อาจารย์พัฒนา พัฒนศิริ
อิทธิพล และ อิทธิฤทธิ์ ของดาวราหู โดย อาจารย์พัฒนา
ประวัติ : พัฒนา พัฒนศิริ เกิดที่ถนนตะนาว แขวงศาลเจ้าพ่อเสือ กรุงเทพฯ ปัจจ6บัน ๕๕ ปี สำเร็จการศึกษาได้รับปริญญารัฐศาสตร์ บัณฑิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยผ่านงานด้านวิทยุ ทีวี และหนังสือพิมพ์ สนใจศึกษาวิชาโหราศาสตร์ ตั้งแต่ปี ๒๕๑๙ โดยได้รับการกวดขันเป็นพิเศษจาดพระราชดิลก(มหาอิ่น) วัดโสมนัสวิหาร ปี ๒๕๑๙ เข้าสู่แวดวงสมาคมโหรแห่งประเทศไทย ปัจจุบันอาชีพรับราชการ กรมพัฒนาชุมนุม กระทรวงมหาดไทย ระดับ๗ และเป็นกรรมการฝ่ายวิชาการสอนวิชาพื้นฐานการวางดวงฤกษ์ พยากรณืดวงชะตา งานวางฤกษ์กิจการที่มีมูลค่านับพันล้าน หมื่นล้านบาท
....ในบรรดาแง่มุมทางโหราศาสตร์ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับกับดวงดาวนั้น " พระราหู " จัดว่าเป็นพระเคราะห์สำคัญที่ทำเอาผู้คนส่วนใหญ่เกิดความปริวิตกหวาดกลัวเมื่อมีการกล่าวขวัญถึงดาวดวงนีั้ตามความเป็นจริงแล้ว " ราหู " ไม่ใช่เป็น " เทห์ฟากฟ้า " เหมือนอย่างดาวอังคาร ดาวพุธ ดาวศุกร์ หรือพระเคราะห์อื่นๆ หากเป็นพระเคราะห์ฉายา กล่าวคือนักโหราศาสตร์ ได้อุปโลกน์ ให้เป็นพระเคราะห์ดวงหนึ่ง ซึ่งมีที่มาจากจุดคราสนั่นเอง
นักโหราศาสตร์สมัยปีมะโว้ ได้คิดคำนวณเป็นอันดิบดีว่า " จุดคราส " ที่ว่านี้มีการเคลื่อนที่ไปได้ เคลื่อนที่ไปตามจักราศีต่างๆทั้ง ๑๒ ราศี ที่สำคัญคือเคลื่อนที่ไปบดบังความสดสว่างให้กลายเป็นความมืดมนอนธกาล "การเคลื่อนที่ " ดังกล่าวนี้หมายความถึงการเคลื่อนย้านไปในราศีต่างๆ ในดวงชะตาของมนุษย์แต่ละคน
สวนทางชาวบ้าน
เมื่อถูกสมมุติห้เป็นดาว" ราหู " ย่อมมีวิถีการโคจรเช่นเดียวกับดาวอื่นๆ แต่เส้นทางโคจรของดาวราหูอยู่ในลักษณะแหวกแนวไม่เหมือนดาวอื่นๆทั่วไป ตามปกติดาวต่างๆจะโคจรทวนเข็มนาฬิกาคือเดินตั้งแต่เลข๑๒ ไปหาเลข๑ หรือราศีเมษผ่านราศีพฤษภไปยังราศีมีน แต่ของดาวราหูมีวิถีย้อนจักรสวนทางชาวบ้าน คือเดิมตามเข็มนาฬิกา
" พระราหู " ถูกจัดให้มีตำแหน่งในจักราศี เช่นเดียวกับดาวอื่นๆ คือเป็นเกษตรที่ราศีกุมภ์ ปรเกษตรที่ราศีสิงห์ อุจน์ที่ราศีพิจิก นิจที่ราศีพฤษภก ราชาโชคที่ราศีตุลย์ มหาจักรที่ราศีมังกร และยังมีตำแหน่งที่ราหูได้องค์เกณฑ์อีกหลายตำแหน่ง
