การใช้ธาตุพยากรณ์ร่วมกับดาว 1.
ปัญหาโหร :: การใช้ธาตุพยากรณ์ร่วมกับดาว 1.
---------------------------------------------------------- อรุณ ลำเพ็ญ
เรียน ท่านอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ ที่นับถือ
ผมเป็นสมาชิกโหรมาหลายปี มิได้เคยใช้สิทธิของสมาชิกกับสมาคมเลยขอถือ ในคราวนี้เรียนถามปัญหาโหรถึงขัดข้องในวิชาโหราศาสตร์ไทย ที่ผมเรียนรู้ด้วยตนเอง หลายปีแล้ว ขอเรียนด้วยความจริงใจว่าการเรียนด้วยตนเอง โดยซื้อตำรามาอ่านเป็นการเรียนที่แสนจะยากเย็น
เพราะบางตำราเขียนไม่สิ้นกระแสความ และไม่อธิบายชี้ชัดให้แจ่มเจ้า และไม่มีวิธีใช้โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง ตำรามากเล่มเขียนเรื่องธาตุมักบอกเพียงธาตุของราศี และธาตุของเอาไว้เท่านั้น มิได้บอกถึงว่าการใช้ธาตุพยากรณ์ ร่วมกบดาวนั้นจะทำอย่างไร และเมื่อไร
ผมถามนักโหราศาสตร์รุ่นพี่ๆ ก็อธิบายคล้ายๆ ตำราคือคลุมเครือไม่แจ่มแจ้งเช่นกัน ทราบว่าโหราศาสตร์ซาติต่างเช่น ฝรั่ง แจก จีน ก็มีธาตุของดาว และราศีตามระบบของเขาเช่นกัน ธาตุคงมีสำคัญแก่พยากรณ์แน่นอน
ได้ทราบว่าท่านอาจารย์อรุณ ลำเพ็ย เป็นผู้มีเมตตาแก่นักโหราศาสตร์ใหม่ๆ ทัั่วไปคงเมตตาแก่ผมด้วย
เรียน คุณพลศักดิ์ มานะจิตร์ ที่นับถือ
เรื่องธาตุของดาวทราบว่า ทุกระบบโหราศาสตร์ ที่ใช้ดวงดาวจะต้องกำหนดธาตุของดาว ทุกซาติทุกภาษาเช่นกัน เช่นโหราศาสตร์ตะวันตก หรือที่เราเรียกว่า โหราศาสตร์ในระบบธาตุของดาว และราศีเขาก็มี ๔ ธาตุเท่ากับโหราศาสตร์ไทย
เช่น ราศีเมษ FIRE ELEMENT ธาตุไฟ
เมื่ออาทิตย์ (๑) ธาตุไฟสถิตราศีธาตุน้ำย่อมถูกขัดขวางและระงับมิให้ไปได้แสดงความร้อนแรงได้เต็มที่
เมื่ออาทิตย์(๑) ธาตุไฟสถิตราศีธาตุดิน ย่อมลุกไหม้ตามสถานะของเชื้อไฟที่คนมีอยู่ สุดแต่ว่าดาวอาทิตย์ (๑) นี้จะเป็นความหมายของภพใดเอาสภานะของธาตุเข้าร่วมคำอาภรณ์ประกอบความหมาย
เช่น ดาวอาทิตย์ (๑) เป็นตนุเศษนั้น จิตใจร้อนแรงโดยธรรมซาติดาวคือไฟ เมื่อเข้าสถิตราศีธาตไฟจึงเป็นไฟกำลังสอง ทายถึงอุปนิสัยร้อนแรงทะเยอทะยานเป็น ๒ เท่าของปกติ
และเมื่ออาทิตย์(๑)เป็นตนุเศษธาตุไฟ สถิตราศีธาตุลม ก็เหมือนไฟกลางลม-คือ ขยันหมั่นเพียร เข้มแข็งวู่วามตามกระแส เป็นพักๆไม่ตลอดไป
