เมียน้อย

   ทัศนะเรื่อง   เมียน้อย

   เมื่อต้นปีพุทธศักราช ๒๕๐๔ เพื่อนเก่าคนหนึ่งได้มาเยี่ยมเยียนผมที่บ้านไม่ใช่มาส่งความสุขหรอกครับ เพราะ(ในขณะนั้น) ไม่มีความสุขเหลืออยู่พอที่จะให้ใครไม่แมม้กระทั่งตนเอง

   เมื่อได้ทักทายปราศัยกันตามธรรมเนียมแล้ว ก็ยื่นดวงซึ่งพกติดกระเป๋าเย็นประจำออกมาให้ผม
   "ช่วยอนุเคราะห์หน่อยเถิดเพื่อน อั๊วกำลังอึดอัดวุ่นวายเต็มที่" เขาขอร้อง
   "เอ้า ! ก็ลื้ออก็เรียนเหมือนกันนี่ ทำไมไม่ตรวจดูเองเล่า!" ผมขัดขึ้น
   ผงมันเข้าตาตัวเอง  เอาหน่อยเถอะน่ะพ่อคุณ อย่าเด่นตัวหน่อยเลย"

    เนื่องจากมีเวลาอันจำกัด และขัดไม่ได้ ผมจำต้องรับเอาดวงๆนั้นมา และทำการตรวจสอบเพียงว่าดวงดาวต่างๆ ที่วางไว้และทำการตรวจสอบเพียงว่าดวงดาวต่างๆ ที่วางไว้ไม่ผิดราศี และหาจุดสถิตที่แท้จริงของลัคนาเท่านั้นซึ่งปรากฎรูปดวงชะตาของเขา ดังนี้
 
ชัณษากำเนิด วันอังคาร ขึ้น ๑ ต่ำ เดือน ๘ ปีชวด ตรงกับ วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๔๖๗ เวถา ๐๖.๒๕ น. ( กรุงเทพฯ)

ลัคนาสถิตราเมถุน ๑๘ องศา ๔๕ ลิปดา เกาะฉัฎฐมนวางค์ ๕ (พฤหัส) ทุติยตรียางค์ ๖ (ศุกร์ ) เสวยอัทรนักษัตร์ฤกษ์ ประกอบด้วยเทวีฤกษ์


หลังจากสอบพื้นดวงชะตาทั่วๆ ไป พอให้เกิดความมั่นใจว่าดวงที่วางอยู่เบื้องหน้าขอผมนั้นไม่คลาดเคลื่อนแล้ว เพื่อรวบรัตตัดความไม่ให้เสียเวลาในฐานะที่เป็นเพื่อนสนิทผมจึงถามว่า

"อยากจะให้ตรวจเรื่องอะไร ?"

   "เรื่องเมีย" เขาว่า หลังจากที่อึ้ง อยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ชะโงกหน้าเข้ามาพูดว่า "เอายังนี้ดีกว่า เพื่อให้ลื้อตรวจดูให้มันตรงกับเรื่อง เวลานี้อั๊วมันกำลังกำลังไปเข้าตำราเมียสองต้องห้ามเข้าแล้วซึ่งจะต้องตัดสินใจทำอย่างใดอย่างหนึ่งลงไป แต่มันตัดสินใจไม่ถูก"
 
ตัดสินใจว่าจะเลือกเข้าข้างไหนและจะเลิกข้างไหนใช่ไหม ผมถาม
นั่นนะสิ เขาว่า 
"เรื่องนี้ลำบากแหะ เพราะเมื่อเริ่มเรียนหมอดู ครูก็บังคับให้ถือ ๓ ข้อ ว่า ทายสมพงษ์เมียผัวเรื่องชั่วดี ทายชีวีวิบัติตัดชันษา ทายคุณโทษทารกทาริกา เรียนโหราครูห้ามการทำนาย ดังนั้น ขอตัวทีจะทายให้เลิกกับใคร เรื่องนี้ขอให้ใช้ศีลธรรมเป็นเครื่องตัดสินใจเอาเอง เรามาดูกันในแง่ความโน้มเอียงของดวงชะตาดีกว่า 
ผมได้หันมาพิจารณาพื้นดวงชะตาของเขาอีกครั้งในแง่มุมที่แสดงถึง เมียหลวง และ เมียน้อย ว่าใครมีอิทธิพลกว่ากัน 

