พยาน

                พยาน โดย อาจารย์ประทีป อัครา

    วิวัฒนาการและความเจริญของโลกเป็นเรื่องที่ทำความหนักใจให้แก่นักศึกษาวิทยาการทางโหราศาสตรืเรื่องหนึ่ง ในข้อที่ว่า ความหมายของดาวพระเคราะห์ที่ปรากฎในตำรับตำราซึ่งบรูพาาจารย์ได้ให้เป็นมรดกตกทอดมานั้นจะไม่เป็นการเพียงพอในการนำมาใช้พยากรณ์สภาพการณืและเหตุการร์ในสมัยปัจจุบัน 

    เรื่องที่กล่าวนี้ ผมเองก็มีความเห็นว่าเป็นเรื่องน่าคิด แต่ยังไม่ปลงใจเห็นด้วยว่าจะเป็นเรื่องที่น่าหนักใจ ถ้าหากว่าเราจะพยายามสร้างธาตุแห่งการเป็นนักค้นคว้าและสร้างสรรค์เยี่ยงอย่างบรรพบุรุษของเรา

    ตำหรับตำราที่เราได้รับมรดกตกทอดมาใช้เป็นหลักในการศึกษานี้ จะได้มีเตรียมไว้ให้อย่างพรักพร้อมเพื่อรอมนุษยืโดยเทวบันดาลตั้งแต่สมัยสร้างโลกก็หามิได้ มรดกอันล้ำค่าเหล่านั้นได้เกิดได้มีขึ้นด้วยธาตุแห่งการเป็นนักค้นคว้าและสร้างสรรค์ของบรุพาจารย์ผู้เป็นบรรพบุรุษของเราทั้งสิ้น ตำหรับตำราเหล่านั้นเป็นบันทึกจากผลแห่งการค้นคว้าศึกษาของท่าน แต่ทว่ามันเป็นประสพการณ์ที่แตกต่างยุค , ต่างสมัย และต่างเวลากับพวกเราเท่านั้น 

    เมื่อเป็นเช่นนี้ ผมจึงใคร่ที่จะย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า ความเจริญของโลกที่ทำให้วัตถุและเหตุการณ์ผิดแผกไปจากตำหรับตำราของโบราณนั้นไม่ใช่เรื่องควรจะเก็บเอามาคิดเป็นเรื่องหนักใจเลย เพียงแต่เราจะร่วมกันปลุกวิญญาาณแห่งการเป็นนักค้นคว้าและสร้างสรรค์ให้ตื่นขึ้นอย่างเต็มภาคภูมิตามเยี่ยงบรรพบุรุษของเรา และแล้วในไม่ช้าเราก็มีตำหรับตำราเกิดขึ้นเหมาะกับยุค , เหมาะกับกาลเวลาและสมัยปัจจุบันของเราสำหรับเราและสำหรับจะเป็นมรดกตกทอดสำหรับลูกเราหลานเราเช่นเดียวกับที่เป็นมาแต่โบราณกาล

    ตามความเห็นของผม วิวัฒนาการของโหราศาสตร์นั้นมีได้เช่นเดียวกับอักษรศาสตร์ เพราะความหมายของดาวพระเคราห์อาทิตย์ , จันทร์ , อังคาร ฯลฯ สามารถที่จะนำมาผสมผสานให้เป็นความหมายได้เช่นเดียวกับการผสมสระและพยัญชนะในวิชาอักษรศาสตร์ ไม่ได้อะไรผิดกันผิดกันเลย

    ผมเคยถูกเพื่อนโหราศาสตร์ด้วยกันหาว่าเดาส่งเดชแบบยกเมฆ เมื่อพยากรณ์ว่า เสียเงินเกี่ยวกับโทรทัศน์ และ จงเดินทางโดยเรือหางยาว แม้ว่าการพยากรณ์นั้นจะมีส่วน ถูก เขาก็ยังแย้งด้วยเหตุผลที่ว่า โทรทัศน์ และเรือทางยาว จะมีอยู่ในความหมายดวงดาวทางโหราศาสตร์ได้อย่างไร ในเมื่อมันต่างยุคต่างสมัยกันอย่างไม่มีทางมารวมกันได้ 


