ของดีดวงสงกรานต์

      
      
           ของดีดวงสงกรานต์ โดย อาจารย์ ส. แสงตะวัน

ดวงสงกรานต์ เป็นดวงขึ้นที่ไม่สมัยโบราณ  ซึ่งท่านโหราจารย์คิดคำนวณขึ้นใช้นับเบ็นพันปีมาแล้ว โดยถือทางจันทรคติวันขึ้น ๑ ค่ำ ดือน ๕ หรือวันที่ ๑๓-๑๔ เดือนเมษายน ของทุกปีเป็นกำหนดกฎเกณฑ์ ทั้งนี้เนื่องจากท่านโหราจารย์ ต้องการตรวจสอบสุภาวะการณ์ ดิน ฟ้า อากาศของโลก หรือของแต่ละประเทศ ตามที่สุนใจ โดยกำหนดยึดถือเอานามปีนักษัตรแต่ละปี และแต่ละรอบที่โคจรรอบจักรวาลเป็นมูลฐาน นักษัตรสมมุติมีองค์ประกอบด้วยธาตุ ๔ คือ ธาตุไฟ ธาตุดิน ธาตุลม และธาตุน้ำ เพราะมวลสารแห่งธาตุที่ปรากฎอยู่ในโลก หรือสิ่งที่ตั้งเป็นรูปธรรมลงรูปอยู่ได้ จะต้องมีมวลสารเบ็นองค์ประกอบด้วยธาตุทั้ง ๔ เป็นแม่บท ถ้าปราศจากมวลสารอันเป็นธาตุแท้เหล่านี้ รูปธรรมต่า ๆ ย่อมเกิดหรือตั้งอยู่ไม่ได้  ดังนั้นดวงสงกรานต์จึงปรากฎด้วยแนวความคิด  จากการศึกษาค้นคว้าของเกจิอาจารย์แต่อดีตกาล

ดวงสงกรานต์และดวงเถลิงศก สามารถนำมาพยากรณ์ความเคลื่นไหว  ระบบธาตุทั้ง ๔ ของโลก ได้เป็นอย่างดี  นอกจากนี้ยังสามารถนำไปพยากรณ์ด้านการบ้านการเมืองได้อีกมากด้วย แต่วิชาแขนงนี้ ได้ลืมเลือนหลบซ่อนบีดบังมาช้านาน จนใครๆ คิดว่าวิชานี้ ไม่น่าจะมีอยู่ในโลก ผู้เขียนหาโอกาส ใคร่ อยากจะเปิดเผยมานานแล้ว เพิ่งจะประสบโอกาสคราวนี้เอง ประจวบกับเป็นช่วงตอนปลายอายุขัย ของผู้เขียนด้วย จึงน่าจะเปิดเผยฝากวิชานี้แก่ลูกหลาน เพื่อเก็บรักษาและค้นคว้ากันต่อไป

บรมครูโหราจารย์สมัย โบราณ ท่านจำแนกดวงสงกรานต์เป็นสองลักษณะ หรือสองแบบ
แบบ ๑ เมื่อดาวอาทิตย์ โคจรรอบจักรราศี ๓๖๕ วัน จึงเริ่มวันใหม่ของปีใหม่ต่อไป ส่วนมากมักจะตรงกับวันที่ ๑๓ หรือ ๑๔ เดือนเมษายนของทุกปี เรียกว่าวัน มหาสงกรานต์

แบบ ๒ เมื่อผ่านพ้นวันสงกรานต์ประมาณ ๒ หรือ ๓ วัน เราเริ่มใช้ กาลโยค โดยโหรหลวงได้แสดงบอกไว้ทุกปี เรียกว่าวันเถลิงศก อุปมาเสมือนได้ครบกำหนดคลอดจากครรภ์ม่ารดาแล้ว หากใครใคร่อยากจะศึกษาหรืออยากจะเป็นโหรมีชื่อเสียงโด่งดังกับเขาบ้าง จงผูกดวงสงกรานต์คู่กับดวงเถลิงศก และดวงเมืองเพื่อเป็นหลักการตัดสินเรือนชะตาในแต่ละปีที่ต้องการ (ดวงตัวอย่าง)

