คู่มิตร คู่ธาตุ ตอน2.
ปัญหาโหร :: คู่มิตร คู่ธาตุ ตอน2.
-------------------------------------------- อรุณ ลำเพ็ญ
เรียน ท่านอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ ผู้ตอบปัญหาโหร
ผมมิได้เป็นสมาชิกของสมาคมโหร เป็นแต่เพียงซื้อนิตยสารพยากรณ์สารทุกเดือนมาประมาณ ๑ ปีเศษ บทความในพยากรณ์สารล้วนมีสาระทางวิชาโหราศาสตร์ทุกเรื่อง บางเรื่องสูงเกินกว่าระดับความรู้ของผมที่จะเข้าใจได้
ความรู้ทางโหราศาสตร์ ผมได้เรียนรู้จากการอ่านจากตำราของท่านอาจารย์หลายท่านที่พิมพ์ขายอยู่เป็นส่วนใหญ่ การอ่านตำราบางครั้งเกิดปัญหาในการเรียนรู้และเข้าใจ เพราะเขียนไว้แแต่กฎเกณฑ์ไม่มีคำอธิบายให้เข้าใจโดยแจ่มชัด เคยมีจดหมายขอคำชี้แจงจากอาจารย์ผู้เขียนก็ไม่เคยได้รับคำตอบจึงเป็นปัญหาขัดข้องที่ไม่รุ้จะถามใคร
อันที่จริงผมมีปัญหามากมายเกือบทั้งเล่ม ตำราที่อยากจะถาม ครั้นจะถามทั้งหมดก็ดูไม่สมควรในขั้นนี้ผมขอถามเฉพาะเรื่องสำคัญๆ บางประการเท่านั้น
เรื่อง ดาวคู่มิตร-คู่ธาตุ หลายตำราบัญญัติไว้ถูกต้องตรงกันระหวางคู่ดาว และท่านว่า ดาวคู่มิตร-ดาวคู่ธาตุ คู่ธาตุนี้ดีให้คุณ ส่วนดาวคู่มิตรให้โทษ ส่วนลักษณะให้คุณ และให้โทษเป็นอย่างไร ท่านมิได้อธิบายไว้โดยแจ้งชัดจึงดูเสมือนเป็นข้อความเลื่อนลอยอยู่ ทั้งๆที่เคยทราบว่าอาจารย์โหรทุกท่านย้ำแล้วย้ำอีกว่ามีความสำคัญในการพยากรณ์เป็นอันมาก
และได้มีลูกศิษย์อาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ เองได้แนะว่า ดาวคู่มิตร-คู่ธาตุ กลับเป็นโทษได้ ผมจึงสับสนไข้วเขวจับต้นชนปลายไม่ถูก
และอีกประการหนึ่งคือดาวดวงหนึ่งเป็นนิจเป็นประ มีอาจารย์บางท่านว่าอาจฟื้นคืนสภาพดีขึ้นได้เพราะดาวคุ่มิตรและคู่ธาตุ นั้นเป็นอย่างไร
โปรดเมตตาชี้แจงให้ผมและผู้เรียนรู้โหราศาสตร์ไทย ที่กำลังมืดมัวด้วยเถิดจะเป็นกุศลจิตอันสูงสุด
เรียน คุณมิตร์ มหาเทียน
ขอตอบปัญหาที่ค้างมาแต่ฉบับก่อน ในเรื่องคู่มิตรคู่ธาตุซึ่งเป็นนิจเป็นประ จะมีโอกาสฟื้นตัวหรือไม่โดยลักษณะดาวอย่างไร
การเรียนรู้โหราศาสตร์มิใช่แต่เพียงท่องจำเกณฑ์ต่างแม่นยำเท่านั้น ครูบาอาจารย์โหรรุ่นเก่าท่านมักสอนศิษย์ว่าให้รู้จักดาว เหมือนรู้จักคน
โหราศาสตร์ใช้ดาวของพยากรณ์ชีวิตคน ฉะนั้นดาวคือคนและคนคือดาว ชีวิตของคนก็คือชีวิตดาว
เมื่อขณะอ่านดวงชะตา การอ่านดาวในราศีต่างๆ ถ้ามีความรู้สึกว่าอ่านดาวคือดาวบนท้องฟ้า หรืออ่านเลขที่สัญญลักษณ์ของดาวสถิตย์ราศีต่างๆ เป็นกฎเป็นเกณฑ์การพยากรณ์เป็นการอ่านแบบรูปธรรม
