แนะแนววิธีผสมธาตุ

    
             แนะแนววิธีผสมธาตุ โดย อาจารย์ ส.  แสงตะวัน
   บรรยายที่สมาคมโหร ฯ  เมื่อ ๙ กค. ๑๒

 บันทึกปาฐกถาเรื่อง    .... แนะแนววิธีผสมธาตุ                                                   

วันนี้ทางสมาคมได้ให้เกียรติโดยเชิญมาบรรมายาย ณ.ที่นี้อีกครั้งหนึ่ง จึงใคร่อยากจะบรรยาย ถึงวิถีการผสมธาตุซึ่งบางครั้งกระผมมักจะไช้คำว่าผสมสี เพื่อให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น เพราะมีผู้สนใจกันมาก 

วิชาโหราศาสตร์ในแบบผสมธาตุที่กำลังจะบรรยายอยู่ขณะนี้ อันที่จริงใช่ว่าจะเป็นของใหม่อะไรเลย คงเป็นของเก่าเก็บมารวบรวมให้เข้าระเบียบ และนำมาค้นคว้าแก้ไขเเพิ่มเติม ให้เหมาะสมกับยุคสมัยเท่านั้น ของเก่าของเราเป็นของดีทั้งนั้น แต่รู้สึกว่าได้กระจัดกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ จนนักศึกษารุ่นหลังๆ คิดไปว่าเป็นคนละตำราไป เมื่อตำราเเตกแยกออกไป แนวการเล่นก็ได้เปลี่ยนแปลงไปเพื่อการเหมาะสมของเต่ละครูบาอาจารย์ ที่ค้นพบและคิดว่าดีสมควรที่ จะยืดถือเอาเป็นแนวค้นคว้ากันต่อไป  ทางด้านวิทยาศาสตร์เขากำลังเข้าสู่ยุคพระจันทร์กันแเล้ว  ทางด้านโหราศาสตร์ ของเราก็ควรจะมีการค้นคว้าให้เทียมทันกับเขาบ้าง ท่านนักศึกษาก็รู้ๆ กันอยู่ว่าสิ่งที่เคลื่อนไหว หรือวัตถุที่มีอยู่ในโลก มีขุมธาตุเป็นปัจจัย อันได้แก่ธาตุดิน  น้ำ ลม ไฟ  เป็นขุมธาตุใหญ่ และธาตุเหล่านี้ย่อมมีการไหลเวียนเปลี่ยนแปลงไปโดยความกดดันของอำนาจดวงดาว  ที่คอยสับซอยแยกแยะออกเป็นส่วนมากน้อย แล้วแต่อำนาจดวงดาวเป็นผู้บันตาล แล้ว

ถึงดูดดึงเข้ามารวมต้วให้เกิดเป็นวัตถุอีกทีหนึ่ง และตรงนี้เองเรียกว่าโหราศาสตร์ ภาคพยากรณ์ คือผลที่แสดงออกมาเป็นรูปหรือวัตถุ ดังนั้นการศึกษาจึงต้องการผลพยากรณ์ที่ถูกต้อง ส่วนจะดีหรือชั่วยังต้องใช้องศาเป็นเครื่องวัดระยะอีกกหนึ่ง  ถ้าหากว่าเรายังใช้องศาไม่ถูกต้อง การพยากรณ์ก็ไม่บังเกิดผลดีเลย แต่ละครูบาอาจารย์ย่อมจะมีแนววิธีแตกต่งกันไป แต่แนวของกระผมมักจะเน้นหนักไปในทางเรื่องธาตุกับองศา องศาเป็นเครื่องวัดระดับดีชั่ว ส่วนธาตุนั้นเพื่อนำมาผสมอ่านให้ได้เนื้อถ้อยกระทงความหรือเรื่องราวที่ตรงเป้าหมาย มีผู้สงสัยกันอยู่มากว่ากระผมใช้วิธีแยกธาตุให้กว้างขวงออกไปได้อย่างไร การแยกธาตุของกระผมนั้น จุดแรกมิได้แยกธาตุจากดวงดาวโดยตรง แต่เอาอิทธิพลจากดวงตาวไปแยกธาตุวัตถุทีหนึ่งก่อน แล้วจงย้อนกลับมาที่ธาตุของดวงดาวอีกทีหนึ่ง โตยการนำมาผสมเพื่อแยกออกมาเป็นคำพยากรณ์ ดังด้วอย่างที่กล่าวต่อไปนี้ โดยสังเขป

