คุยกับหลานเรื่องโยค

   คุยกับหลานเรื่องโยค  โดยอาจารย์ ส. แสงตะวัน 

  
   
   คุยกับหลานเรื่องโยค  โดยอาจารย์ ส. แสงตะวัน 
วันนี้ลุง ส. รู้สึกสบายใจที่ได้มาคุยกับหลานๆ และเหลนๆ ที่สนใจในวิชาโหรไทยเพระพวกหลานๆ และเหลน ๆ ยังมีอนาคตอีกไกล ลุงคิดว่หลานคงจะไม่ใหลหลงอะไรง่าย ๆ โดยมิใช่ใครว่าอะไรดีก็เบื่อเขาเสียหมด มิได้คิดทบทวนหน้า-หลังให้ถ่องแท้เสียก่อน  หากผิดพลาดพลั้งไปแล้ว  หลานจะเสียทั้งเวลาและเสียใจไปนานแสนนานทีเดียว

หลานเอ๋ย ลุงส.จะบอกให้ ลุงร่ำเรียนและค้นนคว้าวิชาโหรมานานถึง ๔๐ บีแล้ว ลุงพอจะรู้ว่าอะไรผิดอะไรถูก อันไหนใช่และอันไหนไม่ใช่ เพราะกาลเวลามันสอนให้ลุงได้รู้มาแล้วเบ็นอย่างดี

ลุงเสียดายเหลือเกิน เดี๋ยวนี้วิชาโหราศาสตร์ขนานแท้และดั้งเดิมของไทยแรา กำลังจะหดหายจมดินไปเรื่อย ๆ เห็นจะเป็นด้วยอิทธิพลของวิชาแขนงอื่นได้แปลกปลอมเข้ามาบดบัง จนลุงไม่กล้าเข้าไปแตะต้องหรือค้ดค้าน  ประเดี๋ยวจะถูกกล่าวหาว่าลุงชาตินิยม หรือเต่าล้านปี อะไรทำนองนั้น

หลานเอ๋ย ลุงจะบอกให้ จริงอยู่วิชาโหราศาสตร์นั้นมีรากฐานพื้นเดิมมาจากชนชาติอินเดีย แต่เราก็มิได้เก็บเอาของเขามาทั้งหมด เราได้มาเพียงพื้นฐานตอนต้นเท่าที่เขาจะเบีดเผยให้เราได้เท่านั้น เพราะเป็นของมีคุณค่าเขาก็ย่อมจะหวงแหนของเขาเหมือนกัน ถึงอย่างไรอินเดียก็คงเบ็นครูต้นแบบฉบับจำพวกโหรทั้งหลาย ระยะต่อมาได้มีหลายชาติ หลายภาษา เริ่มสนใจ ต่างได้พยายามศึกษาเก็บเอามาค้นคว้หาข้อมูลกันเอาเอง เช่นจีน ญวน เขมร ลาว พม่า มอญและไทยเป็นต้น  ด้วยความมานะอุตส่ห์เพียรพยายาม จนกระทั่งได้กลายมาเป็นแบบฉบับตำรับตำราของตนเองขึ้น แต่ละฉบับก็ล้วนแต่มีคุณค่าอันควรหวงแหนของเขาทั้งสิ้น  ซึ่งเป็นตำรับที่มีหลักเกณฑ์สมบูรณ์และยอดเยี่ยมที่สุด ในโลกของยุคนั้น เมื่อใครได้เรียนหรือรับทอดต่อเนื่อง ต่างก็ให้หวงแหนปิดบังขั้นสุดยอดเหมือนกัน  เพราะในสมัยพระมหากษัตริย์กับโหราจารย์ ได้มีความสัมพันธ์กันอย่างใก้ลชิดมาตลอด จนถึงกับบางยุคสมัยไกเจัดตั้งเป็นกรมโหรก็มี 

