ดวงสมผุส-ดวงอีแปะ และ การอ่านความหมายของดาวพระเคราะห์
ดวงสมผุส-ดวงอีแปะ
ในการศึกษาวิชาโหราศาสตร์ มีปัญหาประจำที่ไม่มีอันยุติได้อยุ่ข้อหนึ่ง คือปัญหาเรื่อง..
การคิดล็อกนี้ผมเชื่อว่ามีทางที่จะทำได้หลายวิธี ถ้าช่วยกันคิดค้นและทำขึ้นหลายๆแบบเชื่อว่าจะได้แบบที่ดีที่สุดไว้เป็นประโยชน์แก่วงการแน่ จึงขอฝากแนวคิดแก่ผู้ศึกษาค้นคว้าไว้อีกข้อหนึ่ง โดยเก็บล็อกหาสมผุสลัคนาโดยละเอียดของผมไว้ก่อน ยังไม่นำออกเผยแพร่ในตอนนี้
แสดงคุณลักษณะของจันทร์ในด้านของการหักหาญเสวยโจโรฤกษ์
จันทร์ ช่วงเชิง ต้องการสิ่งใดก็มุ่งจะเอาให้ได้สมใจตัว โดยไม่คำนึงถึงความควรไม่ควร
พระพฤหัส เสวยทฤทโธฤกษ์ แสดงคุรลักษณะในด้านการหวังผลแบบกล้าได้ ไม่กล้าเสียถนัดในการ ต่อรอง และขอร้อง
หลักเกณฑ์อื่นๆ ของคัมภีร์นี้เช่นกำหนดระยะเวลาที่ดาวแต่ละดวงจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตตามอายุ และวัยบันดาลให้เจ้าชะตาประสบภาวะเหตุการณ์ ตามคุณคุณลักษณะดีและร้าย จะนำมาเสนอท่านต่อไปในโอกาสข้างหน้าถ้ายังมีผู้สนใจอยู่
และ
การอ่านความหมายของดาวพระเคราะห์
โดย.. ประทีป อัครา
( บรรยายที่สมาคมโหรฯ เมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๑๕ )
( บรรยายที่สมาคมโหรฯ เมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๑๕ )
ในการศึกษาวิชาโหราศาสตร์ มีปัญหาประจำที่ไม่มีอันยุติได้อยุ่ข้อหนึ่ง คือปัญหาเรื่อง..
"การผูกดวงชะตาแบบดวงอีแปะกับดวงสมผุส "
ท่านที่เห็นการผูกดวงสมผุสดี ก็มีเหตุผลว่า การผูกดวงสมผุสดีกว่า เพราะทำให้รู้ตำแหน่งดวงดาวโดยแน่ชัด ทำให้กำหนดความหมายของดวงดาวได้โดยแน่นอน ไม่ว่าจะใช้สำหรับพิจารณาโดยหลักเกณฑ์ตำราใด เช่นพิจารณาทางมุมสัมพันธ์ระหว่างดวงดาว ทางนวางศ-ตรียางค์ ทางฤกษ์ หรือทางคำนวณดวงจรรวมถึงเมื่อจะกำหนดระยะเวลาของเหตุการณ์ก็สามารถคำนวณได้สะดวก
ท่านที่เห็นการผูกดวงอีแปะดี ก็มีเหตุผลว่า ดวงอีแปะดีกว่า เพราะดูได้แม่นยำโดยไม่ต้องเสียเวลา โหราจารย์และหมอดูที่ใช้ดวงอีแปะทายโดยไม่ต้องใช้สมผุส ได้ผล คนขึ้นและยกย่องนับถือก็มีเห็นเป็นประจักษ์พยานอยู่ทั่วไป
ปัญหานี้เป็นมรดกตกทอดถึงผู้ศึกษาวิชาโหราศาสตร์ต่อเนื่องกันมาหลายยุคหลายสมัยทำนองเดียวกับผู้ถือศาสนาที่ห้ามกินหมูก็ว่ากินหมูบาป ผู่ถือศาสนาที่ไม่ห้ามก็ว่ากินหมูอร่อยดี
