ศัพท์ใช้ทางโหราศาสตร์

นิยามศัพท์ที่ใช้ในทางโหราศาสตร์ (Definition)

ในหัวข้อนี้ คำบางคำเราอาจจะรู้ความหมายแล้วตั้งแต่เริ่มศึกษามา แต่จะนำมารวบรวมกันไว้ในหัวข้อคำนิยามศัพท์นี้อีก เพื่อให้เป็นหมวดหมู่ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น และเป็นการตอกย้ำความเข้าใจและความทรงจำที่แน่นแฟ้นยิ่งกว่าเดิมซึ่งในที่นี้จะไม่นำเสนอแบบเรียงตามลำดับอักษร แต่จะเสนอตามความสำคัญของคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องในแต่ละเรื่องและคำศัพท์ที่ต่อเนื่องเชื่อมโยง
 

ตารางที่ 1  คำนิยามศัพท์ที่ใช้ในทางโหราศาสตร์ (เรียงตามตัวอักษรไทย)  

คำศัพท์

ภาษาอังกฤษ

นิยามศัพท์หรือความหมาย

 กมุทเกณฑ์

 

 

หมายถึงมีจุดปฏิสนธิหรือลัคนา (ลั) ดวงฤกษ์กุมดาวพฤหัสบดี เนปจูน มฤตยู (ล + ๕ + น + ๐ )มีความหมายถึง ความมีปัญญาเป็นที่ตั้งเข้าใจง่าย ๆ ก็คือการที่มีลัคนากุมพฤหัสบดี เนปจูน มฤตยู

 กุม

Conjunction

มุม 0 องศา (กุม)คือดาวสถิตอยู่ราศีเดียวกันหมายถึงการรวมพลังของดาวเคราะห์ที่มากุมกันดาวจะส่งกำลังให้แก่กันถึง 100% และดาวจะเป็นดวงเดียวหรือหลายดวงก็ตามเมื่อสถิตร่วมราศีเดียวกันแล้ว เรียกว่า ดาวกุมลัคนา หรือดาวร่วมลัคนา ส่งผลให้ลัคนา 50%

 เกณฑ์

 

มุม 90 และ 270 องศา (เกณฑ์)หมายถึง ความขัดแย้ง ความท้าทาย คือ กฎการส่งกำลังของดาวเคราะห์หมายถึงดาวเคราะห์ดวงหนึ่งสามารถส่งกำลังถึงดาวเคราะห์อีกดวงหนึ่งได้กี่เปอร์เซ็นต์เช่น 25 % , 50 % , 75 % หรือ 100 % ทั้งนี้ การนับเกณฑ์เรานับจากราศี เช่น นับไป 3 ราศีก็เป็นเกณฑ์ 3 นับไป 10ราศีก็เป็นเกณฑ์ 10 ฯลฯผลของเกณฑ์จะดีหรือร้ายขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของดาวที่เป็นเกณฑ์แก่กัน เช่น เป็นศุภเคราะห์หรือบาปเคราะห์เป็นประหรือนิจฯ

 จักรราศี

Zodiac sign

หมายถึง วงล้อหรือวงกลมของกลุ่มดาวรูปต่างๆ ซึ่งแบ่งออกเป็น 12 ส่วนส่วนละ 30 องศา เรียกเป็น 12 ราศีแทนด้วยสัตว์จริงหรือสัตว์สมมุติจุดเริ่มต้นของจักรราศีคือจุดที่เวลากลางวันเท่ากับเวลากลางคืนในฤดูใบไม้ผลิ เรียกว่า วสันตวิษุวัต จุดนี้คือ 0 องศาราศีเมษ 