    ท่านล่ะครับ มีความเห็นอย่างไรบ้าง 

    ตำราเรียนหนังสือเล่มแรกของไทย มีชื่อว่า "จินดามณี"  ซึ่งพระยาโหราธิบดีร้อยกรองขึ้นในแผนดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชสมัยกรุงศรีอยุธยานั้น ทุกคนรู้ว่า คำว่า โทรทัศน์ และเรือหางยาว นี้ไม่มีแน่ 

    กาลเวลาล่วงมาจนกระทั่งในรัชสมัยของพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๕ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ตำราเรียนหนังสือไทยก็ได้รับการปรับปรุงและเรียบเรียงใหม่ โดยพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกรู) คำว่าโทรทัศน์ และเรือหางยาว ก็ยังหาได้มีปรากฎให้นักเรียนได้ศึกษาเล่าเรียนกันไม่ แต่ทำไมเดี๋ยวนี้เราจึงเขียนคำว่า โทรทัศน์ และ เรือหางยาว กันได้

    ผมนึกเอาเองว่า ทุกท่านตอบเหมือนกันหมดว่า เราทำเช่นนั้นได้ด้วยการผสมตัวสระพยัญชนะกันตามหลักเกณฑ์แห่งวิชาอักษรศาสตร์ ซี่งแน่ละเป็นคำตอบที่ถูกต้อง 
    คราวนี้ผมจะนำเอาความหมายของดาวพระเคราะห์ที่บุรพาจารย์ท่านบัญญัติเอาไว้ว่า
ราหู  หมายถึง เงา 
พุธ  หมายถึง  เสียง
อาทิตย์  หมายถึง  แสง
 
    ทั้งสามประการนี้ ถ้าหมายถึงวัตถุสิ่งหนึ่งซึ่งมีแสง  มีเสียง  และมีเงา  เป็นเหตุทำให้เสียเงิน ท่านคิดว่า ถ้าเราจะประมวลเอาความหมายเหล่านั้นมาพยากรณ์ว่า เสียเงินเกี่ยวกับเรื่องโทรทัศน์ พอมีทางที่จะทำได้ไหมครับ 
เสาร์  หมายถึง ไม้
อังคาร  หมายถึง เครื่องจักร  เครื่องยนตร์ 
 
    ในสมัยที่เรือแท๊กซี่ลำโตๆ เขาไม่นิยม และเลิกกันหมดแล้วสำหรับการโดยสารในระยะใก้ลๆ เมื่อดาวคู่นี้คือราหูกับอังคารอยู่ในราศีธาตุน้ำ ซึ่งเป็นภพเดินทางของคนที่มาให้พยากรณ์ เราประมวลความหมายเอาว่า ไม้อยู่ในน้ำคือเรือ มีอังคารอยู่ด้วยเท่ากับเรือมีเครื่องยนต์ นำเอาความนิยมในสมัยปัจจุบันเข้าประกอบ แล้วพยากรณ์ว่า จะเดินทางโดยเรือหางยาว ท่านว่าการพยากรร์อย่างนี้เป็นเรื่องของการเดาส่งเดชแบบยกเมฆหรือเปล่าครับฦ

    หลังจากที่ได้นำเอาประสพการณ์เรื่อง "เมีน้อย" มาเขียนลงพยากรณสาร เมื่อเดือนตุลาคม ๒๕๐๔ ซึ่งได้รับความสนใจบ้างตามสมควรเพื่อนักศึกษาและผู้สนใจวิชาโหราศาสตร์บางคนได้เคยขอร้องให้นำประสพการณ์ที่มีประสพการณ์ที่มีลีลาทันต่อเหตุการณ์และทันสมัยทำนองนั้นมาเผยแพร่เพื่อประโยชน์แก่วงการศึกษาของโหราสาสตร์อีก เป็นความผิดซึ่งผมเองมีความปราถนาอยู่ที่จะกระทำและบัดนี้ก็ถึงโอกาสที่จะทำตามปรถนานั้นแล้ว จึงขอนำประสพการณ์ส่วนหนึ่งมาเสนอต่อท่าน โดยให้ชื่อว่า " พยาน"

    ประสพการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อปลายปี พ.ศ. ๒๕๐๔ ใก้ลๆกับเวลาที่ดาวมาราวมกลุ่มประชุมกันทำคราสขึ้นในราศีมังกร ซึ่งหนังสือและวงการโหรทั้งไทยและเทศ ได้ลงข่าวกล่าวขวัญกันอย่างครึกโครมน่าอกสั่นขวัญหาย 