                                ดวงสงกรานต์
     

                                   ดวงเมือง 
     

                               ดวงเถลิงศก
     

เมือพิจารณาระหว่างดวงสงกรานต์กับดวงเถลิงศกดูแล้ว จะเห็นความแตกต่างอยู่สองประการ คือดาวจันทร์กับจุดลัดนา ดวงสงกรานต์ดาวจันทร์สถิตย์ราศีมีน ร่วมกับดาวพุธคู่มิตร ธาตุน้ำ ลัดนาสถิตย์ราศีพฤษภ ส่วนดวงเถลิงศก ดาวจันทร์สถิตย์ราศีเมษ คู่กับดาวอาทิตย์ ธาตุไฟ เรือนเกษตรอังคาร บรมครูโหรสมัยโบราณมักนิยมใช้ดวงเถลิงศก ทำนายเหตุการณ์ของโลก หรือของแต่ละประเทศเป็นประจำในแต่ละปีมวลสารแห่งธาตุ ย่อมเปลี่ยนแปลงฤดูกาลไปตามวงจรของโลก ซึ่งท่านบรมครูได้จัดแบ่งสัดส่วน

ระบบธาตุออกเป็น ๔ ส่วน เรียกว่าฤดูกาล คือฤดูร้อน ฤดูแล้ง ฤดูฝน และฤดูหนาว ประมาณช่วงฤดูละ ๓ เดือน  

ส่วนฤดูกาลทางสุริยคติ ท่านแบ่งไว้มี ๓ ฤดูกาล คือฤดูร้อน ฤดูฝน และฤดูหนาว โดยเฉลี่ยประมาณช่วงละ ๔ เดือน 

ฤดูกาลเหล่านี้เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงมวลสารแห่งธาตุ ทั้ง ๔ ซึ่งท่านโหรสมมุดิเป็นนามของนักษัตรโดยเริ่มต้นนับแต่บีชวดจากราศีสิงห์ คือชวดหนู  ฉลูกันย์ นับหมุนเวียนไปจนถึงปีกุนที่ราศึกรกฎ อันเบ็นปีสุดท้ายของรอบราศีนักษัตร รอบราศึนักษัตรในแต่ละรอบ ย่อมมีความหมายต่อเนื่องไปถึงยุดต่างๆ แต่ละยุค นามนักษัตรอบนี้อยู่ในรอบ ๑๑๓ ของบีนักษัตร

นามนักษัตรในแต่ละปี ท่านโหราจารย์ส่วนมากนิยมใช้ดวงเถลิงศก ควบคู่กับตวงเมือง  ทั้งนี้เพื่อต้องการอยากจะรู้ถึงสภาวะของดิน ฟ้า อากาศ ของโลก และของแต่ละประเทศที่ต้องการ ว่ามีกลุ่มระบบธาตุใด ได้มีการเปลี่ยน แปลงอย่างไร หรือมีแรงขับดันจนเกิดวิกฤตผิดปกติส่วนไหนของโลก หรือแต่ละประเทศเช่น ดินแดนไทยเป็นตัน จะมีผลทางด้านดีหรือด้านเสียแก่พลโลกในส่วนไหนหรือถ้าหากอยากจะทราบดึงภาวะดินฟ้อากาศของดินแดนประเทศไทย รวมถึงความสุขทุกข์ของพลเมืองภายในประเทศด้วย เราควรตั้งชะตาดวงเมืองสยาม แล้วเอาตวงเถลิงศกมาเปรียบเทียบกันดู เราจะสามารถตรวจและพึงรู้ ได้จากหลักวิชา