จากดวงชะตานั้น พฤหัส(๕) เป็นปัตนิ อันเป็นดาวเมียหลวง แม้จะสถิตอยู่ในต่ำแหน่ง"ครูพิจิก" เป็นมหาจักร์ แต่ก็เป็นภพทุสถานะที่แสดงถึงความแตกแยกขัดแย้งกันกับลัคนา เมื่อหันมาดูดาวพระศุกร์(๖) เจ้าเรือนภพที่๑๒ ที่เป็นดาวเมียน้อย แม่คนนี้ไม่ใช่เล่น แม้จะไม่มีตำแหน่งที่ได้รับยกย่องในราศีนี้ แต่ก็พรั่งพร้อมด้วยคู๋ธาตุสมพล แถมยังเกาะลัคน์แจ เสียอีก 

หันมาดูเจ้าเรือน "ดาวเมีย" ทั้งสองอีกที อังคารเจ้าเรือนพฤหัส  เมียหลวง ไปอยู่เรือนราหูร่วมมฤตยู ราหูไปอยู่ภพที่ ๓ จากลัคน์เรือนอาทิตย์ อาทิตย์ไปอยู่ร่วมลัคนา ส่วนเจ้าเรือน เมียน้อย เป็นเกษตรอยู่ในเรือนลัคน์นั่นเอง 

ผมย้อนกลับมาดูดาวจร (ต้นมกราคม ๒๕๑๔) ซึ่งเป็นระยะของเหตุการณ์ที่กำลังจะเป็นจุดเดือด ดาวพฤหัส เมียหลวง กำลังเล็งลัคน์ ร่วมดาวเสาร์ ดาวเจ้าทุกข์ เจ้าโทษองศาแก่เต็มที่ จะหลุดมิแหล่เข้าไปในราศีมังกร ซึ่งเป็นเรือนมรณะ ส่วนดาวพระศุกร์ เมียน้อยสิกำลังจะถึงเรือนมีน ซึ่งเป็นเรือนมหาอุจของตัว แถมก่อนจะถึงเรือนอุจ เมื่อผ่านราศีกุมภ์ก็ยังได้กำลังคู่มิตรอีกด้วย นอกจากนั้นดาวที่จะบันดาล ความเดือดร้อนแก่ดวงชะตาในรอบปี คือดาวกาลกิณี ก็กลับไปเป็นใจช่วยดาวพระศุกร์  เมียน้อย เพราะว่าดาวกาลกิณี จรซึ่งกำลังทับลัคน์ทับศุกร์นั้นก็คือดาวอังคารคู่มิตรของดาวศุกร์นั่นเอง
เมื่อสรุป เอาสิ่งละอันพันละน้อยดังกล่าวแล้ว ผมก็บอกกับเขาว่า 
"จะเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่งตามใจเห็นจไม่ได้ และจะต้องข้างใดข้างหนึ่งให้เด็ดขาดลงไปก็ไม่ได้ตามรูปของดวงดาว มันแสดงว่าสิ่งแวดล้อมจะบังคับให้ลื้อต้องไปอยู่กับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งให้เป็นเรื่องเป็นราว แต่ก็จะต้องแอบมาหา หรือให้ความอุปการะอีกฝ่ายหนึ่งแต่จะเห็นจะพร่ำเพรื่อนักไม่ได้ 
 
ฝ่ายที่จำเป็นจะต้องศิโรราบ เห็นจะเป็นแม่ดาวพระศุกร์ เพราะแง่มุมของดวงดาวในขณะนี้มันช่วยเหลือเกิน และฝ่ายที่จะต้องห่างไปคือแม่ดาวพฤหัส เพราะต่ำแหน่งดาวโคจรนั้นอ่อนแอแพ้เปรียบเขามาก แต่จะตัดกันไม่ขาดเพราะพื้นเดิม ดาวพฤหัสสถิตอยู่ในต่ำแหน่งที่เรียกว่า "หักบัวยังเหลือใย" แต่เยื่อใยอันนี้ก็ยังต้องแสดงอย่าง "ลับเฉพาะ" เอาโดยเพื่อนเป็นสะพานหรือเอาเพื่อนบังหน้า เพราะดาวเจ้าเรือนพฤหัส เมียหลวง คืออังคารไปสถิตในเรือนราหู ราหูไปสถิตอยู่เรือนเพื่อน (ภพที่ ๓) จึงต้องเอาเพื่อนเป็นสะพาน แถมราหูยังเป็นใจเป็นศรีจร มาอยู่ในภพนี้อีก เห็นทีจะเอาตัวรอดได้แน่ เพราะเพื่อนสมยอมเป็นพยานเท็จให้ว่า ไปกินเลี้ยงดึกไปหน่อย อยู่เวรไปตรวจงานต่างจังหวัดอะไรเทือกนี้ 
 
