ฝึกอ่านดวงฯ

   
     คำแนะนำเรื่องการเรียนโหราศาสตร์ไทย สไตล์คุณยายกลิ่นโสม นะจ๊ะ  
 
มีน้องๆใหม่ อยากเรียนดวง เข้ามาถามว่าหนูอยากเรียนดวงได้ไหมคะ 
ตอบได้เลยทันทีว่า เรียนดวงได้สิจ๊ะ  
มีหมอดูหลายๆคนบอกว่าหนูไม่มีดวง ยายต้องดูดวงหนูก่อนไหม ว่าหนูจะเรียนได้ไหม  
ยายจึงถามกลับไปว่า หนูรักเรียนดวงไหมลูก ถ้าหนูตอบว่า ใช่ค่ะหนูรักจะดูดวงเรียนดวง ล่ะก้อ หนูๆสามารถเรียนดวงไ้ด้เลยค่ะ เพราะว่าหนุรักที่จะเรียน แล้วเมื่อไหร่ที่หนูเรียนไปแล้วติดๆ หนูก็จะพักเรียนไปพักหนึ่ง แล้วไม่นานก็กลับมาเรียนใหม่ ค้นคว้าใหม่ แลัวเมื่อถึงเวลานั้นเรื่องเรียนติดๆอยู่ ก็อาจจะคลายไป ถูกแก้หายไปได้ แล้วหนูก็เรียนต่อไปได้อีก 
 
แล้วไม่จำเป็นว่าต้องมีดวงมาแต่เดิมหรือคะ 
ยายบอกแบบนี้นะลูก  ถ้าหนูไม่มีดวงมา ก็แสดงว่า บุพกรรมเก่า  สัญญาเก่า แค่ไม่เคยเรียนโหราศาสตร์มาก็เท่านั้น แต่เราสามารถมาเริ่มเรียนกันใหม่ได้ค่ะ ในเมื่อของเก่าไม่มีมา นั่นก็หมายความว่าเราต้องมีความพยายามมากและมีความอุสาตหะมากกว่าคนที่เค้ามาีของเดิมของเค้ามา  แสดงว่าเราจะต้องเหนื่อยกันหน่อยก็เท่านั้น 
 
แล้วไม่มีดวงจะเรียนนี่ ถ้าเรียนๆไปแล้วจะอ่านดวงได้ไหมคะ 
ขึ้นกับความเพียรของน้องๆ หนูๆ นะ ว่ามีความเพียรเท่าไหน เพราะทุกครั้งที่ยายทำอะไรแล้ว ไม่มีดวงติดมาด้วย 
ยายจะนึกถึงประโยคนี้ค่ะ 
 
" ดวงดาว ฤา จะกำหนดความเป็นไปของมนุษย์นั้นได้ 
สิ่งที่กำหนดความเป็นไปนั้นได้ นั่นคือความเพียร นั้นเล่า " 
 
แล้วยายก็เริ่มกำหนด วางแผนว่าจะทำอย่างไรถึงจะสำเร็จ  ยายมักเอาไปใช้กับทุกๆเรื่องนะ
รวมถึงการเรียนโหราศาสตร์ไทยด้วยเหมือนกันค่ะ ฉะนั้นคนเราทุกคน สามารถทำทุกสิ่งให้ถึงซึ่งความสำร็จได้ โดยการเชื่อในตนเองก่อนว่า คุณทำได้ แล้วคุณจะทำ และเชื่อว่าทำได้สำเร็จ คุณจะทำได้สำเร็จ และเชื่อว่าตนเองทำออกมาสำเร้จด้วย คุณก็จะทำออกมาสำเร้จได้ด้วยดี 

ฉะนั้นคุณเชื่อทำได้ และเชื่อว่าทำได้ สำเร็จ และได้ดี  ทั้งๆที่ไม่มีดวงติดมาด้วยนะจ๊ะ 
 
ส่วนโหราศาสตร์มีกฎเกณฑ์มากมายที่ต้องจำเยอะเหลือเกินค่ะยาย 
กฎเกณฑ์ต่างๆ นานๆไปก็ต้องใช้นะ ฉะนั้นเมื่อเราก็จะค่อยๆเรียนไป ค่อยๆรู้ไปทีละนิดนานไปก็จะจำได้ 
หนูเริ่มเรียนดวงใหม่ๆ ยายว่า อย่าเพิ่ง..รีบจดจำกฎต่างๆเลยนะ  
 