การพูดถึงดวงสมผุสกับดวงอีแปะของข้าพเจ้าในวันนี้ จะไม่พูดในฐานะของตุลาการที่จะทำหน้าที่ชี้ขาดว่าการผูกดวงแบบนั้นแบบไหนดีกว่ากัน แต่จะพูดแบบนักค้นคว้าที่แสวงหาประโยชน์จากดวงทั้งสองแบบนั้นเพื่อนำมาใช้ในการพยากรณ์ให้ได้ผลเป็นสำคัญข้าพเจ้าสังเกตเห็นนักโหราศาสตร์ดูก่อนสอบเหตุการณ์ย้อนหลังดูก่อนไปเลื่อนไปเลื่อนมาเพื่อหาความถูกต้อง เมื่อเห็นว่าลัคนาอยู่จุดไหนถูกต้องกับประวัติเหตุการณ์ที่เคยประสบมา ก็วางลัคนาที่ตรงจุดนั้นแล้วคิดเทียบเป็นเวลา และถือเวลานั้นเป็นเวลาเกิดที่ถูกต้องของเจ้าชะตา เวลาที่สอบได้นี้จึงมีทั้งที่ตรงกับเวลาที่เจ้าชะตาบอก และมีทั้งเร็วกว่าหรือช้ากว่า มากบ้างน้อยบ้าง
การกำหนดเวลาตามผลการทายสอบย้อนหลัง ซึ่งผิดไปจากเวลาที่เจ้าชะตาบอกนี้ สำหรับผู้ที่ผู้ที่จำเวลาเกิดของตนได้ไม่แน่นอนมักจะไม่มีปัญหาอะไร แต่สำหรับผู้ที่ผู้ใหญ่บันทึกเวลาเกิดไว้เป็นหลักฐานแน่นอน และเป็นผู้ที่เชื่อมั่นในผู้ใหญ่ของตนแล้วมักจะทักท้วง และโต้แย้งคำชี้แจงของผู้คำนวณดวงที่ว่าผู้ใหญ่จดมานั้นไม่ถูกต้อง เพราะสอบดูแล้วไม่ถูกเลย เวลาที่ถูกต้องจะต้องเป็นเวลาที่สอบแล้วนี้ ผลสุดท้ายเมื่อผูกดวงเสร้จแล้วแทนจะมีการทายกันกลับกลายเป็นเถียงกันไป บางคราวก็ว่ากันอย่างครื้นครั่นบั่นเขาหลวงกันเลยทีเดียว
เวลาใหม่ที่แตกต่างไปกว่าเวลาเก่าที่เจ้าชะตาบอก จะโดยมากไปหรือน้อยไปก็ตามย่อมมีผลทำให้สมผุสของดวงดาวที่คำนวณไว้เดิมแตกต่างไปด้วย แต่เท่าที่สังเกตเห็นเป็นส่วนมากมักจะไม่ค่อยมีใครสนใจในเรื่องความคลาดเคลื่อนซึ่งอาจจะมีขึ้นได้นี้ เม่อสอบได้เป็นที่พอใจแล้วก็วางลัคนาลงในดวงตามนั้น และใช้สมผุสที่คำนวนไว้เดิมเลยทีเดียว ไม่คำนึงถึงว่าเวลาใหม่ตามจุดลัคนาที่สอบได้กับเวลาที่เจ้าชะตาบอกจะต่างกันมากน้อยเพียวไร ไม่สมกับกับเจตนาที่อุตส่าห์คำนวนสมผุสดาวทุกดวง เพื่อพิจารณากันอย่างละเอียด จึงขอฝากข้อสังเกตุนี้ไว้เพื่อผลของการศึกษาค้นคว้าอันถูกต้องสมบรูณ์ต่อไปด้วย
เมื่อตอนที่ได้รับเชิญจากคณะกรรมการสมาคมโหรฯ ให้รับหน้าที่นำหลักวิชาโหรศาสตร์ ที่น่าสนใจมาบรรยายให้บรรดาสมาชิกและผู้ที่ให้เกียรติมาร่วมชุมนุมในวันนี้ฟัง ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดเรื่องที่กำลังจะพูดต่อไปนี้เลย แต่ที่ตัดสินใจนำเรื่องนี้มาพูดสืบเนื่องมาจากการที่ท่านนายพันโท ประยูร พลอารีย์ อาจารย์ผู้สอนวิชาโหราศาสตร์ยูเรเนี่ยนเกิดความสนใจในวิธีการคำนวณสมผุสดาวของผม ว่าเป็นวิธีที่ง่ายและทำได้สะดวกรวดเร็วมาก จึงขอร้องให้มาแสดงและแนะผู้ศึกษาในชั้นของท่าน ซึ่งผมก็ไม่ขีดข้อง