ลัคนาจร

    ลัคนาจร โดยอาจารย์ประทีป อัครา

   ในการอภิปรายปัญหาวิชาโหราศาสตร์และการพยากรณ์ เมื่อวันเสาร์ที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๑๑ ได้มีผู้ส่งคำถามมาว่า

   เรื่องการใช้ "ทักษาจร" นั้น ได้เคยมีผู้ถามมาแล้ว และได้เคยตอบกันมาแล้ว พอสรุปความได้ว่า การใช้ทักษาจรนั้นมีหลายวิธี ให้ลองไปทดสอบกันดูเอง แล้วเลือกใช้วิธีที่เห็นว่าถูกต้องที่สุด ฟังงดูแล้วเหมือนกับไม่ได้ตอบอะไรที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ฟังเลย

   จึงขอเรียนถามว่า ท่านอาจารย์ทั้งหลาย จะกรุณาแนะนำวิธีที่ท่านทดสอบได้ผลถูกต้องดีแล้วให้เป็นวิทยาทานบ้างจะได้หรือไม่ ?

   เผอิญในวันนั้นและขณะนั้น อาจารย์หลายท่านได้ถูกยึดตัวอยู่ในงานวันเกิดแห่งหนึ่งผมจึงทำหน้าที่ขัดตาทัพ โดยนำเอาหลักการใช้ ทักษาจร และ ลัคนาจร ของอาจารย์ผู้หนึ่งท่านใช่วิธีนี้ได้ผลดีมาเล่าสู่กันฟัง ในฐานะที่ผมเผอิญเป็นผู้มีโชคดีได้รับถ่ายทอดมา

   อนึ่งในการตอบวันนั้น  เป็นการตอบในช่วงเวลาอันจำกัด การอธิบายจึงต้องโดยรวบรัด แต่ปรากฏว่ามีผู้สนใจอยู่บ้างพอสมควร จึงได้สัญญาไว้ว่าจะนำมาอธิบายเพิ่มเดิมในหนังสือของสมาคมนี้

   ความยุ่งยากของ ทักษาจร แบบที่ใช้กันทั่วๆ ไป ส่วนใหญ่ก็อยู่ที่การนับภูมิอายุจร ตอนข้าภูมิกลางเป็นสำคัญ สิ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แส้ว

   แบบที่ผมนำมาเสนอต่อท่านนี้จะไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ แต่อาจะทำให้หลายท่านแปลกใจ เพราะไม่เคยมีการเผยแพร่มาก่อนพอจะกล่าวได้ว่าเป็นความรู้ที่ไม่มีในตำรา แต่มิใช่ความรู้นอกตำรา

   ทักษาจร แบบนี้มีหลักเกณฑ์พยากรณ์ละเอียดและข้อปลีกย่อยอยู่มาก จึงขอเลือกคัดบางตอนมาเฉพาะเท่าที่หน้ากระดาษจะอำนวยและที่ไม่ยุ่งยากเกินไป

  การใช้ทักษาจรแบบนี้ถือ สมผุสอาทิตย์กำเนิด เป็นหลักสำคัญ เมื่อพิจารณาจร จะต้องคำนวณหาเวลาที่อาทิตย์โคจรเข้าสู่ตำแหน่งอันเป็นสมผุสเติมทุกครั้งว่า เป็น เวลา อะไร และ วัน อะไร

   วัน ที่พระอาทิตย์โคจรเข้าสู่ตำแหน่งอันเป็นสมผุสเดิมนั้น ใช้เป็น ภูมิบริวารจร
 
   เวลา ที่พระอาทิตย์โคจรเข้าสู่ตำแหน่งอันเป็นสมผุสเดิม ใช้สำหรับคำนวณหาลัคนา ซึ่งถือเป็น ลัคนาจร
 
