๑๒ ราศีที่ควรศึกษา

     
           ๑๒ ราศีที่ควรศึกษา  โดย อาจารย์ ส. แสงตะวัน 

มีนักศึกษาจดหมายถามมาบ่อยๆว่าวิชาโหราศาสกร์จะมีวิธีร่ำเรียนกันอย่างไร จึงจะได้รับผลสมความปรารถนา สามารถนำไปพยากรณ์เขาได้ถูกต้อง บางคนบอกว่าเขาสอบได้คะแนนยอดยี่ยมจากสำนักเรียนของเขามาแล้ว แต่มีผลเพียงเล่นได้แบบงูๆ ปลาๆ เท่านั้น และมีหลายคนถามว่าจะเรียนจากตำราของใครดังนี้เป็นต้น  วันนี้ใคร่จะถือโอกาสตอบเสียเลย

เราจะร่ำเรียนวิชาอะไรก็ตาม เราจะเบ็นคนเก่งได้ต้องขึ้นอยู่กับความขยันหมั่นเพียร และขึ้นอยู่กับครผู้ผืกสอนเป็นสำคัญ สมัยนี้การจะหาตำรามาเรียนนั้นคงจะได้รับผลน้อยมาก หรืออาจจะไม่ได้อะไรเลยก็เป็นได้ เนื่องจากผู้สร้างตำราประเภทอยากดังยังมีแทรกแซงอยู่ ยังเล่นไม่เป็น ทำนายเขาไม่ถูก แต่ชอบสร้างตำราแบบฤาษีแปลงสารออกจำหน่ายปะปนอยู่มาก จึงไม่สามารถจะแนะนำได้ว่าจะเรียน จากตำราของใครดี แต่พอจะแนะนำให้ได้บ้าง ถ้าหากเจ้าของตำรายังมีชีวิตอยู่ เราควรจะทดสอบกับตัวเขาเองก่อนจะดีกว่า หากเขาสามารถพยากรณ์เราได้ถูกต้องหรือ ใกล้เคียงมากที่สุด เราก็พอจะซื้อตำราของเขามาเรียนได้ หากทำนายไม่ถูกหรือไม่ยินยอมรับพยากรณ์ระหว่างตัวต่อตัวด้วยแล้ว ตำราประเภทนี้ควรตัดทิ้งไปเลย

อีกประเภทเรียกว่าเห็นแก่ตัว บางคนเขียนบทความวิจารณ์ดวงแบบมีดวงตัวอย่างประเภทหวยออกแล้ว ไม่ลงลัคนา ไม่ลงองศา อาทิตย์ตากลาง ไม่บอกวันเดือนปี และไม่บอกเวลาเกิดไว้ด้วย ผู้เขียนเห็นแล้วจะไม่อ่านและเปิดผ่านไป

ถือว่าเป็นบุคคลใจแคบ เขียนแบบนคนเดียวรู้คนเดียว แล้วคนอื่นเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเราวิจารณ์ได้ถูกต้องตามที่เขาเคยเรียนมาหรือไม่  ถ้าเราคิดว่าเราเล่นเป็นก็ควรจะใจกว้างกล้าแสดงออกให้เขารู้ เราควรคิดเสมอว่าคนที่เก่งกว่าเรายังมีอยู่เยอะแยะ สำนักไหนจะเล่นเป็นหรือไม่เป็นย่อมจะรู้กันในหมู่โหรด้วยกันทั้งนั้น การเขียนแต่ละครั้งลงในนิตยสารควรคิดถึงคุณค่าของการลงทุนของเขาด้วย และบทความของเราอาจจะไม่ตรงกับความคิดความรู้จากผู้อ่านได้เหมือนกัน