ถ้าอาทิตย์(๑) ตนุเศษธาตุไฟสถิตราศีธาตุน้ำ ความเข้มแข็งจริงจัง และความทะเยอทะยายก็ลดคุณค่าอ่อนแรงลงไปมาก ตามธรรมซาติไฟอยู่ในน้ำบสงโหร ชอบใช้คำว่าอาทิตย์ตกน้ำ ไฟแห้งสนิทหมดเชื้อไฟ ซึ่งความจริงมิได้เป็นเช่นนั้น ไฟตกน้ำ -ไฟเย้นลง แต่ทำให้น้ำร้อนขึ้น ทำให้จิตใจเป็นอาทิตย์ (๑) ในราศีธาตุน้ำ จึงยังคงร้อนอยู่แต่จะร้อนอย่างน้ำร้อน มิได้ร้อนอย่างไฟ
อาทิตย์(๑) ตนุเศษธาตุไฟ สถิตราศีธาตดินทำให้อาทิตย์(๑) มีความยึดมั่นหนักแน่น ตามลักษณะธาตุดิน บวกธาตุไฟ
ดาวธาตุที่สถิตราศีธาตุโดดเดี่ยวย่อมมีคุณค่า ตามที่กล่าว โดยสังเขป แต่ถ้ามีดาวอื่นๆร่วมราศี ด้วยย่อมเพิ่มหรือลดธรรมซาติของดาวนั้นๆ ได้อีก สุดแต่ธาตุของดาว ที่เข้าร่วมราศีกับธาตุนั้น เป็นธาตุที่ส่งเสริมหรือขัดขวางยับยั้ง
โหรโบราณมักใช้ธาตุร่วมพยากรณ์เสมอเกือบทุกเรื่องโดยใช้ธาตุดาวประกอบธาตุราศีโดยใช้ธาตุดาวต่อดาวประกอบภพบ้างเป็นคำพยากรณ์ที่วิจิตรพิสดารเสมอ
เช่นทายสภาพดาวจร กระทบดาวจร ในภพอริ-มรณะ หรือจากเจ้าเรือนอริ มรณะ ของลัคนา และตนุลัคน์
ถ้าเป็น มุมอริ - มรณะ จากธาตุน้ำท่านให้ระวังเรื่องน้ำ เช่นไม่ควรเดินทางน้ำ ใกล้บ่อสระน้ำ
ถ้าเป็น มุมอริ - มรณะ จากธาตุลม ท่านมักห้ามขึ้นเขา หรือขึ้นที่สูงจะเกิดอันตรายจากที่สูง
ถ้าเป็น มุมอริ - มรณะ จากธาตุดิน ท่านให้ระวังของใหญ่ ของหนัก จะหล่นทับ เกิดอันตราย
การเขียนเรื่องธาตุนี้ มิได้ตั้งใจเขียนให้เป็นกฎำพยากรณ์ เพราะถ้าเขียนทุกดาว ทุกราศี ทุกธาตุ คงจะต้องเหมาหน้าพยากรณ์สารหมดทั้งเล่ม
จึงอ้างอิงและกล่าวถึงแนวทางใช้ธาตุร่วมดาวราศีประกอบความหมายเจ้าเรือนบางมุมพอให้ท่านได้เห็นช่องทางใช้ธาตุในการพยากรณ์ตามที่ถามมาสมประสงค์
อันที่จริงยังมีตอน ๒ อี คือธาตุทางโหราศาสตร์จีนที่ผมบังเอิญนึกได้ถึงเหตุที่จะได้ความรู้มาจากซินแสหมอดูท่านหนึ่งเป็นคนมอบให้ จะเขียนให้ตอนในคราวนี้ไม่ทัน เพราะต้องรื้อฟื้นความจำให้ชัดเจนสักหน่อยคงจกไปเล่ากันในคราวเล่มหน้า
---------------------------------------------------------- อรุณ ลำเพ็ญ
| หน้าปัญหาโหรนี้ จะเปิดเป็นประจำทุกเล่มเพื่อเป็นการอนุเคราะห์แก่บรรดานักโหราศาสตร์ ริเริ่ม และกำลังเรียนรู้ในโหราศาสตร์ มักเกิดปัญหาขัดข้องในการเรียน การอ่าน ตำรับตำราทั้งหลายขึ้น แล้วมักไม่รู้จะถามใคร ถ้าท่านเกิดปัญหาในการเรียนโหราศาสตร์นี้ โปรดจดหมายถามมาที่บรรณาธิการ พยากรณ์สาร และโปรดส่งซองจ่าหน้าถึงตัวท่านด้วย เพราะการจะตอบปัญหาทุกปัญหาในหน้าพยากรณ์สาร อาจไม่สะดวกจะได้ตอบเป็นส่วนตัวให้ท่าน ปัญหาใดที่น่าสนใจและประโยชน์แก่ส่วนรวมก็จะตอบในหน้าพยากรณ์สาร ผู้ตอบมิได้คิดจะตั้งตนเป็นสัพพัญญูอยู่ในโหราศาสตร์ เพียงปราถนาดีที่จะเป็นเพื่อนและพี่เลี้ยงให้นักโหราศาสตร์ที่เพิ่งเข้ามาสู่วงการโหราศาสตร์จะได้แก้ปัญหาได้ ปัญหาใดที่ผมไม่รู้ก็จะพยายามไถ่ถามผู้รู้หาคำตอบมาให้ แต่ถ้าปัญหาใดสูงสุดเกินสติปัญญาก็จนใจตอบไม่ได้ |
