หลักโหราศาสตร์

         

        หลักโหราศาสตร์  โดยอาจารย์ ส. แสงตะวัน
​​​​​​ปัจจุบันเราได้ยอมรับกันแล้วว่า วิชาโหราศาสตร์มีความสัมพันธ์กับชีวิตมนุษย์และสัตว์ ตลอดจนสรรพสิ่งทั้งหลายที่เกิดขึ้นในโลก ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมจะฝืนกฎของดวงดาวในท้องฟ้าไปไม่ได้ แม้แต่การเกิดการตาย ก็จะต้องขึ้นอยู่กับดวงดาวทั้งสิ้น อนุภาพแห่งดวงดาวนีี่แหล่่ะ จะเป็นผู้บอกกฎแห่งกรรม อันประกอบไปด้วยความดีความชั่วซึ่งเราอาจจะไม่รู้ตัวมาก่อน

การที่จะหยั่งรู้วิถีชีวิตในอนาคต ว่าจะเป็นไปในลักษณะใด ก็ต้องอาศัยวิชาโหราศาสตร์เป็นเครื่องชี้แนวทางให้  ถ้าไม่อาศัยวิชานี้ก็เหมือนแสงสว่างที่ดับมืด ไม่สามารถที่จะหยั่งรู้ หรือคาดคะเนได้ว่าชีวิตอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปในลักษณะใด ดังที่เคยได้ยินคนพูดกันบ่อยๆว่า ชีวิตไม่มีความหมาย  ก็เพราะเราไม่รู้วิถีชีวิตนั่นเอง ถ้าเรารู้อนาคตของเรา เราก็จะได้รู้ว่าชีวิตนี้มีความหมายและมีความสำคัญเพียงใด แม้ว่าจะหลีกเลี่ยงกฎแห่งกรรมไปไม่ได้ อย่างน้อยก็จะดับอารมณ์พี่มัวหมองให้บรรเทาเบาบางลงได้บ้าง

ปัจจุบันนี้รู้สึกว่าวิชาโหราศาสตร์กำลังแพร่หลาย มีผู้ศึกษาค้นคว้ากันเป็นจำนวนมาก และก็กำลังก้าวหน้าไกลไปเรื่อยๆไม่่ยิ่งหย่อนไปกว่าวิชาในด้านอื่นๆ จริงอยู่ในวิชาโหราศาสตร์ไม่มีปริญญาเหมือนวิชาแขนงอื่น แต่มันจะบอกกับตัวของท่านเองในเมื่อท่านทำนายเหตุการณ์ได้ถูกต้องและแม่นยำ มันเป็นปริญญาที่คนทั้งประเทศหรือทั้งโลกหยิบยื่นให้ท่าน ท่านได้รับมันอย่างน่าภูมิใจที่สุดในชีวิต

ข้าพเจ้าผู้เขียนรู้สึกดีใจอย่างสุดซึ้งที่วิชานี้กำลังขึ้นหน้าขึ้นตา 26 ปีมาแล้ว ที่ผู้เขียนได้ศึกษาจากครูบาอาจารย์ และค้นคว้าด้วยตนเองอย่างเงียบ แต่ก็ไม่วายที่จะถูกดูหมิ่นจากบุคคลบางจำพวก ตำหนิติเตียนว่าวิชาโหราศาสตร์เป็นเรื่องเหลวไหล หลอกลวงและในอนาคตอันใกล้นี้ คำว่า"เหลวไหล" ก็จะค่อยๆจางหายไป

มีท่านนักศึกษาหลายท่าน ที่สนใจในวิชานี้ได้ติดต่อไปยังผู้เขียน ถามข้อข้องใจเกี่ยวแก่วิชานี้ว่าจะเรียนอย่างไร จึงจะเข้าใจง่ายและรวดเร็ จะเชื่อตำราทีเดียวก็ยุ่ง เพราะบางตำราบางเล่มเกิดค้านการขึ้นเอง และบางตำราก็เอาอย่างอื่นเข้ามาผสม ทำให้เกิดสงสัยและไม่แน่ใจ

เรื่องตำรานี้เราอย่าเพิ่งยึดถือ เอาว่าแน่นอนหรือเป็นหลักตายตัวบูรพาจารย์ท่านให้เพียงเป็นแนวทางเพื่อการศึกษาค้นคว้าเท่านั้น ถ้าขืนยึดตำราเป็นหลักตัวละก็ เห็นจะต้องโยนตำราเข้าตู้กันแน่ๆดัง เช่นดาวจันทร์โคจรเข้าทับอังคาร ตามตำรากล่าวไว้ว่าจะผิดลูกผิดเมีย เมียมีชู้ ตามความเป็นจริงดวงชะตาทุกคน ดาวจันทร์ก็จะโคจรเข้าทับอังคารในดวงเดิมทุกๆ 28 วัน ถ้าเราเชื่อตำราเราก็จะซ้อมเมียเราทุกๆ 28 วันเหมือนกัน ถ้าเป็นเช่นนี้ใครที่เป็นภรรยาเห็นจะแย่ และเรื่องตำราเกิดค้านตำรากันขึ้นนั้น ตามความเป็นจริงจะไม่ค้านกันเลย มันอยู่ที่เรื่ององศาเป็นมูลเหตุถ้าเราไม่เข้าใจในองศาเราก็จะเล่นไม่ถูกตามแนวทางของตำรา

การที่เราจะเรียนให้ถูกต้อง ตามตำรับแบบไทยของเราซึ่งเดิมทีเดียว เรามีแนวกันมาอย่างไรนั้น ข้าพเจ้าใคร่จะขอกล่าวว่าเดิมทีเดียวเราไม่มี "ทักษา" เข้ามาร่วมกับดวงเพิ่งมาเกิดขึ้นสมัยหลังจะเป็นมากันอย่างไร ผู้เขียนจะของดไม่กล่าวถึงจะกล่าวเฉพาะของเดิมของเราเท่านั้น ข้าะเจ้าู้เขียนจะขอเปิดเผยไว้  ณ.ที่นี้ ได้ศึกษากันต่อไป

เมื่อท่านนักศึกษาฝึกหัดผูกดวงชะตาได้ถูกต้องแล้ว เราจะต้องพิจารณาการวางลัคนาให้ถูกต้องอีกด้วย ผู้เขียนเคยพบมาเกือบ 50 เปอร์เซ็น ที่วางลัคนากันผิดๆ แต่ทั้งนี้ผู้เขียนมิได้เจาะจงตำหนิผู้วางลัคนาผิด หากแต่ผู้มาขอให้ผูกดวงมักจะบอกเวลาเกิดไม่แน่นอน เช่นบอกว่าเกิดตอนพระออกบิณฑบาตรบ้าง ตอนนกประชุมรังบ้าง ตอนควายบ่ายหน้าเข้าคอกบ้าง บางทีบอกพิศดารออกไปอีก เช่น เกิดคอยจีนฆ่าหมูก็มี ผู้เขียนเคยพบบ่อยๆบ่่างทีก็ประมาณเอาว่าเวลาประมาณเท่านั้นเท่านี้ เมื่อเป็นเช่นนี้ถ้านักโหราศาสตร์์ขาดความชำนาญ ก็ต้องวางลัคนาคาดเคลื่อนไป

ฉะนั้นท่านนักศึกษาจะต้องใคร่ครวญดูให้ดี ถ้าผิดพลาดอาจจะเสื่อมเสียชื่อได้ เมื่อวางลัคนาเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็เริ่มจับจุดตั้งแต่ลัคนาตรวจหมุนเวียนไปตามราศีคือ ตนุ กดุมภะ สหัสชะ พันธุ ปุตตะ อริ ปัตนิ มรณะ สุภะ กรรมมะ ลาภะ วินาสนะ รวม ๑๒ ราศี ตรวจดูว่าในราศีหนึ่งๆนั้น มีดาวอะไรเข้าสถิตย์อยู่บ้าง และสัมพันธ์กับลัคนากันอย่างไรมีองค์เกณฑ์ ตรีโกณ จตุสดัย คู่ธาตุ คู่มิตร และคู่สมพลหรือไม่มีดาวอะไรบ้างที่ให้คุณและให้โทษ แล้วเราก็แบ่งส่วนดีไว้ส่วนหนึ่งและส่วนเสียไว้ส่วนหนึ่ง เพื่อจะได้ประมาณว่าส่วนดีและผลเสียอย่างไหนจะมีน้ำหนักมากกว่ากันเราตรวจไปให้ครบทุกอย่างที่เราศึกษามาแล้ว

ต่อจากนี้เราก็จะต้องรู้เรื่อง "เกษตรลัคนา" เรื่องเกษตรลัคนานี้หลายท่านอาจจะไม่เข้าใจหรือไม่รู้เรื่องมาก่อนผู้เขียนจะบอกให้เกษตรลัคนานั้นก็คือ"ราศีเมษ"นั่นแหละคือเกษตรของลัคนาละ  สำหรับในที่นี้อย่าถือเอาตะนุเกษตรที่เล่นกับทักษานั้นไม่ได้ เพราะทักษาเล่นกันอีกแบบหนึ่งซึ่งเล่นกันมากในขณะนี้  แต่ในที่นี้ไม่เกี่ยวด้วยประเดี๋ยวจะยุ่ง  เพราะวิชาโหราศาสตร์มีหลายแบบด้วยกัน  แบบที่ผู้เขียนกำลังกล่าวอยู่นี้ก็เป็นแบบของไทยเดิมของเราเหมือนกัน  และก็ได้ปกปิดกันมานานปีแล้วผู้เขียนเห็นว่าควรจะเปิดเผยกันเสียทีดาวเกือบทุกดวงย่อมมีเกษตรหรือเจ้าเรือนของเขา  ลัคนาก็ต้องมีเกษตรกับเขาเหมือนกันเกษตรลัคนาเขาถือเอาราศีเมษเป็นจุดเริ่มต้น  เมื่อเราทราบเรื่องเกษตรลัคนาแล้ว  ก็ต้องถือว่าราศีเมษเป็นตะนุ ราศีพฤษภเป็นกะดุมภะ นับเรื่อยไปจนถึงราศีมีนเป็นวินาสนะ  แล้วก็ตรวจอีกว่ามีดาวอะไรไปสถิตย์อยู่และเป็นอะไรกับเกษตรลัคนาแล้วเราเปรียบเทียบกันว่าระหว่างลัคนาเดิมของเจ้าชะตากับเกษตรลัคนามีความสัมพันธ์กันอย่างไร  
 
เช่น.. สมมุติว่าลัคนาเดิมของเจ้าชะตาสถิตย์ยู่ราศีสิงห์ เมื่อเรานับจากเกษตรลัคนาจะอยู่ในเรือนปุตตะ คือราศีของอาทิตย์เดือนนี้หมายถึงบุตร เด็กๆ ผู้มีอายุอย่างน้อย ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา ผู้มีศักดิ์เป็นน้อง แสดงว่าเจ้าชะตามีการดิ้นรนกระตือรือร้น ทิษฐิมานะตั้งแต่อายุยังน้อย หรือต้องจากบ้านยังเยาว์วัยอยู่ 
 