มีสัญญลักษณ์เหมือนนาฬิกายี่ห้อหนึ่งคือ ที่ว่ากันตามโหราศาสตร์สากล แต่โดยทั่วไปนิยมใช้เลข ๘ แทนดาวราหู มีวิถีโคจรราศีละ ๑๘ เดือน เมื่อวิถีโคจรย้อนศรดังกล่าวมาแล้ว ดราราหูย่อมโคจรเข้าทางหลังบ้าน ไปออกทางหน้าบ้าน ด้วยเหตุนี้นักโหราศาสตร์จึงจัดให้พระราหูเป็นดาวร้าย ดาวอันธพาล ดาวมัวเมา ดาวแห่งความม์ ฯลฯ
ถ้าทับลัคนาถือว่าเป็นดาวฆาต
มีสูตรหรือมีพระคาถาเกี่ยวกับดาวราหูทับลัคนาว่าไว้ว่า
" ผิว์จะฆาตลัคนาอายุขัย อสุรินทร์ถึงลัคนาใน
บาปเคราะห์จรไป มาทับกัน
ทั้งพระจันทร์มาทับ ในลัคนา
ท่านทายตัดชีวา ถึงอาสัญ "
คำว่า " อสุรินทร์ " ในพระสูตรนี้หมายถึงดาวราหูนั่น แต่การพยากรณ์เรื่องนี้มีความสลักสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะเกี่ยวข้องกับชีวิตความเป็นอยู่ เป็นกำลังใจของผู้ถูกพยากรณ์เป็นอันมาก ผู้เป็นโหรต้องพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วน เพราะคำว่า " ตาย " นั้น มีความหมายหลายอย่าง เช่น ตายในทางชีวิต คือหมดลมหายใจตายไปเลยอย่างหนึ่ง ตายในทางการเงิน ตายในทางชื่อเสียง หมายถึงชีวิตยังไม่ตาย แต่เศรษฐกิจ เครดิตเกรียติยศชื่อเสียงพังพินาศไปจนหมดสิ้้น
ที่ให้คุณก้อมี
ยังมีอีกหลายพระคาถาที่กล่าวถึง " ดาวราหู " นำความยุ่งยากเดือดร้อนมาสู่มนุษยซาติแต่ใคร่ขอผ่านเรื่องนี้ไป เพราะผมอยากจะพูดถึงอิทธิพลของดาวราหูในทางที่ดีบ้าง ทั้งนี้มีอยู่หลาย ฟอร์มิวล่าที่กล่าวถึงดาวราหู ในกรณีให้ผลให้คุณแก่มนุษย์ โดยเฉพาะมีอยู่หนึ่งสูตรกล่าวไว้ว่า
อสุรินทร์ต้ององค์ พระเสารา
สุริยต้องครู เป็นคู่คง
เสาร์เล็งอสุรา ท่านว่าไว้
เป็นโชคใหญ่ปีนั้น ดังประสงค์ "
อสุรินทร์ต้ององค์พระเสารา หมายความว่าดวราหูโคจรไปทับหรือเล็งพระเสาร์ ในพื้นดวงเดิม แต่ถ้าจะให้มีโชคมีลาภขนาดใหญ่ร่ำรวยไม่รุ้เรื่องจะต้องดูให้แน่ๆ ว่าราหูที่โคจรมาถูกดาวเสาร์ในพื้นดวงเดิมนั้นมีตำแหน่งเป็นอะไร พูดง่ายๆคือต้องดูว่าพระเสาร์เดิมมีคุณภาพหรือไม่ พระราหูจรมีคุณภาพน้อยแค่ไหน ถ้าพระเสาร์เดิมไม่ดี ดาวราหูจรมาถูกก็คงไม่ดีขนาดว่าจะร่ำรวยยกใหญ่ ไม่รู้ดั่งว่ามานั้น
ลำดับอิทธิพลของดาวราหู
เท่าที่ผมได้ศึกษาเล่าเรียนมาจากท่านเกจิอาจารย์ และจากการสังเกตุดวงชะตาของบุคคลสำคัญต่างๆ จะเห็นได้ว่าดาวราหูจะให้ผลให้คุณแก่ดวงชะตาเป็นลำดีบ ดังนี้
