เกษตร ประ อุจ นิจ
ปัญหาโหร :: เกษตร ประ อุจ นิจ
---------------------------------------------------------- อรุณ ลำเพ็ญ
---------------------------------------------------------- อรุณ ลำเพ็ญ
| หน้าปัญหาโหรนี้ จะเปิดเป็นประจำทุกเล่มเพื่อเป็นการอนุเคราะห์แก่บรรดานักโหราศาสตร์ ริเริ่ม และกำลังเรียนรู้ในโหราศาสตร์ มักเกิดปัญหาขัดข้องในการเรียน การอ่าน ตำรับตำราทั้งหลายขึ้น แล้วมักไม่รู้จะถามใคร ถ้าท่านเกิดปัญหาในการเรียนโหราศาสตร์นี้ โปรดจดหมายถามมาที่บรรณาธิการ พยากรณ์สาร และโปรดส่งซองจ่าหน้าถึงตัวท่านด้วย เพราะการจะตอบปัญหาทุกปัญหาในหน้าพยากรณ์สาร อาจไม่สะดวกจะได้ตอบเป็นส่วนตัวให้ท่าน ปัญหาใดที่น่าสนใจและประโยชน์แก่ส่วนรวมก็จะตอบในหน้าพยากรณ์สาร ผู้ตอบมิได้คิดจะตั้งตนเป็นสัพพัญญูอยู่ในโหราศาสตร์ เพียงปราถนาดีที่จะเป็นเพื่อนและพี่เลี้ยงให้นักโหราศาสตร์ที่เพิ่งเข้ามาสู่วงการโหราศาสตร์จะได้แก้ปัญหาได้ ปัญหาใดที่ผมไม่รู้ก็จะพยายามไถ่ถามผู้รู้หาคำตอบมาให้ แต่ถ้าปัญหาใดสูงสุดเกินสติปัญญาก็จนใจตอบไม่ได้ |
เรียนท่านอาจารย์อรุณ ลำเพ็ญ ที่เคารพ
ผมเป็นสามาชิกสมาคมโหรมานาน จึงขอใช้สิทธิ์การเป็นสมาชิกถามปัญหาโหรแก่ท่านบ้าง และขอยกย่องว่าท่านตอบปัญหาว่าท่านตอบปัญหาให้ความรู้ความเข้าใจหมดข้อสงสัยทุกปัญหาทั้งอ้างอิงหลักฐาน และเหตุผล สมเป็นอาจารย์อย่างแท้จริง
ผมสนใจและเรียนรู้โหราศาสตร์จากตำรับตำรามาหลายปี ต้องขอสารภาพว่ายิ่งเรีนรู้มากยิ่งโง่ลง ปัญหาต่างๆ ยิ่งมากขึ้นจนดูมืดมนท์ไปเกือบทุกเรื่อง ผมไม่โทษตำหรับตำราที่อาจารย์ท่านเขียนไว้ แต่ผมโทษปัญญาของผมเองที่ฉลาดน้อยเกินไป
ปัญหาของผมคือในพื้นดวงเดิมที่ผ่านพบมาหลายๆดวงมีดาวเป็นมหาอุดมอันยิ่งใหญ่บ้าง มีเกษตรบ้าง บางดวง "มหาอุดม" หลายดวง แต่ชีวิตจริงของเขาไม่ดีเด่นเป็นมหาอุดมเหมือนดาว บางรายซ้ำร้ายตกต่ำยากไร้เสียอีก มีบางอาจารย์แนะให้ถอดเข้านวางค์จักร์ก็แล้ว ไม่มีคำตอบให้ตัวเองหายสงสัยได้ บางดวงชะตามีดาวนิจ ดาวประ แพรวพราวไปหมด แต่ชีวิตกลับดีเด่น น่าแปลก
เคยนำปัญหานี้เรียนไต่ถามอาจารย์หลายท่าน แต่ละท่านก็ตอบตามหลักวิชาบ้าง ตามทัศคติของท่านบ้าง คำอธิบายของท่านไม่ทำให้หายหิวได้เลย
ผมเชื่อว่าคำตอบของท่านอาจารย์คงไม่เหมือนใคร และคงเป็นรายสุดท้ายที่ผมถามได้
ด้วยความเคราพ
ส.อัพภันตร์
ส.อัพภันตร์
เรียน คุณ ส.อัพภันตร์ ที่นับถือ