หนูเริ่มเรียนใหม่ๆ ให้หนูเริ่มเรียนโดยพยายามทำความเข้าใจและจำ พื้นฐานก่อนก็พอ นั่นก็คือ 
ความหมายดาว 
ความหมายภพ/เรือน 
ธาตุของดาว 
และ ธาตุของราศี ก่อน 
และหลังจากนั้น หนูค่อยๆเพิ่มขึ้นทีละนิด ทีละนิด หนูก็จะจำได้โดยไม่หนักเกินไป และจะทำให้ไม่ท้อในการเรียนโหราศาสตร์ด้วย
 
ความหมายดาว  ทั้ง ๑๐ ดวง เริ่มตั้งแต่ความหมายอาทิตย์(๑) จันทร์(๒) อังคาร(๓) พุธ(๔) พฤหัส(๕) ศุกร์(๖) เสาร์(๗) ราหู(๘) เกตุ(๙) มฤตยู(๐) ดาวทั้ง ๑๐ ดวงนี้ 
แล้วความหมายภพเรือน  ๑๒ เรือน และ
ธาตุ มี ๔ ธาตุ ซึ่งจะมีธาตุในดาว และธาตุในราศี 
ซึ่งมีความจำเป็นว่าต้องจำ เพราะเรียกว่าแทบจะทุกสายวิชาโหราศาสตร์ จำเป็นต้องรู้ 
 
เมื่อเรารู้แล้ว พอทำความเข้าใจได้บ้าง ก็เริ่มเราจะอ่านดวงกัน
 
หลังจากนั้น อ่านทำความเข้าใจความหมายดาวแล้ว ก็ให้ทำความเข้าใจว่าธาตุของดาวเป็นธาตุอะไร ธาตุในโหราศาสตร์ไทย มี ๔ ธาตุ นั่นก็คือ ไฟ ดิน ลม และน้ำ  เราต้องทำความเข้าใจว่าดาวแต่ละดวง ว่าเป็นธาตุอะไร เพื่อทำให้เราเข้าใจดาว เพื่อจะอ่านดวงได้ละเอียดมากขึ้น  
 
ทีนี้หากเราจะเริ่มอ่านดวงล่ะ ถ้าอ่านในสไตล์ของยายทุกครั้ง ยายจะเริ่มที่...
ลำดับแรกการอ่าน ต้องอ่านที่..
 
          เริ่มที่ .. เรื่องที่จะต้องอ่าน เริ่มต้นที่อ่านเรือนนั้น เช่นต้องรู้ตัวตนเจ้าชะตาก็เริ่มต้น อ่านที่ลัคนา 
       1.อ่าน .. ลัคนา 
             ลัคนาราศีอะไร เป็นราศีธาตุอะไร  อ่านจบก็อ่านต่อ
             ลัคนาราศี เป็นต้นธาตุ เป็นกลางธาตุ เป็นปลายธาตุ ก็ว่าไป  อ่านจบแล้ว ก็อ่านต่อด้วย
 
2.อ่าน  .. ดาวเกษตรเรือนใน ของลัคนา 
              อ่านความหมาย ดาวเกษตร  อ่านก็ต่อด้วย
              อ่านธาตุของดาวเกษตรนั้น
 
3.อ่านตามจังหวะ ว่าดาวนั้นไปที่ไหน อย่างครั้งนี้เราอ่านลัคนา เราก็อ่านตามดาวตนุลัคน์ไป
             เราก็เริ่มอ่านเหมือนเดิม คือ อ่านราศีที่ตนุลัคน์ไปสถิตย์อยู่
             อ่านราศีว่าเป็นธาตุอะไร ก็อ่านธาตุ  อ่านธาตุจบ ก็อ่านต่อด้วย..
             ราศีนั้น เป็นต้นธาตุ กลางธาตุ หรือปลายธาตุ 
             เราอ่านแบบนี้ทั้ง 3 จังหวะ  เมื่อครบแล้ว 
 
4.อ่าน ..  ให้อ่านลัคนาของโลก/เกษตรลัคนา  
             อ่านซ้อนลงไป ซ้อนทั้ง 3 จัวหวะนะ  เราก็จะทราบเรื่องรายละเอียดของดวงชะตาดวงนั้นๆ
 