ราศีกันย์ เป็นเรือนกะดุมภะแก่ลัคนาเดิม แต่เป็นเรือนอะริแก่เกษตรลัคนา เรือนกะดุมภะหมายถึงเคหสถานทรัพย์สมบัติ หลักฐาน กิจการงาน ไม่เป็นอะริกับเกษตรลัคนาก็ต้องหมายถึงการประกอบติดตามงานซึ่งเกี่ยวแก่ส่วนรวมเกี่ยวแก่ประชาชน งานรับใช้ การหุ้นส่วนบริษัท ถ้ามีดาวบาปพระเคราะห์เข้าไปอยู่ด้วยการทำให้ชีวิต ในครอบครัวไม่ค่อยราบรื่นนัก

ราศีตุล เป็นเรือนสหัชชะแก่ลัคนาเดิมแต่เป็นเรือนปัตตะนิ แก้เกษตรลัคนา สหัชชะหมายถึงเพื่อนฝูงและหมายไปถึงคู่ครองด้วย แสดงว่าเจ้าชะตามีเพื่อนที่เป็นเพศตรงข้ามมากและมีงานที่จะต้องสัมพันธ์กับเพศตรงข้ามเสมอมีคู่ครองก็มีความเป็นอยู่เสมอการเป็นเพื่อน

ราศีพิจิก เป็นเรือนพันธุแก่ลัคนาเดิมแต่เป็นเรือนมรณะแก่เกษตรลัคนา พันธุหมายถึงญาติสนิท คู่รักใคร่นับถือเสมอเสมือนญาติ ผู้อยู่หรือทำงานร่วมกัน เมื่อมาเป็นมรณะแก่เกษตรลัคนา แสดงว่าเจ้าชะตาจะต้องจากเครือญาติ หรือเครือญาติต้องจากไปมักจะได้พบเพื่อนที่ดีอันเป็นที่รักและนับถือเสมือนญาติในต่างถิ่น จะได้ผู้ร่วมงานที่ถูกใจในต่างถิ่นแต่ถ้ามีดาวบาปเคราะห์เข้าไปสถิตอยู่ต้องทำนายไปในทางเสื่อม

ราศีธนู เป็นเรือนปุตตะแก่ลัคนาเดิม แต่เป็นเรือนสุภะแก่เกษตรลัคนา หมายถึง ชะตาจะมีบุตรจะได้เป็นที่พึ่ง มีลูกน้องมีบริวารเป็นที่พึ่งผู้อยู่ภายใต้บังคับบัญชาจะยกย่องสรรเสริญจะได้เป็นใหญ่ในผลของงานอันมีลูกน้องอยู่ภายใต้บังคับบัญชา

ราศีมังกร เป็นเรือนอริแก่ลัคนาเดิมแปลเป็นกรรมมะแก่เกษตรลัคนา อะริหมายถึงศัตรูผู้ขัดขวาง งานหุ้นส่วนบริษัท งานส่วนรวม แสดงว่าเจ้าชะตามักทำงานเกี่ยวแก่ส่วนรวมหุ้นส่วน

ราศีกุมภ์ เป็นเรือนปัตตะนิ แก่ลัคนาเดิมแต่เป็นลาภแก่เกษตรลัคนา ปัตตะนิหมายถึงคู่ครองพี่น้องน้าอาเขยสะใภ้ ผู้มีอายุแก่กว่างานบริษัทหุ้นส่วนแสดงว่าเจ้าชะตามีคู่ที่ดีคู่เป็นลาภประกอบงานอันมีหุ้นส่วนรวมอยู่ด้วย

ราศีมีน เป็นเรือนมรณะแก่ลัคนาเดิม และเป็นวินาสแก่เกษตรลัคนา มรณะหมายถึงการเจ็บป่วย การตาย การบิดพลิ้วทรยศ การผิดหวัง การเดินทาง ต่างถิ่นต่างแดนเมืองไกล แสดงว่าเจ้าชะตาประกอบงานใดๆหรือตั้งตัวแทนในต่างถิ่น มักจะได้รับความเสียหาย ได้รับความวิบัติในบั้นปลายถูกทรยศบิดพลิ้วอยู่เนืองๆ

ราศีเมษ เป็นเรือนสุภะแก่ลัคนาเดิม แต่เป็นตะนุแก่เกษตรลัคนา ศุภะหมายถึงความสุขอุปการะ การช่วยเหลือผู้ให้การเดินทาง ความสำเร็จ ในสิ่งที่ตนปรารถนาแสดงว่าเจ้าชะตาจะมีความสุขได้ ต้องอาศัยกำลังและความนึกคิดของเจ้าชะตาเองเพราะตะนุเกษตรลัคนา หมายถึงตนเอง จึงเข้ากับหลักศาสนาว่า"ตนเองนายนั่นแหละเป็นที่พึ่งแห่งตน ความสุขอันเกิดจากผู้ยื่นให้หาได้ยาก ซึ่งเป็นผู้ยื่นให้จึงหายากสำหรับเจ้าชะตา

ราศีพฤศภ เป็นเรือนกรรมมะแกลคนาเดิมแต่เป็นกะดุมภะแก่เกษตรลัคนา กรรมะ หมายถึงตำแหน่งหน้าที่ การงาน โรงงาน สถานที่อยู่อาศัยทรัพย์สมบัติ แสดงว่าเจ้าชะตาจะต้องตำแหน่งการงาน เรือนนี้เป็นเรือนสำคัญ ผู้ศึกษาจะต้องพิจารณาให้ดีว่ามีดาวอะไรอยู่เรือนนี้บ้าง หรือเจ้าเรือนนี้ไปอยู่ราศีโหน และอยู่กับดาวอะไรถ้าอยู่กับคาวสุภเคราะห์ต้องนับว่าตี ถ้าอยู่กับดาวบาปเคราะห์เช่นเสาร์หรือราหู มักจะต้องเปลี่ยนแปลงหรือต้องล้มลุกคลุกคลานกันหลายคราว ภายหลังจึงจะดีได้

ราศีมิถุน เป็นเรือนลาภะแก่ลัคนาเดิม แต่เป็นสหัชชะแก่เกษตรลัคนา ลาภะหมายถึงลาภความเจริญ ความสำเร็จจากสิ่งที่ตนนึกคิดหรือไฝ่ฝันถึง แสดงว่าเจ้าชะตาจะได้ลาภ หรือกิจการงานที่ตนประสงค์ โดยมีเพื่อนฝูงเป็นผู้ช่วยเหลือ หรือได้ดีเพราะเพื่อน เพื่อนเป็นผู้นำโชคมาให้

ราศีกรกฎา เป็นเรือนวินาสแก่ลัคนาเดิม แต่เป็นพันธุแก่เกษตรลัคนา วินาสทางจันทรคติอนว่าเบียฬหมายถึงผู้มาขอพึ่งอาศัย ผู้ร่วมงาน การสับเปลี่ยน การแลกกัน ผู้เบียดเบียฬ ความหายนะการเจ็บการตายแสดงว่าเจ้าชะตามักมีผู้มาขอพึ่งพกอาศัยอยู่เสมอ และมักต้องสัมพันธ์กับญาติอยู่เสมอ ประกอบกิจการงานร่วมกับเครือญาติแต่ก็มักต้องประสพความวิบัติกันบ้างเหมือนกัน

ในระยะต่อไปเราก็ตรวจดวงดาวของเจ้าชะตา ว่ามีดาวอะไรไปสถิตย์อยูราศีใดบ้าง เพราะในราศีหนึ่ง ๆนั้นมีดาวเป็นเจ้าเรือนครอง เรียกว่าเรือนเกษตร ท่านนักศึกษาในระยะต้น ๆ จะต้องรู้และท่องจำให้ได้ ในรศีเมษมีดาวอังคารเป็นเจ้าเรือนครองราศีพฤศภมีพระศุกร์เป็นเจ้าเรือนครอง ราศีมิถุน มีดาวพุธเป็นเจ้าเรือนครอง ราศึกรกฎมีดาวจันทร์เป็นเจ้าเรือนครอง ราศีสิงห์ มีดาวอาทิตย์เป็นเจ้าเรือนครอง ราศีกันย์มีดาวพุธเป็นเจ้าเรือนครอง ราศีตุลมีพระศุกร์เป็นเจ้าเรือนครอง ราศีพิจิกมีอังคารเป็นเจ้าเรือนครอง ราศีธนูมีพระพฤหัสบดีเป็นเจ้าเรือนครอง ราศีมังกรมีดาวพระเสาร์เป็นเจ้าเรือนครอง ราศีกุมภ์มีราหูเป็นเจ้าเรือนครองเฉพาะราศีกุมภ์นี้ความจริงเป็นเรือนของพระเสาร์ ราหูไม่มีเรือนครอง บูรพาจารย์มีความเห็นราหูควรจะไปอยู่ราศีกุมภ์ จึงจะเหมาะสมกว่าจึต้องรู้ไว้ทั้งสองอย่างด้วย ราศีมึนมีดาวพระพฤหัสบดีเป็นเจ้าเรือนครอง ตาวเจ้าเรือนที่ไปครองอยู่แต่ละราศีนี้ ย่อมมีนิสัยต่างๆกันออกไป เช่น..

อาทิตย์ แสดงถึงความเป็นเจ้าใหญ่นายโต ป็นราชา ประธานาธิบดี เป็นหัวหน้าในหมู่ชนเป็นผู้สูงศักดิ์ สูงด้วยยศด้วยฐานะ หรือมีตำแหน่งชั้นสูง ๆชั้นหัวหน้า มีความมักใหญ่ใสูง ทะเยอทะยาน มีความระส่ำระสายร้อนรนอยู่เสมอ มีใจนักเลงกล้หาญ มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ถ้าเกี่ยวแก่อวัยวะทางร่งกาย คงได้แก่สายตา วิถีประสาท เส้นโลหิต หัวใจ

พระจันทร์ แสดงถึงความอ่อนไหว ความเป็นมารดาพี่เลี้ยงเด็ก นาพยาบาล นางผดุงครรภ้ สตรีผู้สูงศักดิ์ ราชินี การท่าเรือ การประมง สุรา การเดินทางน้ำ ความเป็นแม่บ้าน ผู้จัดระเบียบ ความรอบคอบมัธยัธยัสถ์หนียวแน่น ความมีเสน่ห์สดชื่นและนุ่มนวล เกี่ยวแก่อวัยวะทางร่างกายคงได้แก่ดวงตาทั้ง ๒ นม มดลูก ดี กะเพาะอาหาร ประสาท มันสมอง เครื่องสืบพันธุ์

พระอังคาร แสดงถึงความแข็งกร้าวเช่นการทหาร คนฆ่าสัตว์ นักเคมี ศัลยแพทย์ การเป็นช่างดัดผม ช่างเหล็ก เครื่องเหล็ก โลหะ เครื่องจักรเครื่องยนต์ เชิงตะกอน ทรากศพ อิฐ ปูน หิน การกีฬา ความอดทน อาวุธต่างๆ เกี่ยวแก่ร่างกายได้แก่ศรีษะ จมูก ประสาทที่รู้กลิ่นได้ ศัลยแพทย์ มีความรู้สึกรุนแรง ฉุนเฉียวไม่ท้อถอย ทนงศักดิ์ รักการต่อสู้