และพฤษภาคมได้มาแสดงให้ดูเมื่อวันอาทิตย์ที่๗ พฤษภาคม ๒๕๑๕ หลักจากที่ได้แสดงวิธีการคำนวณให้ดูเป็นที่เข้าใจดีแล้ว ก็ได้อธิบายวิธีอ่านความหมายของดาวพระเคราะห์ที่คำนวณสมผุสไว้ละเอียดจนทราบนวางศ์และฤกษ์ ให้ดูเป็นการแถามท้าย เป็นผลให้สมาชิกและนักศึกษาหลายท่านสมใจ ขอร้องให้อธิบายวิธีการอ่านดาวพระเคราะห์เพิ่มเติมให้อีกเพื่อให้เข้าใจดียิ่งขึ้น และเพื่อนำไปใช้พยากรณ์กันบ้าง ผมจึงถือโอกาสนำเอามาเป็นหัวข้อบรรยายในวันนี้เสียเลย เพราะคิดว่าเรื่องนี้จะเป็นประโยชน์แก่ท่านที่สละเวลามาฟังบ้างพอสมควร
ผมจะขอใช้ดวงวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕/ค ที่แสดงการคำนวณให้ดูเมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๑๕ นั้นมาเป็นตัวอย่างประกอบการอธิบายวิธีอ่านความหมายของดวงดาวในวันนี้ ทั้งนี้เพื่อประหยัดเวลาที่จะต้องคำนวณดวงขึ้นใหม่อีกดวงหนึ่ง

ผมจะขอใช้ดวงวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕/ค ที่แสดงการคำนวณให้ดูเมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๑๕ นั้นมาเป็นตัวอย่างประกอบการอธิบายวิธีอ่านความหมายของดวงดาวในวันนี้ ทั้งนี้เพื่อประหยัดเวลาที่จะต้องคำนวณดวงขึ้นใหม่อีกดวงหนึ่ง

ดวงวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๑๕ ซึ่งคำนวณสมผุส ณ.เวลา๑๙.๔๕ น. เมื่อคำนวณเสร็จและนำไปเขียนลงในบัตรดวงชะตาเรียบร้อยแล้ว จะปรากฎดังภาพ
เลขไทยที่อยู่ในดวงชั้นใน เป็นตำแหน่งดาวในราศีจักร
เลขฝรั่งที่อยู่ในดวงชั้นนอก เป็นตำแหน่งดาวในนวางศ์จักร์
องศา-ลิปดา และฤกษ์ของดาวแต่ละดวง บอกไว้ทางด้านขวาของดวง
เลขฝรั่งที่อยู่ในดวงชั้นนอก เป็นตำแหน่งดาวในนวางศ์จักร์
องศา-ลิปดา และฤกษ์ของดาวแต่ละดวง บอกไว้ทางด้านขวาของดวง
ตำแหน่งลัคนาคำนวณตามแบบสุริยยาตร์ จะสถิตราศีตุลย์ ๐ํ ๕๔ ่ เกาะปฐมนวางศ์ ศุกร์ เสวยเทศาตรีย์ฤกษ์
อนึ่งใคร่ขอเรียนว่า ลัคนาที่จะวางในดวงสมผุส ซึ่งจะต้องทราบองศา-ลิปดานั้น จำเป็นที่จะต้องใช้วิธีคำนวณเอา จะใช้เครื่องมือหาลัคนา สำเร็จไม่ได้ เพราะเครื่องมือหาลัคนาสำเร็จไม่อยู่ในชั้นที่จะบอกสมผุสของลัคนาละเอียดถึงองศา-ลิปดาได้