การที่โหรร่ำเรียนมาว่าสภาพแวดล้อมจากดินฟ้าอากาศในประเทศไทยมีลักษณะอย่างไร ชาวเมืองจะประสบกับบัญหาเหล่านี้อย่างไร และ สามารถนำไปบอกกล่าวเรื่องการบ้านการเมือง ได้อีกด้วย ถ้าเราเชี่ยวชาญเรื่องระบบธาตุและ เรื่องโยคด้วยแล้ว จะสามารถแสดงออกเป็นภาษาโหรเหมือนดังนั่งทางใน

ปีพศ. ๒๕๓๔ นามนักษัตรคือปีมะแม (แพะภูเขา) โคจเข้าสู่ราศีมีน ธาตุน้ำ ทำมุมสัมพันธ์กับราศีกรกฎและราศีพิจิก ราศีมีน ถือเบ็นแม่ธาตุใหญ่ เพราะอยู่เรือนเกษตร พฤหัสบตี หมายถึง หัวง มหาสมุทร ท้องทะเล ราศึกรกฎ หมายถึงแม่น้ำลำคลองและหนองบึงทั่วไป ราศีพิจิก หมายถึงสายน้ำที่เดินอยู่ใต้พื้นผิวโลก หรือใต้บาดาล และยังสามารถขยายถึงธาตุน้ำอื่นๆ ได้อีกมาก

เป็นการแสดงถึงผืนแผ่นดินของ โลกบางส่วน ได้เกิดภาวะเตือดร้อนมาจากเรื่องราตน้ำเป็นสำคัญ มีหลายประเทศต้องผจญกับความแห้งแล้งโดยปราศจากฟ้าฝนอย่างรุนแรง บางประเทศต้องพบกับความเดือดร้อน เนื่องจากฟ้าฝนมากเกินไป จนเบ็นเหตุให้บางพื้นที่เกิดน้ำท่วมโดยฉับพล้น สร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สิน และผู้คนที่อยู่อาศัย ในแถบถิ่นนั้น บางพื้นที่ต้องประสบกับความแห้งแล้ง จนก่อให้เกิดไฟไหม้ป่หรือเกิดพายุถล่มอย่างรุนแรง ราศมีนเห็นราศีเรือน มรณะ ของหลเมืองทั้งโลก ซึ่งจะต้องมีทั้งทางที่ดีและทางเสื่อมเสีย ควบคู่กัน หากเป็นไปในทางดีก็หมายถึง โชคลาภมักจะเกิดจากถิ่นเมืองไกล หรือบุคคลเมืองไกลอุปถัมภ์ ถ้าเป็นไปในทางเสื่อมเสีย หมายถึงการตกต่ำในด้านการครองชีพ หรือ การเจ็บป่วยและการตายด้วย

ถ้าต้องการตรวจดูสภาวะดินฟ้าอากาศของเมืองไทย เราควรนำเอาตวงเมืองประเทศไทยตั้ง แล้วนำเอาดวงเถลิงศกหรือดวงสงกรานต์ ปี ๒๕๓๔ มาเปรียบเทียบกันดู คงจะเห็นได้ว่า ปีนามนักษัตร ซึ่งหมายถึงแพะภูเขา ได้โคจรเข้าสู่ราศีมีน ธาตุน้ำ ซึ่งอยู่ตำแหน่งมรณะดวงเถลิงศก และเป็นวินาสแก่ดวงเมืองไทย โคจรทับตาวพุธ ดาวพระศุกร์ และพระราหูในพ้นตวงเดิม แสดงถึงปวงชนชาวไทยต้องประสบกับปัญหาความเดือดร้อนอย่างรุนแรง เนื่องจากกิดวิกฤติความแห้งแล้ง  ขาดธาตุน้ำ ฟ้าฝนไม่ตกตามฤดูกาลอันผิดวิสัย เป็นอันตรายต่อพืชผล น้ำดื่มน้ำใช้ และการปศุสัตว์ทั่วไป จนมีกระทบจากด้านอื่นติดตามมา แม้ว่าในบางที่จะมีฝนตกลงมาบ้าง ก็ยังไม่เพียงพอกับความต้องการของผู้ใช้น้ำ มีมูลเหตุเกิดจากประเทศเพื่อนบ้าน ได้เกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิด ทำให้คลื่นความร้อนภายใต้ผิวโลกแต่กระจาย มีปริมณฑลกว้างขวางเป็นเหตุให้ธาตุน้ำให้พื้นโลกเหือดแห้งและมีผลกระทบถึงธาตุน้ำในขั้นบรรยากาศ กลุ่มเมฆฝนได้เปลี่ยนทิศทางผิต ฤดูกาล ปีพ.ศ. ๒๕๓๕ ขึ้น ๑ ค่ำ เตือน ๕  หรือเดือนเมษายนประมาณวันที่ เป็นวันมหาสงกรานต์ เริ่มต้นปีใหม่แห่งนักษัตร (ดวงตัวอย่าง)