จดหมายของคุณ ผมได้ถือวิสาสะตัดทอนข้อความออกไป โดยเฉพาะข้อความที่ยกย่องผมเกินเหตุไป ซึ่งไม่เกิดประโยชน์แก่ผู้อ่าน บังเอิญคุณเขียนศัพท์ โหราศาสตร์ผิดมาหลายคำ จึงขอทำความเข้าในคำเรียกตำแหน่งดาวเสียก่อน และอาจเป็นประโยชน์แก่นักโหราศาสตร์ รุ่นใหม่ที่กำลังเรียนรู้
จดหมายของคุณ ผมได้ถือวิสาสะตัดทอนข้อความออกไป โดยเฉพาะข้อความที่ยกย่องผมเกินเหตุไป ซึ่งไม่เกิดประโยชน์แก่ผู้อ่าน บังเอิญคุณเขียนศัพท์ โหราศาสตร์ผิดมาหลายคำ จึงขอทำความเข้าในคำเรียกตำแหน่งดาวเสียก่อน และอาจเป็นประโยชน์แก่นักโหราศาสตร์ รุ่นใหม่ที่กำลังเรียนรู้
| เกษตร์ |
พื้นภูมิ ถิ่นที่ แว่นแคว้น แดน ดาวเจ้าเรือนเกษตร์ คือ ดาวที่เป็นเจ้าของครอบครอง ราศีถิ่นฐาน แดนนั้นๆ |
| ประ | คำ ปร แปลว่าตรงกันข้ามนั่นเอง ดาวที่อยู่ฝั่งตรงกันข้ามกับราศีเกษตร์ โหรเรียกดาวปรเกษตร์ คำปร เป็นคำนำหน้านามซึ่งแสดง ความหมายตรงข้าม เช่น ปรปักษ์ คนละฝ่ายหรือฝ่ายตรงข้ามปรโลก คนละโลก หรือโลกตรงข้ามคือนรก สวรรค์ มักเขียนเป็นประ ซึ่งคำว่าประนี้มีความหมายว่า กระทบกระแทก ปะทะ |
| อุจ | บาลี และสันสกฤตเขียน อุจจ์ แปลว่า สูงส่ง คุณ. ส.อัพภันตร์ เขียนมาว่า อุตม คำนี้คือคำว่า อุดม บาลีท่านใช้ ต.แทน ด. แปลว่าบริบรูณ์พร้อมเพียงมหาอุจจ์ แปลว่า สูงยิ่ง หรือสูงส่งใหญ่ยิ่ง |
| นิจ | แปลว่า ต่ำต้อย คือดาวที่อยู่ราศีตรงกันข้ามกับราศีอุจจ์ของตน ความหมายก็ตรงข้ามเช่นกัน คือ อุจจ์ยิ่งใหญ่ นิจต่ำต้อย |
มีดาวบางต่ำแหน่ง ซึ่แต่เดิมไม่มีต่ำแหน่งในราศีตรงข้ามเหมือนเกษตร์และอุจจ์คือ ต่ำแหน่ง มหาจักร์ และ ราชาโชค แต่ในราวปี พ.ศ.๒๔๗๐ เศษ มีอาจารย์โหรศาสตร์ท่านหนึ่งเป็นนักเขียนบทความในหนังสือพิมพ์ มีนามปากกา " อายันต์โฆษ" ได้คิดค้นบัญญัติดาวในตำแหน่ง ตรงข้ามกับราศีมหาจักร์ เป็นต่ำแหน่งจุลจักร์ คือมีความหมายมหาจักร์คือ จักร์ใหญ่ จุลจักร์คือจักร์เล็ก และราชาโชค โชคแห่งพระราชา คือเทวีโชค โชคแห่งนางพระยา
ท่านผู้นี้มีบรรดาศักดิ์เป็นขุน และชอบผสมหมึกเขียนจำหน่าย เพื่อนฝูงจึงเรียกท่านว่า ขุนหมึกติดปากทันหมดทุกคนจนลืมราชทินนามของท่าน บ้านท่านอยู่ทางวัดตรีทศเทพเมื่อท่านบัญญัติตำแหน่งออกมาใหม่ เพื่อนๆที่เป็นนักโหราศาสตร์สนิทรุ่นเดียวกันพากันล้อเลียนท่านว่า