    อาคันตุกะผู้มาเยี่ยมผม มีชันษากำเนิดตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น ๑๑ ค่ำ เดือน๑๒ ปีวอก  วันที ๒๑ พฤศจิกายน ๒๔๖๓ เวลา ๑๗.๒๕ น. รูปจักร์ชะตาปรากฎดังนี้ จุดประสงค์ในการที่บุกบั่นไปหาผมจนถึงบ้านก็คือ เรื่อง " พยาน " 
 

    เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า เขาได้ร่วมกิจการเพื่อน แต่แล้วก็ถูกเพื่อนผู้ร่วมงานผู้นั้นเบียดบังผลประโยชน์ก้อนใหญ่ไป มีท่าทีการทีจะเรียกร้องผลประดยชน์ก้อนนี้กลับคืนมา ทางที่จะให้ได้จริงๆ ก็เห็นจะต้องกฎหมาย แต่ปัญหาหนักมันอยู่ตรงที่ผู้รู้เห็นที่จะยืนยันข้อเท้จริงและหลักฐานที่จะช่วยให้เจ้าชะตาได้รับผลประโยชน์ก้อนนั้นคืนลังเลต่อการให้ความช่วยเหลือเจ้าชะตา ซึ่งหมายถึงว่าจะเป็นผลร้ายต่ออีกฝ่ายหนึ่ง เมื่อเป็นเช่นนี้ สิ่งที่เขาต้องการก็คือคำแนะนำที่ว่า เขาควรจะทำหรือแก้ไขอย่างไรที่จะทำให้เกิดผลดีขึ้น พยานคือผู้รู้เห็นในเหตุการณ์นี้ ก็คือคนที่อาศัยอยู่ในบ้านของเขานั่นเอง

    หลังจากที่พิจารณาดวงจักรชะตาของเขาแล้วก็ผมก็ถามเขาว่า " พยานคนที่ว่านี้เป็นคนมาจากต่างจังหวัดใช่หรือไม่" เขารับว่าถูกต้อง ผมจึงถามเขาต่อไปว่า

    "การที่เขามาอยู่ที่บ้านของคุณนั้นไม่ใช่การจัดการของคุณ เป็นเรื่องที่ภรรยาของคุณจัดและให้เขาอยู่ในฐานะเสมือนญาติ ? " เขาชี้แจงว่า พยานผู้นี้เป็นลูกคนบ้านเดียวกับภรรยาของเขา เกี่ยวเนื่องเป็นลูกพี่ลูกน้องกันห่างๆ 

     "การที่เขามีใจแปรปรวนไม่แน่ใจ ในการที่จะเป็นพยานให้ทางฝ่ายคุณ ทำท่าเหมือนกับจะไปฝักใฝ่กับฝ่ายหนึ่ง เป็นเพราะว่าเขาเคยไปพึ่งอาศัยเงินทองของฝ่ายนั้นในขณะที่สถานะ ทางการเงินของคุณและภรรยาของคุณและภรรยาคุณกำลังฝืดเคืองใช่หรือไม่ ผมป้อนคำถามต่อ ซึ่งได้รับการยืนยัน 

    ในขณะนั้น ( ๒๙ ธันวาคม ๒๕๐๔ ) เป็นระยะเวลาก่อนที่ดาวจะเข้าจับกลุ่มชุมนุมทำคราสขึ้นในราศีมังกร ซึ่งทำให้เขาเกิดความวิตกกังวลมาก 

    ผมได้ปลอบใจเขาว่า คราสในราศีนี้จะเป็นผลดีแก่ดวงชะตาของเขามาก ลาภผลการเงินที่ซบเซาไปจะฟื้นตัวจากการคราสครั้งนี้ 

     ผมถามเขาว่าเรื่องนี้จะชลอเวลาไว้โดยยังไม่จีดการอย่างใดอย่างหนึ่งสักประมาณ ๒ เดือนจะได้หรือไม่ เขาก้บอกว่าพอจะรอได้
     ผมจึงให้ข้อแนะนำแก่เขาว่า 

