป็นพันธุและบัตนิ ไม่ส่งผล
     ๖.๔ ดาวศุกร์ เป็นสหัชชะและมรณะ ไม่ส่งผล
 
     วิธีที่ ๗
๗. พิจารณาทางทักษาสัมพันธ์เป็นการตัดสินชี้ขาด
     ๗.๑ ดาวอาทิตย์ ได้ตำแหน่งเป็นศรี ดีมาก
     ๗.๒ ดาวจันทร์ ได้ดำแหน่งเป็นมูละ ดี
     ๗.๓ ดาวพุธ ได้ดำแหน่งเป็นมนตรี ดีมาก
     ๗.๔ ดาวศุกร์ ได้ตำเหน่งเป็นเดช  ดีมาก
ฉะนั้น จากผลการวิเคราะห์ทั้ง ๗ วิธี ขอจัดอันดับดาวที่มีพลังมากน้อยเรียงตามลำดับ ดังต่อไปนี้
 
ลำดับที่ ๑ ได้แก่ดาวศุกร์
ลำดับที่ ๒ ได้แก่ดาวอาทิตย์
ลำดับที่ ๓ ได้แก่ดาวพุธ
ลำดับที่ 4 ได้แก่ดาวจันทร์
อนึ่ง ยังเป็นที่สงสัยอยู่ประการหนึ่งว่า ที่จริงดาวอาทิตย์น่าจะมาอันดับที่ ๑ ถ้าจะถือตามหลักที่ว่า ดาวใดร่วมกับดาวอาทิตย์ย่อมมีสภาพตกเป็น อัสตางคะ หมดแสง ทั้งนี้ขอท่านผู้รู้โปรดให้อรรถาธิบายด้วย

ขอตอบตามประเด็นของปัญหาในดวงชาตานี้โดยย่อๆ ว่า เรือน "กัมมะ" มีดาวชั้นดีถึง ๓ ดวงคือ ศุกร์ อาทิตย์ พุธ ซึ่งมีตำแหน่งเป็นเดช ศรี และมนตรีตามลำดับ ต้องดีแน่ ๆ แต่ดีมากในด้านใดให้ถือตามความหมายของดาวเคราะห์ ได้จัดอันดับในข้อ ๗ นั้น
 


                เกิดวันพฤหัสบดิ พิจารณาภพ "กฎุมพะ"     
ปัญหาเดียวกันกับดวงที่๑ แต่เปลี่ยนเป็นภพ "กฎุมพะ" จึงขอพิจารณาตรวจสอบทำนองเดียวกันดังนี้

        วิธีที่ ๑
๑. ตรวจสอบความสัมพันธ์ของดาวเคราะห์แต่ละดวง
    ๑.๑ ดาวอาทิตย์ได้พลังส่งเสริมจากดาวพฤหัสบดีในฐานะเป็นคู่มิตรใหญ่ และได้พลังเพิ่มเติมขึ้นจากดาวเสาร์ในฐานะคู่ธาตุ สถิตในเรือนพฤหัสบดีคู่มิตรอีก กับยังได้เพิ่มพลังจากดาวเสาร์ในฐานะเป็นคู่อสีติธาตุ ถือได้ว่ามีพลังมหาศาลทีเดียว
    ๑.๒ ดาวพฤหัสบดีได้พลังส่งเสริมจากดาวอาทิตย์ในฐานะคู่มิตรใหญ่ สถิดในเรือนตนเองเป็นเกษตร มีพลังมาก
    ๑.๓ ดาวเสาร์ได้พลังส่งเสริมจากดาวอาทิตย์ในฐานะคู่ธาตุ และได้ตำแหน่งเป็นคู่อสีติธาตุอีกด้วย จึงถือได้ว่ามิพลังมากไม่แพ้ดาวพฤหัสบติ

        วิธีที่ ๒
๒. ตรวจดูคุณภาพของดาวเคราะห์จากดวงมาตรฐาน
ปรากฎว่า มีดาวพฤหัสบดีดวงเดียวเท่านั้นที่ครองตำแหน่งเป็นเกษตร จึงมีพลังเหนือกว่าดาวอื่นที่ร่วมกันอยู่

