ดวงตัวอย่างที่น่าศึกษา

     
           ดวงตัวอย่างที่น่าศึกษา    โดยอาจารย์ส. แสงตะวัน
 
เมื่อไม่นานมานี้ มีนักศึกษารุ่นใหม่หอบตำราไปหาผู้เขียนที่บ้าน ถามข้อข้องใจและสงสัยบางอย่างกับผู้เขียนจาก
ตำราหลายล่ม และหลายอาจารย์ที่นักศึกษาให้ช่วยแนะนำและส่วนมากผู้เขียนมักจะแนะนำให้เขาติดต่อกับเจ้าของ
ตำราเดิม เพราะอาจจะผิดความประสงค์ของผู้แต่งก็ได้ แต่มีตำราอยู่เล่มหนึ่งชื่อ หลักการพยากรณ์ควงชาตา รวบรวมโดย
ร.ต.อ. เปี่ยม บุณยะโชติ มีเนื้อหาสาระที่น่าศึกษาสำหรับคนรุ่นใหม่อยู่มากและท่านผู้นี้เป็นผู้หนึ่งในวงการโหรที่พยายาม
รวบรวมทั้งของเก่าและของใหม่ เพื่อเก็บรักษาไว้เป็นสมบัติอันมีคุณค่าแก่ลูกหลานในอนาคตนับว่าสมควรแก่การสรรเสริญ
สำหรับนักโหราศาสตร์ในยุคปัจจุบัน
 
บังเอิญผู้เขียนเปิดไปพบดวงตัวอย่างเข้าดวงหนึ่ง หน้า ๒๗๔ ผู้เขียนตำราบอกป็นเชิงใบให้ศึกษาค้นหากันเอา
เองว่าเป็นควงสดวกสบายตลอดชาติ ทำให้ผู้เขียนอ่านแล้ว ต้องสดุดหยุดอยู่ตรงนี้ ประจวบกับพอดีที่นักศึกษาท่านผู้นี้
ก็สนใจยู่ด้วย ผู้เขียนได้พิจรณา และวิเคราะห์ดูทุกจุดตามตำหรับของผู้เขียนเห็นว่าเป็นความจริงดังที่เจ้าของตำรา
บอกไว้ แต่ก็เป็นเพียงกล่าวไว้โดยผิวเผินแบบลอยๆ เท่านั้น  ผู้เขียนเห็นว่าเป็นดวงตัวอย่างที่สมควรแก่การค้นคว้าสำหรับ
คนรุ่นใหม่อยู่มาก จึขออนุญาตลอกแบบนำมาขยายความ ตามหลักวิชาในโหราเวสม์อีกครั้งหนึ่ง หวังว่า ร.ต.อ. เปี่ยม
บุณยะโชติ คงไม่ขัดข้อง และคิดเสียว่าตระกูลทั้งสองก็อยู่ จังหวัดเดียวกัน

     
  
จากดวงตัวอย่างในตำราเล่มนี้ ท่านผู้รวบรวมได้เขียนดวงดาวไว้เพียง ๘ ดวง แบบโหรโบราณจริง ๆ คือเริ่มต้นจากดาวอาทิตย์เรียงไปถึงพระราหู ส่วนพระเกตุ และดาวมฤตยูท่านมิได้ใส่ไว้ด้วย แต่ก็ไม่ผิดกติกาด้วย ดาว ๘ ดวงนี้ โหรสมัยโบราณท่านก็เล่นได้ชั้นยอดจริงๆ ส่วนพระเกตุกับมฤตยูได้เริ่มมีขึ้นในตอนหลัง ผู้เขียนได้พยายามค้นคว้าขยายข้อมูลไว้มากพอสมควร แต่ต้องงดเขียนไปโดยปริยาย เนื่องจากมีผู้นำไปเปลี่ยนรูปแบบจนออกนอกคู่ทางไป มิหนำซื้อยังถูกกล่าวหาว่าผู้เขียนไปลอกแบบของเขามาอีกด้วย