พระพุธ แสดงถึงความคิดเห็น การหยั่งรู้ ความเข้าอกเข้าใจ ชอบเหตุผล สติปัญญา เชาว์ไหวพริบ ความละเอียดลึกซึ้งความจดจำ การพูดจ หมายถึงสถานที่ศึกษา โรงแรม ศิลปวิทยาการ วิทยาศาสตร์ อักษรศาสตร์ งานพิมพ์ โรงพิมพ์ นักเขียน การขายหนังสือ การค้าประเภทหีบห่อ สัตว์ ๔ เท้า และมากกว่า ๔ เท้า เช่น กุ้ง ปู แมงดาทะเล คนรับใช้ ลูกจ้าง

พระพฤหัสบดี แสดงถึงความเห็นอกเห็นใจ ความคิดความดีทั้งหลาย อัธยาศัยดี นคบสมาคม มีความรู้รอบคอบ รักความเป็นระเบียบ และสวยงาม การสามัคคี มีความเลื่อมใสต่อสิ่งต่างๆที่เห็นว่าเหมาะสม การศาสนากฎหมาย เคารพต่อสิทธิของปวงชนรักความสงบ เห็นใจผู้อื่น โบสถ์ วัดวาอาราม นักบวช ผู้พิพากษา ตุลาการ ศาลยุติธรรม มหาวิทยาลัย นักศึกษา หน้าที่เกี่ยวแก่ประชาชน สภาหอสถานที่ประชุม รัฐบาล การกุศล โรงพยาบาล นายแพทย์ การมหรสพ เสื้อผ้า คนขายผ้าผ่อนแพรพรรณ ขายของชำ ของเก่าแก่โบราณ ของที่ใช้แล้ว หรือเก็บไว้นานๆ ยารักษาโรคเกี่ยวแก่อวัยวะได้แก่เท้า ตะโพก ตับ โลหิต เนื้อกล้าม อาหาร

ดาวพระศุกร์ แสดงถึงความสะทกสะเทือนใจ ความรักที่เกิดจากสิ่งที่พอใจ ความรู้สึกที่เกี่ยวข้องกับเรื่องรักๆใคร่ มีความนิยมชมชอบ เห็นสวยเห็นงาม หรูหราโอ่อ่า ร่าเริงสนุกสนาน ยินดี ตีค่าเพราะความงาม หรูหรา ฟุ่มเฟือย เครื่องแต่งกาย รูปภาพ ความงามของธรรมชาติ ดอกไม้ เครื่องหอม การเต้นรำ มหรสพ งานศิลปิน ศิลปะต่างๆ การร้องเพลง ความบันเทิง เกี่ยวแก่คู่รัก ภรรยา บ้านเรือนสถานที่ต่าง ๆที่ยินดี สิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ๆ การเห็นสิ่งภายนอกที่สวยงามเกี่ยวกับอวัยวะได้แก่คอ ไต เครื่องสืบพันธ์ ผิวพรรณ รูปร่างลักษณะ เกี่ยวกับการประดับประดา

ดาวพระเสาร์ แสดงถึง ความต้องการที่จะแตกแยกออกจากกัน หรือ อยู่ตามลำพังโดดเดี่ยว มีนิสสัยที่เห็นว่าตนสำคัญกว่าคนอื่นความตั้งใจแรงมาก มีความรู้สึกสูง อดทน แรงกว่าดาวพระเคราะห์อื่น ๆทั้งหมด นอกจากมฤตยู แต่ชักช้าเฉื่อยชา รู้จักอดกลั้น และคุมสติของตนเอง ระมัดระวัง มั่นคง บึกบึน ความสามารถที่เชี่ยวชาญแสดงถึงธาตุดิน ผู้มีหน้าที่เกี่ยวแก่ที่ดิน ชาวนาชาวสวน ช่างก่อสร้าง อิฐ ปูน ขุดแร่ ครื่องดินเผา เลี้ยงสัตว์ นักบวชลัทธิต่างๆ สถานที่เกี่ยวแก่เนินสูง งานโยธา ตำรวจ ป่าช้า ทรากศพ เกี่ยวแก่อวัยวะได้แก่ กระดูก ฟ้น ม้าม ไข้เจ็บ โรคขัดข้อ หกลุ้ม เชื่อมซึม ผิวหนัง

ดาวราหู แสดงวิถีชีวิตคล้ายกับพระเสาร์ แต่ทว่ามีควาเห็นเอกเทศ อำนาจที่ดลบันดาลของราหูนั้นอ่อนด้อยกว่าเสาร์ แต่เป็นโมหะความโลภหลง มุทะลุตึงตังเท่านั้น

เมื่อเราทราบอิทธิพลของดาวต่างๆแล้ว ว่ามีนิสสัยเป็นอย่างไรตลอดจนธาตุแท้ของดาวนั้น ๆ เมื่อเราผูกดวงชะตาขึ้นแต่ละดวง จะเห็นดวแต่ละดวงไปอยู่ในราศีตางๆกัน เมื่อมีดาวดวงหนึ่งไปอยู่ในราศีหนึ่ง ดาวดวงนั้นจะถูกเจ้าเรือนเกษตรเป็นผู้อบรมบ่มนิสสัยให้เปลี่ยนแปลไป ท่านนักศึกษาจะยึดเอาอย่างตำราที่กล่าวถึงอิทธิพลดาวต่าง ๆมาทำนายหาได้ไม่

ถ้ายึดเอากฏตายตัวมาทำนายย่อมจะเกิดผิดพลาดได้ ดาวที่เข้าไปอาศัยอยู่จะต้องถูกเจ้าเรือนเกษตรอบรม ให้เป็นไปตามนิสสัยของเขาจะมากหรือน้อยย่อมขึ้นอยู่แก่เจ้าเรือนเกษตรนั้น ๆถ้าอยู่ในเรือนเกษตรของบาปเคราะห์ ก็ย่อมมีนิสัยไปทางเจ้าเรือนแรงมาก ถ้าอยู่ในเรือนสภะเคราะห์ก็เบาไป

เช่นราหูไปอยู่ในเรือนเกษตรของพุธ ราหูจะมีนิสสัยไปทางพุธ แต่นิสสัยราหูเดิมที่มีนิสสัยมุทะลุตึงตัง อวดอิทธิพลหุนหันอยู่เดิม ถูกเจ้าเรือนเกษตรพุธอบรมบ่มนิสสัย ทำให้ราหูอ่อนลง แต่ราหูแม้วจะถูกพุธอบรมแต่ก็ยังทำให้ชวนเชเรรวนไม่น้อยเหมือนกัน เหมือนกับสิงโคที่ขังอยู่ในกรง ทั้งๆที่ไปไหนไม่ได้ แต่พอมันคำรามกรรโชกขึ้นแต่ละครั้งทำให้เราขวัญเสียไปเหมือนกัน พุธมีนิสัยอ่อนไหว เฉลียวฉลาด เล่ห์เลี่ยมทันคนเมื่อราหูมาถูกอบรมจึงเรียกกันว่า " ราหูเจ้าเล่ห์ " ถ้าดาวพุธไปอยู่เรือนเกษตรของราหู พุธจะถูกราหูอบรมทำให้นิสสัยเป็นราหู คือ ทะลุ ตึงตัง หวาดระแวง ไม่ค่อยจะเชื่อมั่นในตนเอง โกรธง่าย ห่ายเร็ว อย่างที่พูดว่า " พุธเจ้าแสนงอน "

การใคร่ครวญพิจารณา ต้องใคร่ครวญกันให้นาน ๆว่า าวที่ไปสถิตย์อยู่ในราศีของเกษตร มีการอบรมกันอย่างไร ใครจะหนักหรือเบามากน้อยเพียงไร ข้อสำคัญอยู่ที่ว่าดาวแต่ละดวงที่เข้าไปอยู่ในเรือนเกษตร เจ้าเรือนเกษตรจะยึดดึงเอานิสสัยของดาวนั้น ๆ ให้เปลี่ยนแปลงมาทางเจ้าเรือนเกษตรเสียทั้งหมดหาได้ไม่ จะดึงมาได้ประมาณ ๕๐ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น อันนิสสัยเดิมของดาวนั้น ๆ ย่อมมีอยู่ประมาณ ๕๐ เปอร์เซ็นต์เหมือนกัน นักศึกษาต้องฉลาดและมีไหวพริบ ในการแบ่งน้ำหนักอุปนิสสัยระหว่างดาวกับเจ้าเรือนเกษตร ถ้าท่านแบ่งได้ถูกต้องการทำนายก็ย่อมคล้ายกับตาเห็น

เมื่อเราเข้าใจในการที่ดาวอบรมกันแล้ว เราก็ตรวจดูพื้นดวงชะตา ระหว่างลัคนาเดิมกับเกษตรลัคนา อ่านให้สัมผัสกันไปว่าดาวอะไรเป็นอะไรแกลคนาเดิมและเกษตรลัคนา ดังที่บอกไว้ข้างตัน ถ้ามีดาวประชุมกันตั้งแต่สองดวงขึ้นไป เราก็แบ่งเฉลี่ยเป็นกลางๆ อย่าทำนายกดดวงดาวจนเกินไปจะผิดพลาดได้งง่าย ถ้ามีดาวอะไรนำหรือเบียฬกัน ก็ต้องอ่านให้หย่อนไป ถ้ามีดาวร่วมโยคเล็งหรือส่งกัน ก็อ่านให้แรงขึ้น

เมื่อเราใคร่ครวญเห็นแน่แก่ใจแล้ว ถ้าเราจะดูปัจจุบันว่าเขามีความเป็นอยู่อย่งไร เราต้องตรวจดูอายุปัจจุบันว่าเขามีอายุเท่าไหร่ อายุตั้งแต่ ๑ ปี ไปจนถึง ๓๕ ปี เขาถือว่าอายุของเจ้าชะตายังอยู่ในอดีต ถ้าพ้น ๓๖ ปีไปแล้วถือว่ากำลังอยู่ในอนาคต ส่วนปัจจุบันให้ถือเอาปีที่เจ้าชะตาต้องการดู แล้วย้อนหลังไป ๑ ปีกับดูไปหน้าอีก ๑ ปีรวมทั้งปีปัจจุบันด้วยเป็น ๓ ปี เราตรวจพื้นฐาน ที่อาทิตย์ จันทร์ อังคาร พุธ ศุกร์ และเกตุ ถ้าอายุของเจ้าชะตายังอยู่ในอดีตเขาถือว่าชีวิตของเจ้าชะตา จะหมุนเวียนอยู่ในกลุ่มดาวเหล่านี้