       วิธีที่ ๓
๓. ตรวจดูธาตุของดาวเคราะห์กับราศีธาตุ
    ๓.๑ ดาวอาทิตย์ ธาตุไฟ สถิตในราศีธาตุไฟ เป็นกุศลธาตุ ส่งผลให้
    ๓.๒ ดาวพฤหัสบดีธาตุดิน สถิตในราศีธาตุไฟ เป็นอกุศลธาตุ ไม่ส่งผล
    ๓.๓ ดาวเสาร์ ธาตุไฟ สถิตในราศีธาตุไฟ เป็นกุศลธาตุ ส่งผลให้

       วิธีที่ ๔
๔. ตรวจดูความสัมพันธ์ของดาวเคราะห์ทางองศาบังคับ ๓ องศา
ปรากฏว่า มิดาวอาทิตย์กับดาวเสาร์เท่านั้นที่มืองศาเอ็อมถึงกัน จึงมีพลังเหนือกว่าดาวอื่นที่ร่วมอยู่ในราศีเดียวกัน

       วิธีที่ ๕
๕. ตรวจดูคุณภาพของดาวเคราะห์ตามกฎขององค์เกณฑ์และอุดมเกณฑ์
ปรากฏว่า ไม่มีดาวดวงใดที่ได้องค์เกณฑ์และอุดมเกณฑ์แต่อย่างใด

       วิธีที่ ๖.
๖.พิจารณาดวงดาวจากตำแหน่งของตนุเกษตร
   ๖.๑ ดาวอาทิตย์  เป็นศุภะ   ดี
   ๖.๒ ดาวพฤหัสบดี เป็นตนุและพันธุ   ดี
   ๖.๓ ดาวเสาร์  เป็นกฎุมภะ    ดี

      วิธีที่ ๗.
๗. พิจารณาทางทักษาสัมพันธ์เป็นการตัดสินชี้ขาด
     ๗.๑  ดาวอาทิตย์ ได้ตำแหน่งศรี  ดีมาก
     ๗.๒ ดาวพฤหัสบดี ได้ตำแหน่งบริวาร ดี
     ๗.๓ ดาวเสาร์ ได้ตำแหน่งกาลกรรณี เสีย

ฉะนั้น จากผลการวิเคราะห์ทั้ง ๗ วิธี  ขอจัดอันดับดาวที่มีพลังมากน้อยเรียงตามลำดับ ดังต่อไปนี้      

ลำดับที่ ๑. ได้แก่ดาวอาทิดย์
ลำดับที่ ๒. ได้แก่ดาวพฤหัสบดี
ลำดับที่ ๓. ได้แก่ดาวเสาร์
อนึ่ง ยังมีข้อสงสัยอยู่บางประการ คือดาวพฤหัสบดีนำจะเป็นดาวเด่น แต่เป็นดาวเสียโดยเป็นพินทุบาทว์ จะเสียจริงหรือไม่ ขอท่านผู้รู้โปรดให้อรรถาธิบายด้วย
 