     "ถ้าอย่างนั้น คุณก็ไม่ต้องทำอะไรในระยะนี้ รอให้ดาวพฤหัสยกย้ายเข้าราศีกุมภ์เสียก่อนซึ่งจะเป็นจากวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๐ค จากนั้นคุณก็ไม่จำเป็นจะต้องไปสนใจอ้อนวอนงอนง้อ เจ้าพยานคนนั้นให้เสียเวลา ให้คอยดู ซึ่งผมเข้าใจว่าจะมีญาติผู้ใหญ่ของพยานเกิดการเจ็บป่วยขึ้น ซึ่งญาติผู้นั้นน่าจะเป็นเพศหญิง จังหวะนี้แหละเป็นจังหวะที่คุณควรจะถือเป็นโอกกาสสร้างบุญคุณครอบกาลหัวของพยานโดยให้ความช่วยเหลือแก่ญาติผู้นั้นอีกครั้งหนึ่ง ต่อจากนั้นความหนักใจของคุณก็จคลี่คลายและหมดไปเอง 

     การสอบถามผสมการพยากรร์ที่นำมาถ่ายทอด นำมาเฉพาะส่วนที่ที่ทายถูก ที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนก็มีบ้างแต่ไม่ได้นำมา เพราะคิดว่าท่านทั้งหลายคงจะต้องการแนวทาง จะทายอย่างไรจึงจะถูก มากกว่า จะทายอย่างไรจึงจะผิด ไม่ใช่ว่าผมมีความเก่งกาจสามารถพยากรร์พยากรณ์ได้ไม่ผิดเลย

     ก่อนที่จะเข้าไปถึงจุดว่า จะทายอย่างไร มีจุดที่ควรจะพูดก่อนก็คือ เอาอะไรมาทาย ผลไม้จะเกิดขึ้นโดยไม่มีต้นไม้ไม่ได้ฉันใด พยานก็จะเกิดขึ้นโดยไม่มีคุ่คดีหรือคู่ความไม่ได้ฉันนั้น และด้วยเหตุนี้ ก่อนที่เราจะหาตัวพยาน เราก็จะต้องหาตัวคู่คดีหรือคุ๋ความให้ได้เสียก่อน 

     ตามหลักของโหราศาสตร์ อุปสรรคก็ดี ศัตรูคู่แข่งขันก็ดี ผู้ที่มาก่อความเดือดร้อนยุ่งยากซีเราจะต้องต่อสู้ด้วยก็ดี ท่านกำหนดให้เป็นความหมายของภพที่๖ ภพ อริ และให้ถือเอาเจ้าเรือนของภพอริ เป็น สิ่งหรือบุคคล นั้น

     ตามดวงจักร์ชะตาที่แสดงไว้ข้างต้น ท่านจะเห็นว่าลัคนาสถิตอยู่ในราศีพฤษภ ภพอริของดวงชะตาก็คือราศีตุลย์เราก็พบจุดที่เราต้องการจุดที่หนึ่งว่า ราศีเป็นคู่คดีคู่ความหรือคู่ต่อส้ของเจ้าชะตาก็คือราศีตุลย์ ซึ่งมีดาวพระศุกร์เป็นเจ้าเรือน 

     จุดที่ ๒ ที่เราต้องการก็คือจุด พยาน ตามหลักแล้ว พยานของเรา ก็คือ ผู้ที่จะทำประโยชน์ให้แก่เราในการต่อสู้กับคู่ความของเรา หรืออีกนัยหนึ่ง พยานของเราคือผู้ที่จะหักล้างศัตรูของเรา ซึ่งรวมความแล้ว พยานของเรา ก็คือ ศัตรูของศัตรูของเรา นั่นเอง

     จากหลักเกณฑ์อันนี้และจากดวงที่กล่าว ศัตรูของศัตรูซึ่งได้แก่ อริของอริ ก็คือราศีมึนอันเป็นลาภะของดวงชะตานั่นเอง

     จากข้อความพยากรณ์สอบดวงชะตาข้างต้นที่ว่า พยานเป็นคนมาจากต่างจังหวัด คงจะเป็นจุดซึ่งท่านมีความประสงค์จะให้ขยายความว่าเอาอะไรมาทาย

