จันทร์สัมพันธ์ฤกษ์

                    

                จันทร์สัมพันธ์ฤกษ์  โดย ส.แสงตะวัน 

                       (ต่อจากฉบับเดือนเมษายน ๒๕๒๐)

การให้ฤกษ์ยามประกอบพิธีต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่หลายประเทศที่ยังนิยมใช้กันอยู่ โหรผู้ชำนาญการให้ฤกษ์ยามย่อมจะยึดถือเอาดาวจันทร์เป็นหลักในการพิจารณา เมื่อใคร่ครวญ จนเห็นแน่แก่ใจแล้วจึงค่อยพิจารณาดาวอื่นต่อไป เพราะถ้าหากเกิตผิดพลาดเพราะดาวจันทร์ขึ้นแล้ว อาจจะบังเกิดผลเสียหายแก่ผู้มาขอฤกษ์ได้

การให้ฤกษ์แก่ผู้มาขอแต่ละครั้งคราวนั้น โหรผู้ให้ฤกษ์จะต้องสอบถามเสียก่อนว่าผู้มาขอนั้นเกี่ยวข้องด้วยเรื่องอะไร หรือกระทำกิจการอะไร เมื่อได้ทราบเรื่องราวเป็นอันดีแล้ว โหรจึงจะลงมือตรวจจังหวะระยะว่าเดือนไหนวันไหนควรจะถือเอาเป็นวันมหามงคล แล้วเคราะห์ดาวจันทร์อันเป็นตัวจักรสุดทัายว่า  สมควรจะวางดาวจันทร์ไว้ ในราศีไหน หรือควบคู่กับดาวอะไร ถ้าหากเกิดการขัดแย้งกันกับดาวอื่น ก็ควรจะเปลี่ยนไปหาจังหวะระยะใหม่ต่อไป ตัวอย่างเช่นฤกษ์พิธีวิวาหะมงคลเป็นตัน

ฤกษ์วันวิวาหมงคล เราควรจะพิจารณาดาวจันทร์ดังนี้คือ จงอย่าวางดาวจันทร์ ไว้หน้าดาวอาทิตย์จร อย่าวางดาวจันทรไว้หน้าตาวพระสาร์และราหูจร (ราหูเดินถอยหลัง)เป็นต้น เพราะถ้าหากวางดาวจันทร์ไว้หน้าดาวดังที่กล่าวมาแล้ว มักจะทำให้ชีวิตการครองเรือนไม่จะเบ็นปกติสุขนัก อีกประการหนึ่งไม่ควรวางดาวจันพรอยู่คู่กับดาวอังคารจรหรือทำมุมเล็งกัน ท่านว่ามักจะเกิดหึงหวงกันบ่อย ๆ

การวางดาวจันทร์ในลักษณะที่กล่าวมาแล้วนี้ ท่านว่าถึงแม้จะให้ฤกษ์ปลูกบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ก็ไม่สมควรจะให้ ท่านบรมครูโหรโบราณทำนกล่าวว่าใครปลูกบ้านเรือน โดยมีดาวจันทร์อยู่ ในลักษณะดังกล่าว มักจะอยู่ได้ไม่นานจะต้องโยกย้ายไป หรือหรือมีเรื่องเดือดร้อนอยู่เนือง ๆ

แต่ถ้าการออกเงินกู้หรือเปิดการธนาคาร ควรวางดาวจันทร์เคียงคู่กับราหู หรือเล็งราหู ท่านว่าดีเป็นศุภมงคล ถ้าทำซ่อมรถหรือขายเครื่องจักรเครื่องยนต์ ดาวจันทร์เคียงคู่กับดาวพระเสาร์ หรือโยค เล็งพระสาร์ ท่านว่เป็นมงคลฤกษ์ ถ้า
ประกอบอาชีพประเภทเสริมสวย เครื่องสำอางค์ ดอกไม้ของหอม  ควรวางดาวจันทรอยู่คู่กับดาวพระศุกร์ หรือโยค เล็งพระศุกร์ ทำนวาเป็นมหาอุดมกฤษ์ ถ้าผลิตหรือค้าขายสิ่งทอ เสื้อผ้า อาหาร ยารักษาโรค  วางดาวจันทร์เทียบคู่อยู่กับดาวพฤหัสบดี  หรือดาวจันทร์ โยคและเล็งพระพฤหัสบตี ท่านว่าเป็นมหิมามงคลฤกษ์

ผู้เขียนเคยเห็นบางท่านให้ฤกษ์บังเอิญวางดาวจันทร์ผิดที่อย่างที่เราเรียกว่าผิดราศี ทำให้เจ้าชะตาต้องประสบความผิดหวัง ถึงกับต้องเลิกล้มกิจการอย่างย่อยยับอัปรามาแล้วหลาตรายด้วยกัน เช่นผู้มาขอฤกษ์กับท่านโหร โดยมีจุดประสงค์จะทำการค้าขายของประเภทครื่องใช้สำหรับภิกษุสงฆ์ แต่โหรขาดความรอบรู้ในเรื่องดาวจันทร์ ด้วยความหลงผิดไปวางดาวจันทร์อยู่เคียงคู่กับดาวอังคาร  เมื่อภายหลังจากเปิดกิจการไปได้ไม่นาน ก็สั่งสินค้าใหม่เพิ่มเข้ามา เรียกว่าเปิดแผนกใหม่เพิ่มขึ้นอีก คือเปิดขายเครื่องศาสดราวุธ เช่นมีดพร้าปืนผาหน้าไม้เป็นตัน ทำให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมา ถ้าได้สังเกตสักนิดหนึ่ง จะมองเห็นสินค้าทั้งสองอย่างในร้านนั้นมีลักษณะเป็นมุมกลับกัน คือสินค้าส่วนหนึ่งมีเพื่อขายให้แก่พวกนักบุญ แต่อีกส่วนหนึ่งมีเพื่อขายให้แก่พวกนักบาป มองดูให้ขัดเขิน นัยน์ตาชอบกลอยู่ เพราะผู้ขอฤกษ์มีจุดประสงค์อย่างหนึ่ง แต่โหรกลับไปให้ฤกษ์อีกอย่างหนึ่งซึ่งเป็นการขัดกัน 