การหาสมผุสลัคนาด้วยวิธีคำนวณเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาค่อนข้างมาก และเสี่ยงต่อการคำนวณพลาดอยู่ไม่น้อย การแก้ปัญหาข้อนี้จึงมีอยู่วิธีเดียวคือการคิดล็อกขึ้นใช้ เพราะเป็นการเสียเวลาเพียงหนเดียว แต่มีผลให้ประหยัดเวลาได้ตลอดไป ทั้งยังประกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดจากการบวก-ลบ-คูณ-หาร และการทดเลขได้มากด้วย ผมเองก็กลัวในเรื่องความผดพลาดนี้อยู่ไม่น้อย จึงยอมเสียเวลาคิดทำล็อกขึ้นไว้ใช้ ลัคนาที่คำนวณสำหรับดวงตัวอย่างนี้ก็เป็นผลจากล็อกเช่นเดียวกัน
การคิดล็อกนี้ผมเชื่อว่ามีทางที่จะทำได้หลายวิธี ถ้าช่วยกันคิดค้นและทำขึ้นหลายๆแบบเชื่อว่าจะได้แบบที่ดีที่สุดไว้เป็นประโยชน์แก่วงการแน่ จึงขอฝากแนวคิดแก่ผู้ศึกษาค้นคว้าไว้อีกข้อหนึ่ง โดยเก็บล็อกหาสมผุสลัคนาโดยละเอียดของผมไว้ก่อน ยังไม่นำออกเผยแพร่ในตอนนี้
ในปัจจุบัน แม้จะมีคนที่ไม่ยอมรับโดยเปิดเผยว่าเชื่อถือเรื่องดวงหรือวิชาโหราศาสตร์อยู่บ้างก็ตาม แต่เป็นที่ประจักษ์กันดีว่า ทั้งพ่อค้าและข้าราชการตลิดจนคุณหญิงคุณนายทั้งหลายมีดวงพกติดตัวกันเป็นประจำเป็นส่วนมาก สำหรับเอาไว้ดูกันเองบ้าง และเอาไว้ให้ผู้รู้หรือหมอดดูให้บ้าง
ในกรณีที่จะขอให้ผู้อื่นช่วยดุให้ ถ้าดวงที่มีติดตัวนั้นเป็นดวงแบบราศีจักร ก็มักจะมีปัญหาถูกเกี่ยงงอนอยู่เสมอว่า ดวงไม่มีสมผุสดูไม่ได้บ้าง ไม่มีดวงนวางศ์ดูไม่ได้บ้าง ไม่มีฤกษ์ดูแล้ว ตัดสินใจยกบ้าง ทำให้ผิดหวังที่อุตส่าห์ออกปากขอร้องกันบ่อยๆ
จึงเสนอแนะไว้ในที่นี้ว่าถ้าจะมีดวงชะตาอันเปรียบเทียบเสมือนแผนที่ชีวิตติดตัวทั้งที น่าจะมีดวงแบบมีรายละเอียดครบถ้วนอย่างน้อยก็แบบตัวอย่างนี้ เพราะนักพยากรณ์ทุกระบบสามารถใช้พยากรณ์ได้ ไม่ว่าจะเป็นนักพยากรณ์ระบบไทยและดวงอีแปะหรือดวงสมผุส นักพยากรณ์ระบบภารตะหรือนักพยากรณ์ระบบสากลทั้งแบบธรรมดาและแบบยูเรเนี่ยน
การอ่านความหมายของดวงดาว
การอ่านความหมายของดวงดาวในดวงชะตาเป็นที่ทราบกันดีว่ามีหลักเกณฑ์อยู่มากมายหลายวิธี สำหรับการอ่านความหมายของดวงดาวที่จะนำกล่าวในที่นี้ จะใช้คัมภีร์ดาวเจ้าฤกษ์เป็นหลักหลักและใช้ตำแหน่งดาวในดวงนวางศ์ประกอบ
การอ่านความหมายของดวงดาว
การอ่านความหมายของดวงดาวในดวงชะตาเป็นที่ทราบกันดีว่ามีหลักเกณฑ์อยู่มากมายหลายวิธี สำหรับการอ่านความหมายของดวงดาวที่จะนำกล่าวในที่นี้ จะใช้คัมภีร์ดาวเจ้าฤกษ์เป็นหลักหลักและใช้ตำแหน่งดาวในดวงนวางศ์ประกอบ
การอ่านความหมายของดวงดาวแต่ละดวงเท่าที่ผมได้รับคำแนะนำสั่งสอนจากครูบาอาจารย์มา ท่านให้แยกออกเป็น ๒ ตอน คือ อ่านความหมายตามคุณลักษณะของดาวนั้นเสียก่อนตอนหนึ่ง แล้วจึงนำมาอ่านประกอบกับภพอีกตอนหนึ่ง