นักศึกษาจงดูดวงตัวอย่างที่ผู้เขียนได้ลอกแบบมา แต่ไม่ทราบว่าเป็นดวงหญิงหรือชาย ผู้เขียนคิดว่าเป็นชายมากกว่า แต่อาจจะผิดก็ได้ หวังเพียงเพื่อเป็นหลักวิชาเพื่อการค้นคว้าเท่านั้น ล้นาของเจ้ชาตาสถิตย์อยู่ราศีมิถุน มีดาวจันทร์กับพระราหูประกบคู่สมพลอยู่ราศีพิจิก จากดาวพฤหัสบดีนำหน้าลัคนามีดาวเรียงรายติดต่อไปถึงราศีพิจิก อันเป็นราศีสุดท้ายรูป

ลักษณะดวงนี้ท่านผู้รวบรวมเรียกว่าดวงพระจันทร์ครึ่งซีก หรือมาลัยโยค ซึ่งผู้เขียนเห็นว่าถูกทั้งสองอย่าง แต่ผู้เขียนศึกษาในทางผสมธาตุโดยตรง จึงต้องอ่านรูปดวงไปอีกแบบหนึ่งคือ ดวงลัคนาขับผล คำว่าลัคนาขับพล หมายถึง ลัคนาอยู่หลังสุด แต่มีดวงดาวรายเรียงติดต่อทุกราศีอยู่ด้านที่กล่าวมานี้มิได้หวังจะขัดใจกับผู้เป็นเจ้าของตำราเนื่องจากวิชาโหราศาสตร์เป็นวิชาอุปมาอุปไมย ย่อมจะมีทางเปรียบเทียบได้หลายรูปแบบ ซึ่งแล้วแต่บรมครูรุ่นเก่าจะตั้งชื่อเอาไว้

จากดวงตัวอย่างที่เรากำลังสนใจอยู่นี้ นักศึกษาจะเห็นลัคนาสถิตย์ราศีมิถุนลมแล้ง มีดาวพฤหัสบดีสถิตย์ราศีกรกฏนำหน้าลัคนา มีอาทิตย์ อังคาร ศุกร์ จับกลุ่มอยู่ราศีสิงห์ มีดาวพุธ ครองเรือนเกษตรอยู่ราศีกันย์ มีพระเสาร์ครองตำแหน่งอุจจ์ อยู่ราศีตุล และมีดาวจันทร์กับพระราหู คู่สมพลอยู่ราศีพิจิก ดาวจันทร์และพระราหูคู่สุดท้ายนี้เอง จะเป็นจุดสำคัญในการอ่านดวงชาตานี้ แม้วเราจะเห็นกันว่าอยู่เรือน อริ แก่ลัคนา อย่าเพิ่งยึดถือว่าเสียควรปล่อยให้เป็นดาวคู่ลอยๆไว้ก่อน เนื่องจากดาวดวงหนึ่งย่อมจะขับให้ดาว
อีกดวงเป็นอะไรหรือมีฐานะอย่างไรก็ได้ เรียกว่าขับดวงชาตา เนื่องจากการเล่นระบบธาตุนั้นอุปมาหมือนเครื่องพิมพ์ดีด ใช้นิ้วกดตัวอักษรที่แป้นแคร่ตัวหนังสือจะไปปรากฎที่กระดาษพิมพ์ดังนี้ เป็นต้น

ดาวจันทร์กับพระราหูคู่สมพล อยู่ในตำแหน่งเรือนนี้ จะกระตุ้นเข้าเสริมดาวพระเสาร์ในราศีตุลเข้าครองในตำแหน่งอุจจ์ และดาวพระศุกร์กับอาทิตย์คู่สมพลในราศีสิงห์ ช่วยส่งพลังธาตุเข้าเสริมพระเสาร์ในราศีตุลให้เป็นอุจจ์ อีกชั้นหนึ่ง เรียกว่า มหาอุจจ์คือพระเสาร์ได้เพิ่มกำลังอุจจ์ถึงสองชั้นดังนี้ ดาวอังคารกับพระศุกร์คู่มิตรในราศีสิงห์ได้ขยายกำลังธาตุไฟให้กับดาวพฤหัสบดีในราศีกรกฎ ครองตำแหน่งอุจจ์แท้ และดาวพระเสาร์ราศีตุลช่วยขยายและขับธาตุของตนเสริมให้ดาวพฤหัสบดีเพิ่มกำลังเป็นอุจน์อีกชั้นหนึ่ง เรียกว่า มหาอุจจ์ คือป็นอุจงถึงสองชั้น เช่นเดียวกับพระเสาร์ส่วนดาวพุธในราศีกันย์ ไม่มีใครขับให้เป็นอุจจ จึงไม่เป็นอุจน์เป็นเพียงดาวธรรมดาเช่นดาวอื่น