ส่วนการอ่านดาวในแบบนามธรรมนั้น ต้องมองดาวเป็นมนุษย์มีเลือดเนื้อมีชีวิตมีจิตใจที่จะรัก เกลียด โกรธ มีนิสัย ดาว เช่นเดียวกับนิสัยของมนุษย์
การอ่านดาวในแบบนามธรรมจะทำให้พยากรณ์ ได้แนบเนียนถูกต้อง และมีรายละเอียดในคำพยากรณ์ได้มาก และเสริมคำพยากรณ์ให้ชัดเจน เพราะดาวจะก่อเหตุและพฤติกรรมตามนิสัยและธรรมซาติของตน
จะเห็นได้ชัดเจนถึงเหตุผลในข้อนี้ คือในสมัยโบราณท่านโหราจารย์ผู้สร้างกฎเกณฑ์โหราศาสตร์และคัมภีร์ต่างๆ เมื่อกล่าวถึงดาวท่านจะสมบัติเป็นเทวดาซึ่งมีรูปร่างลักษณะ และมีอุปนิสัยใจคอ และมีประวัติชีวิตเช่นเดียวกับคน
และในนิทานเรื่องคู่ธาตุ คู่มิตร คู่ศัตรู ท่านสมมุติเหตุการณ์ระหว่างดาวกับดาว เป็นชีวิตของคนกับคนเพื่อให้มีภาพพจน์ของดาวเป็นต้น
ฉะนั้นการเรียนรู้โหราศาสตร์ต้องอ่านดาวคืออ่านคน
เรื่องธาตุของดาวนี้โหราศาสตร์ของฝรั่งต่างซาติก็มีธาตุของดาวเช่นกัน เพราะธาตุของดาวดิน น้ำ ลม ไฟ ตรงกันกับดาวไทย
-------------------------------------------- อรุณ ลำเพ็ญ
หน้าปัญหาโหรนี้ จะเปิดเป็นประจำทุกเล่มเพื่อเป็นการอนุเคราะห์แก่บรรดานักโหราศาสตร์ ริเริ่ม และกำลังเรียนรู้ในโหราศาสตร์ มักเกิดปัญหาขัดข้องในการเรียน การอ่าน ตำรับตำราทั้งหลายขึ้น แล้วมักไม่รู้จะถามใคร ถ้าท่านเกิดปัญหาในการเรียนโหราศาสตร์นี้ โปรดจดหมายถามมาที่บรรณาธิการ พยากรณ์สาร และโปรดส่งซองจ่าหน้าถึงตัวท่านด้วย เพราะการจะตอบปัญหาทุกปัญหาในหน้าพยากรณ์สาร อาจไม่สะดวกจะได้ตอบเป็นส่วนตัวให้ท่าน ปัญหาใดที่น่าสนใจและประโยชน์แก่ส่วนรวมก็จะตอบในหน้าพยากรณ์สาร ผู้ตอบมิได้คิดจะตั้งตนเป็นสัพพัญญูอยู่ในโหราศาสตร์ เพียงปราถนาดีที่จะเป็นเพื่อนและพี่เลี้ยงให้นักโหราศาสตร์ที่เพิ่งเข้ามาสู่วงการโหราศาสตร์จะได้แก้ปัญหาได้ ปัญหาใดที่ผมไม่รู้ก็จะพยายามไถ่ถามผู้รู้หาคำตอบมาให้ แต่ถ้าปัญหาใดสูงสุดเกินสติปัญญาก็จนใจตอบไม่ได้ |
เรียน ท่านอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ ผู้ตอบปัญหาโหร
ผมมิได้เป็นสมาชิกของสมาคมโหร เป็นแต่เพียงซื้อนิตยสารพยากรณ์สารทุกเดือนมาประมาณ ๑ ปีเศษ บทความในพยากรณ์สารล้วนมีสาระทางวิชาโหราศาสตร์ทุกเรื่อง บางเรื่องสูงเกินกว่าระดับความรู้ของผมที่จะเข้าใจได้
ความรู้ทางโหราศาสตร์ ผมได้เรียนรู้จากการอ่านจากตำราของท่านอาจารย์หลายท่านที่พิมพ์ขายอยู่เป็นส่วนใหญ่ การอ่านตำราบางครั้งเกิดปัญหาในการเรียนรู้และเข้าใจ เพราะเขียนไว้แแต่กฎเกณฑ์ไม่มีคำอธิบายให้เข้าใจโดยแจ่มชัด เคยมีจดหมายขอคำชี้แจงจากอาจารย์ผู้เขียนก็ไม่เคยได้รับคำตอบจึงเป็นปัญหาขัดข้องที่ไม่รุ้จะถามใคร