สืบต่อมาในระยะหลัง ๆ แบบฉบับตำรับตำราไหรไทยดั้งเดิมของเรานั้นเกือบจะถูกฝังดินไปแล้วด้วยอิทธิพลของพม่าและมอญได้นำเอาแบบฉบับของเขาเข้ามาสอดแทรก เช่นทักษาเทวดาเสวยอายุอย่างที่เราไช้อใยู่นขณะนี้เป็นต้น แบบฉบับตำรับตำราของพม่าและมอญเพี่งจะเข้าในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์นี้เอง เพราะเมื่อหลัจากกรุงศรีอยุธยาแตกด้วยฝีมือพม่า โหรไหยเราได้หอบหิ้วตำรับตำรากระจัดกระจายหนีหาย บ้างได้ตายจากไปก็มีอยู่ไม่น้อยเหลืออยู่หรือเอาไปไม่ทัน ก็ถูกพม่าจัดการเผา เสียจนวอดวายกลายเป็นพระเพลิงไป

พอมาถึงสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ บ้านเมืองไทยได้เริ่มมีการก่อสร้างและพัฒนาขึ้นใหม่ ได้นำเอาศิลปวิชาต่าง ๆ กลับมารวมกันใหม่มากมาย แต่วิชาโหรศาสตว์ของไทยเรา ยังไม่สามารถจะกล้บมารวมตัวกันได้ เพราะได้สูญหายดายจากไปมากเมื่อครั้งกรุงแตก ซึ่งพม่าถือว่าพวกโหรก็เบ็นอาชญากรสงครามด้วยเหมือนกัน  และต่อมาพวกชาวมอญได้อพยพเข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารก้มากมาย บางคนที่มีความรู้ดีได้เข้ารับราชการมียศถึงชั้นพระยาก็เคยมี บางกลุ่มเข้ามาในล้กษณะโหร จนเคยมีตำแหน่งชั้นพระยาโหราธิบดีก็เคยมีอยู่

พอวิชาโหราศาสตร์แบบฉบับของมอญเข้ามาเผยแพร่เท่านั้น บรรดาคนไทยที่สนใจในเรื่องโหร ก็เริ่มตื่นตัวออกต้อนรับก้นอย่างเอิกเกริก จนทำให้ลูกหลานเหลนไทยสมัยหลัง ๆ เข้าใจผิดคิดว่าวิชาโหราศาสตร์ของไทยเดิมนั้น ที่แท้ก็คือของมอญมาก่อนนั้นเอง

ลุงเองก็เถอะ เมื่อแรกเเรียนใหม่ ๆ ลุงก็เรียนโหรไทยแบบท้กษาเหมือนกัน และได้ค้นคว้ศึกษาอยู่นานถึง ๔  ปี แต่ก็ไม่สามารถทำนายได้ขนาดเจ๋ง ๆ สักที บางครั้งก็ถูก บางทีก็ผิด ทั้งๆ ที่ทำนายถูกหรือผิดก็ตาม ก็ยังหาเหตุผลไม่ได้ว่าผิดหรือถูกอย่างไร อึดอัดและท้อถอย จะว่าของเขาไม่ดีก็ไม่ได้ อาจจะเป็นเพราะเรายังค้นไม่พบของจริงก็ได้  หรือ อาจหลงตนที่ใช้ของเขามานานว่าเป็นของไทยเดิมก็ได้

เมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ ยุติใหม่ ๆ ลุงได้พบกับท่านผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ขณะนี้ท่านยังมีชีวิตอยู่และมีอายุกว่า ๘๐ ปีแล้ว ท่านเป็นนักโหราศาสร์ที่ช่ำชองชั้นครูเหมือนกัน ลุงเคยไปหาและสนทนากับท่านบ่อยๆ วันหนึ่งขณะที่ลุงกำลังคุยกับท่านเรื่องโหรกันอยู่ ท่านได้ปรารภกับลุงขึ้นว่า ท่นเคยได้ยินคำพูดจากผู้ใหญ่ท่านหนึ่งในสมัยนั้น ว่าวิชาโหรศาสตร์ไทยแท้ ๆ ดั้งเดิมครั้งสมัยศรีอยุธยาที่ว่าสูญหายไปนั้น ได้ข่าวว่าขณะนี้ยังมีซุกซ่อนอยู่ แต่จะเหลือยู่ที่ใครบ้างนั้นยังไม่อาจจะทราบได้ และยังบอกด้วยว่า โหรไทยดั้งเดิมของเรานั้น ไม่มีทักษา  ไม่มีเทวดาเสวยอายุ เป็นแบบฉบับของไทยเราโดยเฉพาะ