อีกจังหวะหนึ่ง ดาวจันทร์กับพระราหูอยู่ราศีพิจิก ธาตุน้ำบาดาลอยู่ในตำแหน่งอริ แก่ลัคนา แต่กลับส่งผลให้ดาวอังคารมีพลังแรงในราศีธาตุไฟ เรื่องกำลังธาตุของดาวอังคารนักศึกษา ควรจะย้อนกลับไปอ่านบทความของผู้เขียนฉบับประจำเดือนตุลาคมกับธันวาคมของโหราเวสม์ดูอีกครั้งหนึ่ง ก็จะทราบดีว่ามีการส่งเสริมพลังกันอย่างไร สำหรับส่วนเสื่อมเสียของดาวจันทร์กับพระราหู่คู่นี้ก็มีอยู่ซึ่งจะสรุปในตอนท้าย ๆ ต่อไป

นักศึกษา คงจะเห็นแล้วว่า ดวงนี้มีมหาอุจจ์ที่แท้จริงถึงสองดวง คือดาวพฤหัสบดี กับ ดาวพระเสาร์ และครองตำแหน่งมหาองงถึงสองชั้น นับว่าเป็นดาวที่หาได้ไม่บ่อยนัก อาจเป็นอุจจ์ถึงสามหรือสี่ชั้นก็ได้ ถ้าเข้าในกฎเกณฑ์บองหลักวิชาโหร บรมครูโหรรุ่นก่าเคยขียนตำราวิธีขับดาวอุจจ์ ตามแบบของท่านก็มีอยู่เหมือนกัน แต่เป็นคนละแบบกับของผู้เขียน คือถ้าไม่แตกฉานในเรื่องธาตุก็ขับไม่ได้ และ ไม่รู้เรื่องราวการเล่นด้วย

ต่อจากนี้เราก็จับเอาลัคนามาพิจารณา ซึ่งเป็นหลักสำคัญ นึกศึกษาคงจะเห็นแล้วว่าเจ้าชาตามีจุดลัคนาอยู่ราศีมิถุน ธาตุลมแล้ง หมายถึงความแห้ง ความไม่เบิกบานในอารมณ์ ดาวพฤหัสบดีเป็นมหาอุจจ์แท้นำหน้ำลัคนา ดาวพฤหัสบดีมาจากราศีธนู เรือนปัตนิ แสดงว่าเจ้ชาตาได้คู่ครองเป็นผู้ดีมีสกุลสูง หรือคู่ครองมีฐานะดี อยู่ในขั้นเศรษฐีที่เคียว ดาวอังคารราศีสิงห์ร่วมเรือนเกษตร กับ อาทิตย์ อังคารดวงนี้ได้ กำลังเสริมจากพระราหูในราศีพิจิก แสดงถึงการมีตำแหน่ง หน้าที่การงานดี คงจะรับราชการทหาร หรือทำงานประเภท เครื่องยนต์ประกอบด้วยไฟฟ้า ดาวพระศุกร์ร่วมเรือนกับอังคารในราศีสิงห์ ดาวพระศุกร์ดวงนี้เจ้าชาตาเกิดตอนตี o๓,๐๐ น. โดยประมาณใกล้รุ่ง ชื่อว่า ดาวประกายพรึก กำลังเริ่มทอรัศมีอันช่วงโชติอันความรักจึงน่าจะสดชื่นแจ่มใส
ตามสายตาของคนภายนอก เมื่อเราพิจารณาดูในส่วนลึกของดาวพระศุกร์แล้ว ดาวพระศุกร์หาได้สดใสเป็นเอกเทศไม่แม้ว่าจะมีดาวอังการเป็นคู่มิตรเสริมอยู่ แต่ดาวอังคารมาอยู่กับพระศุกร์ในฐานะตัวแทนของพระราหูกับจันทร์ จึงให้พระศุกรบังเกิดใฝ่ฝ้ามัวหมองตามหลักวิเคราะห์ของท่านบรมครูโหร ท่านว่าดวงนี้มีคู่ดีแต่ความรักไม่ราบรื่น ดาวพุธเป็นดาวตนุลัคนา ธาตุดินอันเกิดจากความแห้งแล้วดังที่กล่าวมาแล้วในราศีมิถุน