ดาวราหูเป็น ๔ เป็น ๑๐ แก่ลัคนา
๒.. ให้คุณชั้นสอง
ดาวราหูเป็น ๕ เป็น ๙ แก่ลัคนา
๓.. ให้คุณชั้นสาม
ดาวราหูเป็น๓ เป็น ๑๑ แก่ลัคนา
แต่การพยากรณ์หรือการกำหนดลำดับอิทธิพลของดาวราหูในลักษณะนี้นั้น ขอให้ระวังเรื่ององค์เกณฑ์ไว้ด้วย เพราะองค์เกณฑ์จะทำให้อันดับอิทธิพลเปลี่ยนแปลงได้
กล่าวโดยทั่วไป
ผมขอเพิ่มเติมข้อดี ข้อเสีย ของดาวราหู ต่อไปอีกนิดหนึ่ง ผมคิดว่าคนเรียนโหราศาสตร์ส่วนใหญ่ย่อมทราบกันดีอยู่แล้วว่า หากพระพระราหูเป็น ๗ แก่ลัคนาเมื่อใด หรือชะตาใดมีพระราหูเป็น ๗ แก่ลัคนาคือราหูเล็งลัคนาแล้วไซร้ ท่านว่าให้ผลเดือดร้อนเอาเรื่อง เพราะคือว่าเป็นดวงแตกที่แย่เอาจริงๆ
ส่วนกรณีดาวราหูกุมลัคนาก้อให้ผลแตกต่างกันไปตามราศีและตามเจ้าเรือน เช่น กุมลัคนาในเรือนของพระศุกร์ย่อมทำให้เจ้าชะตามีความมัวเมาไปในทางกิเลส หลงไหลในความสวยงาม ผู้ชายจะมีนิสัยกระเดียดไปทางผู้หญิง ถ้าเป็นหญิงจะมีนิสัยกลับกกระเดียดไปผู้ชาย ไม่ใช่หมายความว่าเป็นเกย์เป้นทอมอะไรนั่นนะครับ ขอให้พิจารณาคำว่า " กระเดียด " ที่ผมใช้ให้ถ่องแท้ ถ้ากุมลัคนาเรือนพุธ ก็มักทำให้เจ้าชะตาเป็นคนอ่อนหวาน ไม่เยือกเย็นดังนี้เป็นต้น แต่ถ้าเจ้าเรือนลัคนาไปสถิติในเรือนเป็นต้น หรือดีด้วยลักษณะปัจจัยต่างๆ ความไม่ดีของดาวราหูก็ย่อมบรรเทาเบาบางลงไปตามส่วน
แต่อย่าลืมเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง คือมีพระคาถาอีกบทหนึ่งความว่า
" อสุรินทร์มาตรแม้นกุมลัคน์ เมษ พฤษภ ตามจักรเลิศแล้ว "
พระคาถาบทนี้สำคัญมาก ผมเคยชะตาลักษณะนี้เป็นผู้จัดการธนาคาร เป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ นายพลนายพันคนสำคัญ แต่ส่วนใหญ่เป็นผู้ชายค่อนข้างจะติ๋มๆ นอกจากนี้ัยังมิอีกพระคาถาหนึ่งซึ่งจะมองข้ามไปไม่ได้ พระคาถานี้กล่าวถึงราศีที่ ดาวราหูสถิติอยู่ ความว่า " มารเมษแลตุลใน มังกรนี้ดีจริงๆ " ท่านผู้อ่านลองไปพิจารณาหาดวงดูเอาเอง ว่าถ้ามีดาวราหูสถิติที่ราศีเมษ หรือตุลย์ หรือมังกร แล้วจะมีผลมีคุณต่อเจ้าชะตาอย่างใดหรือไม่
ราหูค้นทรัพย์