ส่วนดาวอื่น ๆเป็นเพียงดาวช่วยสนับสนุน ถ้าอายุตั้งแต่ ๓๖ ปีขึ้นไป ให้ตรวจดูพระพฤหัสบดี เสาร์ ราหู และมฤตยู ชีวิตของเจ้าชะตาจะเปลี่ยนมาวนเวียนมาอยู่ที่ดาวเหล่านี้ ส่วนดาวอื่น ๆก็กลับมาเป็นฝ้ายสนับสนุนเท่นั้น ถ้าอายุของเจ้าชะตายังอยู่ในอดีต เราตรวจดูดาวดังที่กล่าวมาแล้ว แสดงคุณโทษอย่างไรกับลัคนาเดิม และเป็นอะไรกับเกษตรลัคนา ถ้าสัมพันธ์ดีแก่ลัคนาเดิม ก็หมายความว่า เจ้าชะตามีชีวิตเจริญในวัยหนุ่ม ถ้าสัมพันธ์ไม่ดี ชีวิตในวัยหนุ่มมักต้องประสบแก่ความยากลำบาก หรือหายนะอยู่เนืองๆถ้าอายุเกิ ๓๖ ปีไปแล้ว ดาวใหญ่ ๆมีการสัมพันธ์ดีแก่ลัดนาแสดงว่าเจ้าชะตามีความเจริญเมื่อภายแก่ตัว ถ้าสัมพันธ์ไม่ดีภายแก่มักจะประสบแต่ความลำบากยากแค้น

เรื่องอดีต ปัจจุบัน และ อนาคต พึงสังเกตุดูให้ดีเมื่อเราต้องการทราบเหตุการณ์ปัจจุบัน เราก็เปิดปฏิทินโหรตรวจดูว่า ในระยะปัจจุบันมีดาวโจรไปอยู่ในราศีไหนและราศีนั้นมีดาวเดิม เจ้าชะตาเป็นอะไรอยู่บ้าง เมื่อทราบแล้วเราดูที่จรมานั้นในพื้นดวงเป็นอะไรอยู่ก่อน ให้ถือดาวจรเป็นผู้นำเหตุการณ์มาให้ ดาวพื้นเดิมที่ถูกทับกันนั้นเป็นผู้กระทำ ถ้าในเรือนที่จรไปทับนั้นไม่มีดาวอะไร  ต้องถือเอาเจ้าเรือนเกษตรเป็นเครื่องพิจารณา ว่าเจ้าเรือนเกษตรไปอยู่ในราศีไหนก็จับเอาดาวนั้นเป็นเครื่องพิจารณา

ตัวอย่างเช่น ราหูเดิมเป็นสหัชชะหมายถึงเพื่อนเมื่อเรา เปิดปฏิทินประจำปีดู ราหูในปีนั้นโคจรมาอยู่ราศีกรกฎ คือเรือนจันทร์ เราก็ย้อนกลับไปดูจันทร์ในพื้นควงเดิมของเจ้าชะตาว่าอยู่ในเรือนไหน สมมุติว่าจันทร์เป็นกะดุมภะ คือเป็นสองแก่ลัคนา หมายถึงบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ตำแหน่งหน้าที่การงาน ก็อ่านว่า เพื่อนจะชักชวนร่วมการงานแต่ตอนหลังให้ระวังเพื่อนจะนำความเดือดร้อนมาให้เกี่ยวแก่เรื่องการเงิน จะเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัย เป็นต้น

ถ้าเขาถามว่า เพื่อนที่นำความเดือดร้อนมาให้นั้น เป็นคนอย่างไร? เราก็ตรวจดูเกษตรลัดนาอีกครั้งหนึ่ง เมื่อรู้ว่าเพื่อนนั้นเป็นมาอย่างไร เกษตรลัคนาเรือนราหูเป็นลาภะ แสดงว่า เพื่อนที่เคยช่วยเหลือกันนั่นแหละ เป็นผู้นำความเตือดร้อนมาให้

วิธีอ่านเบื้องต้นดังนี้ จึงจะถูกต้องตามหลักของโหราศาสตร์ไทยเรา ถ้าดาวเดินไปดีก็ทำนายดีไปเลย ถ้าดาวเดินไปเสียก็ทำนายเสียไป แต่ต้องไม่ทิ้งหลักเดิม ต่อจากนี้ท่านนักศึกษาจะต้องทราบถึงวิธีเล่นทางจันทรคติ และทางสุริยคติด้วย ผู้เชียนขอให้ท่านนักศึกษาจงเข้าใจไว้ในที่นี้ด้วยว่าตำราโหรศาสตร์ที่เขียนกันในเมืองไทยส่วนมากมักจะเขียนกันแต่ทางสุริยคติเกือบทั้งนั้นส่วนทางจันทรคติไม่ค่อยจะได้พบแม้ว่าจะมีอยู่บ้างก็มักเขียนปะปนกันคือเขียนรวมทั้งสองอย่าง จึงเกิดเป็นการคลุมเครือกันขึ้น ทำให้นักศึกษาชั้นหลัง ๆไม่เข้าใจ หรือไม่รู้เรื่องเสียเลย การที่โหราศาสตร์เราถูกประฌามก็เพราะเรื่องนี้แหละจึงต้องหันไปหาทักษา เอามาเล่นประกอบกับดวงชะตา ตามความเป็นจริงแล้วโหรศาสตร์ไทยเราสามารถล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้ำได้ทุกระยะ ๕ นาทีโดยผู้ที่เขียนมีอยู่พร้อมบริบูรณ์ แต่ต้องดำเนินตามแนวของผู้เขียน จึงจะพบความจริง

พื้นดวงชะตาเดิม คือแผนที่ชีวิตของเจ้าชะตา ที่จะต้องมีชีวิตเดินตามแผนที่ ที่ดวงดาวให้กำหนดไว้จะเดินนอกเหนือแผนที่ชีวิตไปไม่ได้ ดวงดาวที่โคจรอยู่ในท้องฟ้านั้น จันทร์เป็นดวงดาวที่อยู่ใกล้โลกและตัวเราที่สุด แม้แต่น้ำขึ้นน้ำลงก็ตกอยู่ใต้อำนาจของจันทร์ ดังนั้นพื้นดวงเดิมของเจ้าชะตาเขาจึงต้องอ่านทางจันทรคติ หมายถึงโลกภายในส่วนการเคลื่อนไหวหรือการใช้ชีวิตที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ก็ต้องอาศัยกลุ่มดาวในท้องฟ้าบังคับอยู่ตลอด เวลาเขาอ่านทางสุริยคติ หมายถึงโลกภายนอก

การอ่านทางจันทรคติ คงอ่านคล้ายๆดังผู้ที่ศึกษาเคยเรียนมาแล้ว แต่ความหมายนั้นผิดกัน
และบางเรือนอ่านไม่เหมือนกัน แต่ก็มีอยู่ ๔ เรือน คือ

เรือนกะดุมภะ "กะดุมภะ" เป็นคำอ่านของทางสุริยคติ ส่วนทางจันทรคติอ่านว่า "กะดุมภี"หมายถึงการอาชีพ บ้านเรือน

เรือนอะริ " อะริ " เป็นคำขอสุริยคติ ส่วนทางจันทรคติอ่านว่า "อารี" หมายถึงผู้มีจิตใจกว้างขวาง เผื่อแผ่ การเสียสละ นักบวชนักบุญ งานหุ้นส่วนบริษัท
 
เรือนมรณะ "มรณะ" เป็นคำของทางสุริยคติ ทางจันทรคติอ่านว่า "จรลี" หมายถึงเมืองไกล การเดินทาง ผู้แสวงหาโชค นักพูด นักโฆษณา ตัวแทน การติดต่อ

เรือนวินาส "วินาส" คำนี้เป็นคำของทางสุริยคติทางจันทรคติอนว่า "เบียดเบียฬ" หมายถึงผู้เข้ามาอยู่อาศัย ผู้ร่วมงน การให้ความคุ้มครอง การสร้างหลักฐานอันเป็นมรดก กว้างขวาง การสังคม มีความเห็นอกเห็นใจกับบุคคลที่มีฐานะต่ำกว่า

นอกจากเรือนเหล่านี้ก็มีวิธีอ่านเหมือนกัน จะผิดกันบ้างก็คือเรือนปัตตะนิ ทางจันทรคติหมายถึง พี่ ป้า น้ อาเขย สะใภ้ การแบ่งสันปันส่วน เพิ่มขึ้นอีกเท่านั้น ที่ผู้เขียนกล่าวมานี้จะเห็นได้ว่า การอ่านความหมายระหว่างจันทรคติกับสุริยคตินั้นผิดกัน ตอนนี้ท่านนักศึกษาอาจจะต้องเกิดสงสัย ไม่รู้จะเข้าใจกันได้อย่างไร ความเป็นจริงก็ไม่ยากเลย พึงเข้าใจว่า ถ้าเราจะตรวจพื้นดวงของเจ้าชะตา หรือ เล่านิทานชีวิตให้เจ้าชะตาฟัง ให้อ่านทางจันทรคติ ถ้าอยากจะทราบชีวิตที่ผ่านมาแล้ว หรือกำลังจะเคลื่อนไหวต่อไป ต้องอ่านทางสุริยคติ คือดาวที่กำลังเข้ามาทับ หรือเข้ามาในเรือนเดิม เราต้องตรวจดูว่าดาวใหญ่ ๆได้โคจรผ่านเข้ามาในเรือนอารีจรลี จะเบียดเบียฬกี่ครั้งแล้ว ขณะที่ดาวเดินเข้าในเรือนเหล่านี้ เราก็อ่านกลับเป็น อะริ มรณะ วินาส คือผลดีผลเสียจะเป็นไปในรูปนี้ หรือดาวซึ่งเดิมอยู่ในเรือนอารีจรลี และเบียดเบียฬเวลาโคจรมาทับเรือนอะไรก็ตาม ก็อ่านทาง อะริมรณะวินาสโคจรเข้ามาเหมือนกัน คำว่า อารี จรลี เบียดเบียฬให้ใช้เฉพาะเรือนเดิมหรือพื้นเดิมทนั้นเพื่อรู้แนวทางของชีวิต

การอ่านดวงผิด บางทีก็มาจากการวางลัคนาผิดหรือเล่นองศาผิด นี่เป็นจุดสำคัญผู้เขียนเคยพบมามากมายที่วางลัคนาผิด ผู้เขียนเข้าใจว่าผู้วางลัดนาอาจไม่เข้าใจ หรือไม่เคยรู้เลยในเรื่องจันทรคติเช่นดาว "พุธ" หมายถึงความอ้วน บังเอิญเวลาเกิดของเจ้าชะตาอยู่ใกล้ๆกับดาว "พุธเข้าด้วย ก็เลยถือโอกาสวางลัคนาไว้กับดาว "พุธ"เสียเลย พราะเข้าใจว่าพุธกุมลัดนาแล้วต้องเป็นคนอ้วนความจริงแล้วมิได้เป็นดังนั้นเสมอไป การวางลัดนาไว้กับพุธโดยมิได้มีดาวอื่นเข้ามานำหรือเบียฬแล้ว รูปร่งของเจ้าชะตาจะสมส่วน คือไม่อ้วนและไม่ผอม มีรูปร่างสมบูรณ์ดี การที่มีร่างกายอ้วนขึ้นนั้น เกิดจากดาวพุธนำหรือเบียฬลัคนาต่างหาก ท่านนักศึกษาจงพิจรณาดูให้ดี ถ้าหากไม่มีดาวนำหรือเบียฬลัคนา ก็ให้ดูตาวเล็งเป็นสำคัญ แต่ถ้าหากว่าดาวเล็งลัคนาเกิดมีดาวอะไรนำ หรือเบียพลักษณะรูปร่งของเจ้าชะตาก็เปลี่ยนไปอีก แต่ถ้าเกิดไปมีทั้งเบียฬทั้งนำจะตัดสินอย่างไร ตอนนี้ท่านนักศึกษาเอาดาวบาปเคราะห์เป็นเกณฑ์ เรื่องการพิจารณาการวางลัคนานี้สำคัญมาก ถ้าวางลัคนาผิดก็อ่านดวงไม่ถูกเลย