ว้นนั้นเป็นต้นมา ลุงก็เริ่มสนใจออกสืบเสาะค้นหาทำนผู้รู้มาโดยตลอด และไม่นานนัก จะด้วยบุญบารมีหรือโชคช่วยไม่แน่นัก ลุงได้พบอาจารย์โหราศาสตร์ไทยเดิมเข้าจริงๆ และจริงอย่างไม่นำเชื่อวจะเป็นไปได้ เป็นการพบโดยการแนะนำจากท่านอาจารย์เที่ยง เป็นผู้พาไป เมื่อการสนทนาพาทีเข้าบรรยากาศอันราบรื่นสักพักหนึ่งท่านได้เอ่ยขึ้นว่า เอ็งนี้หน้าตาเหมือนคนอยุธยา แต่ลุงไม่ตอบ อันที่จริงบิดาของลุงนั้นเป็นคนอยุธยา แต่ลุงเกิดที่จังหวัดประจวบฯ ในตระกูลของเจ้าเมืองคนแรกของจังหวัดนั้น

ระยะต่อมาวันมหาฤกษ์ได้เวียนมหาลุง อย่างสมปรารถนา และลุงดีใจมากที่ในวันนั้นท่านอาจารย์ได้รับลุงเป็นลูกศิษย์ เป็นศิษย์คนแรกและคนสุดท้ายของท่านด้วย ส่วนวิชาโหรที่ลุงเคยร่ำเรียนมาก่อนนั้น ท่านสั่งให้ขึ้นหิ้งบูชาไว้ก่อนเบ็นของไทยเดิมกันดีกว่ ลุงได้ร่ำเรียนไปเรื่อย ๆ โดยไม่ยอมให้จดลงไว้ในสมุด ท่านให้เรืยน และตีความเอาเองจนกว่าจะเข้าใจ โดยอาศัยท่านเป็นหลักอธิบาย เรียกว่าให้เก็บไว้ในพุงทั้งหมดนั่นเอง มีอยู่หลายตอนที่ยากและหนักใจอยู่บ้าง ตอนหลังได้เข้าใจขึ้นเรื่อย ๆ จนลุงรู้แน่แก่ใจว่า ระบบโหราศาสตร์ไทยเดิมของเรามีอยู่จริง ๆ เป็นแบบฉบับที่ทันสมัยอยู่เสมอ และยังเป็นแบบที่สมบูรณ์ที่สุดในโลกด้วย ไม่มีของพม่าหรือมอญเข้ามาปะปนอยู่เลย นอกจากเราจะเก็บเอาบางอย่างมาร่วมในตอนหลังบ้างเท่านั้น ท่านอาจารย์ได้กล่วว่า พม่าและมอญเสียอึกที่เอาของไทยไปอย่างหน้าตาเฉย ในที่สุดลุงก็เชื่อได้สนิทใจว่า โหรศาสตร์ไทยดังเดิมขนานแท้ยังมีอยู่ และได้ซ่อนเร้นบิดบังไว้จนเดียวนี้ ท่านที่เคารพอย่างสูงของลุงและศิษย์เท่านั้นที่รู้เรื่อง นี้ดี