"มหาอุจจ์ยิ่งใหญ่ นิจต่ำต้อย เกษตร์มั่นคงเข้มแข็ง ปรอ่อนแอไม่มั่นคง และมหาจักร์ผาดโผนดีเด่น ราศีและความหมายตรงข้ามควรเป็น บรรลัยจักร์ และตรงข้ามราชาโชคควรเป็นยาจกโชค ซึ่งเป็นความหมายตรงกันข้ามตามแบบเก่า "
ปรากฎว่าพี่ขุนหมึก ท่านโกรธ รุนแรงจริงจัง ถึงขนาดไม่เผาผีซึ่งกันและกันกับเพื่อนๆไปหลายราย จนไม่มีใครล้อเลียนท่านอีก
ขอหวลกลับมาพูดเรื่อง อุจจ์ ถ้าดวงชะตาใดมีดาวอุจจ์ หรือมหาอุจจ์ แล้วเชื่อว่าเจ้าของดวงชะตาจะดีเด่นเป็นอุจจ์ตามดาวนั้นลองคำนวณเคร่าๆ ดูจะเห็นว่า ในรอบ ๓๐ ปี
เสาร์ (๗) เป็นอุจจ์ราศีตุลย์ ๒ ปีครึ่ง เป็นเกษตร์ราศีมังกร ๒ ปีครึ่ง รวม ๕ ปี
ราหู (๘) เป็นอุจจ์ราศีพิจิก ๑ ปีครึ่ง เป็นเกษตร์ราศีกุมภ์ ๑ ปีครึ่ง รวม ๓ ปี
พฤหัส (๕) เป็นอุจจ์ราศีกรกฎ ๒ ครั้งๆละ ๑ ปี และเป็นเกษตร์ ราศีธนูและมีน ราศีละ ๒ ครั้ง เป็น ๔ ครั้ง รวม ๖ ปี
อาทิตย์ (๑) เป็นอุจจ์ราศีเมษปีละครั้ง ๓๐ ครั้ง เป็นเกษตร์ราศี อีก ๓๐ ครั้ง รวม ๖๐ ครั้งๆละ ๑ เดือน รวมเป็เวลา ๕ ปี
พุธ(๔) เป็นอุจจ์ราศีกันย์ ปีละครั้งเป็น ๓๐ ครั้ง เป็นเกษตร์ราศีกันย์และมิถุนปีละครั้ง ๒ ราศี ๖๐ครั้ง ๆละ ๑ เดือน รวมเวลา ๙๐ เดือน หรือ ๗ ปีครึ่ง
ศุกร์ (๖) เป็นอุจจ์ราศีมีน ปีละครั้ง ๓๐ ครั้ง เป็นเกษตร์ ๒ ราศี พฤษภและตุลย์ ปีละครั้ง ๖๐ ครั้ง รวม ๙๐ ครั้งๆละ ๑ เดือน เป็นเวลา ๗ ปีครึ่ง
อังคาร (๓) เป็นอุจจ์ราศีมังกร ปีครึ่งต่อครั้ง เป็น ๒๐ ครั้ง เป็นเกษตร์ราศีเมษและพิจิก ๔๐ ครั้งๆ ละ ๑ เดือนครึ่ง ๙๐ เดือน ๗ ปีครึ่ง
จันทร์(๒)เป็นเกษตร์ ราศีกรกฎ เดือนละครั้ง ๆละ ๒ วันครึ่ง ๑,๕๖๐ ครั้ง เป็นเวลา ๒๑ ปีเศษ
และนับ นิจ ปร ก็จะมีจำนวนเท่าๆกัน คุณลองคิดดู ถ้าคนเด่นตามดวงทุกดวงป่านนี้คนเด่นดังคงเต็มเมืองแล้วหรือ ที่ผมเคยพบๆมาทุก ๑๐ ดวง มักพบว่าจะต้องมีดาวเด่นดวงใดดวงหนึ่งเสีย ๗ คนเสมอ
ที่พูดมานี้มิได้จงใจคัดค้านตำหรับตำรา โดยเฉพาะคัมภีร์เก่าๆ ท่านกำหนดไว้เช่นนั้น ผมเองเคยประสบปัญหานี้มาแล้ว ต่อมาได้พบอาจารย์เก่าๆ ท่านให้สติว่า คัมภีร์โบราณนั้นมีคำพังเพยว่า " คัมภีร์โหรโบราณคือราหู " ราหูนั้นมีอยู่ครึ่งตัว หมายถึงตำราโบราณท่านเขียนไว้เพียงครึ่งเดียว อีกครึ่งท่านเก็บไว้ในพุงอาจารย์ เวลาจะสอนท่านจึงจะขยายออกมาประกอบตำรา
เรื่องของดาวเป็นมหาอุจจ์ เป็นตำแหน่งแสดงอำนาจและกำลังของดาว เป็นคุณสมบัติดาว ยังมิใช่เรื่องของตน ต่อมาเมื่อมีลัคนา ของคนขึ้นดาวมหาอุจจ์นั้น จึงจะเป็นเรื่องของภพที่ลัคนากำหนดขึ้น อาจเป็นคุณอาจเป็นโทษตามความหมายภพ