อันที่จริงผมมีปัญหามากมายเกือบทั้งเล่ม ตำราที่อยากจะถาม ครั้นจะถามทั้งหมดก็ดูไม่สมควรในขั้นนี้ผมขอถามเฉพาะเรื่องสำคัญๆ บางประการเท่านั้น
เรื่อง ดาวคู่มิตร-คู่ธาตุ หลายตำราบัญญัติไว้ถูกต้องตรงกันระหวางคู่ดาว และท่านว่า ดาวคู่มิตร-ดาวคู่ธาตุ คู่ธาตุนี้ดีให้คุณ ส่วนดาวคู่มิตรให้โทษ ส่วนลักษณะให้คุณ และให้โทษเป็นอย่างไร ท่านมิได้อธิบายไว้โดยแจ้งชัดจึงดูเสมือนเป็นข้อความเลื่อนลอยอยู่ ทั้งๆที่เคยทราบว่าอาจารย์โหรทุกท่านย้ำแล้วย้ำอีกว่ามีความสำคัญในการพยากรณ์เป็นอันมาก
และได้มีลูกศิษย์อาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ เองได้แนะว่า ดาวคู่มิตร-คู่ธาตุ กลับเป็นโทษได้ ผมจึงสับสนไข้วเขวจับต้นชนปลายไม่ถูก
และอีกประการหนึ่งคือดาวดวงหนึ่งเป็นนิจเป็นประ มีอาจารย์บางท่านว่าอาจฟื้นคืนสภาพดีขึ้นได้เพราะดาวคุ่มิตรและคู่ธาตุ นั้นเป็นอย่างไร
โปรดเมตตาชี้แจงให้ผมและผู้เรียนรู้โหราศาสตร์ไทย ที่กำลังมืดมัวด้วยเถิดจะเป็นกุศลจิตอันสูงสุด
ด้วยความนับถืออย่างสูง
มิตร์ มหาเทียน
มิตร์ มหาเทียน
เรียน คุณมิตร์ มหาเทียน
ขอตอบปัญหาที่ค้างมาแต่ฉบับก่อน ในเรื่องคู่มิตรคู่ธาตุซึ่งเป็นนิจเป็นประ จะมีโอกาสฟื้นตัวหรือไม่โดยลักษณะดาวอย่างไร
การเรียนรู้โหราศาสตร์มิใช่แต่เพียงท่องจำเกณฑ์ต่างแม่นยำเท่านั้น ครูบาอาจารย์โหรรุ่นเก่าท่านมักสอนศิษย์ว่าให้รู้จักดาว เหมือนรู้จักคน
โหราศาสตร์ใช้ดาวของพยากรณ์ชีวิตคน ฉะนั้นดาวคือคนและคนคือดาว ชีวิตของคนก็คือชีวิตดาว
เมื่อขณะอ่านดวงชะตา การอ่านดาวในราศีต่างๆ ถ้ามีความรู้สึกว่าอ่านดาวคือดาวบนท้องฟ้า หรืออ่านเลขที่สัญญลักษณ์ของดาวสถิตย์ราศีต่างๆ เป็นกฎเป็นเกณฑ์การพยากรณ์เป็นการอ่านแบบรูปธรรม
ส่วนการอ่านดาวในแบบนามธรรมนั้น ต้องมองดาวเป็นมนุษย์มีเลือดเนื้อมีชีวิตมีจิตใจที่จะรัก เกลียด โกรธ มีนิสัย ดาว เช่นเดียวกับนิสัยของมนุษย์
การอ่านดาวในแบบนามธรรมจะทำให้พยากรณ์ ได้แนบเนียนถูกต้อง และมีรายละเอียดในคำพยากรณ์ได้มาก และเสริมคำพยากรณ์ให้ชัดเจน เพราะดาวจะก่อเหตุและพฤติกรรมตามนิสัยและธรรมซาติของตน
จะเห็นได้ชัดเจนถึงเหตุผลในข้อนี้ คือในสมัยโบราณท่านโหราจารย์ผู้สร้างกฎเกณฑ์โหราศาสตร์และคัมภีร์ต่างๆ เมื่อกล่าวถึงดาวท่านจะสมบัติเป็นเทวดาซึ่งมีรูปร่างลักษณะ และมีอุปนิสัยใจคอ และมีประวัติชีวิตเช่นเดียวกับคน
และในนิทานเรื่องคู่ธาตุ คู่มิตร คู่ศัตรู ท่านสมมุติเหตุการณ์ระหว่างดาวกับดาว เป็นชีวิตของคนกับคนเพื่อให้มีภาพพจน์ของดาวเป็นต้น