๔๐ ปีที่ลุงเล่นและศึกษาคว้าหาข้อมูล โดยอาศัยพื้นฐานหลักเดิมเบีนบทนำ ได้รับผลอย่างสูงจกการพยากรณ์ในรูปแบบต่างๆ ที่ผ่านมา จนมีคนเข้าใจลุงผิดอยู่บ่อย ๆ เช่น ทางปักษ์ไต้เขาว่าลุงเลี้ยงผีเลี้ยงพรายกระซิบ พอมาอกรุงเทพ ๆ รู้สึกค่อยดีขืนหน่อย เขายกให้ลุงเป็นอรหันเป็นผู้วิเศษ รู้แจ้งแทงตลอด สามารถทำนายบอกล่วงหน้าได้โดยไม่ต้องใช้ดวง และย้งยกย่องให้ลุงเสียคนอีกเยอะแยะ

ปัทโธ่เอ๊ย!!!  ลุงนั่งกินเบียร์อยู่ทุกว้น จนผู้วิเศษหรือสำเร็จญาณได้อย่างไรกัน ไม่เชื่อหลานลองซื้อให้ลุงสักโหลซิ แล้วลุงจะดื่มให้หลานดู ฉะนั้นหลานลุงอยู่ได้หลงทางเชื่ออะไรผิดๆ วันหนึ่งข้างหน้าถ้าหลานได้พบของจริงเข้าแล้ว หลานจะรู้สึหวงแหนทันที เพราะไม่มีที่ไหนอีกแล้วในโลก หลานเชื่อลุงมั๊ย ว่าวิชาโหราศาสตร์ที่เรียนกันอยู่ทุกวันนี้ ของเดิมเคยมีอยู่ ๔ ส่วน แต่เดี๋ยวนี้เหลืออยู่ไม่ถึง ๒ ส่วน ลุงพูดออกมาคำนี้ลุงคิดว่หลานต้องไม่เชื่อแน่ๆ เอาเถอะเมื่อหลานเรียนไปนาน ๆ แล้วหลานจะรู้เอง

พยากรณสารฉบับเดือนกันยายนที่แล้วมา ลุงได้เขียนบทความเรื่องราชโยค โดยมีดวงตัวอย่างของเจ้าชายคริสเตียน ซึ่งต่อมาได้ตั้งพระนามใหม่ว่า เจ้าชายวิลเลี่ยม ดังที่ผ่านสายตาท่านผู้อ่านมาแล้ว ได้มีหลายท่านเกิดเคลือบแคลงสงสัยกันขึ้น เช่นฝนตก ๗ คืน ๗ ว้น คงจะส่งเดชมากกว่า และเรื่องราชโยคเป็นต้น สำหรับเรื่องราชโยคนั้น ได้มีผู้สนใจอยากให้ลุงช่วยอธิบายให้แจ่มแจ้ง เพื่อจะเก็บเข้าแฟ้มตำรา ลุงเห็นว่ามีประโยชน์และไม่ต้องยกครูด้วย จึงเต็มใจที่จะเบีดเผยให้ แต่ต้องไม่รบกวนถามลุงซ้ำอีกนะ ถ้าสงส้ยควรใช้ความขยันใคร่ครวญค้นหากันเอาเอง

ราชโยค วิชาโหราศาสตร์หมายถึงผู้สืบสันติวงศ์องค์ต่อไป ในพจนานุกรมฉบับราชบ้ณฑิตยสถานแปลว่า ดวงชะตเวลาเกิดของคนที่ชี้ว่าจะได้เป็นนพระเจ้าแผ่นดิน ฟังดูแล้วก็มี ความหมายใกล้เคียงกัน กฎเกณฑ์เกี่ยวกับราชโยค โหรส่วนมากมักจะใช้เฉพาะในเชื้อสายราชวงศ์กษัตริย์เท่านั้น สำหรับดวงชะตาสามัญชนไม่ค่อยจะนำมาใช้กัน หรือถ้าหากจะใช้ก็คงจะต้องสถาปนาวงศ์กษัตริย์ขึ้นใหม่เท่านั้น

