ปัญหาโหรา_การพิจารณาฯ

๓.๔ ดาวศุกร์ธาตุน้ำ สถิตราศีธาตุดิน เป็นอกุศลธาตุ ไม่ส่งผล
เกิดวันพฤหัสบดิ พิจารณาภพ "กฎุมพะ"
ปัญหาเดียวกันกับดวงที่๑ แต่เปลี่ยนเป็นภพ "กฎุมพะ" จึงขอพิจารณาตรวจสอบทำนองเดียวกันดังนี้
วิธีที่ ๑
๑. ตรวจสอบความสัมพันธ์ของดาวเคราะห์แต่ละดวง
๑.๑ ดาวอาทิตย์ได้พลังส่งเสริมจากดาวพฤหัสบดีในฐานะเป็นคู่มิตรใหญ่ และได้พลังเพิ่มเติมขึ้นจากดาวเสาร์ในฐานะคู่ธาตุ สถิตในเรือนพฤหัสบดีคู่มิตรอีก กับยังได้เพิ่มพลังจากดาวเสาร์ในฐานะเป็นคู่อสีติธาตุ ถือได้ว่ามีพลังมหาศาลทีเดียว
๑.๒ ดาวพฤหัสบดีได้พลังส่งเสริมจากดาวอาทิตย์ในฐานะคู่มิตรใหญ่ สถิดในเรือนตนเองเป็นเกษตร มีพลังมาก
๑.๓ ดาวเสาร์ได้พลังส่งเสริมจากดาวอาทิตย์ในฐานะคู่ธาตุ และได้ตำแหน่งเป็นคู่อสีติธาตุอีกด้วย จึงถือได้ว่ามิพลังมากไม่แพ้ดาวพฤหัสบติ
วิธีที่ ๒
๒. ตรวจดูคุณภาพของดาวเคราะห์จากดวงมาตรฐาน
ปรากฎว่า มีดาวพฤหัสบดีดวงเดียวเท่านั้นที่ครองตำแหน่งเป็นเกษตร จึงมีพลังเหนือกว่าดาวอื่นที่ร่วมกันอยู่
วิธีที่ ๓
๓. ตรวจดูธาตุของดาวเคราะห์กับราศีธาตุ
๓.๑ ดาวอาทิตย์ ธาตุไฟ สถิตในราศีธาตุไฟ เป็นกุศลธาตุ ส่งผลให้
๓.๒ ดาวพฤหัสบดีธาตุดิน สถิตในราศีธาตุไฟ เป็นอกุศลธาตุ ไม่ส่งผล
๓.๓ ดาวเสาร์ ธาตุไฟ สถิตในราศีธาตุไฟ เป็นกุศลธาตุ ส่งผลให้
วิธีที่ ๔
๔. ตรวจดูความสัมพันธ์ของดาวเคราะห์ทางองศาบังคับ ๓ องศา
ปรากฏว่า มิดาวอาทิตย์กับดาวเสาร์เท่านั้นที่มืองศาเอ็อมถึงกัน จึงมีพลังเหนือกว่าดาวอื่นที่ร่วมอยู่ในราศีเดียวกัน
วิธีที่ ๕
๕. ตรวจดูคุณภาพของดาวเคราะห์ตามกฎขององค์เกณฑ์และอุดมเกณฑ์
ปรากฏว่า ไม่มีดาวดวงใดที่ได้องค์เกณฑ์และอุดมเกณฑ์แต่อย่างใด
วิธีที่ ๖.
๖.พิจารณาดวงดาวจากตำแหน่งของตนุเกษตร
๖.๑ ดาวอาทิตย์ เป็นศุภะ ดี
๖.๒ ดาวพฤหัสบดี เป็นตนุและพันธุ ดี
๖.๓ ดาวเสาร์ เป็นกฎุมภะ ดี
วิธีที่ ๗.
๗. พิจารณาทางทักษาสัมพันธ์เป็นการตัดสินชี้ขาด
๗.๑ ดาวอาทิตย์ ได้ตำแหน่งศรี ดีมาก
๗.๒ ดาวพฤหัสบดี ได้ตำแหน่งบริวาร ดี
๗.๓ ดาวเสาร์ ได้ตำแหน่งกาลกรรณี เสีย
ฉะนั้น จากผลการวิเคราะห์ทั้ง ๗ วิธี ขอจัดอันดับดาวที่มีพลังมากน้อยเรียงตามลำดับ ดังต่อไปนี้
ปรากฏว่า มีดาวอาทิตย์กับดาวเสาร์เท่านั้นที่มีองศาเอื้อมถึงกัน จึงมีพลังเหนือกว่าดาวอื่นในราศีนี้
วิธีที่ ๕
ในข้อคิดเห็นของคุณ ท.พ. กาญจนบุรี ฝากปัญหาไว้ ๒ ข้อ คือ
๑. เรื่อง "ดาวพินทุบาทว์" ซึ่งเป็นปัญหาเดียวกับที่คุณ "กิ่งแก้ว" ได้ถามไว้ในพยากรณสารเดือนกรกฎาคม ๒๕๑๒
๒. เรื่อง "ดาวดับ" ซึ่งเรียกว่า "อัสตางคะ"
ปัญหาข้อ ๒ นี้ ได้เคยมีผู้ถามและผมเคยเป็นผู้ตอบในรายการอภิปรายบัญหาโหราศาสตร์ที่ห้องบรรยายของสมาคมโหรฯ ไปครั้งหนึ่ง แต่ไม่ได้เรียบเรียงมาลงไว้ในหนังสือพยากรณสาร จึงขอนำมากล่าวไว้ในโอกาสนี้ ดังต่อไปนี้
ดาวที่โคจรเข้าร่วมกับอาทิตย์โดยเฉพาะเมื่อร่วมกันโดยมีองศาสนิทที่เรียกว่า "อัสตางคะ"นั้นมีที่กล่าวและใช้กันมากในตำราโหรภารตะ
แต่ในทางโหราศสตร์ไทย เรามีหลักพิจารณาในเรื่องนี้แตกต่างออกไป ดังนี้.