ขอตอบตามประเด็นของปัญหาสำหรับดวงนี้โดยย่อๆ ว่าเรือน"กฎมพะ" มีดาวอาทิดย์เป็นศรีได้คู่อสีติธาตุเสาร์ และมีดาวพฤหัสบดีเป็นเจ้าเรือนเกษตร ย่อมบ่งถึงความดีเด่นไม่น้อยเลย แต่จะเด่นในด้านใดให้ดูจากความหมายของดาวที่มีพลังมากที่สุด ตามที่ได้จัดอันดับไว้ตามข้อ ๗ นั้น
     ข้อความต่อไปนี้เป็นคำวิจารณ์ดวงที่  ซึ่งคุณประทีป อัครา เจ้าของคอลัมน์ทักท้วงว่า ดาวพุธได้ย้ายเข้าราศีธนูแล้ว ดังนั้นในเรือนกกุมพะจึงมีดาวพุธเพิ่มขึ้นอีก ๑ ดวง จึงขอตรวจสอบ ดาวเคราะห์ตามหลักเดิมดังนี้
           วิธีที่ ๑
       ๑. ตรวจสอบความสัมพันธ์ของดาวเคราะห์แต่ละดวง
           ๑.๑ ดาวอาทิตย์ได้พลังส่งเสริมจากดาวพฤหัสบดีในฐานะเป็นคู่มิตรใหญ่ และได้พลังเพิ่มขึ้นจากดาวเสาร์ในฐานะคู่ธาตุ สถิตในเรือนพฤหัสบดีคู่มิตร กับยังได้เพิ่มพลังจากดาวเสาร์ ซึ่งเป็นคู่อสีติธาตุตามราศีบังคับ และโดยที่ได้คู่สนับสนุนจากดาวพุธในฐานะเป็นผู้วิชาการ จึงถือได้ว่ามีพลังมากทีเดียว 
           ๑.๒ ดาวพุธได้พลังส่งเสริมจากดาวอาทิตย์ในฐานะเป็นผู้วิชาการ ส่งเสริมพลังทางสมอง 
           ๑.๓ ดาวพฤหัสบดีได้พลังส่งเสริมจากดาวอาทิตย์ในฐานะเป็นคู่มิตรใหญ่ สถิดในเรือนของตนเอง (เกษตร) ย่อมมีพลังมาก 
           ๑.๔ ดาวเสาร์ได้พลังส่งเสริมจากดาวอาทิดย์ในฐานะเป็นคู่ธาตุ สถิตในเรือนธาตุเป็นคู่อสีติธาตุตามราศีบังคับ จึงมีพลังมากไม่น้อยหน้าดาวพฤหัสบดี
 
           วิธีที่ ๒
      ๒. ตรวจดูคุณภาพของดาวเคราะห์จากดวงมาตรฐาน
ปรากฏว่า มีดาวพฤหัสบติเพียงดวงเดียวเท่านั้นที่ได้ดำแหน่งเป็นเกษตร มีพลังสูง และดาวพุธอ่อนกำลังมากเพราะเป็นประเกษตร ดาวอื่นไม่มีตำแหน่ง

           วิธีที่ ๓
      ๓. ตรวจดูธาตุของดาวเคราะห์กับราศีธาตุ
          ๓.๑ ดาวอาทิตย์ธาตุไฟ  สถิดในราศีธาตุไฟ เป็นกุศลธาตุ มีพลังมาก
          ๓.๒ ดาวพุธธาตุน้ำ  สถิตในราศีธาตุไฟ เป็นอกุศลธาตุ  ไม่มีพลัง
          ๓.๓ ดาวพฤหัสบดิธาตุดิน  สถิตในราศีธาตุไฟ เป็นอกุศลธาตุ  ไม่มีพลัง
          ๓.๔ ดาวเสาร์ ธาตุไฟ  สถิตในราศิธาตุไฟ เป็นกุศลธาตุ  มีพลังมาก

          วิธีที่ ๔
      ๔. ตรวจดูความสัมพันธ์ของดาวเคราะห์ทางองศาบังคับ ๓ องศา
ปรากฏว่า มีดาวอาทิตย์กับดาวเสาร์เท่านั้นที่มีองศาเอื้อมถึงกัน จึงมีพลังเหนือกว่าดาวอื่นในราศีนี้

         วิธีที่ ๕
     ๕.ตรวจดูคุณภาพของดาวเคราะห์ตามกฎขององค์เกณฑ์และอุดมเกณฑ์
ปรากฏว่า ไม่มีดาวดวงใดที่ได้องค์เกณฑ์และอุดมเกณฑ์เลย

        วิธีที่ ๖
     ๖. พิจารณาดวงดาวจากตำแหน่งของตนุเกษตร
          ๖.๑ ดาวอาทิดย์ เป็นศุภะ ดี
          ๖.๒ ดาวเสาร์ เป็นตนุเศษกุมอาทิตย์ พฤหัสบดิ พุธ  ดี
          ๖.๓ ดาวพฤหัสบดี เป็นตนุเกษตร อยู่ร่วมดาวอาทิตย์  ดี
          ๖.๔ ดาวเสาร์ เป็นกฎุมพะ ดี 
 
