มือใหม่ หัดเรียนดวงฯ
คำแนะนำเรื่องการเรียนโหราศาสตร์ไทย สไตล์คุณยายกลิ่นโสม

คำแนะนำสำหรับมือใหม่หัดเรียนดวง
ยายจะแนะนำอ่านดวงสไตส์คุณยายกลิ่นฯเท่านั้นนะจ๊ะ
หมายถึงโหราศาสตร์ไทยอะไรลูก
โหราศาสตร์ไทยสิคะยาย
ที่มา : #http://www.baankhunyai.com/17258642/อ่านดวง-สไตล์คุณยายกลิ่นโสม
ตอบได้เลยทันทีว่า หนูเรียนได้นะ
มีหมอดูหลายๆคนบอกว่าหนูไม่มีดวง ยายต้องดูดวงหนูก่อนไหม ว่าหนูจะเรียนได้ไหม
ยายจึงถามกลับไปว่า หนูรักเรียนดวงไหมลูก ถ้าหนูตอบว่า ใช่ค่ะหนูรักจะดูดวงเรียนดวง ล่ะก้อ หนูๆสามารถเรียนดวงไ้ด้เลยค่ะ เพราะว่าหนุรักที่จะเรียน แล้วเมื่อไหร่ที่หนูเรียนไปแล้วติดๆ หนูก็จะพักเรียนไปพักหนึ่ง แล้วไม่นานก็กลับมาเรียนใหม่ ค้นคว้าใหม่ แลัวเมื่อถึงเวลานั้นเรื่องเรียนติดๆอยู่ ก็อาจจะคลายไป ถูกแก้หายไปได้ แล้วหนูก็เรียนต่อไปได้อีก
แล้วไม่จำเป็นว่าต้องมีดวงมาแต่เดิมหรือคะ
ยายบอกแบบนี้นะลูก ถ้าหนูไม่มีดวงมา ก็แสดงว่า บุพกรรมเก่า สัญญาเก่า แค่ไม่เคยเรียนโหราศาสตร์มาก็เท่านั้น แต่เราสามารถมาเริ่มเรียนกันใหม่ได้ค่ะ ในเมื่อของเก่าไม่มีมา นั่นก็หมายความว่าเราต้องมีความพยายามมากและมีความอุสาตหะมากกว่าคนที่เค้ามาีของเดิมของเค้ามา แสดงว่าเราจะต้องเหนื่อยกันหน่อยก็เท่านั้น
แล้วไม่มีดวงจะเรียนนี่ ถ้าเรียนๆไปแล้วจะอ่านดวงได้ไหมคะ
ขึ้นกับความเพียรของน้องๆ หนูๆ นะ ว่ามีความเพียรเท่าไหน เพราะทุกครั้งที่ยายทำอะไรแล้ว ไม่มีดวงมาด้วย
ยายจะนึกถึงประโยคนี้ค่ะ
" ดวงดาว ฤา จะกำหนดความเป็นไปของมนุษย์นั้นได้
สิ่งที่กำหนดความเป็นไปนั้นได้ นั่นคือความเพียร นั้นเล่า "
แล้วยายก็เริ่มกำหนด วางแผนว่าจะทำอย่างไรถึงจะสำเร็จ ยายมักเอาไปใช้กับทุกๆเรื่อง
รวมถึงการเรียนโหราศาสตร์ไทยด้วยเหมือนกันค่ะ ฉะนั้นคนเราทุกคน สามารถทำทุกสิ่งให้ถึงซึ่งความสำร็จได้ โดยการเชื่อในตนเองก่อนว่า คุณทำได้ และเชื่อว่าทำได้ สำเร็จ
เมื่อเชื่อทำได้ และเชื่อว่าทำได้ สำเร็จ หนูก็จะทำได้สำเร็จ ทั้งๆที่ไม่มีดวงมาจ๊ะ
ส่วนโหราศาสตร์มีกฎเกณฑ์มากมายที่ต้องจำเยอะเหลือเกินค่ะยาย
กฎเกณฑ์ต่างๆ นานๆไปก็ต้องใช้นะ ฉะนั้นเมื่อเราก็จะค่อยๆเรียนไป ค่อยๆรู้ไปทีละนิดนานไปก็จะจำได้
หนูเริ่มเรียนดวงใหม่ๆ ยายว่า อย่าเพิ่ง..รีบจดจำกฎต่างๆเลยนะ