หลายท่านคงเคยเห็นดวงชะตาเมืองไทยของเรามาบ้าง เรื่องฤกษ์ดวงเมืองนั้นว่าเป็นเรื่องใหญ่เพราะเกี่ยวกับผลได้ผลเสียของประเทศ ถ้าเกิดผิดพลาดก็หมายถึงความล่มจมหรือสูญเสียเอกราช พระมหากษัตริย์ ในสมัยนั้พระองค์ทรงเชื่อในเรื่องวิชาโหราศาสตร์อย่างเอกอุ จึงได้เชิญท่านบรมครูโหรจากประเทศอินเดียเป็นจำนวนถึง ๙ ท่านด้วยกัน และก็ได้ครบตามพระราชประสงค์ เมื่อถึงกำหนตนัดหมาย บรรดาท่านบรมครูโหรเหล่านั้น ก็เข้าที่ประชุมกัน คงจะมีการถกเถียงกันบ้างในสมัยนั้น เมื่อต่างได้อรรถาธิบายกับจนเห็นแน่แก่ใจกันแล้ว จึงลงมติเป็นเอกฉัท์ดังท่านได้เคยห็นดวงเมืองมาแล้ว และได้จักวางดาวจันทร์ไว้ ในราศีกรกฎ คือให้อยู่อย่างเอกเทศในเรือนเกษตร ของตนเอง

การที่ท่านโหรได้วางดาวจันทร์ไว้เรือนเกษตรเช่นนี้  ถ้าคิดกันเพียงผิวเผินก็ต้องนิยมว่าดี แต่ถ้าหากได้คิดอย่างสู้ทรงคุณความรู้อบลึกซึ้งแล้ว จะบังเกิดความรู้ในด้านวิชาการขึ้นมากแขนงหนึ่ง หรืออาจะฉงนสนเท่ห์ขึ้นว่า ท่านบรมครูโหรในสมัยนั้นมีเหตุผล กลใดจึงได้วางดาวจันทร์ ไว้ในราศีกรกฎ  ถ้าหากท่านมีความรู้ในเรื่องการแยกธาตุและการผสมธาตุ และะมีความรู้ในการอ่านดวงพิชัยสงครามที่จัดอยู่ในขั้นดีพอสมควร จะทำให้มองเห็บได้ตำแหน่งดวงดาวต่าง ๆ ท่านบรมครูโหรได้จัดไว้เหมาะเจาะที่สุด แต่เฉพาะดาวจันทร์เท่านั้นที่ต้องวิเคราะห์กันอย่างพิเศษ เพราะได้หากวางตาวจันทร์ผิตที่หรือผิดราศึจะทำให้ดวงดาวที่ประจำอยู่ตามตำแหน่งต่าง ๆ เกิดปรวนแปรผิดลักษณะที่ท่านโหรได้ผสมธาตุเอาไว้อย่างเหมาะเจาะ เมื่อเป็นเช่นนี้บรรดาท่านโหรทั้งหลายจึงเห็นพ้องต้องกันให้วางจันทร์ไว้ในราศึกรกฎ อันเป็นนเรือนเกษตรของตนเอง เพื่อต้องการมิให้ดาวจันทร์ ไปเกี่ยวข้องกับดาวอื่น ทั้งนี้เพราะดาวจันทร์เป็นดาวสุดท้ายในการตัดสินให้กับดาวอื่น ถ้าหากดาวจันทร์ไปตัดสินผิดฝาผิดตัวเข้า ก็จะทำให้ความมุ่งหมายเดิมเกิดผิดพลาดไปหมด จึงนับว่าท่านบรมครูโหรในสมัยนั้นท่านชาญฉลาตและรอบรู้ในวิชโหราศาสตร์ควรแก่การยกย่องสรรเสริญ
 

#คุณยายกลิ่นโสม
#คุณยายเล่าเรื่องจากเรือนดาว
#โหราศาสตร์ไทยเรียนง่ายกว่าที่คิด
#เรียนโหราศาสตร์ไทยสไตล์คุณยายกลิ่นฯ
#อ่านดวงไทยสบายสบาย ตามสไตล์คุณยายกลิ่นโสม
#โหราศาสตร์ไทยเรียนด้วยตนเองฉบับคุณยายกลิ่นโสม   
#เรียนโหราศาสตร์ไทยฟรี ที่เวปนี้นะ:: htthttp://www.baankhunyai.com
  --------------------  
Visitors: 173,009