ดาวพระเสาร์เป็นมหาอุจจ์แห้อยู่ราศีตุลอยู่ในตำแหน่ง ปุตตะหมายถึงบุตรและญาติพี่น้อง จึงนับว่าเจ้าชาตามีบุตรดีเป็นอภิชาติ สามารถชิดชูวงศ์ตระกูลให้สูงเด่นได้ ในอนาคต ดาวจันทร์กับพระราหูคู่สมพลอยู่ในตำแหน่ง อริและเป็นคู่สำคัญของชีวิตการครองเรือน ดาวคู่นี้มีผลสะท้อน สะเทือนไปถึงดาวพระศุกร์อย่างรุนแรง กล่าวคือก่อนจะพบคู่ครองที่แท้จริงเจ้าชาตาเคยผิดหวังเรื่องความรักมาก่อนทั้งสองฝ่าย เนื่องจากมิใช่บุพเพสันนิวาสมาแต่อดีตชาติจึงให้คลาดแคล้วกันไป ตามภาษาโหรท่านกล่าวว่าจะประสบความลุ้มเหลวในความรักครั้งแรก เพราะเพื่อนเข้ามาเป็นคู่แข่ง แต่จะได้แต่งงานกันหลัง เป็นบุตรผู้ดีมีสกุล แต่ความรักไม่ราบรื่นนัก

จากผลสรุปเป็นการแสดงว่าชีวิตแห่งการครองเรือนในด้านความรัก ได้ตกอยู่ในสภาพที่น่าชื่นอกตรมเสมือนต้องคำพิพากษา ติดตะรางดวงใจตลอดชีพ ดาวพระเสาร์จะแสดงพลังมหาอุจจเต็มที่เมื่ออายุย่างเข้า ๔๐ ปี เป็นต้นไป พฤหัสบดี จะแสดงพลังมหาอุจจเต็มที่เมื่ออายุย่างเบ้า ๕๑ ปี เป็นต้นไป และดาวทั้งหมดจะเปลี่ยนทิศทางโยคหน้า เรียกว่า ลัคนาขับ
พล อย่างสมบูรณ์ตามแบบฉบับของโหรไทยเดิม

การวิจารณ์ดวงนี้ผู้เขียนเล่นแบบโบราณล้วนๆ ซึ่งมาดาวในเรือนชาตาอยู่ ๘ ดวงขาดไป ๒ ดวงคือ พระเกตุกับดาวมฤตยู และดาว ๒ ดวงนี้เพิ่งเกิดขึ้นในสมัยหลัง ถ้าได้เพิ่มดาวทั้งสองดวงนี้เข้าไปด้วย จะขยายความออกไปได้อย่างกว้างขวาง พระเกตุจะอยู่ราศีกุมภ์ และดาวมฤตยูราศีกรกฏคู่กับดาวพฤหัสบดี พอจะมองเห็นได้ว่า ดวงนี้อายุสั้น จะเสียชีวิตด้วย โรคปัจุบันทันด่วน ขอให้นักศึกษาแกะรอยดูบ่อย ๆ คงจะเห็นช่องทางเก็บไปค้นคว้าได้บ้าง ตามความสามารถของตน

                                                                                              สวัสดี.
                                                                                           ส.แสงตะวัน

Visitors: 171,537