5.อ่าน .. ถ้าหากมีดาวลอย ก็อ่านดาวลอย ในลัคนา โดยเริ่มไล่เรือนในหลักการเดียวกับข้างต้นนะจ้ะ

ส่วนหากต้องการอ่านเรื่องของความคิด  ความรู้สึกก็อ่านที่ดาวจิตใจ นั่นคือตนุเศษของเจ้าชะตา และใช้หลักการอ่านแบบเดียวกันตามข้างต้นที่เขียนไว้อ่านไล่เรือนไป เราก็ทราบเรื่องราวว่าเจ้าชะตา คิดคำนึง และจะตัดสินใจ ว่าจะทำอะไรยังไงในช่วงเวลานั้นๆ
 
บทแทรก.. การอ่านความรู้สึก นึกคิด ทางด้านจิตใจ นอกจากการใช้ตนุเศษในการรอ่านเรื่องของจิตใจแล้ว ความคิด ความชอบ  เราสามารถใช้ ภพ/เรือน ปัตนิ วินาศ ในการอ่านจิตใจได้เช่นกัน

เมื่อเราอ่านดวงพื้นๆดวงได้แล้ว เราค่อยๆเติมกฎเกกณฑ์ลงไป เช่น ตำแหน่งดาวอุจน์ นิจน์ เกษตร ประ มหาจักร์ ราชาโชค  คู่สมพล คู่มิตร คู่ธาตุ และอื่นๆอีกมากมาย ฯลฯ ลงไป ซึ่งก็จะทำให้อ่านดวงได้ละเอียด และละเอียดมากขึ้น นั่นเอง

เมื่อเราอ่านพื้นดวงชะตา และความคิดของเจ้าชะตา เรียบร้อยแล้ว จึงค่อยๆมาอ่านเติม ช่วงอายุของวัยนั้นๆ ลัคนาและเหตุการณ์ปีนั้นๆต่อไป

จุดเหตุการณ์ ของดวงชะตา(ก็คือชันษา ชะตาจร ในหนังสือของอาจารย์อรุญ ลำเพ็ญมีนะคะ ก็หาอ่านเอานะ)ของดวงเดิม
จุดเหตุการณ์ของดวงวัยจร(คล้ายๆกับการดูผัง9 ของดวงจีนนั้นเอง) 
และของดวงปี  ซึ่งเป็นดวงปีนั้นๆ 
แล้วจึงค่อยมาดู ดาวความคิด ดาวจิตใจ(ตนุเศษ)ของเจ้าชะตา ของปีนั้นๆ ตามลำดับไป
แล้วจึงอ่านดาวจรของปีนั้นตัดเรื่องอีกครั้งหนึ่ง เพื่อสรุปเรื่อง สรุปเหตุการณืปีนั้นๆได้ 
 
ขอให้คนที่เริ่มเรียน แค่ไม่ท้อไม่ถอย แต่ตั้งใจมั่นว่า เราทำได้ แน่นนอนว่า ทุกๆคนที่เรียนก็จะเรียนได้สำเร็จนั่นเอง

หมายเหตุ :
: การอ่านดวงนี้เป็นการอ่านดวงไทยสไตล์คุณยายกลิ่นโสม ไม่สามารถใช้เป็นแบบเรียนโหราศาสตร์ไทยได้
: การอ่านดวงนี้เป็นการอ่านเพียงพื้นดวง มิได้อ่านดวงในวัยจร ชันษา-ชะตาจร(เหตุการณ์เกิดปีนั้นๆ)
  และดาวจร นะ
: ยายเขียนมาตามความเข้าใจของยายเท่านั้น ใครอ่านเข้าใจจะนำไปใช้ได้เลยนะ   
   ส่วนใครอ่านแล้วไม่ถูกใจ ไม่ชอบใจ เลย เลย ผ่านไปได้เลยนะจ๊ะ 
 
   By คุณยายกลิ่นโสม:: 141
#อ่านดวงไทยสบายสบาย ตามสไตล์คุณยายกลิ่นโสม
#เรียนโหราศาสร์ไทยฟรีด้วยตนเองได้ที่เวปบ้านคุณยายกลิ่นโสม 102 100450
:: 
https://www.baankhunyai.com
   --------------------
Visitors: 201,380