 โชคชะตา

Destiny

หมายถึงชะตากรรม, เคราะห์กรรม หรือพรหมลิขิต ของมนุษย์เรา 

 ดาวเคราะห์

Planets

ดาวเคราะห์ในมุมของโหราศาสตร์ ที่เราใช้มีทั้งหมด 10 ดวง ได้แก่จันทร์ พุธ ศุกร์ อาทิตย์ อังคาร พฤหัส เสาร์ ราหู เกตุ และมฤตยู เรียงลำดับตามอัตราการโคจรจากเร็วที่สุดไปช้าที่สุด /ราหู และเกตุ ไม่ใช่ดาวแต่เป็นจุดคราสในสุริยุปราคาและจันทรุปราคา 

 ดาวฤกษ์

Fixed stars

ดาวฤกษ์ คือดาวที่อยู่กับที่และมีแสงสว่างในตัวเอง ในทางโหราศาสตร์ดาวฤกษ์หมายถึงกลุ่มดาวที่นำมาใช้เป็นชื่อฤกษ์ต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่ 27 กลุ่มและจัดเป็น 9 หมวดหรือ 9 ฤกษ์ ได้แก่ สมโณฤกษ์, ราชาฤกษ์,มหัทธโณฤกษ์, ทริทโธฤกษ์, ภูมิปาโลฤกษ์, เทศาตรีฤกษ์,โจโรฤกษ์, เพชฌฆาตฤกษ์และเทวีฤกษ์

 ดิถี

 Lunar phase

คือการแบ่งวันเป็น 29 - 30 วัน นับตามข้างขึ้นข้างแรม จากขึ้น1 ค่ำ ไปถึง 15 ค่ำ โดยเดือนไทย 2, 4, 6, 8, 10 และ 12 มีถึงแรม 15 ค่ำ
แต่เดือนไทย 1, 3, 5, 7, 9, 11 จะมีถึงแค่แรม 14 ค่ำเท่านั้น
(ปีอธิกวาร = ปีที่มีการเพิ่มวันพิเศษ คือเดือนคี่มี 30วัน หรือมีแรม 15 ค่ำด้วย)

 ดวงชะตา

Horoscope

หมายถึงรูปดวงหรือแผนภาพการผูกดวงทางโหราศาสตร์ 

 ตรีโกณ

Trine

มุม 120 และ 240 องศา (ตรีโกณ)หมายถึง การเสริมพลังซึ่งกันละกันคือ นับจากดาวดวงหนึ่งไปหาดวงหนึ่งได้ 5 ราศี เราเรียกว่าดาวนั้นเป็นตรีโกณแก่กัน หรือเรียกว่าดาวร่วมธาตุราศีกัน ดาวที่อยู่ในลักษณะเช่นนี้ย่อมส่งกำลังให้แก่กัน 50% ถ้านับจากลัคนาไป 5-9 ราศี พบดาวใด เราเรียกดาวนั้นว่าเป็นตรีโกณแก่ลัคนา หรือร่วมธาตุแก่ลัคนา ส่งผลให้แก่ลัคนา 75% 

 ตรียางค์

 องศา, ลิปดา

 

Navamsa

 

1 ราศี       มี 30 องศา เท่ากับ 3 ตรียางค์   /
1 ตรียางค์ มี 10 องศา เท่ากับ 3 นวางค์ /
1 นวางค์ มี 200 ลิปดา หรือ 3 องศา 20 ลิปดา /
1 องศา  มี 60 ลิปดา  /1 ลิปดา มี 60 ฟิลิปดา

ทักษา

 

คือ สิ่งที่ใช้บอกหน้าที่ของดวงดาวทั้ง 10 ดวง ที่มีต่อบุคคลใด ๆ โดยกำหนดจากวันที่บุคคลคนนั้นเกิด (จากวันเกิด)

 ธาตุ

Element

ในไทยแบ่งออกเป็น 4 ธาตุ คือ ไฟ  ดิน  ลม น้ำ

-  ไฟ= ราศีเมษ, สิงห์และธนู
-  น้ำ = ราศีกรกฏ, พิจิกและมีน
-  ลม = ราศีตุลย์, กุมภ์และมิถุน
- ดิน = ราศีมังกร, พฤษภและกันย์