ในลำดับต่อไปก็เรื่ององศา องศานี้สำคัญเท่าๆกับลัคนา ถ้าเราวางลัคนาถูกแต่เล่นองศาไม่เป็นก็ถูกอีกเหมือนกัน เมื่อเราวางลัคนาเรียบร้อยแล้วเราจงหาองศาลัดนาและองศาดาวทุกดวง เพื่อให้รู้ว่าลัดนาและดาวต่าง ๆในพื้นดวงชะตามืองศาเท่าไหร่ เพื่อจะได้เปรียบเทียบกันดูระหว่างองศลัคนากับดวงดาวต่างๆ ถ้าดวงดาวที่ดีเด่นเช่นองค์เกณฑ์คู่ธาตุคู่มิตรสมพล ตรีโกณ จตุสดัย เกณฑ์เป็นหนึ่ง เป็นสอง เป็นสาม เป็นห้า เป็นเจ็ด เป็นเก้า เป็นสิบและ สิบเอ็ดแก่ลัดนา และมีองศใกล้เคียงกับลัคนา ดาวเหล่านั้นจะส่งอิทธิพลให้แก่เจ้าชะตามาก ถ้าห่างไกลเกิน ๑๐ องศา ก็หย่อนไป ถ้าดาวมีองศาใกล้เคียงกับลัคนาเกิดไปเป็นอะริมรณะ และ วินาส เข้าจะทำให้ผันผวนไปตามลักษณะของดาวที่เป็นอะริมรณะวินาส ในขณะที่ดาวโคจรมาทับกัน

วิธีหาองศาลัคนา ผู้ศึกษาอาจจะเคยเรียนกันมาบ้างแล้ว แต่บางท่านอาจจะไม่ค่อยสนใจวิธีหาองศาลัคนา ซึ่งความจริงก็มีอยู่ในตำรา ซึ่งพิมพ์วางขายในท้องตลาดถมไป แต่ในที่นี้ผู้เขียนก็จะหยิบยกมาไว้ในที่นี้ด้วย เพื่อให้ตำราเล่มนี้รัดกุมยิ่งขึ้น คือเราคิดเอาแต่ดิถีที่อาทิตย์ยกราศี มาจนถึหลังดิถีที่เราเกิด อาทิตย์ยกราศีมาจนถึหลังดิถีที่เราเกิด อาทิตย์ยกราศีมาแล้วจนถึงหลัง ดิถีที่เราเกิดได้กี่วัน (คือนับแต่อาทิตย์ยกจนมาถึงวันได้กี่วันคิดวันเต็ม) เอาไปคูณอันโตนาที ในราศีที่อาทิตย์ได้เท่าใดแล้วเอา ๓๐ หาร ผลลัพธ์เป็นอดีตแล้วกลับเอาไปลบอันโตนาทีอีก ลัพธ์เป็นอนาคตอุทัยแล้วนับแต่ย่ำรุ่ง(คือ ๖โมงเช้)ไปจนถึงเวลาเกิดได้กี่ชั่วโมง กี่นาที แล้วเอาอนาคตอุทัยที่ยังเหลืออยู่ในราศีที่อาทิตย์สถิตย์ลบอันโตนาทีตามราศี ( เหมือนอย่างเราหาลัคนาธรรมดา)จนถึงราศีที่ลบกันไม่ได้แปลว่าลัดนาได้สถิตย์อยู่ในราศีนั้นแล้ว ส่วนเศษนาทีที่ยังเหลืออยู่ให้เอา ๑๕๐ คูณได้ผลลัพธ์เท่าใดเอา ๑๐ หาร ได้เท่าไรเอา ๖๐ หารอีก ได้ผลลัพธ์เท่าไรเป็นองศาเศษลิปดา

ต่อจากนี้เราจะต้องเข้ใจความหมาย ของดาวเคราะห์แต่ละดวงด้วย ผู้เขียนเคยเห็นนักศึกษาหลายท่านเข้าใจความหมายของดาวผิดเพี้ยนไป เช่นการเงินมักจะหมายความเอาดาวพระพุธเป็นหลักสำคัญ ตามความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่ดังที่เข้าใจ

ดาวพุธนี้หมายถึงความคิดอ่าน เสาะแสวงหา ค้นคว้าติดต่อ ศึกษา ถ้าจะเข้าใจเอาว่าหาเงิน ก็มีส่วนถูกอยู่บ้าง แต่ไม่ตรงนัก เพระดาวพุธนั้นหมายถึงหาอะไรก็ได้ แต่ถ้าจะหมายถึง เงิน จะต้องประกอบกับจันทร์หรือพระศุกร์ จึงจะเรียกว่าหาเงิน จันทร์ดวงนี้หมายถึงเงินประเภทหมุนเวียน เช่นการธนาคาร การงินกู้หนี้ยืมสิน ส่วนพระศุกร์นั้นหมายถึงเงินประเภทกำไรสุทธิเงินที่หักทุนหรือหักการใช้จ่ายเสร็จสิ้นไปแล้ว

บางท่านยังหมายเอาดาวพฤหัสบดีเป็นเงินอีกด้วย ความจริงพฤหัสบดีเป็นดาวสระสมเป็นดาวเก็บหรือเรียกว่า "เซ็ฟ" คือเก็บทุกอย่างที่เรามีอยู่ การสร้างมรดก ถ้าเราจะหมายเอาพฤหัสบดีด้วย ก็ไม่ผิดนักแต่เป็นเงินที่เก็บสะสม

ฉะนั้นดาวพุธ จันทร์ ศุกร์ และพฤหัสบดี จึงต้องมีความกันกับเรื่องการงินอยู่เสมอผู้ศึกษาควรเข้าใจไให้ดี และทดลองดูจะใกล้ความจริงมาก ดวงชะตาที่มีจันทร์ พุธ ศุกร์ และพฤห้สบดีแสดงคุณเด่น การเงินก็จะสมบูรณ์ดี ถ้าเสียก็ตกต่ำไป

หลักสำคัญในการดูดวงนั้น ผู้เขียนขอแนะนำท่านไว้ในที่นี้ว่า เมื่อท่านได้ตรวจดวงดาวโดยทั่วๆไปแล้ว ท่านจะต้องมุ่งดาวพุธ เป็นจุดแรกเริ่มที่จะวิจารณ์ในอันดับต่อไป พิจารณาดูว่า พุธเป็นอะไรกับเจ้าชะตา และมีดาวบาปเคราะห์หรือสุภะเคราะห์อยู่ด้วยหรือเปล่า เพราะพุธหมายถึงอารมณ์แสดงการนึกคิดและใฝ่ฝัน ถ้าพุธไปอยู่กับสุภะเคราะห์ก็มุ่งหรือใฝ่ฝันไปในทางดี ถ้าอยู่กับบาปเคราะก็มุ่งหรือใฝ่ฝันไปในทางไม่สู้ดี มีอารมณ์ร้อนรนรุนแรง ถ้าเป็นอะริมรณะและวินาส มักมีอุดมคติไม่ค่อยตรงกับผู้อื่นแต่ชอบในทางศึกษาค้นคว้าหาชื่อเสียง แต่ไม่ค่อยยึดเป็นหลักในการประกอบอาชีพ กลับไปประกอบอาชีพซึ่งตนไม่เคยศึกษา
มาก่อน เรื่องอนุภาพของดาวพุธนี้มีมากมายเหลือที่จะพรรณามาไว้ที่นี้ ถ้ามีจังหวะดีผู้เขียนจะบรรยายไว้ในหนังสือเล่มต่อไป

ดาวพุธนี้เขาถือเป็นคาวแห่งความมุ่งหวังของเจ้าชะตาถ้าท่านนักศึกษามีความเห็นว่า ดาวพุธเป็นเพียงส่วนประกอบย่อย ๆละก้อ เข้าใจผิดไปถนัดทีเดียว อนุภาพของดาวพุธยิ่งใหญ่นัก พุธเป็นธาตุละลาย สามารถหยุดยั้งดาวอื่น ๆได้หมด แม้กระทั่งราหูซึ่งเป็นดาวมุทะลุตึงดังเมื่อพบกับพุธเข้า ราหูจะอ่อนปวกเปียกไปทีเดียว แม้จะมีอิทธิฤทธิ์อยู่บ้างก็เพียงเสียงผู้ขวัญเท่านั้น แต่หามีอิทธิพลอะไรไม่

เกติอาจารย์ท่านจึงจัตให้ดาวพุธเป็นดาวส่งเสริมหรือขัดขวาง ดาวพุธเป็นดาวที่เดินไม่ค่อยจะปกติ มีพักตร์มนท์และเสริดอยู่บ่อยๆ ชีวิตของเจ้าชะตที่ไม่ค่อยจะราบรื่นลุ่มๆ ดอนๆ ติดตะกุกตะกัก ก็เพราะพุธนี่แหละเป็นเจ้าการ

บางท่านอาจจะสงสัย เพราะเหตุว่าเราเคยศึกษากันมา ส่วนมากเราใช้ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวหยุดยั้ง หรือ ช่วยส่งเสริม ความจริงดาวพฤหัสบดีเป็นเจ้าแห่งความสำเร็จมีการส่งเสริมหรือ หยุดยั้งเหมือนกัน แต่เป็นไปในด้านสันติสงบ ไม่พลุกพล่าน มีความเยือกเย็น ค่อยทำค่อยไปและมีเหตุผล ส่วนดาวพุธนั้นรวดเร็วกะทันหัน สะดุดหยดทันทีไม่ยอมฟังเหตุผล เป็นการพักไว้ ก่อนแต่ถ้ามีดาวอื่นเข้ามาพัวพันอยู่ด้วยเกินสองดาวขึ้นไปจะกลับกลายเป็นรวนเรอีกหลักอีเหลื่อ ชักช้าอึดอาดไม่แน่นอน และเต็มไปด้วยความหวาดระแวง