ก่อนที่หลานจะทราบรายละเอียดเรื่องราชโยค หลานจะต้องเข้าใจถึงล้กษณะการโยคเสียก่อน คือลักษณะการโยคของไทยเดิมนั้น ต้องมีดาวเรียงดับกัน ๓ ดวงและ ๓ ราศีต่อเนื่อง แล้วจับเอาดาวดวงหน้ากับดวงหลังเข้ามาเกาะเกี่ยวสมยอม เรียกว่าดาวโยคกัน ถ้าดาวไม่เรียงตับ กันทั้ง ๓ ราศีจะไม่เรียกว่าโยค และล้กษณะโยคแบบนี้เรียกว่าโยคราศี เรื่องโยคนี้ได้เขียนไว้ในตำราโหรปรัชญา ถ้าไม่มีก็หาซื้ออ่านชะ แต่มีบางตำรามีดาวห่างกัน ๓ ราศึ โดยไม่ดาวแทรกกลางเขาก็เรียกว่าโยคเหมือนกัน แต่ของไทยเดิมเขาเรียกว่า ดาวส่งก้น หลานจงเปิดพยากรณสารฉบับเดือนกันยายนที่แล้วพิจารณาดูดวงเจ้าชายวิลเลียม ดูใหม่ เพื่อร่วมวิเคราะห์กับคำอธิบายของลุงต่อไป

ดวงดาวที่อยู่ในตำแหน่งกษัตริย์หรือพระราชานั้น ตำรับไทยเดิมของเราท่านให้ยึด เอาดาวพระศุกเบืนหลัก และถือเอาเป็นดาวแม่บทในการผสมธาตุ เพราะดาวพระศุกร์เป็นภาคหนึ่งในความหมายของเรื่องเทพเจ้า เทวดาอารักษ์ในสรวงสวรค์ และเป็นพระราชาในพื้นพิภพ 

ดังนั้นดาวพระศุกร์ตัวโยค จึงส่งเสริมให้บังเกิดเป็นราชโยคดังนี้ คือถ้าดาวพระศุกร์ อยู่หน้าอาทิตย์โดยมีดาวอื่นแทรกตับต่อเนื่อง ๓ ราศี เรียกว่าราชโยค และถ้าดาวพวระศุกร์อยู่หลังดาวจันทร์ โดยดาวต้บต่อเนื่องกัน ๓ ราศี เรียกว่าราชโยค หรืออีกนัยหนึ่ง ดาวพระศุกร์กับดาวพระเสาร์ หรือดาวพระศุกร์กับพระราหู ไม่ว่จะอยู่ในตำแหน่งโยคหน้าหรือโยคหลังก็ตาม ท่านก็เรียกวราชโยคด้วยเหมือนก้น และลักษณะการสัมผัสโยคจะต้องมืองศาเพียรก้นทั้งดาวหน้าและหลัง

สำหรับเรื่องฝนตก ๗ คืน ๗ วันนั้น ดาวอาทิตย์เดิมสถิตราศีมิถุน เรียกตามหล้ก โหรไทยเดิมว่าอาทิตย์ตกน้ำมีดาวจันทร์ตัดกระแสธาตุไปจนถึงราศีกันย์

หลานของลุงเห็นหรือยยังล่ะ ว่าลุงเปิดเผยให้แล้วนะ หลานจงเก็บไว้ให้ดีและมิดชิดอย่าให้ใครขโมยค้ดลอกเอาไปเขียนเป็นตำรา แล้วอวดอ้างว่าเบ็นของเขา หรืออ้างอาจารย์ที่ไม่มีตัวตนเข้าล่ะ ลุงเข็ดเขี้ยวมานานแล้ว คราวหน้าลุงจะเอาของดีมาคุยกับหลานใหม่ สวัสดี...          
                                                                                                                                      
                                                                                                                                               ส. แสงตะว้น


#คุณยายกลิ่นโสม
#เรียนโหราศาสตร์ไทยด้วยตนเอง   ได้ที่ ...
#บ้านคุณยายกลิ่นโสม #www.baankhunyai.com
Visitors: 171,931