   พระอาทิตย์นั้นจะโคจรเข้าสู่ตำแหน่งเดิมทุกปี แต่วันและเวลาจะแตกต่างกันไม่คงที่ เป็นเหตุให้ ภูมิทักษาจร และ ลัคนาจร เปลี่ยนแปลงไปด้วย
 
   การพยากรณ์แบบนี้จะยุ่งยากก็ที่ต้องคำนวณสมผุสอาทิตย์กำเนิด และต้องหาเวลาที่อาทิตย์โคจรเจ้าสู่ดำแหน่งอันเป็นสมผุสเดิม ซึ่งทำให้เสียสมองเละเสียเวลาไม่น้อย แต่ถ้าใช้ "ล็อกหาเกณฑ์พระเคราะห์โคจร " ช่วยในการคำนวณ ปัญหาข้อนี้ก็เป็นอันหมดไป
 
   เพื่อไม่ให้เสียเวลาและหน้ากระดาษ จึงขอรวบรัดด้วยการแสดงวิธีหาสมผุสอาทิตย์กำเนิดของดวงชะตาให้ดูเลยทีเดิยว (ตำเหน่งดาวที่ใช้นี้ เป็นตำแหน่งดาวตามปฏิทินแบบสุริยยาตร์)


      ข้อมูลในการหาสมผุส
๑. เวลาเกิด ๐๖.๐๐ น.
๒.ในวันอาทิตย์โคจร ๐องศา ๕๖ ลิบดา

การหาสมผุสใช้วิธีบวก
๑.ดูล๊อก ช่อง๖ บรรทัด๖ ได้เกณฑ์   ๘๐๒ 
๒.  "        "        "    ๕๖     "     ๑๘๘๐
                                             ผลบวก  ๒๖๘๒
ดูล๊อก เลขเกณฑ์ ๒๖๘๒ อยู่ในช่อง ๐ (องศา)  บรรทัด ๑๔ (ลิปดา)
    หมายความว่า ตรงเวลาเกิด อาทิตย์ได้โคจรจากสมผุสตามปฏิทินในวันก่อนไปอีก ๑๔ ลิปดา เมื่อนำเอาจำนวนลิบดาที่อาทิตย์โคจรไปบวกเพิ่มขึ้น ก็จะได้สมผุสอาทิตย์กำเนิดราศรีมิถุน ๑๕ องศา ๔๒ ลิปดา
 
   เป็นอันเสร็จสิ้นเรื่องของดวงซาดากำเนิด ส่วนเรื่องการพยากรณ์แยกแยะพื้นดวงว่าเกณฑ์ชาตาเป็นอย่างไร ดีอย่างไร ร้ายอย่างไร อยู่นอกขอบเขตของ ทักษาจร และ ลัคนาจร จึงขอเว้นไม่กล่าวถึงในที่นี้
 
   การพิจารณาชาตาจรจะต้องเริ่มด้วยการหา เวลา อาทิตย์โคจรเข้าสู่ตำแหน่งเดิม เช่น จะพิจารณาชาตาจรในระหว่าง ก.ค. ๐๘ ถึง ก.ค. ๐๙  ก็ต้องหาเวลาที่อาทิตย์โคจรเข้าสู่ตำแหน่งเดิมในเดือน ก.ค. ๐๘ (ซึ่งอยู่ระหว่างวันที่ ๓๐ มิ.ย. กับ ๑ ก.ค.)
 