     เบื้องแรก เรารู้อยู่แล้วว่าเจ้าชะตาเป็นกรุงเทพฯ และเรารู้ต่อไปอีกว่าราศีมีนเรือนลาภะของลัคนาเป็นเรือพยาน ดาวพฤหัสเจ้าเรือนจึงเป็นตัวพยาน ในดวงชะตาพฤหัสสถิตร่วมกับดาวเสาร์ในราศีสิงห์ ความหมายของดาวเสาร์นั้นส่วนใหญ่จะหมายถึงท้องทุ่งนา หรือ ชนบท ในราศีกุมภ์ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของเรือนพระเสาร์มีดาวมฤตยูสถิตเล็งดาวเสาร์อยู่ ซึ่งทำให้ดาวเสาร์เสียความั่นคงทั้งในการเป็นประเกษตร และในการถูกมฤตยูเล็ง เพราะฉะนั้นจึงประมวลเอาข้อความเหล่านี้ มาพยากรณ์ว่า พยาน (พฤหัส) มาจาก(อำนาจมฤตยู) ต่างจังหวัด(เสาร์)

     ข้อต่อไป การมาอาศัยนั้นเป็นการจัดการของภรรยาและให้อาศัยอยู่ในฐานะเสมือนญาติ ข้อนี้เข้าใจว่าคงจะไม่ยากสำหรับการที่จะเข้าใจ เพราะว่าเรือนที่พยาน(พฤหัส)สถิตนั้นอาทิตย์เจ้าเรือนสถิตอยู่เรือนปัตนิซึ่งหมายถึงภรรยาส่วนอีกด้านหนึ่งราศีสิงห์ ที่ดาวพยานสถิตนั้นเป็นเรือนพันธุแก่ลัคนาซึ่งหมายถึงญาติพี่น้อง 

    ข้อต่อไปอีก เขามีใจปรวนแปรไม่กล้าเป็นพยาน เพราะจะต้องไปพึ่งพาการเงินของอีกฝ่ายหนึ่ง ข้อนี้เป็นเพราะว่า ดาวเสาร์ที่กุมดาวพฤหัสนั้น เป็นเจ้าเรือนกดุมภะของดาวพระศุกร์ ในดวงชะตาซึ่งเป็นเจ้าเรือนอริ เท่ากับว่าดาวพฤหัส(พยาน) ถูกออทธิพลของดาวเสาร์(เงินของฝ่ายตรงข้าม) บีบบังคับอยู่ 

    จากวิธีแปลความหมายของดาวพระพระเคราะห์ที่ผมชี้แจงมาข้างต้น บางท่านอาจจะเกิดความฉงนว่าทำไมดาวดวงหนึ่ง จึงแปลความหมายไปได้ตั้งหลายอย่าง เช่นดาวเสาร์ แปลว่าชนบท ก็ได้ แปลว่าเงินก็ได้เป็นต้น จะถือเอาอะไรเป็นหลักเกณพ์ว่าเมื่อไหร่จะใช้ความหมายอย่างไร

     ในเรื่องที่ต้องใช้ดาวดวงหนึ่งไปแทนความหมายของสิ่งต่างๆ ตั้งหลายหลายประการนั้นเป็นความจำเป็นที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะว่าในดวงชะตาที่เราใช้พยากรณ์เหตุการณ์ของมนุษย์ร้อยแปดพันเก้าประการนั้น เราอาศัยดาวเพียง ๑๐ ดวง (ในระบบโหราศาสตร์ไทย) มาเป็นหลักพยากรณ์ ส่วนหลักหลายตัวที่กำหนดลงไปว่า เมื่อใดจะเอาความหมายอย่างไรมาพยากรณ์นั้น เห็นทีจะทำได้ยาก ผมเห็นว่ามีอยูทางเดียวเท่านั้นที่จะทำให้เลือใช้ได้ โดยมีทางผิดน้อยที่สุด คือต้องหาความชำนาญให้แก่ตนเอง ในภาคปฎิบัติไม่ใช่ภาคทฤษฎีเพียงอย่างเดียว

     พอดาวพฤหัสยกเข้าราศีกุมภ์ ญาติผู้ใหญ่เพศหญิงของพยานจะป่วย เป็นจุดสุดท้ายของการพยากรร์ที่ผมเสนอไว้ ขอได้โปรดย้อนกลับไปดูดวงชะตาอีกครั้ง ท่าจจะเห็นว่าภพมรณธ ซึ่งหมายถึง ดวงเดิมของฝ่ายพยานนั้นคือราศีมีน ซึ่งมีดาวพฤหัสเป็นเจ้าเรือนครอง 