พระราหูที่เป็นที่สองแก่ลัคนาคือนำหน้าลัคนานั้น ท่านจัดว่าเป็นราหูค้นทรัพย์ แต่ที่สังเกตุว่าค้นจริงๆ จะได้แก่ลัคนาสถิติ ณ ราศีกรกฎกับราศีกันย์ ซึ่งมีดาวราหูอยู่ที่ราศีสิงห์และราศีตุลย์ลำดับ ดาวราหูที่ราศีสิงห์สำหรับลัคนาราศีกรกฎย่อมมีที่มาจากเกษตรเรือนมรณะเมื่อมาอยู่เรือนกดุมภะก็ย่อมเบียดเบียนการเงิน เช่นเดียวกับราหูที่ราศีตุลสำหรับลัคนาราศีกันย์ ย่อมมีที่มาจากเจ้าเรือนอริก็เชื่อว่าเบียนจริงๆ เพราะเคยเห็นอิทธิฤทธิ์มานักต่อนักแล้ว ส่วนที่ราศีตุลย์และราศีมีนนั้นต้องพิจารณาให้ถ่องแท้ว่าค้นไม่ค้นอย่างไร เพราะดวงชะตาลัคนาราศีตุลย์เมื่อมีราหูนำหน้า ราหูย่อมได้ตำแหน่งมหาอุจน์ที่ให้ผลให้คุณในเรื่องทรัพย์สินเงินทองเอนกอนันต์ ถ้าดาวพฤติกรรมของเจ้าชะตาอยู่ในเกณฑ์ดี ราหูย่อมมีโอกาสค้นทรัพย์ได้น้อยลง ส่วนลัคนาราศีมีนมีพระราหูนำหน้า ราหูได้ตำแหน่งที่ดีตาม พระคาถาที่ว่า " มารเมษและตุลย์ใน ...." และเป็นปกิณกะราหู คือทำให้มีโชคมีลาภอยู่เนืองๆ อย่างนี้คงไม่ใช่เป็นราหูค้นทรัพย์ทุกแห่งทุกลัคนาไป
แล้วราหูในเรือนทุสถานภพจะเป็นอย่างไร
ราหูที่อยู่ในทุสภาพภพ คือ เป็นอริ มรณะและวินาศแก่ลัคนานั้น ท่านว่าถ้าเป็นนักบวช นักพรต เป็นพระภิกษุก็เหมาะมาก เพราะทำให้หมดกิเลสหมดตัณหาอุปทาน ถ้าเป็นปุถุชนคนธรรมดาๆ เห็นทีจะแย่หน่อยคือไม่สู้จะทันคนอื่นเขา แขกของผมรายหนึ่งมีลัคนาราศีสิงห์ ราหูอยู่เรือนวินาศ พระพฤหัสบดีนำหน้าลัคนา ในขณะที่ราหูจรโคจรที่ราศีกันย์ต้องดาวพฤหัสบดีในพื้นดวงเดิมอยู่นั้น เขาก็มาปรึกษาว่าจะลงทุนเข้าหุ้นทำเหมืองแร่จะดีไหม ผมก็ทายเปรี้ยงไปว่า " ฉิบหายแน่ " เขาก็เชื่อคำพยากรณ์เป็นอันก็ดี แต่อำนาจของราหูที่ทำให้เกิดความมัวเมา มืดมน ทำให้เกิดภวตัณหาอยากมีอยากได้อยากรวยขึ้น เขาก็ไปเชื่อพรรคพวกของเขาด้วย เมื่อเชื่อทั้งสองข้างคือทั้งพวกทั้งหมอดู ก็หาทางออกสายกลางคือลงทุนไปครึ่งหนึ่งของจำนวนที่ตั้งใจเอาไว้เพียงไม่กี่เดือนก็หวยออก คือบริษัทเหมืองแร่อะไรนั่นได้แจ้งไปตามระเบียบ
เรื่องไม่จบเท่านั้น อีกไม่กี่เดือนต่อมาพวกเดียวกันนี้ก้เรียกหุ้นเปิดบริษัทใหม่ ขุดไม่กี่วันก็เจอสายแร่ม โหฬาร... อย่างนี้เขาเรียกว่ารายการแหกตามหาศาล เพราะเพื่อนเล่นเอาเงินทุนของบริษัทแรกขุดเข้าไปจนใก้ลสายแร่แล้วหยุดไว้ บอกว่าแร่ไม่มี แล้วเลิกกิจการบริษัทแรก เปิดขึ้นมาใหม่ขุดแพร๊บเดียวก็เจอ นี่เรียกว่าคนลงทุนเสียรู้เขา เพราะราหูวินาศเป็นเหตุ
เจ็ดแปดดวงเจ๋งๆ
ขอนำดวงชะตาที่พระราหูให้คุณมาให้พิจารณาเป็นตัวอย่างสัก ๗-๘ ดวง ลองดูดีๆ นะครับ