ฉะนั้นการเรียนรู้โหราศาสตร์ต้องอ่านดาวคืออ่านคน
| ดาวคู่ธาตุ | อาทิตย์ (๑) - เสาร์ (๗) | คู่ธาตุไฟ |
| จันทร์ ( ๒) - พฤหัส (๕ ) | คู่ธาตุดิน | |
| อังคาร (๓) - ราหู (๘ ) | คู่ธาตุลม | |
| พุธ (๔) - ศุกร์ (๖) | คู่ธาตุน้ำ |
เรื่องธาตุของดาวนี้โหราศาสตร์ของฝรั่งต่างซาติก็มีธาตุของดาวเช่นกัน เพราะธาตุของดาวดิน น้ำ ลม ไฟ ตรงกันกับดาวไทย
ส่วนโหราศาสตร์ของจีนยังมีธาตุดาวเพิ่มขึ้นมาอีก ๒ ธาตุ คือ ธาตุไม้และธาตุทอง
เรื่องธาตุของดาวเป็นเรื่องสำคัญในโหราศาสตร์ ท่านโหราศาสตร์รุ่นเก่า ท่านใช้ธาตุดาว ธาตุของราศีพยากรณ์เป็นสถานที่ เป็นสิ่งของ เป็นบุคคล ฯ พลิกแพลงใช้ในการพยากรณ์ได้มากมายไม่รู้จบ
มีอาจารย์โหรท่านหนึ่ง ในปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ ศิษย์ที่จะเรียนกับท่านจะต้องเรียนเรื่องธาตุก่อนเป็นเวลา ๑ ปี
ดาวคู่ธาตุเดียวกันร่วมราศีเดียวกัน แม้ดาวทั้งสองจะไม่มีตำแหน่งในราศีนั้นๆ แต่อย่างใด ในโหราศาสตร์ไทยถือว่าถือว่าเมื่อดาวคู่ธาตุเข้าร่วมกัน ทำให้ร่วมกันทำให้ดาวทั้งคู่เกิดความเข้มแข็ง มั่นคงขึ้น มีคุณค่าคล้ายดาวเกษตร์ และถ้าดาวธาตุและดาวคู่ธาตุเดียวกันร่วมในราศีธาตุของตนเองด้วยแล้ว จะเป็นดาวที่มีความเข้มแข็งประเสริฐยิ่งนัก
เช่น ดาวอาทิตย์(๑ ) ร่วมดาวเสาร์ (๗) ธาตุไฟ ในราศีธาตุไฟคือ ราศีเมษ , สิงห์ , ธนู
ดาวจันทร์ (๒) ร่วมดาวพฤหัส(๕) ธาตุดิน ในราศีธาตุดิน คือ ราศีมังกร , พฤษภ ,กันย์
ดาวอังคาร(๓) ร่วมดาวราหู(๘) ธาตุลม ในราศีธาตุลม คือ ราศีตุลย์ , กุมภ์ , เมถุน
ดาวพุธ(๔) ร่วมดาวศุกร์(๖) ธาตุน้ำ ในราศีธาตุน้ำ คือ ราศีกรกฎ , พิจิก , มีน
ดาวคู่ธาตุในราศีธาตุนี้ โบราณท่านเรียกว่า ดาวคู่อสีติธาตุ มีความเข้มแข็งมั่นคงยื่งกว่าดาวเกษตร์ แม้ดาวดวงใดดวงหนึ่ง จะเป็นนิจเป็นปร ก็ยกเว้น แต่มีเงื่อนไขว่าต้องร่วมราศีกันเพียงสองดวงเท่านั้น ถ้ามีดาวธาตุอื่นมาร่วมด้วยคุณค่าจะหย่อนเพลาลงไม่นับเป็นดาวอสิติธาตุตามกฎ
แม้ดาวเดี่ยวหรือดาวโดด ถ้าสถิติอยู่ในราศีธาตุเดียวกันธาตุของตน ยังมีความสุขความสบาย มากกว่าดาวนี้ ไปสถิตอยู่ในราศีธาตุที่เป็นศัตรูธาตุกับตน
เช่นดาวธาตุไฟ ถ้าอยู่ในราศีธาตุไฟก็ยังมีโอกาสแสดงพลัง หรือยังเปนไฟที่ยังลุกไหม้อยู่ได้ แต่ถ้าดาวธาตุไฟไปสถิตอยู่ราศีธาตุน้ำ อันเป็นศัตรูธาตุของตน โอกาสที่ลุกไหม้ย่อมหมดสิ้นไป