หากถามว่าเราจะเริ่มเรียนจากจุดไหน จึงจะพอคลำทางหาเป้าหมายได้ถูกต้องตามหลัการณ์ ขอตอบว่าการเรียนวิชาโหราศาสตร์ของแท้นั้นยากทีจะเรียนได้ครบถ้วน ยากจนนักวิทยศาสตร์สมัยใหม่ประนามว่าเบ็นเรื่องเหลวไหลนั่นแหละ เนื่องจากมีขั้นตอและกฏเกณฑ์มากมาย และยังสลับซับซ้อนซ่อนเงื่อนยากที่ใครจะเข้าใจได้แจ่มแจ้ง นอกจากจะบ็นการจ้ำจี้จ้ำไชจากครูผู้สอนบ่อย ๆ เท่านั้น หากเราขาดครูหรือทั้งครูเมื่อยังเรียนไม่จบ ก็คงวนเวียนอยู่แค่นั้น เพราะโหราศาสตร์เป็นวิชาที่เราจทอดทั้งเรื่องขุมธาตุไม่ได้เด็ดขาด

เมื่อภายหลังจากที่เราฝึกหัดผูกดวงจนเป็นและเข้าใจดีแล้ว เราจะต้องเริ่มต้นค้นคว้าหาความชำนาญจากขบวนการเรื่อง ๑๒ ราศี เนื่องจาก ๑๒ ราศีเป็นสนามเรือนธาตุและะแม่บทใหญ่ ซึ่งเราจะกัาวเดินไปหาจุดสุดยอดของวิชาโหราศาสตร์ ครูผู้ฝึกสอนอาจจะคิดไปว่า เรื่องเรือนธาตุในระบบ ๑๒ ราศีนั้น ไม่เห็นจะยากเย็น อะไรเลยก็ได้ อันที่จริงมีอยู่จำนวนไม่น้อยที่ศึกษาร่ำเรียนกันมากกว่า ๑๐ ปีขึ้นไป เรื่อง ๑๒ ราศียังเหมือนตาบอดคลำช้างกันอยู่เลย


     

เมื่อเราจะศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลเรื่องระบบธาตุจาก ๑๒ ราศี เราคงต้องเรียนรู้จากแม่ธาตุทั้ง ๔ ถือธาตุไฟ ธาตุดิน ธาตุลม และธาตุน้ำ มวลธาตุเหล่านี้  เบ็นสนามเรือยธาตุฝ่ายรับ ซึ่งเป็นนเหมือนสนามแม่เหล็ก มีพลังดึงดูดมวลธาตุต่างๆ จากภายนอกเข้ามาสู่โลก เพียงแต่หยิบเอาขนไก่ขว้างขึ้นไปในอากาศ ก็จะถูกแรงดึงดูดของโลกกลับลงมาสู่โลก สนามเรือนธาตุแต่ละราศีเราสมควรเรียนจากครู  ผู้ชำาญโดยตรงจึจะพอเข้ไจไต้ สนามเรือนธาตุใน๑๒ ราศี ท่านบรมครูโหรท่าน ได้จัดไว้แบบกว้างๆ สองจำพวกด้วยกัน พวกแรกคือธาตุไฟกับธาตุลม และอีกพวกหนึ่งคือธาตุดินกับธาตุน้ำ เราควรจดจำไว้ด้วยว่ากลุ่มธาตุไฟกับธาตุลมเป็นธาตุเคลื่อนที่ และกลุ่มธาตุดินกับธาตุน้ำเป็นธาตุธาตุคงที่ อันที่จริงธาตุดินกับธาตุน้ำมีอาการเคลื่อนที่ได้เช่นน แต่ก็เบ็นการเคลื่อนที่ไปอย่างข้าๆ นั้นเอง การที่ท่านบรมครูโหรแยกไว้ดังนี้เพื่อให้นักศึกษาได้เข้าใจง่ายขึ้น ซึ่งยังต้องศึกษารายละเอียด ซับซ้อนต่อไปอีก