พุธถ้าได้รับแสงอาทิตย์ ก็จะมีอิทธิพลแรงยิ่งขึ้นถ้าอยู่กับจันทร์คู่มิตรก็แรงยิ่งขึ้นอีก เช่นคนป่วยซึ่งมีอาการหนักอยู่แล้ว ถ้าพุธกับจันทร์พบกันระวังจะมีอาการสลบหรือตายเลยก็ได้ พุธกับจันทร์ถ้าพบกันจะเป็นในราศีใดก็ตาม ควรพิจารณาดูดาวใหญ่ๆให้ได้ถ้าดาวใหญ่รอจังหวะที่จะแสดงโทษอยู่แล้วพอดาวพุธเข้าทับจันทร์ หรือจันทร์เดินเข้าทับพุธ ระวังจะเกิดโทษในระหว่างนั้น แต่ถ้าดาวใหญ่รอจังหวะแสดงคุณอยู่ก่อน เวลาดาวพุธกับจันทร์เข้าพบกันก็จะแสดงคุณในระยะนั้นเหมือนกันอย่างน้อยก็จะได้รับข่าวดีหรือมีผลดีในการติดต่อกิจการงาน

พุธถ้าทับอังคารหมายถึงการเจรจาพาที ถ้าอังคารดีเวลาพุธโคจรเข้าทับ พูดจาเป็นถูกใจคน อย่างที่มีคำพังเผยว่า "ปานเอกเลขเป็นโท" แต่ถ้ามีเสาร์หรือราหูเข้ามารวมอยู่ด้วย ก็ให้คำพูดเสียไปดังคำพังเพยที่ว่า "พูดฟุ้งเป็นผักบุ้งโหรงเหรง" คือหาแก่นสารอะไรไม่ได้ ถึงจะพูดเป็นแก่นสาร ก็หามีคนเชื่อถือไม่

ถ้าพุธมาทับพฤหัสบดี กลับกลายเป็นองค์เดียวกัน หรือกลมกลืนเข้ากันได้อย่างเป็นอย่างดี มีความนึกคิดดี มีความรู้ดีพูดอะไรมีคนเชื่อถือเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป มีตะบะในด้านความเกรงใจ แต่เกรงใจในด้นความดีไม่ใช่ด้านอิทธิพล มักได้เป็นครูบาอาจารย์คน มีอารมณ์สุขุมเยือกเย็นและรอบคอบเสมอ

ถ้าพุธอยู่กับศุกร์มักชอบในสิ่งที่เป็นระเบียบอันจัดไว้สวยงาม สิ่งใหม่ๆละเอียดอ่อน มีอารมณ์ในด้านของ ความรัก ความชอบ แต่ถ้าเป็นความรักกับเพศตรงกันข้ามมักจะเป็นความรักชนิดความงาม หรือความมีกิริยา มารยาทดี ไม่ใช่รักในด้านกามารมณ์  บางท่านที่เคยเรียนมานั้นมักจะเอาดาวพระศุกร์เกี่ยวพันในด้านรักอันเจือปนเข้าไปในด้านกามารมณ์ด้วยเสมอ ความเป็นจริงนั้นพระศุกร์ถ้าจะเกี่ยวข้องในด้านกามารมณ์ จะต้องมีจันทร์กับอังคารเข้ามาสัมพันธ์ด้วยจะเป็นในทางโยคร่วมเล็ง หรือ ทางเรือนเกษตรทางใดทางหนึ่งก็ตาม จึงจะเกิดเป็นกามารมณ์ขึ้นเรื่องพระศุกรนี้ก็มีมากสุดที่จะบรรยายไว้ในที่นี้หมือนกัน ขอให้เข้าใจไว้ว่พระศุกร์นั้นไม่ใช่เรื่องกามารมณ์ เป็นเพียงด้านความงามมากกว่า 

ถ้าพุธไปทับพระเสาร์ พระเสาร์เป็นดาวทุกข์อารมณ์ของเจ้าชะตามักจะเกิดความขุ่นมัวเก็บเอาความทุกข์เข้ามาสุมอารมณ์อยู่เสมอ แม้จะไม่แสดงออกด้วยกิริยาท่าทางก็แสดงอยู่ภายในจิตใจของเจ้าชะตา นอกจากเอาทุกข์เข้าสุมในจิตใจของตนแล้ว ยังชอบปลดทุกข์ให้ผู้อื่นอีกด้วย การปลดทุกข์ให้ผู้อื่นนั้น บางทีก็กลับกลายเป็นนำความทุกข์ให้อีกฝายหนึ่งด้วย เช่นเจ้าหน้ที่ตำรวจเข้าไปปราบปรามผู้ร้ายเมื่อปลดทุกข์ให้แก่ผู้ถูกทำร้ายโดยจับ
ผู้ร้ายได้จนถึงกับติดคุกติดตาราง ผลก็มาจากตำรวจเป็นผู้นำเอาความทุกข์มาให้ผู้ร้ายเหมือนกัน

พุธกับเสาร์จึงหมายถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้รักษากฎหมายงานเกี่ยวแก่ประชาชน งานส่วนรวม การจัดระเบียบการสัญญา

พุธกับราหูมีลักษณะคล้ายกับเสาร์ หากแต่ว่ารวดเร็วเด็ดขาด คิดว่าตนเองเป็นฝ่ายถูกเสมอ คิดว่าผู้อื่นนั้นไม่เสมอตน บางครั้งก็กลับตรงกันข้ามได้เหมือนกัน

พุธกับพระเกตุ เป็นคนเจ้าปัญญา เฉลียวฉลาดทันคน มีอารมณ์ว่องไวฉับพลันทันด่วน ตัดสินใจเด็ดขาดมิรอให้ชักช้าเป็น คนชอบคิดชอบฝัน ทำอะไรมักเหนือผู้อื่น ชอบทำตนให้เด่นอยู่เสมอ ปฏิภาณดี

พุธกับมฤตยู เป็นนักค้นคว้าในสิ่งที่มนุษย์ไม่ค่อยจะกระทำกันนัก เช่นเป็นนักสระสมของโบราณ เป็นนักศาสนา ชอบค้นคว้ในสิ่งลี้ลับแปลกๆ เล่นแร่แปรธาตุไสยศาสตร์ และวิปัสสนา กล่าวมานี้ยังเป็นส่วนน้อย แต่ก็คงจะเห็นแล้วว่าพุธมีความสำคัญอย่างไร และทำไมจึงต้องดูพุธก่อนอื่นเพราะพุธนี้หมายถึงอารมณ์ภายใน ซึ่งจะแสดงออกไปภายนอกนั่นเอง

เราจะตรวจดวงชะตาของใครก็ตาม เราต้องสมมุติตัวเราว่าขณะนี้เรากำลังเป็นแพทย์รักษาคนไข้ เราก็ต้องตรวจอารมณ์ดูก่อนว่า เจ้าชะตามีอารมณ์อย่างไร แล้วจึงไปตรวจดูตาวอื่น จนหมดทุกดวงเรื่องอารมณ์นี้เป็นจุดสำคัญในการตรวจดวงชะตา เราไม่รู้เรื่องอารมณ์เราอาจตรวจดวงชะตาผิดพลาด อารมณ์ก็คือการกำหนดชะตาชีวิตนั่นเอง

การที่ทำนายเขาไม่ถูกนั้นมีหลายประการด้วยกัน เช่นเวลาเกิดไม่แน่นอน เล่นองศาไม่เป็น อ่านอารมณ์ไม่ออก ไม่รู้จ้หวะชีวิต และ ผสมดาวไม่ถูกเป็นต้น ถ้าหากเราไม่รู้สิ่งเหล่านี้ เราจะเป็นนักโหราศาสตร์ที่ดีไม่ได้

ถ้าเราจะเอาดีทางโหราศาสตร์ เราต้องพยายามเรียนจริงๆ ให้รู้จริงๆ ชื่อเสียงก็ย่อมมีมาเอง มิใช่ได้ชื่อเสียงมาจากโฆษณาหรือเพื่อนฝูงช่วยโฆษณาให้ การได้ชื่อเสียงมาก็ควรให้ได้มาจากผู้ที่เคยมาได้รับการทำนายจากเราไปแล้ว โดยถือเอาเปอร์เซ็นต์ จากผู้ที่เคยมาตรวจชะตาไปแล้ว

มีคนเขาว่ากันว่า หมอดูนั้นมีอาถรรพ์เหมือนคนถูกสาป ไม่ค่อยจะร่ำรวยกับเขาข้อนี้ก็ยังสงสัยอยู่ เพราะหมอดูนั้นมีหลายตำรา ถ้ารู้ไม่จริงและเรียกเข้าแพงๆ คนเขาก็เช็ดกันหมด และค่อยๆจางหายไปเอง หมอดูที่เขารู้จริง มักจะเรียกไม่แพง เพราะเขามั่นใจว่า ผู้ที่เคยได้รับคำทำนายไปแล้ว จะต้องหวลกลับมาอีก

ต่อจากตาวพุธเราต้องดูดาวพระศุกร์อีกดวงหนึ่งพระศุกร์นี้เขามักจะเล่นคู่กับตาวพุธ เพราะพระศุกร์หมายถึงการแสดงออก ความแจ่มแจ้ง สำเร็จอันราบรื่น ความเป็นระเบียบ เรียบร้อย รูปหรือลักษณะที่สวยงาม แสงสะท้อนอันเกิดจากเงา เช่นกระจกเป็นต้น พระศุกร์เป็นธาตุน้ำ ได้แก่น้ำฝน น้ำกลั่น น้ำประปาเป็นต้น

ถ้าอยู่กับดาวพฤหัสบดี และจันทร์จะกลายเป็นหมอก หิมะ ความหนาวเยือกย็น พระศุกร์เป็นดาวแห่งความสำเร็จดวงชะตาของใคร ถ้าพระศุกร์ดีเด่นในดวงก็นับว่าเจ้าชะตา มักประสบโชคดีในทางการเงินความรัก ความสวยงามในรูปลักษณะและงานสำคัญๆ กี่ตนประสงค์

อานุภาพของดาวพระศุกร์ ใกล้เคียงกับดาวพฤหัสบดีที่สุด การที่จะผิดเพี้ยนกันก็แต่เพียงพระศุกรไม่สมารถหยั่งรู้อนาคตในสิ่งต่่างๆหรือคาดคะเนเหตุการณ์ได้ แต่พฤหัสบดีสามารถหยั่งรู้และคาดคะเนได้ นอกจกนั้นเกือบจะเหมือนกันหมด พระศุกร์ชอบในสิ่งใหม่ ๆอยู่เสมอเป็นดาวที่ชอบดิ้นรน ชอบความคำก้าวหน้า  ส่วนคาวพฤหัสบดีนั้นชอบสระสม ชอบสงบ รักสันติ รักความยุติธรรมพอใจในสิ่งที่ตนมีพระศุกร์มีการโคจรแบบเดียวกับ ดาวพุธคือ มีเวลาเดินเท่ากับพุธ และ มีการเสริด มนต์ พักตร์ เหมือนกันถ้าพระศุกร์เดินปกติและแสดงคุณโดยไม่มีดาวพุธหรือเข้ามาขัดขวาง มักจะมีโชคดีตามกำลังของดาวพระศุกร์

พุธกับศุกรเป็นดาวที่มีการโคจร ที่ร่วมเรียงเคียงไหล่กันเสมอ และเป็นธาตุน้ำด้วยกัน หากแต่เป็นน้ำคนละอย่าง พุธเป็นธาตุน้ำขุ่น น้ำคลอง น้ำที่ยังไม่ได้กลั่นกรอง ส่วนพระศุกร์ เป็นน้ำใสสะอาด เช่นน้ำฝน น้ำกลั่น น้ำที่กรองแล้ว