ดาวมหาอุจจ์ ตามความหมายทางโหราศาสตร์ หมายถึงการมีเกรียติ์ มีอำนาจอันยิ่งใหญ่ มีความเด่น ฯ
ตนุลัคน์ เป็นดาวมหาอุจจ์ แน่นอนคือตัวเจ้าชะตายิ่งใหญ่ มีทางใดก็ทางหนึ่ง ย่อมเป็นสิ่งที่ดีแก่เจ้าชะตา
อริ ดาวเจ้าเรือนภพอริเป็นมหาอุจจ์ ก็คือ อุปสรรค หรือศัตรู ของเจ้าชะตาเ็นผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่ ชีวิตเจ้าชะตาต้องรับศึกหนักแน่น การเป็นศัตรูกับผู้ยิ่งใหญ่ โอกาสชนะมีเท่ารูเข็ม
มรณะ เจ้าเรือนเป็นมหาอุจจ์ คือความเสียหาย หรือการเจ็บป่วยแต่ละครั้งร้ายแรงยิ่งใหญ่ คือการได้รับทุกข์โทษ ตามดาวมหาอุจจ์นั่นเอง
พันธุ เจ้าเรือนเป็นมหาอุจจ์ พันธุคือเครือญาติและเผ่าพงศืวงศ์วารควรมี เกรียติ์ มีอำนาจก็ย่อมเป็นส่วนดีแก่เจ้าชะตา เป็นเครื่องเชิดหน้าชูตา
สหัสชะ เจ้าเรือนสหัสชะเป็นมหาอุจจ์ สหัสสชะคือเพื่อนฝูงมิตรสหาย เมื่อเป็นมหาอุจจ์มีเกรียติมีอำนาจ ย่อมเป็นที่พึ่งพาอาศัยแก่เจ้าชะตาได้
ปัตนิ ดาวเจ้าเรือนเป็นมหาอุจจ์ ปัตนิคือสามีภรรยา เมื่อเป็นคนมีเกรียติมีอำนาจ หรือมีชาติตระกูลสูง ย่อมเป็นเป็นส่วนดีแก่เจ้าชะตา
ดวงชะตามีถึง ๑๒ ภพ ต้องรู้ว่ามหาอุจจ์นั้นเป็นเจ้าเรือนภพมีคุณหรือโทษ ในทางกลับกัน ถ้าดาวเปนนิจ ปร ถ้าเป็นเจ้าเรือนโทษเช่น อริ มรณะ ก็ย่อมหมายถึงอุปสรรค ศัตรู หรือความเสียหายนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่สำคัญ ย่อมมีโอกาสต่อสู้ได้ไม่หนักหนา
ได้ข้อคิดจากครูโหร ว่า..
ดาวมหาอุจจ์ ตามความหมายทางโหราศาสตร์ หมายถึงการมีเกรียติ์ มีอำนาจอันยิ่งใหญ่ มีความเด่น ฯ
ตนุลัคน์ เป็นดาวมหาอุจจ์ แน่นอนคือตัวเจ้าชะตายิ่งใหญ่ มีทางใดก็ทางหนึ่ง ย่อมเป็นสิ่งที่ดีแก่เจ้าชะตา
อริ ดาวเจ้าเรือนภพอริเป็นมหาอุจจ์ ก็คือ อุปสรรค หรือศัตรู ของเจ้าชะตาเ็นผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่ ชีวิตเจ้าชะตาต้องรับศึกหนักแน่น การเป็นศัตรูกับผู้ยิ่งใหญ่ โอกาสชนะมีเท่ารูเข็ม
มรณะ เจ้าเรือนเป็นมหาอุจจ์ คือความเสียหาย หรือการเจ็บป่วยแต่ละครั้งร้ายแรงยิ่งใหญ่ คือการได้รับทุกข์โทษ ตามดาวมหาอุจจ์นั่นเอง
พันธุ เจ้าเรือนเป็นมหาอุจจ์ พันธุคือเครือญาติและเผ่าพงศืวงศ์วารควรมี เกรียติ์ มีอำนาจก็ย่อมเป็นส่วนดีแก่เจ้าชะตา เป็นเครื่องเชิดหน้าชูตา
สหัสชะ เจ้าเรือนสหัสชะเป็นมหาอุจจ์ สหัสสชะคือเพื่อนฝูงมิตรสหาย เมื่อเป็นมหาอุจจ์มีเกรียติมีอำนาจ ย่อมเป็นที่พึ่งพาอาศัยแก่เจ้าชะตาได้