๑. เราไม่ใต้ถือ "แสง" ของดาวเป็นสำคัญ เช่นเราไม่ถือดวงชะตาที่เกิดในเวลากลางคืนว่า พระอาทิตย์ไม่มีกำลัง เพราะเป็นเวลามืดไม่ได้รับแสงอาทิตย์
๒. เราถือ "กระแสอิทธิพลหรือพลังงาน" จากดวงดาวเป็นสำคัญ เช่นเดียวกับการรับกระแสคลื่นวิทยุหรือโทรทัศน์ แม้จะใช้อะไรบัง เช่นปิดประดูหน้าต่างหมดเราก็ยังรับคลื่นวิทยุ และโทรทัศน์ได้
ดาวร่วมราศีกันหลายๆ ดวง เหมือนกับวิทยุหรือโทรทัศน์ส่งคลื่นออกอากาศพร้อมกันหลายๆ สถานี แต่เราจะรับคลื่นของแต่ละสถานีได้โดยไม่มีการรบกวนกันเพราะเป็นคลื่นคนละขนาด เช่นเดียวกับดาวแด่ละดวงมีกระแสอิทธิพลและพลังงานคนละอย่าง จึงทำงานกันไปคนละหน้าที่
๑. ถ้าถือว่าดวงใดมาร่วมกับอาทิดย์เป็น "ดาวดับ" ไร้อิทธิพลและความหมายแล้ว อาทิตย์ก็จะไม่มีคู่มิตร ไม่มีคู่ศัตรู ไม่มีคู่ธาตุ -- คู่สมพล หรืออยู่ใด ๆ ทั้งสิ้น
ถ้าดาวพระเคราะห์ทั้งหมดโคจรมาร่วมกับอาทิตย์ เช่นที่เคยปรากฎครั้งหนึ่งเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๕ มนุษย์ในวันนั้นก็คงจะมีแต่เกิยรติ์ (อาทิดย์) แต่เพี ยงอย่างเดียว ไม่มีความหวัง (จันทร์ดับ) ไม่มีความกล้าหาญ ขยันขันแข็ง (อังคารดับ) ไม่มีไหวพริบสติบัญญา (พุธดับ) ไม่มีความรู้และศีลธรรม (พฤหัสดับ) ไม่มีความรักและความอภิรมย์ (ศุกร์ดับ) ไม่มีหลักฐาน (เสาร์ดับ)
จากการพิสูจน์ดวงชะตาจริงๆ เป็นจำนวนมาก ได้พบว่าผู้มีชื่อเสียงเกียรติคุณและพระทรงสมศักดิ์สูงๆ หลายท่านในดวงชะดามีดาวพฤหัสร่วมกับพระอาทิตย์ นักกีฬาที่มีชื่อเสียง ตำรวจที่มีผลงานด้านการปราบปรามดีเด่น ในดวงชะตามีดาวอังคารร่วมกับพระอาทิตย์ เป็นต้น
กล่าวมานี้กล่าวแต่เฉพาะหลักเกณฑ์ทางวิชาโหราศาสตร์ไทยเท่านั้น
ในการพิจารณาเรื่องดวงพินทุบาทว์, ดวงแตก, ดวงที่มีดาวกาลกรรณีเล็งลัคน์ ดวงที่มีดาวอุจจ์เล็งกัน-นิจเล็งกัน ผมขอนำดวงชะตาจริงที่เชื่อถือได้มาลงไว้ให้พิจารณากันโดยไม่บอก ว่าดวงไหนสูงส่งหรือต่ำต้อย เพราะถ้าบอกเสียก่อนก็ทำให้หมดสนุกกลายเป็นการตีใบ้หวย เมื่อหวยออกแล้วไป ทั้งนี้เพื่อให้ท่านได้มีโอกาสทดสอบหลักเกณฑ์พยากรณ์ไปในตัวว่าใช้ได้ดี พอที่จะยึดถือต่อไปหรือไม่ หรือควรจะต้องแก้ไขอย่างไรบ้าง คำไขจะนำมาลงให้ทราบในฉบับหน้าต่อไป.