บางท่านอาจจะสงสัยว่าเพราะเหตุใดดาวพุธกับศุกร์มีการสัมพันธ์ใกล้เคียงกันอยู่เสมอ ถ้าจะคิดกันทางราศี ก็ห่างกันไม่เกิน ๔ ราศี เป็นอย่างมาก จึงใคร่ขอยกตัวอย่างความสัมพันธ์ ของดาวทั้งสองดวงไว้โดยย่อ เช่นเรามีร่มสำหรับกันแดดกันฝนสักคันหนึ่งขณะที่มันหุบนอนอยู่เฉย ๆ ก็เป็นเรื่องของพระศุกร์เหมือนหนึ่งคอยดูแลเจ้าร่มคันนี้ พอเราทำกิริยาโดยกางร่มออก เป็นเรื่องที่พุธจะเข้าทำหน้ที่ทันที แต่พอกางร่มเสร็จเรียบร้อย แล้วมันจะกลับกลายเป็นเรื่องของพุธอีกพอเราทำกิริยาหุบร่มกลับ ดังเดิมมันก็เป็นเรื่องของพระศุกร์อีก แสดงว่าขณะที่หุบหรือกางเป็นเรื่องของพุธ เมื่อหุบหรือกางเรียบร้อยเป็นเรื่องของศุกร์ฉะนั้น ตาวทั้งสองดวงจึงมีการพัวพันกันเช่นนี้ตลอดไป

ถ้าจะให้เป็นการเข้าใจง่ายก็คือ พุธแสดงถึงการเคลื่อนไหว ถ้าภายในได้แก่มันสมองแสดงถึงอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิด ถ้าภายนอกได้แก่กิริยาท่าทาง พระศุกร์ก็แสดงการเคลื่อนไหวเหมือนกัน ถ้าเป็นภายในได้แก่ความนึกคิดที่สำเร็จผล ความแน่นอนไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าภายนอกได้แก่ความสำเร็จที่ได้กระทำเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว จะเป็นในรูปลักษณะใดก็ตาม แม้แต่ภาพหรือสิ่งที่เกิดจากธรรมซาติ ตลอดดจนของหวาน ของหอม ก็เป็นอำนาจของพระศุกร์ด้วย เหมือนกัน พระศุกร์จึงเป็นตัวชอบตัวรัก แต่ชอบรักสิ่งที่สรรพ์แล้ว ว่าดีงามหรือเหมาะสม ซึ่งผิดกับพุธ พุธเป็นดาวรักชอบเหมือนกัน แต่ชอบในทางประดิษฐ์ ชอบคิด ชอบค้นคว้า การวางแผนแต่ยังไม่สำเร็จเป็นรูปเป็นร่าง

ฉะนั้นเมื่อเราดูดาวพุธแล้ว จึงต้องดูดาวพระศุกร์อีกดวงหนึ่ง คู่กันไปจะลืมเสียมิได้ พระศุกร์อยู่กับอาทิตย์มักได้เกียรตินิยมจากคนชั้นสูง มีตำแหน่งานดี มีประสาทดี เลือดในกายดี ผิวกายเปล่งปลั่ง รูปงาม ถ้าอาทิตย์เป็นนิจเป็นประเกษตร จะเป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว เก็บหอมรอมริบดี จะได้รับเกียรตินิยมจากหมู่ชนทั่วไป

พระศุกร์อยู่กับพระจันทร์จะเป็นผู้ชอบสระสมเครื่องเพชรนิลจินด เครื่องทองรูปพรรณเป็นผู้มีสุขภาพดีมีดวงตาและถันทั้ง ๒ งามสมส่วน มีแขนอันเรียวงาม

พระศุกร์อยู่กับอังคาร รักความก้าวหน้า เด่นในสังคม เจรจาเป็นที่ถูกใจคน ชอบอาชีพเกี่ยวแก่ประชาชนหรือเป็นตัวแทนมักเห็นใจผู้อื่น แต่ชอบผู้อื่นยกย่อง 

พระศุกร์อยู่กับพระพุธ แสดงความคิดที่ดีเสมอ มีความมุ่งหวังในความก้าวหน้า หมกหมุ่นอยู่กับการเงิน  หรือความรัก แต่เป็นเรื่องของปัจจุบัน ไม่ชอบให้รั้งรอไว้นาน ๆ

พระศุกร์อยู่กับพฤหัสบดี จัดว่าเป็นดาวคู่ที่เด่นมากมีความรู้ความสมารถดี และ มักเอาความรู้ความสามารถที่ตนค้นพบหรือศึกษามาตีแผ่ ทำให้เกิดประโยชน์ชอบมองการณ์ไกลสระสมทรัพย์มรดกไว้ให้คนชั้นหลังเห็นอะไรรู้อะไร มักเผยออกมาอย่างจริงใจ

พระศุกร์อยู่กับพระเสาร์ มักเป็นคนเจ้าทุกข์มีอารมณ์เบื่อหน่ายง่าย รักอะไรชอบอะไรไม่ค่อยยืนนาน มักมีการเปลี่ยนแปลงอยู่บ่อยๆ ชอบงานเสี่ยงโชค มีผิวคล้ำแต่เรียบ

พระศุกร์อยู่กับราหู เจ้าชะตามักมีเรื่องขุ่นมัวอยู่ภายใน แต่ชอบทำตนให้คนภายนอกเห็นว่าตนเด่นอยู่เสมอ ชนิดที่ว่า หนชื่นอกตรม ชอบงานที่เสี่ยงโชคภัยอยู่เสมอ บางครั้งก็หลงงมงายไปได้ง่ายๆเหมือนกัน

ดาวพระศุกร์อยู่กับพระเกตุ มีรูประหง จมูกงาม เจรจาไพเราะ มักเด่นในสังคม ชอบงานทางศิลปะและศิลปิน ชอบการค้นคว้า การวิทยาศาสตร์

ดาวพระศุกร์อยู่กับมฤตยู ชอบการค้นคว้าวัตถุต่าง ๆ ปรับปรุงของเก่าให้เป็นของใหม่ มักถือเอาสุภาษิตโบราณเข้ามาเป็นเครื่องเตือนสติ ดัดแปลงสิ่งต่างๆ ที่เห็นว่าล้าสมัยเกินไปให้ เหมาะสมกับสภาพปัจจุบันแต่มิได้ทำลายเสียทีเดียว เพียงแต่ดัดแปลง ชอบอาชีพค้าขายเกี่ยวแก่เรื่องการศาสนา หรือ งานเกี่ยวแก่ศาสนา อาชีพยาสำเร็จรรูป ที่ผู้เขียนกล่าวมานี้หมายแต่เฉพาะดาวที่อยู่คู่กันกับพระศุกร์เ่ท่านั้น และแสดงคุณกับเจ้าชะตา ถ้ามีดาวอื่นเข้าแทรก หรืออะริมรณะวินส ก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปอีกแบบหนึ่งเรียกว่าดาวไม่บริสุทธิ์นั่นเอง

เพราะเหตุใดผู้เขียนถึงมุ่งไปในเรื่องดาวพุธกับศุกร์ เป็นส่วนใหญ่ ซึ่งความป็นจริงแล้วควรจะเพ่งเล็งดาวอาทิตย์ จันทร์และพฤหัสบดีก่อนอื่น ความจริงก็ควรจะเป็นเช่นนั้น แต่ในขณะนี้ผู้เขียนเคยเห็นมามากท่านด้วยกันเวลาพิจารณาดวงชะตา ไม่ใคร่จะสนใจในดาวคู่นี้นัก กลับเข้าใจไปว่าดาวคู่นี้เป็นดาวเล็กๆ  และเป็นสุภเคราะห์ไม่ค่อยจะมีอิทธิพลอะไรมาก แต่ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ จะเป็นสุภเคราะห์หรือบาปเคราะห์ก็ตาม ย่อมแสดงคุณโทษหนักอยู่เหมือนกัน พุธผ่านเสาร์เคยเห็นเกิดคดีถ้อยความติดคุกติดตะรางหลายคนพระศุกร์ผ่านราหูสมบัติถูกไฟไหม้เกิดคดีล้มละลาย หรือวิบัติในด้านอื่นก็เยอะแยะ หนุ่มสาวฆ่าตัวตาย เพราะอำนาจดาวคู่นี้ก็มีมากมาย นักศึกษาอย่าเพิ่งลืมเสียจงตระหนักในดาวนี้ให้มากทีเดียว เพราะเป็นสื่อรับช่วงจากดาวอื่นๆ ดีนัก

เคยมีท่านนักศึกษาเขียนจดหมาย ถามถึงเรื่องดาวพระเคราะห์คุมลัคนา ว่าจะแสดงคุณ โทษอย่างไรบ้าง เคยเรียนกันมาแล้วว่าตีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่ก็ไม่ปรากฏเสมอไป บางคน ดาวกุมลัคนาตั้งหลายดวง แต่ตลอดชีวิตไม่เห็นดีขึ้นเลยเป็นเพราะอะไร? 

เรื่องดาวคุมลัคนานั้น ขอให้นักศึกษาจงเข้าใจไว้ด้วย งอิทธิพลในทางคิดฝันเท่านั้น เจ้าชะตามีอุดมคติใผ่ฝันเท่านั้นไป ตามอำนาจของดาวที่คุมลัคนา มีความต้องการที่จะให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้จะเป็นไปได้หรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับดาวอื่นเป็นผู้ประกอบหรือสนับสนุน ถ้าดาวอื่นอยู่ในที่ดีคอยสนับสนุน อุดมคติหรือความใฝ่ฝันจึงเกิดเป็นความจริงขึ้นได้

ถ้ามีดาวพระเคราะห์มากดวงคุมลัคนา ความใฝ่ฝันก็ทวีมากขึ้น ผู้เขียนไม่ชอบดวงดาวมากตัวเข้ามาในลักษณะเช่นนี้ เพราะเหมือนคนขอทาน ใฝ่ฝันอยากจะร่ำรวย อยากมีตึกรามอันหรูหรา มียานพาหนะในราคาแพงๆแต่ก็มีไม่ได้ เพราะตนเป็นคนขอทาน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะใฝ่ฝันไปตามแรงอำนาจของดวงดาว ท่านนักศึกษาถ้าหากพบดวงชะตาอย่างนี้ อย่าเพิ่งทึกทักทายว่าดี ต้องมองหาดาวอื่นดูเสียก่อนว่ามีดาวอะไรบ้างที่แสดงคุณกับลัคนา ถ้ามีอยู่บ้างก็พอเอาตัวรอดได้ แต่ถ้าไม่มีก็จะดีไปไม่ได้   

ถ้าเกิดมีดีขึ้นมาแบบแหกตำรก็คงเป็นเรื่องของการวางลัดนาแน่นอน เคยมีนักศึกษาเขียนจดหมายถามไปว่า เราจะทราบอย่างไรว่าดวงชะตของผู้ที่ให้เราตรวจพื้นชะตาชีวิตจะดีเด่นแค่ไหนและเด่นในด้านไหน ผู้เขียนเคยตอบไปแล้วหลายท่านด้วยกัน และจะขอเขียนไว้ในที่นี้ด้วย