หรือถ้าจะพูดอย่างคน เช่นคนมีสัญซาติไทยไปอาศัยอยู่ในประเทศฝรั่ง ความสุข ความสะดวกความสบายก็น้อยลง ดินฟ้าอากาศก็ไม่คุ้นเคย อาหารการกินก็แปลกไป ภาษาพูดก็แปลก ไป สังคมและจารึกประเพณีและศาสนาแปลกไป ผิดแผกจากความเคยชินที่ตนเป็นอยู่โดยปกติ นั่นคือ ดาวที่สถิต ในราศีธาตุที่มีได้เป็นธาตุเกี่ยวกับธาตุของตน
ส่วนดาวที่สถิตราศีธาตุเดียวกับตน เหมือนคนที่อาศัยอยู่ในประเทศหรือถิ่นฐานสัญซาติเดียวกันถึงอย่างไร ทั้งสิ่งแวดล้อมก็คุ้นเคยกว่าดีกว่าสุขสบายกว่า
อาจมีบางท่านเกิดความคิดสงสัยต่อไปอีกว่า ถ้าดาวไปอาศัยอยู่ราศีของดาวคู่มิตรจะเป็นอย่างไร
เรื่องคู่มิตร เป็นเรื่องต่างหากออกไปจากเรื่องธาตุ แต่ก็พอตอบได้ว่า เหมือนคนนั่นเอง เหมือนคนจีนมาอยู่ประเทศไทย สามารถปรับตัวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้แม้จะต่างซาติต่างถิ่น และมีเพื่อนฝูงซาติ เดียวกันอยู่มากพอ จะหาความสุขสบายได้ไม่ลำบากนัก หรือพุดอีกทีก็คือในปัจจุบันคนไทย ไปอยู่อเมริกาในแอล.เอ ซึ่งมีคนไทยอยู่ก่อนเป็นแสนคน
พอถึงดาวธาตุไฟไปสถิตราศีธาตุน้ำ นักโหราศาสตร์บางท่าน อ่านว่าไฟตกน้ำ ไปนั้นดับสนิทหมดฤทธิ์หมดเดชไปเลย คือดาวธาตุไฟนั้นเสียไปเลยทั้งดวง
พุดถึงเรื่องดาวธาตุไฟตกน้ำทำให้นึกย้อนไปถึงย้อนไปถึงปัญหานี้ที่เป็นเรื่องจริงเกิดขึ้น จะขอนำมาเล่าให้ฟังซึ่งมิใช่เรื่องนิยาย
ประมาณปี ๒๕๒๐-๒๕๒๑ ในตอนนั้นไปเช่าสถานที่อยู่ที่โรงแรมสยามเพื่อพยากรณ์ โดยเฉพาะฝรั่งเท่านั้น ค่าใช้จ่ายรวมทั้งอื่นๆ เกือบหมื่นบาทต่อเดือนทำอยู่ ๒ ปีเศษ
ขณะนั้นมีการประชุมแอสแค๊ปในกรุงเทพ ผู้ร่วมประชุมเป็นรัฐมนตรีนานาประเทศ ประเทศอเมริกาในยุคนั้นเป็นรัฐบาลท่านนิกสัน ได้ส่งรัฐมนตรีช่วยว่าการท่านหนึ่งมาประชุมชื่อมิสสิส-เอลิสา ท่านเป็นนักโหราศาสตรืที่ช่ำชองในระบบตะวันตก และเคยเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการนิตยสาร"อเมริกัน แอสโตรโลยี่" อันเป็นนิตยสารโหราศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของอเมริกา
วันหนึ่งท่านนั่งรถสถานฑูตมาหาผมที่โรงแรมสยาม โดยไปรเวตส่วนตัว เพราะได้เคยอ่านบทพยากรณ์ที่ผมลงประจำอยู่ในหนังสือพิมพ์ บางกอกโพลท์ มาหลายปี ท่านสนใจในโหราศาสตร์ตะวันออกปราถนาจะคุยสังสรรด้วย ตามนิสัยของนักโหราศาสตร์ทุกคน
ได้คุยกันเกือบ ๒ ชั่วโมง มีเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยด้วยในเรื่องโหราศาสตร์ต่างระบบกัน สุดท้ายลงถึงขั้นผูกดวงท่านขึ้นในระบบโหราศาสตร์ไทย ดวงของท่านผู้นี้ ดาวอาทิตย์ (๑) สถิตราศี พิจิก อาทิตย์ (๑) เป็นตนุเศษด้วย