 
     ด้วยเหตุที่ดาวมฤตยู เจ้าแห่งโรคอาเภท ในขณะนั้นทับดาวพฤหัสอยู่ เมื่อดาวพฤหัสเจ้าเรือนมรณะจรมาทับดาวมฤตยูในราศีที่เล็งยันกันเข้า จึงเกิดเป็นกำลังผสมผสานที่สมบรูณ์ทำให้เกิดความหมายขึ้น 

     ตามรูปของดวงชะตา และตามความหมายที่กล่างไว้แต่ต้นว่าดาวพฤหัสได้แก่พยาน เมื่อเกิดมุมมฤตยูทับพฤหัส และพฤหัสทับมฤตยู ตัวพยายน่าจะป่วย 

     มันน่าจะเป็นอย่างนั้น ถ้าเราจะมองกันแต่เผินๆ แต่ถ้าจะเซาะให้ลึกลงไป ท่านจะเห็นว่าเจ้าเรือนพฤหัสในดวงชะตาสถิตได้แก่อาทิตย์อันเป็นที่รองรับนั้นสถิตเป็น ๔ แก่พฤหัส ซึ่งหมายถึงพันธุ คือ ญาติจะเป็นผู้ได้รับความกระทบกระเทือน 

     พุดถึงความมั่นใจของผมในการพยากรณ์ว่า ญาติป่วย มันมีมากกว่านั้น แต่ที่ไม่ได้กล่าวไว้เพราะเห็นว่าไม่ใช่เรื่องจำเป็นสำหรับผู้รับคำพยากรณ์ แต่ ณ.ที่นี้เมื่อเล่าสู่กันฟังในระหว่างนักศึกษาด้วยกัน ผมก็อยากเรียนเพิ่มเติมว่า ที่ผมมั่นใจว่า " ญาติผู้หญิงจะป่วย" ก็เพราะดาวอาทิตย์ซึ่งสถิตอยู่ในเรือนญาติก็จะโคจรเข้าไปร่วมกับดาวพฤหัส ดาวมรณะในราศีกุมภ์และดาวอาทิตย์ก็จะรออยู่ที่ราศีนั้น จนกระทั่งดาวอังคารเจ้าเรือนพีนธุยกย้ายตามไปจนทันร่วมกลุ่มกับดาวมรณะอีกดวงหนึ่ง ทำให้องค์ประกอบของคำว่า ญาติป่วย เกิดขึ้นโดยสมบรูณ์ ในส่วนที่เกี่ยวกับเพศ ดาวจันทร์ที่กดเรือนพฤหัสดาวมรณะ จันทร์แสดงความโน้มเอียงเรื่องเพศไปในทางผู้หญิงอยู่ประการหนึ่ง กลุ่มที่แสดงถึงญาติป่วย ยังเป็นภพปัตนิของพยานอัหมายถึงเพศตรงข้ามอีก เมื่อตัวพยานเป็นเพศชาย ภพปัตนิจึงแสดงเป็นผู้หญิงอย่างไม่มีปัญหา เมื่อรวมความหมายทั้งสองตอนเช้าด้วย ผลของคำพยากรณ์จึงเป็น ญาติที่เป็นเพศหญิงป่วย 

     เพื่อให้ได้ความสมบรูร์ขึ้นในหลักการที่ผมได้นำมาใช้พยากรณ์ในข้อต่อไปที่ว่า เจ้าชะตาจะได้รับความสำเร้จและประสพผลดี ทั้งนี้ก็เพราะว่า จุดของเหตุการณ์สะเทือนหนักอยู่ที่ตัว พยาน ซึ่งเป็น ซึ่งเป็นที่ทราบอยู่แล้วว่า ดาวพฤหัส นั่นเอง

     ท่านคงจะเห็นด้วยกับการที่ผมมั่นใจและให้พยากรณ์ไปอย่างนั้นเพราะว่าจุดสถิตของดวงดาวพฤหัสในดวงชะตาก็ดี เจ้าเรือนและราศีก็ดี ล้วนแล้วแต่มีลักษระแสดงคุณมากกว่าโทษทั้งวิถีโคจรของดาวพฤหัสในราศีที่แสดงคุณแก่ดวงชะตา โดยเฉพาะในระหว่างของที่ดาวพฤหัสโคจรอยู่ในราศีกุมภ์ ดาวพฤหัสก็โคจรโดยไม่มีการวิปริตตลอดตรียางศ์ (ไม่แสดงการโคจรของดวงดาวดูประกอบ)