เรียน ท่านอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ ที่นับถือ
ผมเป็นสมาชิกโหรมาหลายปี มิได้เคยใช้สิทธิของสมาชิกกับสมาคมเลยขอถือ ในคราวนี้เรียนถามปัญหาโหรถึงขัดข้องในวิชาโหราศาสตร์ไทย ที่ผมเรียนรู้ด้วยตนเอง หลายปีแล้ว ขอเรียนด้วยความจริงใจว่าการเรียนด้วยตนเอง โดยซื้อตำรามาอ่านเป็นการเรียนที่แสนจะยากเย็น
เพราะบางตำราเขียนไม่สิ้นกระแสความ และไม่อธิบายชี้ชัดให้แจ่มเจ้า และไม่มีวิธีใช้โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง ตำรามากเล่มเขียนเรื่องธาตุมักบอกเพียงธาตุของราศี และธาตุของเอาไว้เท่านั้น มิได้บอกถึงว่าการใช้ธาตุพยากรณ์ ร่วมกบดาวนั้นจะทำอย่างไร และเมื่อไร
ผมถามนักโหราศาสตร์รุ่นพี่ๆ ก็อธิบายคล้ายๆ ตำราคือคลุมเครือไม่แจ่มแจ้งเช่นกัน ทราบว่าโหราศาสตร์ซาติต่างเช่น ฝรั่ง แจก จีน ก็มีธาตุของดาว และราศีตามระบบของเขาเช่นกัน ธาตุคงมีสำคัญแก่พยากรณ์แน่นอน
ได้ทราบว่าท่านอาจารย์อรุณ ลำเพ็ย เป็นผู้มีเมตตาแก่นักโหราศาสตร์ใหม่ๆ ทัั่วไปคงเมตตาแก่ผมด้วย
ด้วยความนับถืออย่างสูง
พลศักดิ์ มานะจิตร์
พลศักดิ์ มานะจิตร์
เรียน คุณพลศักดิ์ มานะจิตร์ ที่นับถือ
เรื่องธาตุของดาวทราบว่า ทุกระบบโหราศาสตร์ ที่ใช้ดวงดาวจะต้องกำหนดธาตุของดาว ทุกซาติทุกภาษาเช่นกัน เช่นโหราศาสตร์ตะวันตก หรือที่เราเรียกว่า โหราศาสตร์ในระบบธาตุของดาว และราศีเขาก็มี ๔ ธาตุเท่ากับโหราศาสตร์ไทย
เช่น ราศีเมษ FIRE ELEMENT ธาตุไฟ
ราศีพฤษภ EARTH ELEMENT ธาตุดิน
ราศีเมถุน AIR ELEMENT ธาตุลม
ราศีกรกฎ WATER ELEMENT ธาตุน้ำ และราศีสิงห์-ไฟ กันย์-ดิน พิจิก-น้ำ ธนู-ไฟ มังกร-ดิน กุมภ์-ลม มีน-น้ำ
ระบบราศีธาตุ ก็คงเช่นเดียวกับโหราศาสตร์ไทยตรงตัวเช่นกันไม่ผิดเพี้ยน
การใช้ธาตุพยากรณ์นั้น ในระบบโหราศาสตร์ไทย ผมยังไม่เคยพบว่าใช้ธาตุดาวและราศีเป็นจุดพยากรณ์เป็นตัวหลักในการพยากรณ์ พบที่ใช้ส่วนเป็นความหมายร่วมธาตุกับดาวและราศี เป็นการประกอบความหมายหรือใช้ขยายของคำพยากรณ์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