โดยธาตุไฟ-น้ำ และ ลม-ดินเป็นศัตรูแก่กัน
และธาตุไฟ-ลม และ น้ำ-ดิน เป็นมิตรแก่กัน 

   นักษัตร

 Stars

คือดาวฤกษ์ในระบบสุริยะจักรวาล มีหมู่ดาวรวม 27 หมู่ ซึ่งดวงจันทร์จะโคจรผ่านเข้าไปในหมู่นักษัตรเหล่านี้ครบทั้ง 27 นักษัตร จึงได้ 1 รอบวงจรหรือ หมายถึง 1 เดือนจันทรคติ 

 นิจ

 

คือ ดาวเคราะห์อยู่เรือนที่ตนเองตกต่ำหรือภพต่ำมีกำลังน้อย ให้โทษกับดวงชะตา ได้แก่ดาวที่อยู่ในราศีตรงข้าม อุจ และมหาอุจ นั่นเอง 

 ปทุมเกณฑ์

 

หมายถึง จันทร์ เป็น ๑๑ (ลาภะ) แก่ ลัคน์ เรียกว่ามีปทุมเกณฑ์ มีเสน่ห์ดีเป็นที่รักชอบของคนทั้งหลาย ทั้งปวงใครมีปทุมเกณฑ์ก็จะมีเสน่ห์มาก ๆ ในแบบดาวนั้น ๆ เป็นเกณฑ์อันเกิดจากดาวพฤหัส ดาวศุกร์ และดาวจันทร์ 

 พักร

Retrograde Motion

หมายถึงการโคจรย้อนจักรราศี หรือย้อนการโคจรตามธรรมชาติของดาวพระเคราะห์นั้น   ดาวพระเคราะห์ใด โคจรพักร ย่อมหมายถึงการขาดตอน ความจำกัดและความเสื่อมถอยอันเนื่องมาจากการที่ต้อง เอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อบรรลุผลในสิ่งตามความหมายของดาวพระเคราะห์นั้น สำหรับทางด้านจิตวิทยาจะหมายถึงพัฒนาการและการแสดงออกที่ ถูกจำกัด ไม่มั่นคงของขีดความสามารถที่ตรงกับธรรมชาติ ของดาวพระเคราะห์นั้น ดาวพระเคราะห์ที่โคจรพักรไว้ใจไม่ได้ จะให้ความไม่แน่นอน ทั้งด้านดี และด้านร้ายและโบราณถือว่าดาวพระเคราะห์ที่โคจรพักรนี้ มีคุณภาพไม่ดีนักสำหรับการดูแบบเรือนชะตา

 ภพหรือ

 เรือนชะตา

Houses

ภพ เรียกตามไทยว่า เรือนชะตา มีอยู่ 12 เรือน หรือ 12 ภพ 

เมื่อคำนวณดวงชะตา วางลัคนาเรียบร้อยแล้ว ให้ถือเอาภพที่ลัคนาสถิต เป็นภพที่ ๑ แล้วนับเวียนซ้ายทวนเข็มนาฬิกาเรียงลำดับกันไป 

 มนท์

Slow in

motion

เรียกว่าโคจรช้าดาวพระเคราะห์ใดก็ตาม ถ้าโคจรช้า หรือมีอัตราการโคจรน้อยกว่าอัตราการโคจรโดยเฉลี่ย จะมีผลทำให้สิ่งตามความหมายของดาวพระเคราะห์ดวงนั้น พัฒนาการช้า และบรรลุผลช้า ทางด้านจิตวิทยาจะหมายถึงการแสดงออก และมีกริยาที่เชื่องช้า และสำหรับในด้านชองชะตาชีวิตหมายถึงโอกาสช้า หรือมีธรรมชาติเฉื่อยชานั่นเอง อย่างไรก็ดีความช้าก็คือความมั่นคง 