การอ่านความหมายของดาวที่กล่าวต่อไปนี้ จะอ่านตามหลักตอนแรกเท่านั้น เพื่อให้พอเหมาะที่เวลาสมาคมฯ กำหนดให้
และใคร่ที่จะขอไม่นำเอาเรื่องฤกษ์อะไรดาวอะไรเป็นเจ้าฤกษ์ ดาวอะไรเป็นเจ้าบาทฤกษ์มากล่วซ้ำให้เป็นการเสียเวลาอีก เพราอาจจะทำให้ไม่มีเวลาเหลือสำหรับกล่าวถึงวิธีการอ่านความหมายของดวงดาว ถ้าท่านสนใจในเรื่องฤกษ์อะไรดาวอะไรเป็นเจ้าฤกษ์จะค้นดูจาก หนังสือพยากรณสารฉบับประจำเดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๑๒ ที่มีอยู่ในห้องสมุดของสมาคมฯได้ เพราะผมได้นำบันทึกที่เคยบรรยายลงไว้โดยละเอียด สำหรับท่านที่มี Slide Rule สำหรับหาลัคนาของผมใช้อยู่ ก็ไม่ต้องเสียเวลา ไปค้นหาดูที่ไหนอีก เพราะได้บรรจุทั้งดาวเจ้าฤกษ์ และดาวเจ้าบาทฤกษ์ไว้ในนั้นโดยครบถ้วนแล้ว
วิธีอ่านคุณลักษณของดวงดาว มีลำดับชั้นการอ่าน ดังนี้
วิธีอ่านคุณลักษณของดวงดาว มีลำดับชั้นการอ่าน ดังนี้
๑.ใช้หมวดฤกษ์ ของดาวนั้นเป็นความหมายโดยทั้วๆไป
๒.ใช้หลัก "พระเคราะห์คู่" อ่านความสัมพันธ์ของดาวฤกษ์ กับดาวเจ้าบาทฤกษ์ เป็นความหมาย ขยายความของหมวดฤกษ์
๓.ใช้ตำแหน่งดาวในดวงนาวางศ์เป็นเครื่องแสดงฐานะของดาวนั้น
๒.ใช้หลัก "พระเคราะห์คู่" อ่านความสัมพันธ์ของดาวฤกษ์ กับดาวเจ้าบาทฤกษ์ เป็นความหมาย ขยายความของหมวดฤกษ์
๓.ใช้ตำแหน่งดาวในดวงนาวางศ์เป็นเครื่องแสดงฐานะของดาวนั้น
ดังจะแสดงคุณลักษณะดาว ตามหลักดังกล่างให้เห็นเป็นตัวอย่าง ดังต่อไปนี้
คุณลักษณะดาวอาทิตย์
อาทิตย์ เสวยราชาฤกษ์ แสดงคุณลักษณะของพระอทิตย์ ในด้านความโอ่อ่า การเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญชั้นเจ้านาย
ฤกษ์นี้ มีพระศุกร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ และมีพระอาทิตย์เป็นดาวเจ้าบาทฤกษ์ ดาวทั้งสองเป็นคู่สมพลกัน แสดงถึงการทรงพลัง และมีอำนาจอิทธิพล
ในดวงนวางศ์ พระอาทิตย์สถิตในราศีที่เป็นเรือนเกษตรของตนเอง แสดงถึงความเข้้มแข็ง และมั่งคั่งสมบรูณ์
อาทิตย์ เสวยราชาฤกษ์ แสดงคุณลักษณะของพระอทิตย์ ในด้านความโอ่อ่า การเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับบุคคลสำคัญชั้นเจ้านาย
ฤกษ์นี้ มีพระศุกร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ และมีพระอาทิตย์เป็นดาวเจ้าบาทฤกษ์ ดาวทั้งสองเป็นคู่สมพลกัน แสดงถึงการทรงพลัง และมีอำนาจอิทธิพล
ในดวงนวางศ์ พระอาทิตย์สถิตในราศีที่เป็นเรือนเกษตรของตนเอง แสดงถึงความเข้้มแข็ง และมั่งคั่งสมบรูณ์