อันแท้จริงเรื่องธาตุมิใช่เรื่องเล็กๆ เป็นเรื่องใหญ่ ที่จะใช้ร่วมพิจารณาดาว พิจารณาราศี ทำให้คำพยากรณ์ได้ผาดโผนพลิกแพลงน่าทึ่งได้มาก
อาจารย์ ส. แสงตะวัน เป็นอาจารย์โหราศาสตร์ไทยท่านหนึ่งที่เล่นเรื่องธาตุมากท่านหนึ่ง เคยพูดเสมอว่าใครจะศึกษากับท่านต้องเรียนเรื่องธาตุเสีย ๑ ปี ก่อนแล้วจึงจะสอนดวงและอื่นๆให้
ในระบบโหราศาสตร์ไทยทั่วไปใช้ธาตุดาวกับธาตุราศีเป็นการพิจารณาคุณค่าของดาว และพิจารรณาสถานะของดาวเพื่อใช้พยากรณ์กับดาวภพต่างๆ เช่น ดาวอาทิตย์ ธาตุไฟ - สถิตราศีธาตุไฟ ย่อมรุ่งโรจน์แสดงความเจิดจ้า แห่งแสงได้เต็มภาคภูมิ
เมื่อดาวอาทิตย์ (๑) ธาตุไฟสถิตราศีธาตุลม เพลิงไฟย่อมถูกลมกระพือพัดให้โชติช่วงได้ เช่นแค่เป็นพักๆ ตามกระแสลม
ระบบราศีธาตุ ก็คงเช่นเดียวกับโหราศาสตร์ไทยตรงตัวเช่นกันไม่ผิดเพี้ยน
การใช้ธาตุพยากรณ์นั้น ในระบบโหราศาสตร์ไทย ผมยังไม่เคยพบว่าใช้ธาตุดาวและราศีเป็นจุดพยากรณ์เป็นตัวหลักในการพยากรณ์ พบที่ใช้ส่วนเป็นความหมายร่วมธาตุกับดาวและราศี เป็นการประกอบความหมายหรือใช้ขยายของคำพยากรณ์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
อันแท้จริงเรื่องธาตุมิใช่เรื่องเล็กๆ เป็นเรื่องใหญ่ ที่จะใช้ร่วมพิจารณาดาว พิจารณาราศี ทำให้คำพยากรณ์ได้ผาดโผนพลิกแพลงน่าทึ่งได้มาก
อาจารย์ ส. แสงตะวัน เป็นอาจารย์โหราศาสตร์ไทยท่านหนึ่งที่เล่นเรื่องธาตุมากท่านหนึ่ง เคยพูดเสมอว่าใครจะศึกษากับท่านต้องเรียนเรื่องธาตุเสีย ๑ ปี ก่อนแล้วจึงจะสอนดวงและอื่นๆให้
ในระบบโหราศาสตร์ไทยทั่วไปใช้ธาตุดาวกับธาตุราศีเป็นการพิจารณาคุณค่าของดาว และพิจารรณาสถานะของดาวเพื่อใช้พยากรณ์กับดาวภพต่างๆ เช่น ดาวอาทิตย์ ธาตุไฟ - สถิตราศีธาตุไฟ ย่อมรุ่งโรจน์แสดงความเจิดจ้า แห่งแสงได้เต็มภาคภูมิ
เมื่อดาวอาทิตย์ (๑) ธาตุไฟสถิตราศีธาตุลม เพลิงไฟย่อมถูกลมกระพือพัดให้โชติช่วงได้ เช่นแค่เป็นพักๆ ตามกระแสลม
เมื่ออาทิตย์ (๑) ธาตุไฟสถิตราศีธาตุน้ำย่อมถูกขัดขวางและระงับมิให้ไปได้แสดงความร้อนแรงได้เต็มที่
เมื่ออาทิตย์(๑) ธาตุไฟสถิตราศีธาตุดิน ย่อมลุกไหม้ตามสถานะของเชื้อไฟที่คนมีอยู่ สุดแต่ว่าดาวอาทิตย์ (๑) นี้จะเป็นความหมายของภพใดเอาสภานะของธาตุเข้าร่วมคำอาภรณ์ประกอบความหมาย
เช่น ดาวอาทิตย์ (๑) เป็นตนุเศษนั้น จิตใจร้อนแรงโดยธรรมซาติดาวคือไฟ เมื่อเข้าสถิตราศีธาตไฟจึงเป็นไฟกำลังสอง ทายถึงอุปนิสัยร้อนแรงทะเยอทะยานเป็น ๒ เท่าของปกติ
และเมื่ออาทิตย์(๑)เป็นตนุเศษธาตุไฟ สถิตราศีธาตุลม ก็เหมือนไฟกลางลม-คือ ขยันหมั่นเพียร เข้มแข็งวู่วามตามกระแส เป็นพักๆไม่ตลอดไป