     จะพยากรณ์ในวชาโหราศาสตร์นั้น ต้องการความประณีตละอียดละออด้วยหลักเกณฑ์เป็นอันมาก ส่นผลที่จะได้รับนั้นขึ้นกับการฝึกฝนและความชำนาญของแต่ละบุคคล

     คงจะเคยเห็นช่างเครื่องยนตร์ ในขณะที่ปฎิบัติงาน และท่านคงจะสังเกตุเห็นว่าช่างแต่งานจะมีเครื่องมืระเกะระกอยู่ในหีบเครื่องมือของเขาเป็นสิบๆชิ้น สำหรับช่างที่ชำนาญนั้นเวลาที่จะหยิบจับ้ครื่องมือจากกองระเกะระกะนั้นขึ้นมาใช้ได้อย่างพอเหมาะพอเจาะ แต่ช่างที่ไม่ชำนาญงานจะหยิบใช้อุปกรณ์เครื่องมือชิ้นที่ต้องการได้ ก็ต้องเลือกแล้วลองอีกอย่างทุลักทุเล

     เช่นเดียวกับวิทยาการโหราศาสตร์ เพียงแต่ดาวพระเคราะห์อย่างเดียวก็มีความหมายตลอดสรรพสิ่งต่างๆตั้งมากมายหลายอย่าง แถมยังต้องผสมความหมายของราศีและของเรือนนั้นๆ จึงทำให้เป็นเรื่องสับสนซับซ้อนและยุ่งยากไม่ใช่น้อย การที่จะหยบยกเอาความหมายหนึ่งความหมายใดโดยเฉพาะขึ้นมาให้ได้พอเหมาะพอเจาะ จึงมีทางทำได้อยู่เพียวอย่างเดียว นั่นก็คือต้องมีความชำนิชำนาญและความสนใจ สำเนียกจดจำวิธีการของครูบาอาจารย์และหลักเกณฑ์ จะทำให้ได้รับผลและแน่นอนกว่าความคิดที่มีทิฎฐิว่าจะสามารมีความรู้ความชำนาญได้ด้วยตนเองแบบสัมมาสัมพุทโธ ไม่ใช่เป็นสิ่งเป็นไปไม่ได้ แต่ทว่าในระยะ ๒๕๐๐ กว่าปีนี้ พึ่งจะมีปรากฎขึ้นในโลกเพียงองค์เดียวเท่านั้น 

     ผมคิดว่ายังมีสิ่งที่ท่านคงจะต้องการทราบอยุ่อีกอย่างหนึ่งว่าเรื่องราวที่กำลังจะจบลงอย่างไร 

     ก็คิดว่าในที่สุดนี้คงจะถึงโรงถึงศาลโดยที่พยานตกลงลงปลงใจเป็นพยานให้เหมือนกับคำที่พยากรณ์ออกไปให้เขาไป แต่ว่าเรื่องมันจะจบเร้วและสั้นกว่านั้นครับ เขาตกลงในขั้นเจราจา ผลสำเร็จของการเจรจาเกิดขึ้นในเดือนมีนาคม และได้รับเงินคืนในเร็ววัน

     เรื่องที่ผมนำมาเสนอนี้เป็นประสพการณ์ในส่วนตัวผม  หลักเกณฑ์การพยากรณ์ที่เสนอมานั้นถ้าหากจะไม่ตรงตามตำราหรือความเห็นของท่านผู้ใด ก็ขอได้โปรดอย่าไปเข้าใจว่า ผมเสนอบทความนี้มาเพื่อความขัดแย้งกับตำราหรือความเห็นของท่าน เจตนาและความคิดของผมมีเพียงแต่ เรื่องราวที่ผมประสพมานี้น่าศึกษาและน่าสนใจ จึงเสนอมาเผื่อจะเป็นประโยชน์แก่นักศึกษาและผู้สนใจโหราศาสตร์บ้าง 


โหราศาสตร์ เป็นวิชา ปราณีตศิลป์ 
จะสุกเอา เผากิน นั้นอย่าหมาย 
รู้เพียงศาสตร์ ถ้าขาดศิลป์ ก็สิ้นลาย 
การทำนาย จะแม่นยำ เพราะชำนาญ  


ประทีป อัครา
.

     #By_คุณยายกลิ่นโสม 100
        ---------------------
  สนใจดูดวงติดต่อ: baankunyai 102 100450
     
Visitors: 216,709