ปัตนิ ดาวเจ้าเรือนเป็นมหาอุจจ์ ปัตนิคือสามีภรรยา เมื่อเป็นคนมีเกรียติมีอำนาจ หรือมีชาติตระกูลสูง ย่อมเป็นเป็นส่วนดีแก่เจ้าชะตา
ดวงชะตามีถึง ๑๒ ภพ ต้องรู้ว่ามหาอุจจ์นั้นเป็นเจ้าเรือนภพมีคุณหรือโทษ ในทางกลับกัน ถ้าดาวเปนนิจ ปร ถ้าเป็นเจ้าเรือนโทษเช่น อริ มรณะ ก็ย่อมหมายถึงอุปสรรค ศัตรู หรือความเสียหายนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่สำคัญ ย่อมมีโอกาสต่อสู้ได้ไม่หนักหนา
ในทางกลับกัน เราใช้หลักการอ่านนี้ กับต่ำแหน่งดาวอื่นๆ เช่น นิจ เกษตร ปร ราชาโชค และมหาจักร์ เช่นกัน
ตนุลัคน์ เป็นดาวมหาอุจจ์ แน่นอนคือตัวเจ้าชะตายิ่งใหญ่ มีทางใดก็ทางหนึ่ง ย่อมเป็นสิ่งที่ดีแก่เจ้าชะตา
อริ ดาวเจ้าเรือนภพอริเป็นมหาอุจจ์ ก็คือ อุปสรรค หรือศัตรู ของเจ้าชะตาเ็นผู้มีอำนาจยิ่งใหญ่ ชีวิตเจ้าชะตาต้องรับศึกหนักแน่น การเป็นศัตรูกับผู้ยิ่งใหญ่ โอกาสชนะมีเท่ารูเข็ม
มรณะ เจ้าเรือนเป็นมหาอุจจ์ คือความเสียหาย หรือการเจ็บป่วยแต่ละครั้งร้ายแรงยิ่งใหญ่ คือการได้รับทุกข์โทษ ตามดาวมหาอุจจ์นั่นเอง
พันธุ เจ้าเรือนเป็นมหาอุจจ์ พันธุคือเครือญาติและเผ่าพงศืวงศ์วารควรมี เกรียติ์ มีอำนาจก็ย่อมเป็นส่วนดีแก่เจ้าชะตา เป็นเครื่องเชิดหน้าชูตา
สหัสชะ เจ้าเรือนสหัสชะเป็นมหาอุจจ์ สหัสสชะคือเพื่อนฝูงมิตรสหาย เมื่อเป็นมหาอุจจ์มีเกรียติมีอำนาจ ย่อมเป็นที่พึ่งพาอาศัยแก่เจ้าชะตาได้
ปัตนิ ดาวเจ้าเรือนเป็นมหาอุจจ์ ปัตนิคือสามีภรรยา เมื่อเป็นคนมีเกรียติมีอำนาจ หรือมีชาติตระกูลสูง ย่อมเป็นเป็นส่วนดีแก่เจ้าชะตา
ดวงชะตามีถึง ๑๒ ภพ ต้องรู้ว่ามหาอุจจ์นั้นเป็นเจ้าเรือนภพมีคุณหรือโทษ ในทางกลับกัน ถ้าดาวเปนนิจ ปร ถ้าเป็นเจ้าเรือนโทษเช่น อริ มรณะ ก็ย่อมหมายถึงอุปสรรค ศัตรู หรือความเสียหายนั้นเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่สำคัญ ย่อมมีโอกาสต่อสู้ได้ไม่หนักหนา
ในทางกลับกัน เราใช้หลักการอ่านนี้ กับต่ำแหน่งดาวอื่นๆ เช่น นิจ เกษตร ปร ราชาโชค และมหาจักร์ เช่นกัน
#คุณยายกลิ่นโสม 
#คุณยายเล่าเรื่องจากเรือนดาว
#โหราศาสตร์ไทยเรียนง่ายกว่าที่คิด
#เรียนโหราศาสตร์ไทยสไตล์คุณยายกลิ่นฯ
#อ่านดวงไทยสบายสบายตามสไตล์คุณยายกลิ่นโสม
#โหราศาสตร์ไทยเรียนด้วยตนเองฉบับคุณยายกลิ่นโสม
#เรียนโหราศาสตร์ไทยฟรี ที่เวปนี้นะ:: htthttp://www.baankhunyai.com
--------------------