ท่านถามว่า อาทิตย์ (๑) ธาตุไฟ ตกราศีธาตุน้ำ ไฟดับจริงหรือ (เข้ากฎไฟ ตกน้ำที่ผมพูดมาแต่ต้น )
ผมตอบท่านในทันทีว่า คือดาวธาตุไฟและราศีธาตุน้ำได้ร่วมกัน จะเป็นน้ำราดดับไฟ หรือไฟเผาน้ำ ได้ทั้งสองกรณี ไฟที่ร้อนแรงก็ลดลง น้ำที่เคยเย็นก็ร้อนขึ้น ถ้าเป็นเป็นไฟเผาน้ำ น้ำก็จะเดือดเป็นไอ เป็นพลังงานที่ยังมีความรุนแรง นำมาใช้เดินเครื่องจักร เครื่องกล ได้
หรือพูดให้ตรงตัวก็คือ สภาพไฟของดาวอาทิตย์ (๑) มิได้สูญหายดับสิ้นไป เพียแต่เปลี่ยนสภาพความร้อนมาเป็นอีกรูปหนึ่ง คือมิได้ร้อนอย่างไฟ แต่ร้อนอย่างน้ำร้อน
อาทิตย์ (๑) เป็นตนุเศษคือจิตใจ ธาตุไฟมีธรรมซาติเข้มแข็ง จริงจัง ร้อนรน ทำสิ่งใดไม่เสร็จไม่เลิก มีความตั้งใจรุนแรง บางครั้งดูเหมือนเกรี้ยวกราดเคร่งครัด แต่เมื่อมาอยู่ราศีธาตุน้ำ ธรรมซาตินี้ก็ลดลงบ้างจากความจริงเคร่งครัดมากเป็นเคร่งครัดพอควร รู้จักอดกลั้นยับยั้งและรอคอบโอกาสความตั้งใจ ความมุมานะยังร้อนอยู่แต่มุ่งมั่นช้าๆ
ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการต่างประเทศอเมริกัน มิสสิส เอลิสา รับว่าถูกต้องตามที่เธอเป็น และชมว่า ....
" โหราศาสตร์ไทยมีกฎเกณฑ์เป็นปรัชญา"
(หมดหน้ากระดาษเสียแล้ว ขอโอนตอนต่อไปเล่มหน้า)
เรื่องธาตุของดาวเป็นเรื่องสำคัญในโหราศาสตร์ ท่านโหราศาสตร์รุ่นเก่า ท่านใช้ธาตุดาว ธาตุของราศีพยากรณ์เป็นสถานที่ เป็นสิ่งของ เป็นบุคคล ฯ พลิกแพลงใช้ในการพยากรณ์ได้มากมายไม่รู้จบ
มีอาจารย์โหรท่านหนึ่ง ในปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯ ศิษย์ที่จะเรียนกับท่านจะต้องเรียนเรื่องธาตุก่อนเป็นเวลา ๑ ปี
ดาวคู่ธาตุเดียวกันร่วมราศีเดียวกัน แม้ดาวทั้งสองจะไม่มีตำแหน่งในราศีนั้นๆ แต่อย่างใด ในโหราศาสตร์ไทยถือว่าถือว่าเมื่อดาวคู่ธาตุเข้าร่วมกัน ทำให้ร่วมกันทำให้ดาวทั้งคู่เกิดความเข้มแข็ง มั่นคงขึ้น มีคุณค่าคล้ายดาวเกษตร์ และถ้าดาวธาตุและดาวคู่ธาตุเดียวกันร่วมในราศีธาตุของตนเองด้วยแล้ว จะเป็นดาวที่มีความเข้มแข็งประเสริฐยิ่งนัก
เช่น ดาวอาทิตย์(๑ ) ร่วมดาวเสาร์ (๗) ธาตุไฟ ในราศีธาตุไฟคือ ราศีเมษ , สิงห์ , ธนู
ดาวจันทร์ (๒) ร่วมดาวพฤหัส(๕) ธาตุดิน ในราศีธาตุดิน คือ ราศีมังกร , พฤษภ ,กันย์
ดาวอังคาร(๓) ร่วมดาวราหู(๘) ธาตุลม ในราศีธาตุลม คือ ราศีตุลย์ , กุมภ์ , เมถุน
ดาวพุธ(๔) ร่วมดาวศุกร์(๖) ธาตุน้ำ ในราศีธาตุน้ำ คือ ราศีกรกฎ , พิจิก , มีน