ข้อมูลในการหาเวลา
๑. จำนวนองศา-ลิบดาที่อาทิตย์จะต้องโคจรไปจึงสมผุสกำเนิด ๑ องศา ๒๙ ลิบดา เป็นตัวตั้ง
๒.ในวันนั้นอาทิตย์โคจร .๐องศา ๕๙ ลิบดา เป็นตัวลบ


การหาเวลาใช้วิธีลบ
๑.ดูล๊อก ช่อง๑ บรรทัด ๒๙ ได้เลขเกณฑ์   ตัวตั้ง ๒๒๖๑
๒.  "        "        "     ๕๗         "          ตัวลบ ๑๘๗๐
                                                                   ผลลบ   ๓๙๑
ดูล๊อก เลขเกณฑ์ ๓๘๑ อยู่ช่อง ๑๒ (นาฬิกา) บรรทัด ๑๒ (นาที)

   เป็นคำตอบว่า อาทิตย์จะโคจรเข้าราศีมิถุน ๑๕ องศา ๔๒ ลิบตา เท่ากับสมผุสกำเนิดในวันที่ ๑ ก.ค. ๐๔ เวลา ๑๒.๑๒ น. ซึ่งตรงกับวันพฤหัส

   เพราะฉะนั้นในรอบอายุนี้ ภูมิพฤหัสเป็น ภูมิบริวารจร
   เอาสมผุสอาทิตย์ดังกล่าวคำมวณหาลัคนาตรงเวลา ๑๒.๑๒ น จตกราศีกันย์ เพราะฉะนั้นในรอบอายุนี้ ราศีกันย์เป็นจุดลัคนาจร และพุธจรจะทำหน้ที่เป็นลัคนาจรไปตามภพต่างๆ ในดวงชาตา
หลักพยากรณ์
๑. ดูเกณฑ์ชาตาทั่วๆ ในรอบปี
ก. ดูเจ้าเรือนลัคนาจะที่สถิตในดวงเดิม สัมพันธ์กับความหมายทักษาจร
ข. ดูดาวจนรที่เป็นเจ้าเรือนลัคนาจรในวันที่อาทิตย์โคจรเข้าสู่ตำแหน่งเดิม สัมพันธ์กับทักษาจร

๒.ดูเกณฑ์ชาตาจรในรอบปี
ดูสถานะของดาวเจ้าเรือนลัคนาจร์ที่โคจรไปยังภพต่างๆ สัมพันธ์กับทักษาจรให้ถือความสัมพันธ์ของเจ้าเรือนลัคนาจรกับศรี แสดงผลในด้านดี กับ กาลกรรณี แสดงผลในด้านร้าย

ดวงชาตาที่ยกขึ้นเบิ๋นตัวอย่างนั้น ในวันที่อาทิตย์โคจรเข้าสู่จุดเดิม ปรากฎดาวต่างๆ โคจรอยู่ในตำแหน่งดังนี้

             (เลขที่อยู่วงนอกได้แก่ตำแหน่งดารจร)
        ๑.ดูเกณฑ์ชาตาทั่วๆ ไปในรอบบีตามหลักพยากรณ์ ดังนี้
     ก. ล้คนาจรตกราศีกันย์พุธเบ็นเจ้าเรือน  ดูพุธในดวงเดิมสถิตภพ กฎุมพะ เรื่อนมูละ ไม่สัมพันธ์กับทั้งศรีและกาลกรรณีจร

    ข.พุธจรอยู่ภพกฎุมพะเรือนมูละไม่สัมพันธ์ทั้งกับศรีและกาลกรรณีจร แต่อาทิตย์ศรีจรโคจรอยู่ในราศีมิถุนเรือนพุธ เท่ากับศรีจรให้ผลแก่พุธเจ้าเรือนลัดนาจร

    ความสัมพันธ์ของดวงดาวดังกล่าวพอจะสรุมได้ว่า เกณฑ์ชาตาทั่วๆ ไปในรอบปีนี้อยู่ในเกณฑ์  

     ในรอบอายุปีนี้ เจ้าชาตาถูกอัยการเป็นโจทย์พ้องในคดีอาญา และศาลได้พิพากษา ในวันที่ ๑๒ พ.ค.๐๙ ปรากฏดาวจรอยู่ในตำแหน่งต่าง ๆ ดังนี้