เมื่อเอาคุณลักษณะของพระอาทิตย์ในดวงชะตาตามหลักทั้ง ๓ ประการ มาสัมพันธ์กันจะได้ความหมายว่า
"อาทิตย์ทรงคุณสมบัติอันสูงส่ง มีพลังอำนาจและอิทธิพล พร้อมทั้งมีความเข้มแข้งและมังคั่งสมบรูณ์อย่างดียิ่งด้วย"
ขอย้ำแทรกไว้เป็นการเตือนเพื่อกันลืมไว้ในทีนี่อีกสักนิดว่า ความหมายดังกล่าว เป็นลักษณะของพระอาทิตย์ในดวงชะตา ไม่ใช่คุณลักษณะของเจ้าชะตา
-ถ้าอาทิตย์ให้คุณเจ้าชะตาก็จะประสบความหมายดังกล่าวตามความหมายของภพในช่วงอายุและวัยที่พระอาทิตย์เข้ามามีบทบาทในดวงชะตา
-ถ้าอาทิตย์ให้โทษ ความหมายของพระอาทิตย์ดังกล่าวก็จะมีแก่ฝ่ายศัตรู หรือมิฉะนั้นเจ้าชะตาจะประสบความเดือดร้อนวิบัติอันเนื่องมาจากความหมายนั้น
เช่น บุคคลชั้นสูงหรือชั้นเจ้านายที่เพียบพร้อมด้วยอิทธิพลและทรัพย์ เบียดเบียน ทำความเดือดร้อนและความวิบัติให้ หรือเพราะความมักใหญ่ใฝ่สูง เล็งผลเลิศของเจ้าชะตาเพราะความอยากเด่นอยากดัง อยากมีหน้ามีตา มีอิทธิพล หรืออยากร่ำรวย เป็นเหตุให้ประสบความเดือดร้อนและวิบัติ
แสดงคุณลักษณะของจันทร์ในด้านของการหักหาญเสวยโจโรฤกษ์
จันทร์ ช่วงเชิง ต้องการสิ่งใดก็มุ่งจะเอาให้ได้สมใจตัว โดยไม่คำนึงถึงความควรไม่ควร
ฤกษ์นี้ มีพระอาทิตย์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ และพระเสาร์เป็นดาวเจ้าบาทฤกษ์ดาวทั้งสอง เป็นคู่ธาตุกัน แสดงถึงความมั่งคง เป็นปึกแผ่นถาวร
ในดวงนวางศ์ พระจันทร์สถิตในราศีที่เป็นประ แสดงถึงความไม่สมบรูณ์ ไม่มั่นคง อ่อนแอ ขาดแคลน
เมื่อเอาคุณลักษณะของพระจันทร์ตามหลักทั้ง ๓ ประการมาสัมพันธ์กัน ก็จะได้ความหมายว่า "พระจันทร์มีคุณลักษณะที่จะเอาอะไรมักจะหักหาญเอาให้ได้ดังใจ ละสามารถที่จะสร้างความเป็นปึกแผ่นมั่นคงขึ้นได้ โดยที่ตัวไม่ใคร่จะได้ใช้สิ่งที่ต่อสู้สร้างสรรค์ขึ้นนั้น" (ร่ำรวยเสียเปล่าแต่มีชีวิตอยู่อย่างอดๆ อยากๆ ด้วยความตระหนี่ถี่เหนียว)
อังคาร เสวยโจโรฤกษ์ แสดงถึงคุณลักษณะในด้านหักหาญชิงชัย มุ่งแต่ จะเอาให้ได้ตามใจ และ ตามอารมณ์ของตน
ฤกษ์นี้ พระอาทิตย์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ และพรเสาร์เป็นดาวเจ้าบาทฤกษ์ ดาวทั้งสองเป็นคุ่ธาตุกัน แสดงถึงความเป็นปึกแผ่นมั่นคง
ในดวงนวาศ์ พระอังคารสถิตตำแหน่งเป็นมหาอุจน์ แสดงถึงความเข้มแข้ง และมีอิทธิพล เมื่อเอาคุณลักษณะของพระอังคาร ตามหลักทั้ง๓ ประการ สัมพันธ์กัน จะได้ความหมายว่า
" พระอังคารมีคุณลักษณะหักหาญ จะเอาอะไรต้องเอาให้ได้โดยมุ่งสร้างสมความเป็นปึกแผ่นให้ แก่ตนด้วยการใช้อำนาจอิทธิพลเพื่อให้ได้สมปราถนา "