ดาวคู่ธาตุในราศีธาตุนี้ โบราณท่านเรียกว่า ดาวคู่อสีติธาตุ มีความเข้มแข็งมั่นคงยื่งกว่าดาวเกษตร์ แม้ดาวดวงใดดวงหนึ่ง จะเป็นนิจเป็นปร ก็ยกเว้น แต่มีเงื่อนไขว่าต้องร่วมราศีกันเพียงสองดวงเท่านั้น ถ้ามีดาวธาตุอื่นมาร่วมด้วยคุณค่าจะหย่อนเพลาลงไม่นับเป็นดาวอสิติธาตุตามกฎ
แม้ดาวเดี่ยวหรือดาวโดด ถ้าสถิติอยู่ในราศีธาตุเดียวกันธาตุของตน ยังมีความสุขความสบาย มากกว่าดาวนี้ ไปสถิตอยู่ในราศีธาตุที่เป็นศัตรูธาตุกับตน
เช่นดาวธาตุไฟ ถ้าอยู่ในราศีธาตุไฟก็ยังมีโอกาสแสดงพลัง หรือยังเปนไฟที่ยังลุกไหม้อยู่ได้ แต่ถ้าดาวธาตุไฟไปสถิตอยู่ราศีธาตุน้ำ อันเป็นศัตรูธาตุของตน โอกาสที่ลุกไหม้ย่อมหมดสิ้นไป
หรือถ้าจะพูดอย่างคน เช่นคนมีสัญซาติไทยไปอาศัยอยู่ในประเทศฝรั่ง ความสุข ความสะดวกความสบายก็น้อยลง ดินฟ้าอากาศก็ไม่คุ้นเคย อาหารการกินก็แปลกไป ภาษาพูดก็แปลก ไป สังคมและจารึกประเพณีและศาสนาแปลกไป ผิดแผกจากความเคยชินที่ตนเป็นอยู่โดยปกติ นั่นคือ ดาวที่สถิต ในราศีธาตุที่มีได้เป็นธาตุเกี่ยวกับธาตุของตน
ส่วนดาวที่สถิตราศีธาตุเดียวกับตน เหมือนคนที่อาศัยอยู่ในประเทศหรือถิ่นฐานสัญซาติเดียวกันถึงอย่างไร ทั้งสิ่งแวดล้อมก็คุ้นเคยกว่าดีกว่าสุขสบายกว่า
อาจมีบางท่านเกิดความคิดสงสัยต่อไปอีกว่า ถ้าดาวไปอาศัยอยู่ราศีของดาวคู่มิตรจะเป็นอย่างไร
เรื่องคู่มิตร เป็นเรื่องต่างหากออกไปจากเรื่องธาตุ แต่ก็พอตอบได้ว่า เหมือนคนนั่นเอง เหมือนคนจีนมาอยู่ประเทศไทย สามารถปรับตัวเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้แม้จะต่างซาติต่างถิ่น และมีเพื่อนฝูงซาติ เดียวกันอยู่มากพอ จะหาความสุขสบายได้ไม่ลำบากนัก หรือพุดอีกทีก็คือในปัจจุบันคนไทย ไปอยู่อเมริกาในแอล.เอ ซึ่งมีคนไทยอยู่ก่อนเป็นแสนคน
พอถึงดาวธาตุไฟไปสถิตราศีธาตุน้ำ นักโหราศาสตร์บางท่าน อ่านว่าไฟตกน้ำ ไปนั้นดับสนิทหมดฤทธิ์หมดเดชไปเลย คือดาวธาตุไฟนั้นเสียไปเลยทั้งดวง
พุดถึงเรื่องดาวธาตุไฟตกน้ำทำให้นึกย้อนไปถึงย้อนไปถึงปัญหานี้ที่เป็นเรื่องจริงเกิดขึ้น จะขอนำมาเล่าให้ฟังซึ่งมิใช่เรื่องนิยาย
ประมาณปี ๒๕๒๐-๒๕๒๑ ในตอนนั้นไปเช่าสถานที่อยู่ที่โรงแรมสยามเพื่อพยากรณ์ โดยเฉพาะฝรั่งเท่านั้น ค่าใช้จ่ายรวมทั้งอื่นๆ เกือบหมื่นบาทต่อเดือนทำอยู่ ๒ ปีเศษ
ขณะนั้นมีการประชุมแอสแค๊ปในกรุงเทพ ผู้ร่วมประชุมเป็นรัฐมนตรีนานาประเทศ ประเทศอเมริกาในยุคนั้นเป็นรัฐบาลท่านนิกสัน ได้ส่งรัฐมนตรีช่วยว่าการท่านหนึ่งมาประชุมชื่อมิสสิส-เอลิสา ท่านเป็นนักโหราศาสตรืที่ช่ำชองในระบบตะวันตก และเคยเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการนิตยสาร"อเมริกัน แอสโตรโลยี่" อันเป็นนิตยสารโหราศาสตร์ที่มีชื่อเสียงของอเมริกา