ดวงชะตาที่จะดีเด่นได้นั้น เราต้องตรวจกันหลายชั้นเช่นอkทิตย์ จันทร์ อังคาร และพฤหัสบดี ตลอดจนคู่มิตร คู่ธาตุ คู่สมพลดาวร่วมโยคและองค์เกณฑ์ต่าง ๆให้พร้อมเพรียงเสียก่อน

ว่าดาวนั้นๆแสดงคุณหรือโทษกับลัดนาอย่างไร เมื่อเราพิจารณาแล้ว เราจะต้องดูดาวพิเศษอีกคู่หนึ่ง นั่นคือดาวพระเกตกับมฤตยูนักศึกษาส่วนมากไม่ค่อยจะสนใจในดาวคู่นี้ เพราะไปเข้าใจเอาว่าไม่ใช่ดวงดาว เพียงแต่คอยส่งเสริมดาวอื่นๆให้กล้าแข็งขึ้นเท่านั้น ตามความเป็นจริงแล้ว ดาวคู่นี้มีอานุภาพและอิทธิพลเหนือดาวอื่นๆหลายเท่านัก ดาวคู่นี้ไปครองอยู่เรือนไหนก็จะเด่นเป็นพิเศษในเรือนนั้น

เช่นดาวพระเกตุไปอยู่กับจันทร์หรือพระศุกร์ มักจะเด่นในทางการงิน รูปร่างสวยสดงดงาม มีเสน่ห์นรัก เลือดฝาดสุขภาพดี ถ้าอยู่กับอาทิตย์มักจะเด่นในทางเกียรติมีตำแหน่งงานดี มักได้เป็นหัวหนในหน้ที่การงาน ถ้าอยู่กับอังคารมักจะเด่นในทางนักรบ หรือมีโรงงานอุตสาหกรรมใหญ่ๆอยู่กับพุธมีมันสมองปราชญ์เปรื่องเป็นนักค้นคว้าพูดจาหลักแหลม อยู่กับพฤหัสบดีมักได้ครูอาจารย์คนเป็นนักปราชญ์ มีมรดก มีชื่อเสียงปรากฏแก่คนทั่วไป อยู่กับเสาร์มีที่ดินและเรือกสวนมาก มีโรงงานอุตสาหกรรมหนัก อยู่กับราหูมักเด่นในสงคราม เป็นแม่ทัพ มีไหวพริบว่องไว อยู่กับมฤตยูเป็นนักวิทยาศาสตร์ นักจิตศาสตร์ รู้วิชาลี้ลับ
ทายใจคนถูก หยั่งรู้ในความละเอียดลึกซึ้งได้

ดวมฤตยูมีความสัมพันธ์กับดาวอื่นๆ คล้ายกับพระเกตุ ผิดกันก็ตรงที่วดาวมฤตยูค่อยเป็นไปทีละน้อยๆ ส่วนเกตุนั้นรวดเร็วทันใจเหมือนสายฟ้าแล แต่มฤตยูมีพิศดารออกไปอีกมากมาย ความมั่นคงของธาตุวัตถุตลอดจนทรัพย์สมบัติเกี่ยวแก่สุขภาพทางกายมนุษย์และสัตว์มีคุณอนันต์โทษมหันต์

บางท่านอาจสงสัยว่า ทำไมดาวมฤตยูจึงมีคุณอนันต์โทษมหันต์ มฤตยูเป็นดาวที่บันดาลไปในทางดีและชั่วได้ เช่นสามารถบันดาลให้น้ำท่วมโลก ท่วมประเทศได้ หรือสามารถที่จะบันดาล ให้คนเป็นมหาเศรษฐีกระยาจกก็ได้ หรือ สามารถบันดาลให้นักการเมืองเป็นผู้นำของประเทศได้ แต่ต้องใช้ความหมั่นเพียรเรื่อยๆถ้าอยู่ในราศีที่เสียแก่เจ้าชะตา ก็จะบันดาลให้เป็นบุคคลที่ส้มละลายได้ และอาจถึงแก่การลิ้นสุดของชีวิตได้ด้วย

ส่วนเกตุนั้นก็ไม่ใช่ย่อยอยู่เหมือนกัน สามารถทำให้คนเป็นเศรษฐีได้ มีเกียรติอันสูงส่ง ถ้าอยู่ในราศีที่เสีย ก็ทำลายย่อยยับหรือถึงตายได้เหมือนกัน แต่เป็นไปในทางรวดเร็วปัจจุบันทันด่วน

ตามแนวความคิดเห็นของผู้เขียน เท่าที่สังเกตุมานานปื ดาวมฤตยูกับพระเกตุของไทยเรานี้ น่าจะใช้เป็นคู่มิตรกันได้ ผูู้เขียนเคยสังเกตุและนำมาใช้อยู่เสมอ รู้สึกว่าดาวพระเกตุไทยกับมฤตยูนี้ช่างงเข้ากันได้ดีทีเดียว

ดาวพระเกตุ หมายถึงวิญญาณที่เข้ามาครองอยู่ภายในเรือนกาย ร่างกายเป็นวัตถุธาตุอันประกอบไปด้วย ดิน น้ำ ลม ไฟ ซึ่งดาว ๘ ดวงเป็นผู้สร้าง หรือผู้บันดาลให้เกิดวัตถุธาตุและประกอบเป็นเรือนร่างขึ้น แล้ววิญญาณจึงมาสถิตย์อยู่ตรงกลาง ตัวเหนือสะดือขึ้นมาประมาณสองนิ้ว แต่วิญญานที่ลอยเข้ามาสติตย์อยู่ตรงกลางเรือนร่างจะต้องมาลอยสถิตย์อยู่ระหว่างกลางอากาศ

ธาตุ คือในที่ว่างของกลางตัว ที่ว่างตรงนี้เรียกว่าอากาศธาดุถ้าไม่มีที่ว่างอยู่ตรงนี้วิญญาณก็จะไม่มีที่สถิตย์อยู่ อากาศธาตุตรงนี้ คือมฤตยูนั่นเอง ดาวมฤตยูมีส่วนสัมพันธ์ในเรือนร่างตรงนี้ตัวย ตรงกับหลักของศาสนาพุทธที่จะดับวิญญาณดวงนี้ไห้เหลือแต่เพียงญาณเพื่อนำไปสู้นิพพาน

เมื่อดาวพระเกตุเป็นดาววิญญาณ มาครองอยู่ระหว่างกลางของอากาศธาตุ ซึ่งเป็นดาวมฤตยู ฉะนั้นดาวคู่นี้จึงนำจะเป็นคู่มิตรกันได้ดี

เวลาคนมีอาการเจ็บหนัก มักมาจากดาวมฤตยูเป็นพื้นฐาน ถ้าหากพระเกตุเข้าทำมุมหรือผ่านมฤตยู บังเอิญอายุของเจ้าชะตาอยู่ในระหว่างเข้ามาต มักจะสิ้นใจในขณะนั้น ถ้าอายุยังไม่ถึงฆาตก็มักจะมีอาการชักดิ้นชักงอหรือต้องสลบไป ตามธรรมดาวิญญาณที่เคลื่อนออกจากเรือนร่างจะต้องอาศัยอากาศธาตุเป็นผู้นำทาง พระเกตุจึงจะออกไปได้ ดาวคู่นี้ถ้าไปเกี่ยวข้องกับทรัพย์สมบัติเข้า ถ้าเกิดไปทำมุมเสียอาจจะกลายเป็นผู้สิ้นเนื้อประดาตัวเป็นผู้ล้มละลายได้

ท่านนักศึกษาจงสังเกตุดูเถิด เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อแต่ก็เป็นไปได้ด้วยอำนาจเกตุไทยเรา บรรดาท่านนักการเมือง หรือท่านเศรษฐีมักจะมาจากอำนาจของดาวคู่นี้เป็นส่วนมาก จึงจัดเอาดาวคู่นี้เป็นผู้สนับสนุนดาวอื่นและเป็นด้าวสนับสนุนที่ยิ่งใหญ่ไพศาลยิ่งนัก ไม่สมารถที่จะคำนวณได้ว่า จะหยุดอยู่เพียงไหน

ผู้เขียนเคยเข้าสังคม กับท่านนักโหราศาสตร์หลายท่าน ส่วนมากไม่ค่อยจะพูดถึงดาวคู่นี้เลย แม้แต่ผูกดวงชะตา และเคยหลายคนไม่ค่อยจะเขียนดาวคู่นี้ลงไว้ด้วย พอผู้เขียนกล่าวถึงคู่นี้ทีไร ดูเขาไม่ค่อยจะสนใจกันนักและมักมองผู้เขียนไปในทางต่ำๆ  ถ้าหากใครนำควงชะตาที่ผูกไว้แล้ว มาให้ผู้เขียนทำนาย หากไม่มีดาวคู่นี้อยู่ด้วยผู้เขียนจะไม่ยอมตรวจดวงให้เลย เพราะพูดอะไรออกไป ดูมันไม่เต็มปากเหมือนกินแกงขาดอะไรไปสักอย่างหนึ่งเรื่องพระเกตุไทยเรานี้ ผู้เขียนก็ไม่ทราบว่าท่านผู้ใดเป็นผู้ค้นพบและเป็นมรดกมอบให้แก่ลูกหลานไทย เราได้ร่ำเรียนและค้นคว้ากันสืบมา นับเป็นมณีอันมีค่ายิ่งนัก

สมควรที่เราจะรับมอบ เกตุมณีอันมีค่นี้จากบรรพบุรุษ ผู้ซึ่งค้นพบเอามาให้เราด้วยความลำบากยากแค้นแสนเข็ญเพื่อให้เป็นแว่นแห่งโหราศาสตร์ไทยเรา ซึ่งต่างประเทศเขายังไม่มีใช้กัน และสักวันหนึ่ข้างหนเขาคงจะรับเอาไปไว้ในตู้ตำหรับ อันมีค่าของเขาเช่นกัน

ขอให้ท่านนักศึกษาจงอยลืมดาวพระเกตุและมฤตยูคู่นี้เสีย ดาวคู่นี้แหละจะนำท่านไปสู่ทางแห่งการทำนายแม่นยำดุจตาเห็นและน้ำชื่อเสียงมาสู่ท่าน โดยทนไม่ต้องโฆษณา

#คุณยายกลิ่นโสม
#คุณยายเล่าเรื่องจากเรือนดาว
#โหราศาสตร์ไทยเรียนง่ายกว่าที่คิด
#เรียนโหราศาสตร์ไทยสไตล์คุณยายกลิ่นฯ
#อ่านดวงไทยสบายสบาย ตามสไตล์คุณยายกลิ่นโสม
#โหราศาสตร์ไทยเรียนด้วยตนเองฉบับคุณยายกลิ่นโสม   
#เรียนโหราศาสตร์ไทยฟรี ที่เวปนี้นะ:: htthttp://www.baankhunyai.com
  --------------------  
 
Visitors: 173,212