ขั้นตอนต่อไปเป็นเรื่องของลัคนา ถ้าลัคนายังเป็นปัญหาโลกแตกที่ยังหาเหตุยุติกันไม่ได้  เนื่องจากแต่ละอาจารย์ที่เปิดดสำนักฝึกสอน มีอยู่จำนวนมากไม่เคยศึกษาเรื่องธาตุอย่างไม่จริงจังมาก่อน จึงเกิดปัญหาแบบลัคนาไม่รู้จบ ถ้าหากวางลัคนาผิดพลาด จะเป็นหตุให้การศึกษาภาคพยากรณ์ผิดหลักเกณฑ์ไปหมด เมื่อถึงคราวจำเป็นต้องใช้แนวทางทับ ทางโยคและทางเบียน อาจจะไม่ถูกในหลักเกณฑ์ของตำราเดิมก็ได้ ท่านบรมครูโหรท่านใช้เรือนลัคนาระบบธาตุสองประเภทเหมือนกัน เนื่องจากการดำเนินชีวิตของบุคคลทั่วไป ย่อมมีทั้งฝ่ายดีและฝ่ายชั่ว มีทั้งหลีกหนีและต่อสู้ควบคู่กันไป ท่านบรมครูโหรจึงได้แยกแบบ กว้างๆ ไว้ดังนี้ ถ้าลัคนาสถิตอยู่ธาตุดินหรือธาตุน้ำ มักจะเกลือกกลั้วอยู่กับฝ่ายชั่วหรือฝ่ายต่ำและคิดจะหลีกหนีเพียงอย่างเตียว แต่ฝ่ายชั่วหรือฝ่ายหนีมีอยู่หลายลักษณะ ฝ่ายหนีมีทั้งหนีดีและหนีไม่ตี ควบคู่กัน ถ้าลัคนาอยู่ธาตุไฟหรือธาตุลม มักจะตกอยู่ทางฝ่ายดีหรือคิดจะต่อสู้ไม่ท้อถอย  การต่อสู้ก็มีอยู่หลายลักษณะเช่นกัน เช่นต่อสู้เพื่อชัยชนะ ต่อสู้โดยยอมสูญเสียสิ่งที่ตนรักดังนี้เป็นต้น

สมมุติว่า  ในพื้นดวงชาตาเดิมมีดาวพุธกับตาวพระศุกร์สถิตราศีเมษ มีดาวมฤตยูสถิตราศีมีน และล้คนาของเจ้าชาตาสถิตราศีกันย์ จะเห็นดาวพุธอยู่ในตำแหน่งมรณะลัคนา มีดาวมฤตยูทำมุมเบียนดาวพุธและเป็นดาวตนุลัตน์ สมมุติว่าดาวมฤตยุดวงนี้หมายถึงโรคภัยไข้เจ็บ จงสังเกตุและวิเคราะห์ดูให้ดี คงจะเห็นได้ว่า ดาวพุธเดิมอยู่เรือนมรณะ แสดงอาการเดินหนีดาวมฤตยู พอจะมองเห็นได้ว่า หนีโรค หรือหนีความเจ็บป่วยนั่นเอง ท่านผู้มีจึงเบ็นบุคคลไม่มีโรค หรืออาจมีบ้างก็ไม่ รุนแรงอะไรนัก ถ้าหากมีดาวอื่นเสริมก็จะเป็นนผู้มีอายุยืนยาว แต่ถ้าลัคนาเดิมสถิตราศีที่ตุลย์ ธาตุลมหนาว ตาวพระศุกร์ เป็นดาวตนุลัคน์ราศีเมษ ตาวมฤตยูเดิมได้ เปลี่ยนมาอยู่ในตำแหน่ง อริ ในราศีมีน ดาวมฤตยูตำแหน่งอริ ทำมุมเบียนพระศุกร์ตนุลัคน์  และลัคนาสถิตราศีตลย์เรือนธาตุลม เป็นเรือนที่ชอบการต่อสู้แบบไม่ถอย  สรุปแล้วเป็นดวงที่ไม่หนีโรค จึงกลายเบ็นผู้มีโรคเบียดเบียนมาก และอาจจะอายุสั้นก็ได้ ดังนี้เบ็นต้น เคยเห็นบทความนำเรื่องดาวเบียนอยู่บ่อยๆ ไม่ค่อยจะถูกต้องและตรงกับครูเดิมที่เคยสั่งสอนกันมา