 มุมสัมพันธ์

Aspect

เนื่องจากจักรราศีเป็นทางวงกลม ดาวเคราะห์โคจรไปเป็นวงกลม ทำให้ดาวแต่ละดวงอาจจะมีความสัมพันธ์กันเชิงมุม หรือทำมุมต่อกันได้ ดาวที่ทำมุมกัน จะมีปฏิสัมพันธ์กัน เหมือนตัวละครที่มีบทบาทร่วมกัน มีอยู่ด้วยกัน 5 มุม ได้แก่ กุม, โยค, เกณฑ์, ตรีโกณ และ เล็ง 

 มหาจักร

 

คือดาวที่ให้คุณแน่นอนที่สุด หมายถึง ความเจริญดีงามอย่างใหญ่หลวง ส่งผลในทางลาภยศ สรรเสริญ และอำนาจวาสนา 

 ยาม

 

คือการแบ่งเวลา กลางวันและกลางคืน โดยแต่ละเวลาแยกออกเป็น 8 ส่วนๆละ 1 ชม.ครึ่ง (อัฐกาล) 

 โยค

Sextile

มุม 60 และ 300 องศา (โยค)คือ นับจากดาวดวงหนึ่งไปหาอีกดวงหนึ่งได้ 3 ราศี เราเรียกว่าดาวนั้นเป็นโยคแก่กันหมายถึง การเปิดโอกาสสู่มุมมองใหม่ การสนับสนุนส่งเสริมดาวที่อยู่ในลัคนาเช่นนี้ย่อมส่งกำลังแก่กันได้ 25% และคำว่าดาวโยคลัคนา คือนับจากลัคนาไป 3 ราศี คือเรือนสหัชชะ พบดาวดวงใด เรียกว่าดาวโยคหน้าแก่ลัคนา และนับจากลัคนาไป 11 ราศี คือเรือนลาภะ พบดาวใด เรียกว่า ดาวโยคหลังแก่ลัคนา ดาวที่โยคหน้าและโยคหลัง ส่งผลให้แก่ลัคนา 100% ถ้าดาวโยคหน้าดีในวัยหนุ่มสาว ถ้าโยคหลังดีในวัยกลางคนและวัยชรา

 ราศี

Sign

คือส่วนแบ่งของจักรราศีบนทรงกลมท้องฟ้ามี 12 ส่วน ความกว้างส่วนละ 30 องศา เรียกว่า 12 ราศี รวมเป็น 1 จักราศี เท่ากับ 360 องศา/ราศีต้นหรือราศีที่ 1 เรียกว่าราศีเมษ (นับทวนเข็มนาฬิกา)

 ลัคนา

Ascendant

ลัคนาก็คือจุดตัดของเส้นรวิมรรคหรือเส้นสุริยะวิถีที่พระอาทิตย์โคจร (Ecliptic) กับแกนขอบฟ้าของโลกทางทิศตะวันออกที่เรียกว่า Horizon ในขณะที่พระอาทิตย์กำลังขึ้นสู่ขอบฟ้า เช่นในเดือนเมษายน พระอาทิตย์ขึ้นที่จุดตัดที่ว่านี้ตรงกลุ่มดาวราศีเมษพอดีในตอนเช้า/ในโหราศาสตร์หมายถึงจุดปฏิสนธิหรือจุดเริ่มต้นของบุคคล 

 เล็ง

 Opposition

มุม 180 องศา (เล็ง)หมายถึง การเผชิญหน้า ความตึงเครียดที่ต้องปรับสมดุลคือ ดาวที่สถิตอยู่ในราศีตรงข้ามกัน คือ เป็น ๗ (ปัตนิ / ตรงข้าม) แก่กัน เราเรียกว่าดาวเล็งกัน ดาวที่อยู่ในลักษณะเช่นนี้ย่อมส่งกำลังให้แก่กันถึง 100% และคำว่าดาวเล็งลัคนา คือดวงดาวซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับลัคนาในเรือนปัตนิ หากนับหนึ่งจากลัคนา จะเป็น ๗แก่ลัคนา ดาวนั้นจะส่งผลให้ลัคนา 75%