                                   ดวงสงกรานต์
      

                                     ดวงเถลิงศก 
       

ปีนี้นามนักษัตร์ปีวอก(ลิง) ชื่อหนุมานอาสา โคจรเข้าสู่ราศีเมษ เกาะกุมดาวอาทิตย์ ทั้งตวงกรานต์และดวงเถลิงศก ราศีเมษเป็นราศีธาตุไฟฟ้า เรือนเกษตรอังคาร มีผลต่อเนื่องมาจากธาตุน้ำราศีมีน ปีนักษัตรโคจรเข้าสู่เรือน สุภะ หมายถึงการช่วยเหลือ การแก้บัญหา การช่วยปลตทุกข์ และเป็น บัตตะนิ กับดวงเถลิงศก โดยหมายถึง การอยู่ร่วมกัน งานส่วนรวม การกระจายอันมีขอบเขตเบีนตัน

เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับดวงเมืองไทย จะเห็นนามนักษัครโคจรเข้าทับดาวอาทิตย์และลัคนาดวงเมืองจะเกิดปฏิกิริยาเคลื่อนไหวทางธาตุไฟ รุนแรงทั้งบนฟากฟ้าและ ใต้ฟันพิภพเป็นผลทำให้มวลสารของโลก ถูกประจุหล่อหลอมเต็มไปด้วยระบบธาตุความร้อน บางจุตจะเกิดแผ่นดินไหวและส้นสะเทือนมีอาณาเขตกว้างขวาง มวลสารบนพื้นพิภพก่อให้เกิดมลภาวะเป็นพิษ ฟ้าฝนจะทิ้งช่วงระยะเวลายาว พืชพันธ์ขัญญาหารจะลตต่ำลง และมีผลกระทบไปทั้งประเทศ และทั่วโลกด้วย บางพื้นที่จะเกิดพายุฝนตกน้ำท่วมโดยฉับพลัน และยังมีผลแห่งความวิปริตอย่างอื่นติดตามมาอีกด้วย

จะขอย้อนกลับไปดูดวงสงกรานต์กับดวงเถลิงศก ปี ๒๕๓๕ บีมะแม นามนักษัตรคือ แพะภูเขา สถิตย์ราศีมีน ธาตุน้ำ และเป็นมรณะแก่คนทั้งโลก มรณะมีทั้งดีและร้ายอย่างไรนั้น ได้กล่าวมาแล้วในตอนต้น แต่เมื่อเหียบกับดวงเมืองไทย กลับเป็นวินาสแก่ดวงเมืองมีผลก่อให้เกิดฝนแล้งอย่างรุนแรงทั่วประเทส และยังเกิตวิกฤตการณ์ต่อ ชาติบ้านเมืองแทบล่มสลาย เพราะคนไทยแตกแยก
กันเอง