ดาวเบียนในลักษณะแบบนี้เราสามารถนำไปใช้ด้านอื่นได้อีกมาก หรือจะนำไปใช้เรื่องประกอบอาชีพก็ได้ ว่าเราจะหนีหรือต่อสู้กับอาชีพที่เขายื่นมาให้ ถ้าเราตัดสินใจต่อสู้ก็หมายความว่า เราจะลองทำดู ถ้าเห็นว่าดีก็จะยึดเบ็นอาชีพเลี้ยงตนต่อไป  ถ้าหากดวงดาวมีลักษณะหนีอาชีพ ก็หมายความว่า เราไม่สู้ ไม่ทำหรือไม่เอา ลักษณะเช่นว่านี้อาจจะกลายเบ็นคนว่างงานตลอดไป หรืออาจจะเรียกว่า ทำงานแบบหยิบหย่งไม่อาการงานก็ได้ ดวงชาตาใครตกอยู่ในลักษณะเช่นนี้ เห็นทีจะทั้งด้วได้ยาก

นักศึกษาคงจะเห็นแล้วว่า เรื่องการวางลัคนามีความสำคัญอย่างไร และยังมีความหมายไปถึง ๑๒ ราศีภาคพยากรณ์ด้วย ว่าควรจะศึกษากันอย่างไรจึงจะได้รับผลอย่างจริงจัง เรื่องเช่นนี้เห็นทีจะไม่พ้นระบบธาตุซึ่งเกี่ยวพันทั้งโลกภายนอกและโลกภายใน เนื่องจากผืนแผ่นดินของโลกถูกประจุเต็มไปด้วยมวลธาตุทั้ง ๔ ระบบ ผสมผสานตลอดทั้งโลก ในความเวิ้งว้างนอกโลกของเราเรียกว่าจักรวาล ได้ถูกจ้ด แบ่งออกเบ็น ๑๒ ส่วน หรือ ๑๒ ราศี โดยมีตาวอาทิตย์เป็นผู้นำ ส่วนพื้นพิภพของโลกได้ถูกจัดแบ่งออกเบ็น ๑๒ ส่วนหรือ ๑๒ เรือนเหมือนกัน แต่ละส่วนหรือ แต่ละพื้นที่ย่อมมีสารปรุงแต่งแตกต่างกันไป เราจะสามารถพิสูจน์ดูได้จากพื้นดิน ภายในประเทศของเราเองได้  มวลสารแต่ละภาคเมื่อเราปลูกพืชชนิดเดียวลงไป ผลผลิตที่ออกมาย่อมมีรสชาติแตกต่างกัน บางทีลักษณะผลยังแตกต่างกันดังนี้เป็นต้น

ถ้านักศึกษาจะพยากรณ์เก่งกับเขา ต้องมีใจรักและขยันหมั่นเพียรกันจริงๆ  ค้นคว้าหาข้อมูลจากพื้นฐานเบื้องต้นให้แตกฉานเสียก่อน ว่าเขามีวิธีเล่นหรือเรียนกันอย่างไร เพราะวิชโหรศาสตร์เมื่อเราขาดครูผู้รู้จริงผืกตอน เราจะพบอุปสรรคและ จุดที่ชัดสมากขึ้น เราหาหตุผลจากการดันคว้าด้วยตนเอง และจากคำแนะนำของครูบาอาจารย์บ้าง ไม่ช้าไม่นานคงจะเล่นเก่งกับเขาได้เหมือนกัน

มีอยู่หลายจุดที่เรายึดมั่นจากตำราเกิดอุปทานจาก ๑๒ ราศี โดยเฉพาะเรือนอริ มรณะ และวินาส ทั้งสามเรื่อนนี้ส่วนมากนักศึกษามักยึดมั่นและจงใจไปทางที่ไม่ดีทั้งนั้น การเข้าใจเช่นนี้เห็นจะได้ตรงกับความเป็นจริงนัก เนื่องจากสามเรือนนี้สามารถสร้างฐานะจนเป็นเศรษฐีร้อยล้านก็มี เมื่อเผลออกมาแบบทรงกันข้ามเช่นนี้แล้ว อาจสร้างความสับสยุ่งยากให้แก่นักศึกษาอย่างหนัก บางคนถึงกับเลื่อนลัคนาให้เรือนเสียกลับเป็นเรือนดีมีให้เห็นอยู่บ่อย ๆ