วันหนึ่งท่านนั่งรถสถานฑูตมาหาผมที่โรงแรมสยาม โดยไปรเวตส่วนตัว เพราะได้เคยอ่านบทพยากรณ์ที่ผมลงประจำอยู่ในหนังสือพิมพ์ บางกอกโพลท์ มาหลายปี ท่านสนใจในโหราศาสตร์ตะวันออกปราถนาจะคุยสังสรรด้วย ตามนิสัยของนักโหราศาสตร์ทุกคน
ได้คุยกันเกือบ ๒ ชั่วโมง มีเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยด้วยในเรื่องโหราศาสตร์ต่างระบบกัน สุดท้ายลงถึงขั้นผูกดวงท่านขึ้นในระบบโหราศาสตร์ไทย ดวงของท่านผู้นี้ ดาวอาทิตย์ (๑) สถิตราศี พิจิก อาทิตย์ (๑) เป็นตนุเศษด้วย
ท่านถามว่า อาทิตย์ (๑) ธาตุไฟ ตกราศีธาตุน้ำ ไฟดับจริงหรือ (เข้ากฎไฟ ตกน้ำที่ผมพูดมาแต่ต้น )
ผมตอบท่านในทันทีว่า คือดาวธาตุไฟและราศีธาตุน้ำได้ร่วมกัน จะเป็นน้ำราดดับไฟ หรือไฟเผาน้ำ ได้ทั้งสองกรณี ไฟที่ร้อนแรงก็ลดลง น้ำที่เคยเย็นก็ร้อนขึ้น ถ้าเป็นเป็นไฟเผาน้ำ น้ำก็จะเดือดเป็นไอ เป็นพลังงานที่ยังมีความรุนแรง นำมาใช้เดินเครื่องจักร เครื่องกล ได้
หรือพูดให้ตรงตัวก็คือ สภาพไฟของดาวอาทิตย์ (๑) มิได้สูญหายดับสิ้นไป เพียแต่เปลี่ยนสภาพความร้อนมาเป็นอีกรูปหนึ่ง คือมิได้ร้อนอย่างไฟ แต่ร้อนอย่างน้ำร้อน
อาทิตย์ (๑) เป็นตนุเศษคือจิตใจ ธาตุไฟมีธรรมซาติเข้มแข็ง จริงจัง ร้อนรน ทำสิ่งใดไม่เสร็จไม่เลิก มีความตั้งใจรุนแรง บางครั้งดูเหมือนเกรี้ยวกราดเคร่งครัด แต่เมื่อมาอยู่ราศีธาตุน้ำ ธรรมซาตินี้ก็ลดลงบ้างจากความจริงเคร่งครัดมากเป็นเคร่งครัดพอควร รู้จักอดกลั้นยับยั้งและรอคอบโอกาสความตั้งใจ ความมุมานะยังร้อนอยู่แต่มุ่งมั่นช้าๆ
ท่านรัฐมนตรีช่วยว่าการต่างประเทศอเมริกัน มิสสิส เอลิสา รับว่าถูกต้องตามที่เธอเป็น และชมว่า ....
" โหราศาสตร์ไทยมีกฎเกณฑ์เป็นปรัชญา"
(หมดหน้ากระดาษเสียแล้ว ขอโอนตอนต่อไปเล่มหน้า)
#คุณยายกลิ่นโสม
#เรื่องเล่าจากเรือนดาวกับคุณยาย
#เรื่องเล่าจากเรือนดาวกับคุณยาย
#โหราศาสตร์ไทยเรียนง่ายกว่าที่คิด
#เรียนโหราศาสตร์ไทยสไตล์คุณยายกลิ่นฯ
#อ่านดวงไทยสบายสบาย ตามสไตล์คุณยายกลิ่นโสม
#โหราศาสตร์ไทยเรียนด้วยตนเองฉบับคุณยายกลิ่นโสม
#เรียนโหราศาสตร์ไทยฟรี ที่เวปนี้นะ:: htthttp://www.baankhunyai.com
--------------------
ได้ข้อคิดจากบทความครูโหรฯ
เราใช้ธาตุดาว ธาตุของราศี พยากรณ์เป็นบุคคล สิ่งของ สถานที่ เหตุการณฺ์ฯ ใช้พลิกแพลงใช้ในการพยากรณ์ได้
เราใช้ธาตุดาว ธาตุของราศี พยากรณ์เป็นบุคคล สิ่งของ สถานที่ เหตุการณฺ์ฯ ใช้พลิกแพลงใช้ในการพยากรณ์ได้
สงสัยว่าจะเป็นไข้ มึนๆหัว