           วิธีที่ ๗
      ๗. พิจารณาทางทักษาสัมพันธ์เป็นการดัดสินธิ์ขาด
           ๗.๑ ดาวอาทิตย์ ได้ตำแหน่งเป็นศรี ดีมาก
           ๗.๒ ดาวพุธ ได้ตำแหน่งเป็นมนตรี  ดีมาก
           ๗.๓ ดาวพฤหัสบดี ได้ตำแหน่งเป็นบริวาร  ดี
           ๗.๔ ดาวเสาร์  ได้ตำแหน่งเป็นกาลกรรณี เสีย

      ฉะนั้น จากผลการวิเคราะห์ทั้ง ๘ วิธี ขอจัดอันตับดาวที่มีพลังมากและน้อยโดยเรียงตามลำดับ ดังต่อไปนี้
อันดับที่๑.  ได้แก่ดาวอาทิตย์
อันดับที่๒.  ได้แก่ดาวพฤหัสบดิ
อันดับที่๓.  ได้แก่ดาวพุธ
อันดับที่๔. ได้แก่ดาวเสาร์

       อนึ่ง ยังมีข้อสงสัยอยู่บางประการ คือดาวพฤหัสบดี น่าจะเด่นเพราะเป็นเจ้าเรือนเกษตร แต่ไปเป็นพินทุบาทว์จึงเสียไป จะเสียจริงหรือไม่ ขอท่านผู้รู้ได้โปรดให้อรรถาธิบายด้วย

       ขอตอบตามประเด็นบัญหาของดวงนี้โดยย่อๆ ว่า เรือนกุฎมพะมีดาวศรีและดาวมนตรีกุมตนุเศษต้องถือว่าเลิศแล้ว
และจะดียิ่งชิ้นเมื่อดาวอดีสีติธาตุก็รวมกลุ่มอยู่ในที่นั้นด้วย 
       สำหรับในข้อที่คุณประทีป อัคราให้ข้อสังเกตุว่า ดาวคู่ธาคุตัวหนึ่งเป็นศรี แค่ตัวหนึ่งเป็นกาลกรรณีนั้น  ผมขอชี้ขาดว่า เมื่อดาวเสาร์กาลกรรณีได้คู่อสีติธาตุกับดาวอาทิตย์ จะต้องคลี่คลายความร้ายลงและกลับเป็นดี ทำนองเดียวกับคาวคู่มิตรพบกัน ตัวหนึ่งดีแต่ตัวหนึ่งเสีย ไม่ปรากฏว่าให้โทษ ทั้งนี้จะถูกผิดประการใด ขอท่านผู้รู้โปรดให้อรรถาธิบายด้วย จะเป็นพระคุณยิ่ง
                                          โดย.. ท.พ. กาญจนบุรี

      ในข้อคิดเห็นของคุณ ท.พ. กาญจนบุรี ฝากปัญหาไว้ ๒ ข้อ คือ

       ๑. เรื่อง "ดาวพินทุบาทว์" ซึ่งเป็นปัญหาเดียวกับที่คุณ "กิ่งแก้ว" ได้ถามไว้ในพยากรณสารเดือนกรกฎาคม ๒๕๑๒
       ๒. เรื่อง "ดาวดับ" ซึ่งเรียกว่า "อัสตางคะ"
ปัญหาข้อ ๒ นี้ ได้เคยมีผู้ถามและผมเคยเป็นผู้ตอบในรายการอภิปรายบัญหาโหราศาสตร์ที่ห้องบรรยายของสมาคมโหรฯ ไปครั้งหนึ่ง แต่ไม่ได้เรียบเรียงมาลงไว้ในหนังสือพยากรณสาร จึงขอนำมากล่าวไว้ในโอกาสนี้ ดังต่อไปนี้
       ดาวที่โคจรเข้าร่วมกับอาทิตย์โดยเฉพาะเมื่อร่วมกันโดยมีองศาสนิทที่เรียกว่า "อัสตางคะ"นั้นมีที่กล่าวและใช้กันมากในตำราโหรภารตะ
       แต่ในทางโหราศสตร์ไทย เรามีหลักพิจารณาในเรื่องนี้แตกต่างออกไป ดังนี้.
       ๑. เราไม่ใต้ถือ "แสง" ของดาวเป็นสำคัญ เช่นเราไม่ถือดวงชะตาที่เกิดในเวลากลางคืนว่า พระอาทิตย์ไม่มีกำลัง เพราะเป็นเวลามืดไม่ได้รับแสงอาทิตย์
       ๒. เราถือ "กระแสอิทธิพลหรือพลังงาน" จากดวงดาวเป็นสำคัญ เช่นเดียวกับการรับกระแสคลื่นวิทยุหรือโทรทัศน์ แม้จะใช้อะไรบัง เช่นปิดประดูหน้าต่างหมดเราก็ยังรับคลื่นวิทยุ และโทรทัศน์ได้