ความเป็นจริงดวงชาตาทั่วๆ ไปใน ๑๒ ราศีหรือ ๑๒ เรือน ย่อมแสดงออกทั้งด้านที่ดีและด้านเสียได้ทุกเรือน หากแต่เราจะเรียนรู้ซึ่งถึงธรรมชาติแห่งความเป็นจริงหรือไม่เท่านั้น ดังตัอย่างเช่น ลัคนาเดิมอยู่ราศีเมษ ดาวพระเสาร์ โคจรอยู่ราศีธนู เรือนสุภะ โหรรุ่นใหม่มักจะเห็นว่าดี อาจมีโชคหรือมีผู้ช่วยเหลือ แต่ผู้เขียนกลับเห็นว่าต้องเดือดร้อนดังนี้เบ็นต้น เราต้องนึกถึงหลักธรรมชาติของคนทั่วไป โคปกติเรามักจะไม่ค่อยขอความช่วยเหลือจากใครอื่น เหตุที่เราต้องไปขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นนั้น ก็เพราะเรากำลังประสบกับความเดือดร้อนนั่นแอง และจะเดือดร้อนมาน้อยพียงใดนั้นขึ้นอยู่กับพื้นฐานของเรือนชาตา  บางดวงชาตาเมื่อดาวพระเสาร์โคจรเข้าเรือนลาภะ กลับต้องประสบกับความฉิบหายหมดเนื้อหมดตัวก็มีอยู่ถมไป

ดังตัวอย่างเช่นขามีธุรกิจการค้าใหญ่โต สมมุติว่าประมาณราคา ๑๐ ล้าน แต่เจ้าของธุรกิจได้ประกันไฟไว้ ๒o ล้าน เมื่อถึงคราวถูกไฟไหม้จนหมดตัว แตกกลับร่ำรวยพราะได้เบี้ยประกันไฟ หรือถูกผู้ร้ายจับตัวไปกักขังเรียกค่าไถ่ ต้องยินยอมขาย ทรัพย์ลินจนหมดตัว เพื่อให้ผู้ร้ายปล่อยตัวออกเป็นอิสระดังนี้เบีนตัน วิชาโหราศาสตร์ นักศึกษาคงเห็นแล้วว่าเรียนยากเพียงไร เนื่องจากมีกฎเกณฑ์ มีโยคเบียนหลายรูปแบบ เท่าที่พบในบทความ ยังไม่มีใครเขียนเรื่องโยคได้ถูกต้องกันเลย ต้องเรียนกับครูเท่านั้นจึงจะแตกฉานได้ จงอย่ายึดถือเอาเป็นว่าดาวจะไห้คุณหรือให้โทษอย่างเดียว แม้แต่เรือนเกษตรก็ย่อมให้คุณให้โทษด้วยเช่นกัน วันนี้ได้บอกกล่าวและเปิดเผย ข้อคิดออกมาแล้วนะจะบอกให้                                                                

                                                                                         ...สวัสดี.

#คุณยายกลิ่นโสม
#คุณยายเล่าเรื่องจากเรือนดาว
#โหราศาสตร์ไทยเรียนง่ายกว่าที่คิด
#เรียนโหราศาสตร์ไทยสไตล์คุณยายกลิ่นฯ
#อ่านดวงไทยสบายสบาย ตามสไตล์คุณยายกลิ่นโสม
#โหราศาสตร์ไทยเรียนด้วยตนเองฉบับคุณยายกลิ่นโสม   
#เรียนโหราศาสตร์ไทยฟรี ที่เวปนี้นะ:: htthttp://www.baankhunyai.com
  --------------------  
Visitors: 171,052