ถ้าอาทิตย์(๑) ตนุเศษธาตุไฟสถิตราศีธาตุน้ำ ความเข้มแข็งจริงจัง และความทะเยอทะยายก็ลดคุณค่าอ่อนแรงลงไปมาก ตามธรรมซาติไฟอยู่ในน้ำบสงโหร ชอบใช้คำว่าอาทิตย์ตกน้ำ ไฟแห้งสนิทหมดเชื้อไฟ ซึ่งความจริงมิได้เป็นเช่นนั้น ไฟตกน้ำ -ไฟเย้นลง แต่ทำให้น้ำร้อนขึ้น ทำให้จิตใจเป็นอาทิตย์ (๑) ในราศีธาตุน้ำ จึงยังคงร้อนอยู่แต่จะร้อนอย่างน้ำร้อน มิได้ร้อนอย่างไฟ
อาทิตย์(๑) ตนุเศษธาตุไฟ สถิตราศีธาตดินทำให้อาทิตย์(๑) มีความยึดมั่นหนักแน่น ตามลักษณะธาตุดิน บวกธาตุไฟ
ดาวธาตุที่สถิตราศีธาตุโดดเดี่ยวย่อมมีคุณค่า ตามที่กล่าว โดยสังเขป แต่ถ้ามีดาวอื่นๆร่วมราศี ด้วยย่อมเพิ่มหรือลดธรรมซาติของดาวนั้นๆ ได้อีก สุดแต่ธาตุของดาว ที่เข้าร่วมราศีกับธาตุนั้น เป็นธาตุที่ส่งเสริมหรือขัดขวางยับยั้ง
โหรโบราณมักใช้ธาตุร่วมพยากรณ์เสมอเกือบทุกเรื่องโดยใช้ธาตุดาวประกอบธาตุราศีโดยใช้ธาตุดาวต่อดาวประกอบภพบ้างเป็นคำพยากรณ์ที่วิจิตรพิสดารเสมอ
เช่นทายสภาพดาวจร กระทบดาวจร ในภพอริ-มรณะ หรือจากเจ้าเรือนอริ มรณะ ของลัคนา และตนุลัคน์
ถ้าเป็น มุมอริ - มรณะ จากธาตุน้ำท่านให้ระวังเรื่องน้ำ เช่นไม่ควรเดินทางน้ำ ใกล้บ่อสระน้ำ
ถ้าเป็น มุมอริ - มรณะ จากธาตุลม ท่านมักห้ามขึ้นเขา หรือขึ้นที่สูงจะเกิดอันตรายจากที่สูง
ถ้าเป็น มุมอริ - มรณะ จากธาตุดิน ท่านให้ระวังของใหญ่ ของหนัก จะหล่นทับ เกิดอันตราย
การเขียนเรื่องธาตุนี้ มิได้ตั้งใจเขียนให้เป็นกฎำพยากรณ์ เพราะถ้าเขียนทุกดาว ทุกราศี ทุกธาตุ คงจะต้องเหมาหน้าพยากรณ์สารหมดทั้งเล่ม
จึงอ้างอิงและกล่าวถึงแนวทางใช้ธาตุร่วมดาวราศีประกอบความหมายเจ้าเรือนบางมุมพอให้ท่านได้เห็นช่องทางใช้ธาตุในการพยากรณ์ตามที่ถามมาสมประสงค์
อันที่จริงยังมีตอน ๒ อี คือธาตุทางโหราศาสตร์จีนที่ผมบังเอิญนึกได้ถึงเหตุที่จะได้ความรู้มาจากซินแสหมอดูท่านหนึ่งเป็นคนมอบให้ จะเขียนให้ตอนในคราวนี้ไม่ทัน เพราะต้องรื้อฟื้นความจำให้ชัดเจนสักหน่อยคงจกไปเล่ากันในคราวเล่มหน้า
#คุณยายกลิ่นโสม
#เรื่องเล่าจากเรือนดาวกับคุณยาย
#เรื่องเล่าจากเรือนดาวกับคุณยาย
#โหราศาสตร์ไทยเรียนง่ายกว่าที่คิด
#เรียนโหราศาสตร์ไทยสไตล์คุณยายกลิ่นฯ
#อ่านดวงไทยสบายสบาย ตามสไตล์คุณยายกลิ่นโสม
#โหราศาสตร์ไทยเรียนด้วยตนเองฉบับคุณยายกลิ่นโสม
#เรียนโหราศาสตร์ไทยฟรี ที่เวปนี้นะ:: htthttp://www.baankhunyai.com
--------------------