" พระอังคารมีคุณลักษณะหักหาญ จะเอาอะไรต้องเอาให้ได้โดยมุ่งสร้างสมความเป็นปึกแผ่นให้ แก่ตนด้วยการใช้อำนาจอิทธิพลเพื่อให้ได้สมปราถนา "
พระพุธ เสวยสมโณฤกษ์ แสดงถึงความเป็นผู้ฝักใฝ่ในความสุขสงบ
ฤกษ์นี้ พระเสาาร์เป็นดาวฤกษ์และเป็นดาวเจ้าฤกษ์ แสดงถึงการชอบอยู่ตาม ลำพังตนหลีกเลี่ยง จากความวุ่นวายและแก่งแย่งแข่งดีทั้งหลาย
ในดวงนวาศ์ สถิตในราศีที่ไม่มีตำแหน่ง แสดงถึงความเป็นไปอย่างพื้นๆเรียบๆ
เมื่อเอาคุณลักษณะของพระพุธทั้งสามประการามสัมพันธ์กันแล้ว จะได้ ความหมายว่า
"พระพุธมีคุณลักษณธในการเป็นผู้ฝักใฝ่ในความสงบ ชอบอยู่ตามลำพัง หลีกเลี่ยงการแก่งแย่งแข่งดี โดยมีชีวิตอยู่อย่างพื้นๆ เรียบๆ"
พระพฤหัส เสวยทฤทโธฤกษ์ แสดงคุรลักษณะในด้านการหวังผลแบบกล้าได้ ไม่กล้าเสียถนัดในการ ต่อรอง และขอร้อง
ฤกษ์นี้ พระเสาร์เป็นดาวฤกษ์ พระจันทร์เป็นดาวเจ้าบาทฤกษ์ ดาวทั้งสองเป็นคู่ศัตรูกัน แสดงถึงลักษณะแห่งความขัดแย้งแตกแยก
ในดวงนวางศ์ พฤหัสสถิตในตำแหน่งเป็นมหาอุจจ์ แสดงถึงความมีอิทธิพล และอำนาจเมื่อนำเอาคุณลักษณะของพฤหัส ทั้งสามประการ มาสัมพันธ์กัน จะได้ความหมายว่า
" พฤหัสมีคุณลักษณะมุ่งแสวงประโยชน์ในทางเบียดเบียนเอาเปรียบ จนเป็นเหตุแห่งความขัดแย้งแตกแยก เพราะชอบใช้วิธีที่เป็นพระเดชมากกว่าพระคุณ "
พระศุกร์ อยู่ในตำแหน่งประ เสวยมหัทธโนฤกษ์ แสดงคุณลักษณะแบบผ้าขี้ ห่อทอง คือ มองสภาพภายนอกจะเห็นเป็นแบบพื้นๆ ธรรมดาแต่เนื้อแท้นั้นสดใสสวยงาม สมบรูณ์ดี
พระศุกร์ อยู่ในตำแหน่งประ เสวยมหัทธโนฤกษ์ แสดงคุณลักษณะแบบผ้าขี้ ห่อทอง คือ มองสภาพภายนอกจะเห็นเป็นแบบพื้นๆ ธรรมดาแต่เนื้อแท้นั้นสดใสสวยงาม สมบรูณ์ดี
ฤกษ์นี้ พระศุกร์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ และเป็นดาวเจ้าบาทฤกษ์ด้วย แสดงถึง ความเป็นตัวของตัวเอง
ในดวงนวางศ์ พระศุกร์สถิตในราศีตุลย์อันเป็นเรือนเกษตรของตนเอง แสดงถึงความเข้มแข็ง และมังคั่งสมบรูณ์ เมื่อนำเอา คุณลักษณะพระศุกร์ตามหลักทั้งสามประการมาสัมพันธ์กัน ก็จะได้ความหมายว่า
" พระศุกร์มีคุณลักษณะแห่งความสงบเสงี่ยมไม่ค่อยโอ่อวด แต่ถึงพร้อมด้วยความมั่งคั่งสมบรูณ์ และมีอิสระในการจะคิดจะทำอะไรได้ตามลำพัง ทั้งยังมีความเข้มแข็และมั่นคงเป็นอย่างดีด้วย "
พระเสาร์ ได้ตำแหน่งมหาจักร เสวยโจโรฤกษ์ แสดงคุณลักษณะที่ชอบ หักหาญ ชิงชัย โดยไม่กริ่งเกรงอะไร