ดวงที่หนึ่ง ลัคนาสถิติ ณ ราศีธนู เกิดวันเสาร์ พระราหูเป็น ๑๐ แก่ลัคนา ดวงนี้ได้เป็นอธิบดี
ดวงที่สอง ลัคนาราศีมังกร เกิดวันเสาร์ ราหูเป็น ๑๑ แก่ลัคนา ดวงนี้ไม่ได้เป็นอธิบดีเลย หนีไปเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ
ดวงที่สาม ลัคนาราศีกันย์ เกิดวันเสาร์ พระราหูเป็น ๔ แก่ลัคนา ดวงนี้ได้เป็นอธิบดี เหมือนดวงที่หนึ่ง
ดวงที่สี่ ลัคนาราศีมังกร เกิดวันศุกร์ ดาวๆดีๆ เช่นดาวอังคาร ดาวศุกร์เป็นมรณะ เป็นวินาศ แต่ราหูเป็น ๔ แก่ลัคนา เป็นปกิณกะราหู ทำให้มีหลักทรัพย์ฐานะในระดับไม่ต่ำกว่า ๒๐ ล้านบาท ทั้งที่อายุไม่ถึง ๓๕ ปี ขณะนี้มีเป็นร้อยล้าน
ดวงที่ห้า ลัคนาราสีพิจิก เกิดวันเสาร์ ราหูเป็น๑๐ แก่ลัคนาทำให้สามารถไต่เต้าจากพนักงานขายเครื่องอะไหล่ธรรมดาๆมาเป็นเถ้าแก่ใหญ่ได้
ดวงที่หก ลัตาราศีกันย์ เกิดวันเสาร์ ราหูเป็น๔ แก่ลัคนาดวงนี้กินเงินเดือน ๕๑ บริษัทครับ
ดวงที่เจ็ด ลัคนาราศีสิงห์ เกิดวันอาทิตย์ ราหูเป็น ๓ แก่ลัคนา ขณะนี้เป็นเจ้าของกิจการสำคัญมีมูลค่านับพันล้าน
ดวงที่แปด ลัคาราศีธนู เกิดวันพุธ ราหูเป็น ๓ แก่ลัคนา ให้คุณชั้นสาม แถมยังมีดาวอังคารตำแหน่งกาลกรรณีเบียนดาวราหูเสียอีก แต่ดวงนี้เป็นางสาวไทย ชื่อ" ยลดา รองหานาม "
ขออนุญาตปิดท้ายบทความอีกดวงหนึ่ง ดวงนี้เป็นชาววันเสาร์ดาวราหูเป็น ๑๐ แก่ลัคนา เจ้าชะตามีตำแหน่งสูงสุดทางทหารคือเป็นทั้งผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการทหารสูงสุด ต่อมาได้ลาออกจากตำแหน่งสูงสุดทางพลเรือน คือ เป็นนายกรัฐมนตรี
ต่อมาในเดือนพฤษภาคม ๒๕๓๕ เจ้าชะตาลาออกจากตำแหน่งสูงสุดทางพลเรือนเพราะเกิดเหตุวิกฤตทางการเมือง มีคนสงสัยกันมากว่า ดวงลักษณะนี้ไม่น่าจะหลุดจากตำแหน่งเลย สงสัยจะไม่ใช่ดวงจริงๆมากกว่า
ก็ขออนุญาตตอบเสียเลยว่าเป็นดวงจริงครับ เหตุที่ต้องพ้นไปทุกตำแหน่งเพราะ
๑.. ดาวเสาร์จรเบียนดาวจัทร์ที่ราศีมังกร เข้าสูตร "เสาร์ทับลัคน์ทับจันทร์พลันร้าย เกิดวิบัติฉิบหาย..."
๒.. ดาวพฤหัสบดีจร ซึ่งมาจากเกษตรเจ้าเรือนมรณะโคจรเข้าเรือนพันธุ อ่านว่า " หมดตำแหน่งหรือหยุดงาน "
๓..ที่สำคัญดาวราหูเดิมเป็น ๑๐ แก่ลัคนา ให้คุณชั้นหนึ่ง แต่ราหูจร ( เจ้าเรือกรรมะ ) โคจรในเรือนมรณะ ทำให้หลุดร่องไม่เหลือเลย