หนูเริ่มเรียนใหม่ๆ ให้หนูเริ่มเรียนโดยพยายามทำความเข้าใจและจำ พื้นฐานก่อนก็พอ นั่นก็คือ
ความหมายดาว
ความหมายภพเรือน
ธาตุของดาว
และ ธาตุของราศี ก่อน
และหลังจากนั้น หนูค่อยๆเพิ่มขึ้นทีละนิด ทีละนิด หนูก็จะจำได้โดยไม่หนักเกินไป และจะทำให้ไม่ท้อในการเรียนนั่นเอง
ความหมายดาว ทั้ง ๑๐ ดวง เริ่มตั้งแต่ความหมายอาทิตย์(๑) จันทร์(๒) อังคาร(๓) พุธ(๔) พฤหัส(๕) ศุกร์(๖) เสาร์(๗) ราหู(๘) เกตุ(๙) มฤตยู(๐) ดาวทั้ง ๑๐ ดวงนี้
แล้วความหมายภพเรือน ๑๒ เรือน และ
ธาตุ มี ๔ ธาตุ ซึ่งจะมีธาตุในดาว และธาตุในราศี
ซึ่งมีความจำเป็นว่าต้องจำ เพราะเรียกว่าแทบจะทุกสายวิชาโหราศาสตร์ จำเป็นต้องรู้
เมื่อเรารู้แล้ว พอทำความเข้าใจได้บ้าง ก็เริ่มเราจะอ่านดวงกัน
หลังจากนั้น อ่านทำความเข้าใจความหมายดาวแล้ว ก็ให้ทำความเข้าใจว่าธาตุของดาวเป็นธาตุอะไร ธาตุในโหราศาสตร์ไทย มี ๔ ธาตุ นั่นก็คือ ไฟ ดิน ลม และน้ำ เราต้องทำความเข้าใจว่าดาวแต่ละดวง ว่าเป็นธาตุอะไร เพื่อทำให้เราเข้าใจดาว เพื่อจะอ่านดวงได้ละเอียดมากขึ้น
ทีนี้หากเราจะเริ่มอ่านดวงล่ะ ถ้าอ่านในสไตล์ของยายทุกครั้ง ยายจะเริ่มที่...
ลำดับแรกการอ่าน ต้องอ่านที่.. ลัคนา ก่อนทุกครั้งและตามด้วยตนุลัคน์ เพื่อจะได้รุ้ว่า เจ้าชะตามีวาสนา ตัวตนเป็นเช่นไร
ลำดับต่อมา ให้ดาวลอย ที่สถิตย์ในลัคนา เมืออ่านครบแล้ว
ก็มาดู ดาวความคิด ดาวจิตใจ(ตนุเศษ)ของเจ้าชะตา
จึงค่อยมาอ่าน.. จุดเหตุการณ์(ชันษา)ของดวงชะตา ของดวงเดิม ของดวงวัย(คล้ายกับการดูผัง๙ ของดวงจีนนั้นเอง) และของดวงปี ซึ่งเป็นดวงปีนั้นๆ แล้วจึงค่อยมาดู ดาวความคิด ดาวจิตใจ(ตนุเศษ)ของเจ้าชะตา ของปีนั้นๆ ตามลำดับไป
เมื่อเราอ่านดวงพื้นๆดวงได้แล้ว เราค่อยๆเติมกฎเกณฑ์ เช่น ตำแหน่งดาว คู่สมพล คู่มิตร คู่ธาตุ และอื่นๆอีกมากมาย ฯลฯ ลงไป ซึ่งก็จะทำให้อ่านดวงได้ ละเอียด และ ละเอียดมากขึ้น นั่นเอง
ขอให้คนที่เริ่มเรียน แค่ไม่ท้อไม่ถอย แต่ตั้งใจมั่นว่า เราทำได้ แน่นนอนว่า ทุกๆคนที่เรียนก็จะเรียนได้สำเร็จนั่นเอง
ที่มา : #http://www.baankhunyai.com/17258642/อ่านดวง-สไตล์คุณยายกลิ่นโสม
#คุณยายกลิ่นโสม
#เรียนดวงไทยฟรีที่บ้านคุณยายกลิ่นโสม
#เรียนโหราศาสตร์ไทยด้วยตนเอง ได้ที่.. #http://www.baankhunyai.com