ฤกษ์นี้ พระอาทิตย์เป็นดาวเจ้าฤกษ์ และพฤหัสเป็นดาวเจ้าบาทฤกษ์ ดาวทั้งสองเป็นคุ่มิตรกัน แสดงถึงการสังคมที่ดี มีพรรคพวกเพื่อนฝูงมาก
ในดวงนวางศ์ พระเสาร์สถิตในราศีมีนโดยไม่มีตำแหน่ง แสดงถึงลักษณะความเป็นไป อย่างพื้นๆ และไม่มีผลดีเด่น
เมื่อเอาคุณลักษณะพระเสาร์ตามหลักทั้งสามประการมาสัมพันธ์ จะได้ความหมายว่า
" พระเสาร์มีลักษณะมีคล่องแคล่วผาดโผน เมื่อต้องการสิ่งใดก็จะเอาให้ได้ดังใจ โดยมีพรรคพวกเพื่อนฝูงให้ความสนับสนุนส่งเสริม แต่ไม่ปรากฎผลดีเด่นเป็นหลักฐาน "
(โดยทั่วๆไป เป็นไปลักษณะของการเสียสละเพื่อสาธารณะ สังคม หรือการกุศล)
(โดยทั่วๆไป เป็นไปลักษณะของการเสียสละเพื่อสาธารณะ สังคม หรือการกุศล)
พระราหู สถิตในตำแหน่งเป็นมหาจักร์ เสวยโจโรฤกษ์ เช่นเดียวกับพระเสาร์จึงมี คุณลักษณะ นัยเดียวกับพระเสาร์
ฤกษ์นี้ พฤหัสเป็นดาวฤกษ์ และเป็นดาวเจ้าบาทฤกษ์ด้วย แสดงถึงการชอบคิดชอบทำตามลำพังไม่ต้องอาศัยเพื่อนฝูงเหมือนพระเสาร์
ในดวงนวางศ์ พระราหูสถิตในราศีมีนไม่มีตำแหน่ง แสดงถึงความเป็นไปอย่างพื้นๆ โดยไม่ปรากฎ ผลดีเด่นเป็นหลักฐาน
เมื่อนำเอาคุณลักษณะพระราหูตามหลักทั้งสามประการมาสัมพันธ์กัน จะได้ความหมายว่า
"พระราหูมีลักษณะคล่องแคล่วผาดโผน เมื่อต้องการอะไรมักจะมุ่งเอาให้ได้ดังใจ แต่ชอบคิดและชอบคิดและทำตามลำพังตนเอง แต่ไม่ปรากฎผลดีเด่นเป็นหลักฐาน"
ดังที่ได้เรียนทราบแล้วตั้งแต่ต้นว่า วิธีอ่านความหมายของดาวที่นำมากล่าวนี้ กล่าวเฉพาะคุณลักษณะของดาว โดยอาศัยคัมภีร์ ดาวเจ้าฤกษ์เป็นหลักเท่านั้น ฉะนั้นความหมายที่ได้จึงเป็นเพียงส่วนหนึ่งอันเป็นน้อย เมื่อต้องการความหมายที่ละเอียดกว้างขวางไปกว่านี้ก็ต้องอาศัยหลักเกณพือย่างอื่นๆ มาประกอบเป็นการเพิ่มเติมด้วย
อย่างไรก็ตาม วิธีการอ่านความหมายฤกษ์ของดวงดาวตามหลักคัมภีร์ดาวเจ้าฤกษ์ ซึ่งอาศัยดาวเจ้าฤกษ์และดาวเจ้าบาทฤกษ์เป็นหลักสำคัญที่นำมาเสนอต่อท่านในวันนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์แก่ท่านที่กรุณาสละเวลามาฟับ้างพอสมควร
หลักเกณฑ์อื่นๆ ของคัมภีร์นี้เช่นกำหนดระยะเวลาที่ดาวแต่ละดวงจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตตามอายุ และวัยบันดาลให้เจ้าชะตาประสบภาวะเหตุการณ์ ตามคุณคุณลักษณะดีและร้าย จะนำมาเสนอท่านต่อไปในโอกาสข้างหน้าถ้ายังมีผู้สนใจอยู่
สำหรับวันนี้ ผมขอจบการบรรยายเพียงเท่านี้ขอให้ทุกท่านจงมีความสุขสวัสดีโดยทั่วกัน
คุณยายกลิ่นโสม 

---------------------
สนใจดูดวงติดต่อ: baankunyai