                                                  ๒. ดูเกณฑ์เจ้าชาตาจร ตามหลักพยากรณ์ดังนี้
       พุธเจ้าเรือนลัคนาจรโคจรอยู่ในภพลาภะร่วมกับอาทิตย์บศรีจร โดยมิได้สัมพันธ์กับเสาร์กาลกรรณีจรเลย

       คำพิพากษาของศาลต้นในวันนั้น ให้ยกพ้อง
       ตรวจดวงชาตาในระหว่างเดือน กค.๑๐ ถึง กค.๑๑ ต่อไป ต้องหาเวลาที่อาทิตย์โคจรเข้าสู่ตำแหน่งเดิมในเดือน ก.ค.๑๐ (ซึ่งอยู่ระหว่างวันที่ ๑ กับ วันที่ ๒)
      ข้อมูลในการหาเวลา
      ๑. อาทิตย์จะต้องโคจรอีก ๐ องศา ๓ ลิบดา เป็นตัวตั้ง
      ๒. ในวันนั้นอาทิตย์โคจร  ๐   "   ๕๗   "     เป็นตัวลบ
      การหาเวลาใช้วิธีลบ
      ๑. ดูล๊อก ช่อง ๐ บรรทัด    ๓ ได้เลขเกณฑ์ตัวตั้ง ๓๕๔๗
      ๒. ดูล๊อก ช่อง ๐ บรรทัด ๕๗ ได้เลขเกณฑ์ตัวลบ ๓๙๕๙
                                                             ตัวลบ ๓๖๗๙

   ดูล๊อก ได้เลขเกณฑ์ ๑๖๘๘  เป็นเกณฑ์ ที่ใก้ลเคียงที่สุดผลลบ อยู่ในช่อง ๓ (นาฬิกา) บรรทัด  ๓๗ (นาที)

   เป็นคำตอบว่า อาทิตย์จะโคจรเข้าราศีมิถุน ๑๕ องศา ๔๒ ลิบดา เท่ากับสมผุสกำเนิดในคืนวันที่ ๑ ก.ค. ๑๐ เวลา ๐๓.๓๘ น. ซึ่งตรงกับคืนวันเสาร์

   เพราะฉะนั้นในรอบอายุปีนี้ภูมิเสาร์เป็น ภูมิบริวารจร

   เอาสมผุสอาทิตย์ดังกล่าวคำนวณหาลัคนาตรงเวลา ๐๓.๓๘ น. จะตกราศึกรกฎ ในวันนั้นปรากฎดาวจรอยู่ในตำแหน่งต่างๆ ดังนี้

   ๑. ดูเกณฑ์ชาตาทั่วๆ ไปในรอบปีตามหลักพยากรณ์ ดังนี้
       ก. ลัคนาจรตกราศีมีน พฤหัสเป็นเจ้าเรือน ดูพฤหัสในดวงเดิม สถิตเรื่อนพุธกาลกรรณีจร

       ข. พฤหัสจรอยู่ในราศึกรกฎเรือนจันทร์อุตสาหะ ไม่สัมพันธ์ทั้งกับศรีและกาลกรรณี

    ความสัมพันธ์ของดวงดาวตังกล่าว พอจะสรุปได้ว่าเกณฑ์ชาตาทั่วๆไป ในรอบปีนี้ไม่สู้จะดีนัก เพราะเจ้าเรือนลัคนาจรสกับกาลกรรณ์โตยไม่ได้สัมพันร์กับศรีเลย

   คดีซึ่งเจ้าชะตาตกเป็นจำเลยในคดีอาญาและศาลต้นพิพากษาให้ยกฟ้องนั้นยัไม่สิ้นสุดเพราะอัยการอุทธรณ์ ต้องสู้ความกันจนถึงศาลฎีกา คดีสิ้นสุดลงเมื่อศาลฏีกาพิพากษาในวันที่ ๗ก.ย. ๓๐ ในขณะที่ดวงตาวต่าง ๆ โคจรอยู่ในตำแหน่งดังนี้