 วิกลคติ

 

ดวงดาวโคจรผิดปกติ ได้แก่
เสริด=โคจรเร็ว
มนท์=โคจรช้า
พักร์ = โคจรถอยหลังย้อนราศี    
สถิต = โคจรอยู่กับที่
 

 สมผุส

Geocentric

หมายถึง การยึดโลกเป็นศูนย์กลาง และมองดวงดาวต่าง ๆ จากโลก (ถ้าดูจากดวงอาทิตย์เรียก ตำแหน่งมัธยม[Heliocentric] )

สุริยะจักรวาล

Solar system

หมายถึง ระบบสุริยะจักรวาลคือระบบดาวที่มีดาวฤกษ์เป็นศูนย์กลาง และมีดาวเคราะห์ (Planet) เป็นบริวารโคจรอยู่โดยรอบ เมื่อสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิต สิ่งมีชีวิตก็จะเกิดขึ้นบนดาวเคราะห์เหล่านั้น หรือ บริวารของดาวเคราะห์เองที่เรียกว่าดวงจันทร์ (Satellite)แต่ในทางโหราศาสตร์ถือเอาโลกเป็นศูนย์กลาง

 เสริด

Direct motion

การโคจรเร็วของดาว เรียกว่าเสริด ดาวพระเคราะห์ใดก็ตามถ้าโคจรเร็วหรือเสริด มีอัตราการโคจรมากกว่าอัตราการโคจรเฉลี่ย จะมีผลทำให้สิ่งตามความหมายของดาวพระเคราะห์ดวงนั้น พัฒนาการเร็ว และบรรลุผลเร็ว ทางด้านจิตวิทยาจะหมายถึงการแสดงออก และมีกริยาอย่างรวดเร็ว สำหรับในด้านของชะตาชีวิตหมายถึงโอกาสมาเร็ว อย่างไรก็ดีการมีความรวดเร็วย่อมบกพร่องทางด้านความละเอียดถี่ถ้วนเป็นของธรรมดา

 หมอดู

Fortuneteller

หมายถึง บุคคลผู้ที่ใช้วิชาโหราศาสตร์ ทำนายเรื่องราวต่าง ๆ โดยจะใช้วิชาใดก็ได้วิชาหนึ่งหรือหลายวิชารวมกัน

 โหร

Astrologer

หมายถึง ผู้ที่ใช้ตำแหน่งดวงดาวบนท้องฟ้าในการทำนาย

 โหราศาสตร์

Astrology

วิชาว่าด้วยการพยากรณ์โดยอาศัยการโคจรของดวงดาวเป็นหลัก

 อุจจ์

 Exaltation

คือ ดาวเคราะห์อยู่เรือนที่ตนเองสูงส่งมีกำลังมากให้คุณกับดวงชะตา

 องค์เกณฑ์

 

หมายถึง ดวงดาวอยู่ในภพที่สลายความเลวร้ายและอาจให้คุณกับดวงชะตาได้ นอกจากนี้ยังมี อุดมเกณฑ์, ปทุมเกณฑ์ และสิงห์เกณฑ์อีกด้วย ซึ่งมีความแข็งแตกต่างหรือลดระดับลงมา (ความหมายอย่างง่าย ๆ ก็คือ ความมีวาสนา หรือมีบุญบารมีมาแต่กำเนิด)


ขอบคุณที่มา :  
                                       

#By_คุณยายกลิ่นโสม 102100
#อ่านดวงไทยสบายสบายตามสไตล์คุณยายกลิ่นโสม
#ฟรี!!เรียนดูดวงฟรี!!เรียนโหราศาสตร์ไทยฟรีที่บ้านคุณยายกลิ่นโสม
#โหราศาสตร์ไทยเรียนด้วยตนเองฉบับคุณยายกลิ่นโสม ได้ที่ #htthttp://www.baankhunyai.com 
 ------------------------------------
  สนใจดูดวงติดต่อ: baankunyai  102100450
          
Visitors: 197,943