หลังจากนั้นไม่นานผมก็ได้ข่าวว่า เพื่อนของผมคนนั้นได้อพยพไปอยู่กับแม่ดาวพระศุกร์ เป็นการถาวร เขาเล่าให้ผมฟังว่า เห็นที่จะต้องย้ายไปอยู่โรงพยาบาลบ้านสมเด็จ หรืออย่างเบาะๆก็คงต้องไปเรียนปรึกษาคุณหมอประสพเป็นแน่ เพราะเป็นโรคเส้นประสาท ทั้งนี้ก็เพราะบางคืนกำลังหลับๆ ได้ยินเสียงตึงตังตกใจตื่นขึ้น เห็นแม่ดาวพระศุกร์ นั่งหัวโด่กระเดาะมีดเล่นทุกที เมื่อพบอย่างนี้จะนอนหลับต่อไปได้ยังไง ปะเหมาะเคราะห์ร้ายของที่หวงแหนหายไป ก็จบเห่กัน  ผมก็เห็นใจ
 
ผมคิดว่าคงจะมีหลายท่านสงสัยว่าผมเอาหลักอะไรมาใช้ดาวในภพที่ ๑๒ เป็น ดาวเมียน้อย เรื่องนี้อันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องอันที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องลี่ลับอะไร เพียงแต่เรารู้จักเล่นผสมเรือนบ่อยๆ จนเช้าใจดี และลองเอามาทดสอบกับดวงชะตาดู ในที่สุดก็จะจับหลักได้โดยไม่ยาก
 
อันสมบัติที่หวงแหนที่สุดในชีวิ่ตของผู้หญิงนั้นเห็นจะไม่มีอะไรยิ่งกว่า ผัว อันนี้แหละ ที่ทำให้เกิดเป็นคำพังเพย อมตะว่า "เสียทองเท่าหัวไม่ยอมเสียผัวให้ใคร" ข่าวหนังสือพิมพ์ปัจจุบันนี้เป็นเครื่องยืนยันได้ดี ก็มื่อผัวมีค่าถึงขนาดนี้ถ้าใครมจะเอาให้ได้มันก็ต้องเบ็นศัตรู ที่จะต้องประหัตประหารกันละ สรุปแล้วผู้ที่จะเป็นศัตรูกันในเรื่องผัวก็คือ เมียหลวงกับเมียน้อย นั่นเอง
   จากหนังสือกล่าวนี้เราจะเห็นได้ว่าในดวงชะตาเราคู่ครองตามวิถีทางที่ถูกต้องก็คือ เมียอันเป็นความหมายของภพที่ ๗ ซึ่งแน่ล่ะถ้าผู้ชาย ไม่ไปมีเมียอีก เมียที่อยู่ด้วยก็จะูถูกเรียกว่า เมียเฉยๆ  แต่ผู้ชายคนนั้นอุตริไปมีเมียเข้าอีก  เมียเดิมก็จะได้เลื่อยศเป็น เมียหลวง ก็แหละการที่จะคิดทำให้เมียหลวงกับเมียน้อย เป็นมิตรกันได้จริงๆ นั้น ผมว่ามันยากกว่าคิดทำ เดินทางไปโลกพระจันทร์ อีกเป็นไหนๆ

เมื่อเรารู้แล้วว่าภพปัตนิเป็น ภพเมียหลวง การที่จะหา ภพเมียน้อย ก็เป็นการไม่ยากเพราะเรารู้ต่อไปอีกว่าเมียน้อยเป็นศัตรูอันร้ายอันร้ายกาจ ของเมียหลวง ..... ฉะนั้นเมื่อจากภพปัตนินั่นเอง ที่เป็นภพเมียน้อย เพราะเป็นภพอริแก่ภพปัตนิก็นั่นแหละภพที่ ๖ อันเป็นภพอริของปัตนิ ของลัคนานั่นเอง 

อันเรียนโหราศาสตร์นั้นถเาเราจะหันมาเรียนกันแบบหาหลักหัดผสมตัว ผมรู้สึกว่า จะให้ความสนุกและมรีรสซาติ กว่าการที่จะไปก้มหน้าท่องจำเป็นอันมาก ข้อเขียนของผมเรื่องนี้ เป็นแนวทางอันหนึ่ง หวังว่าท่านผู้รู้คงจะไม่ตำหนิว่าผมเป็นคนนอกครูหรืออุตริ และหวังว่าจะเป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์ แก่เพื่อนนักศึกษาบ้างพอสมควร  ในอันที่รับไปทดสอบและพลิกแพลงใช้ในการพยากรณ์

#By_คุณยายกลิ่นโสม 100
        ---------------------
  สนใจดูดวงติดต่อ: baankunyai 102 100450
     
Visitors: 216,710