ปีพ.ศ.๒๕๓๕ นักษัตรปีวอก (ลิงหนุมาน)เป็นเรือนสุภะแก่ดวงโลกและ พลเมืองทั้งโลกด้วย ความหมายดังได้กล่าวมาแล้ว แต่ปีจรนักษัตรโคจรมาทับอาทิตย์ และลัคนา ดวงเมืองจึงมีผลกระทบถึงสู้บริหารราชการแผ่นดินระดับชั้นผู้ปกครองลงมาจนถึงระดับล่าง จนได้รับกับความระทมขมขึ้นทั้งภายในและ นอกประเทศ แต่จะค่อยๆ ลดความเหี้ยมโหตลงเรื่อยๆ เพราะมีคนดีเข้ามาช่วยแก้ไปปัญหาแบบสมานฉันท์

อีกมุมหนึ่ง คือปีวอกนักษัตรโคจรทับลัคนาดวงเมือง จะมีผลอยู่ในมุมสัมพันธ์ถิงราศึธนู ราศีอนูมีตาวพฤหัสกับดาวพระเสาร์สถิตย์อยู่ในพื้นเดิม  ในปีนั้นมีดาวมฤตยูกับพระราหูโคจรเข้าทับดาวพื้นเดิม จึงมีความสัมพันธ์ที่ต้องนำมาพิจารณาด้วย ราศีธนูหมายถึงการเกษตรกรรม การเปลี่ยนแปลงปฏิรูปที่ดิน และธุรกิจการค้าเกี่ยวกับพืชไร่ ยังคงขาดแคลน เรื่องน้ำอยู่อีกระยะหนึ่ง ซึ่งมีผลต่อเนื่องมาจากปี ราศีมีน และยังหมายถึงการเปลี่ยนแปลงปรับปรุงด้านการครองชีพ การศาสนาลัทธิประเพณี และสิ่งแวดล้อมทั่วไปให้เหมาะสม กับภาวะปัจจุบัน ตั้งแต่เดือนกันยายนไปจนถึงปลายบี จะมีฝนตกชุกหนาแน่นพอสมควร ชาวภาคใต้ต่างหวาดผวาเกี่ยวกับวาตภัยและอุทกภัยก้นมาก

ปี พศ. ๒๕๓๖ นักษัตรปีระกา ชื่อไก่ฟ้าพญาลอ โคจรเข้าสู่ราศีพฤษภ ธาตุดิน  ผลจากเรื่องดินอากาศ จะเบีนอย่างไรบ้าง ลองศึกษาหาข้อมูลกันดูด้วยตนเอง เพราะได้ปูทางโดยสังเขปให้แล้ว และยังสามารถนำไปทำนายเรื่องการบ้านการเมืองได้อย่างกว้างขวาง จงอย่านำเอาวิชาแขนงอื่นที่ไม่สามารถร่วมทางกันได้ เข้ามาป่ะปุ่นแบบแปลงสารให้เกิดหลงทางเป็นอันขาดจงช่วยกันเก็บรักษาวิชาอันทรงคุณค่าไว้เบ็นสมบัติที่ควร หวงแทน วันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕ต๕ ผู้เขียนอายุครบ ๗๖ ปี จึงขอฝากวิชา โหราศาสตร์แขนงนี้ไว้  เพื่ออนุชนรุ่นลูกหลานจะ ได้ค้นคว้าทาข้อมูลกันต่อไป

นายสำราญ ต้ณฑนุช
นามปากกา (ส. แสงตะวัน)


#คุณยายกลิ่นโสม
#คุณยายเล่าเรื่องจากเรือนดาว
#โหราศาสตร์ไทยเรียนง่ายกว่าที่คิด
#เรียนโหราศาสตร์ไทยสไตล์คุณยายกลิ่นฯ
#อ่านดวงไทยสบายสบาย ตามสไตล์คุณยายกลิ่นโสม
#โหราศาสตร์ไทยเรียนด้วยตนเองฉบับคุณยายกลิ่นโสม   
#เรียนโหราศาสตร์ไทยฟรี ที่เวปนี้นะ:: htthttp://www.baankhunyai.com
  --------------------  
Visitors: 171,460