   ในวันนี้จันทร์โคจรเข้าราศีตุลย์ เวลา ๑๗.๑๒ น. และพฤหัสโคจรเข้าสู่ราศิสิงห์ ๑๙.๑๒ น.
        ๒. ดูเกณฑ์ชาตาตามหลักพยากรณ์ ดังนี้
   ในขณะที่ศาลฏีกาพิพากษา พฤหัสเจ้าเรือนลัคนาจรยังโคจรอยู่ในราศึกรกฎ ไม่สัมพันธ์ทั้งกับศรีและกาลี แต่พุธกาลกรรณีจร กำลังโคจรอยู่ในราศีกันย์ เล็งจุดลัคนาจรที่รามีน

      คำพิพากษาชี้ขาดของศาลฏีกาในวันนั้น ให้จำคุกจำเลยไว้ ๑๕ ปี
   อันการพยากรณ์ตรงชาตานั้น จะใช้หลักเกณฑ์อย่างหนึ่งอย่างใดเพียงอย่างเดียว จะให้เกิดผลสมบูรณ์นั้นย่อมไม่ได้ แต่ในที่นี้มุ่งในการกล่าวถึงการใช้ทักษาจรไม่ใช่เป็นการพยากรณ์หรือวิจารณ์ดวงชาดาจึงมิได้กล่าวถึงหลักเกณฑ์ประการอื่น ๆ

    อนึ่ง ใคร่เรียนไว้สำหรับเป็นข้อสังเกตสักนิดหนึ่งว่า ในการพิจารณาพยากรณ์ปัญหาใดๆ นั้น ไม่ควรเป็นอันขาดที่จะละเลยการหันไปพิจารณาพื้นฐานเดิมของดวงชาตาด้วย เช่น ถ้าพื้นฐานเดิมมีจุดเสียจุดเสื่อมในเรื่องการเงิน เกิดขึ้นก็ไม่สู้กระไรนัก

    ดวงตัวอย่างนี้ ตามที่ปรากฎในพื้นฐานดวงเดิม ดาวพระศุกร์กาลกรรณีโต้ตำแหน่งราชาโชค สถิตร่วมพุธเจ้าเรือนลัคนาเป็นคู่อติสีธาตุในภพกฏุมพะ แสดงถึงว่าจะอย่างไรก็ตาม เจ้าชาตาต้องบรรลุถึงการมี ฐานะการเงินทรัพย์สินเป็นปีกแผ่น ( ด้วยอำนาจของคู่อสีติซาตุในภพกฎุมพะ) และการมีเกียรติมีอำนาจโอ่อ่า (ด้วยอำนาจของดวงราชาโชค) แน่นอน  แต่เมื่อขึ้น ไม่ถึงจุคนั้นแล้วเมื่อใด หมายถึงว่าได้ย่างเข้าสู่จุดอันตรายแล้ว เพราะเหตุที่เจ้าเรือนกฎุมพะนั้น
สถิดอยู่ในเรือนกาลกรรณีเป็นพื้นฐานเดิมอยู่ ฉะนั้นเมื่อเกิดคดีเกี่ยวกับการงินขึ้นในร่วงที่ชีวิต ได้ผ่านความรุ่งเรื่องถึงจุดอิ่มตัวแล้ว จึงเท่ากับกระรบจุดอ่อนในดวงชาดาเข้านั่นเอง
 
   หลักการใช้ กักษาจร และ ลัคนาจร ที่ให้นำมาเสนอต่อท่านนี้แม้จะเป็นหลักวิชาส่วนน้อย แต่ก็เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์แก่ท่านบ้างตามสมควร.
 
ประทีป อัครา
๓๑/๒ ถนนบุญศิริ พระนคร
 
      By_คุณยายกลิ่นโสม 100
         ---------------------
  สนใจดูดวงติดต่อ: baankunyai 102 100450
      
Visitors: 216,750