      ดาวร่วมราศีกันหลายๆ ดวง เหมือนกับวิทยุหรือโทรทัศน์ส่งคลื่นออกอากาศพร้อมกันหลายๆ สถานี แต่เราจะรับคลื่นของแต่ละสถานีได้โดยไม่มีการรบกวนกันเพราะเป็นคลื่นคนละขนาด เช่นเดียวกับดาวแด่ละดวงมีกระแสอิทธิพลและพลังงานคนละอย่าง จึงทำงานกันไปคนละหน้าที่

     ๑. ถ้าถือว่าดวงใดมาร่วมกับอาทิดย์เป็น "ดาวดับ"  ไร้อิทธิพลและความหมายแล้ว อาทิตย์ก็จะไม่มีคู่มิตร ไม่มีคู่ศัตรู ไม่มีคู่ธาตุ -- คู่สมพล หรืออยู่ใด ๆ ทั้งสิ้น

     ถ้าดาวพระเคราะห์ทั้งหมดโคจรมาร่วมกับอาทิตย์ เช่นที่เคยปรากฎครั้งหนึ่งเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๕ มนุษย์ในวันนั้นก็คงจะมีแต่เกิยรติ์ (อาทิดย์) แต่เพี ยงอย่างเดียว ไม่มีความหวัง (จันทร์ดับ) ไม่มีความกล้าหาญ  ขยันขันแข็ง (อังคารดับ) ไม่มีไหวพริบสติบัญญา (พุธดับ) ไม่มีความรู้และศีลธรรม (พฤหัสดับ) ไม่มีความรักและความอภิรมย์ (ศุกร์ดับ) ไม่มีหลักฐาน (เสาร์ดับ)

     จากการพิสูจน์ดวงชะตาจริงๆ เป็นจำนวนมาก ได้พบว่าผู้มีชื่อเสียงเกียรติคุณและพระทรงสมศักดิ์สูงๆ หลายท่านในดวงชะดามีดาวพฤหัสร่วมกับพระอาทิตย์ นักกีฬาที่มีชื่อเสียง ตำรวจที่มีผลงานด้านการปราบปรามดีเด่น ในดวงชะตามีดาวอังคารร่วมกับพระอาทิตย์ เป็นต้น

    กล่าวมานี้กล่าวแต่เฉพาะหลักเกณฑ์ทางวิชาโหราศาสตร์ไทยเท่านั้น
ในการพิจารณาเรื่องดวงพินทุบาทว์, ดวงแตก, ดวงที่มีดาวกาลกรรณีเล็งลัคน์ ดวงที่มีดาวอุจจ์เล็งกัน-นิจเล็งกัน ผมขอนำดวงชะตาจริงที่เชื่อถือได้มาลงไว้ให้พิจารณากันโดยไม่บอก ว่าดวงไหนสูงส่งหรือต่ำต้อย เพราะถ้าบอกเสียก่อนก็ทำให้หมดสนุกกลายเป็นการตีใบ้หวย เมื่อหวยออกแล้วไป ทั้งนี้เพื่อให้ท่านได้มีโอกาสทดสอบหลักเกณฑ์พยากรณ์ไปในตัวว่าใช้ได้ดี พอที่จะยึดถือต่อไปหรือไม่ หรือควรจะต้องแก้ไขอย่างไรบ้าง คำไขจะนำมาลงให้ทราบในฉบับหน้าต่อไป. 


คอลัมภ์นี้ยินดีที่จะรับข้อคิดเห็นของทุกท่านอยู่เสมอ
                                       
                                 ประทีป  อัครา
      By_คุณยายกลิ่นโสม 100
         ---------------------
  สนใจดูดวงติดต่อ: baankunyai 102 100450
     
Visitors: 216,708