ธาตุดิน ดินเป็ธาตุที่รวมถึงวัตถุทั้งหมดที่มีอยู่ในโลกและชั้นบรรยากาศ เราควรพิจารณาดูว่ามีสิ่งใด บ้างที่เห็นว่าสิ่งนั้นเป็นธาตุดิน เราก็จับสิ่งนั้นไว้ แล้วเราก็จับเอาดวงดาวที่เป็นธาตุดิน เช่นเราจะพยากรณ์เกี่ยวกับเรื่องไม้หรือต้นไม้ หรือสิ่งที่่เกี่ยวกับไม้  ไม้อยู่ในกลุ่มธาตุาดินด้วยเหมือนกัน เราต้องจับเอาดาวที่เป็นแม่ธาตุดินขึ้นมา คือดาวพฤหัสบดี กับดาวจันทร์ เพราะดาวทั้งสองนี้เป็นแม่ธาตุดิน พระเสาร์เขาก็นำมาใช้เป็นธาตุดินด้วยเหมือนกัน แต่เป็นชั้นที่สองรองลงมา ดาวพุธกับพระศุกร์ก็เป็นธาตุตินด้วยหมือนกันแต่เป็นชั้นที่สาม ดาวธาตุดินเหล่านี้เราควรหาวิธีที่จะนำมาใช้ให้ตรงกับวัตถุนั้นๆ ดังที่กล่าวมาเมื่อกี้นี้ว่าเราจะพยากรณ์เรื่องเดียวกับไม้ ในระหว่างจันทร์กับพฤหัสบดีซึ่งแม่ธาตุดินด้วยกัน เราควรพิจารณาดูเรื่องไม้นี้เราควรจะใช้ดวงดาวไหนจึงจะถูกต้อง  แนวของกระผมต้องใช้ดาวพฤหัสบดี เพราะในตำราก็มีกล่าวเอาไว้เหมือนกันว่าพฤหัสดีหมายถึงไม้ด้วยเหมือนกัน แต่ดาวพฤหัสบดีเป็นไม้ประเภทรวมถึงหมู่ไม้ทั้งหมด

ถ้าจะแยกประเภทออกไปจะต้องนำเอาดาวอื่นเข้ามาผสมออีกทีหนึ่ง เช่นไม้เนื้อแข็งจะต้องเอาพระเสาร์เข้าผสม  ถ้าเป็นไม้เนื้ออ่อนต้องเอาพุธเข้าผสม ถ้าเป็นไม้สำเร็จรูปต้องเอาพระศุกร์เข้าผสมดังนี้เป็นต้น  ถ้าเกี่ยวเรื่องอาหารการกิน ควรใช้พระจันทร์ อาหารทั้งหมดเป็นนธาตุดินด้วยเหมือนกัน  เเต่เป็นธาตุดินที่มีความชี้นหรือมีความเหลวอยู่ในตัว จึงเหมาะแก่การใช้ดาวพระจันทร์แต่ตาวพระจันทร์เป็นที่รวมของอาหาร  ถ้าหากจะแยกเป็นอาหารแต่ละชนิด ก็จะต้องนำเอาธาตุดาวอื่นเข้ามาผสมอีกชั้นหนึ่ง  เช่นอาหารแต่ละชนิดแห้งต้องใช้ดาวพฤหัสบดีเข้ามาผสม ชะนิดหวานต้องเอาพระศุกรเข้ามาผสม  ถ้าเกี่ยวกับต้มๆยำๆ ต้องนำเอาพุธกับราหูเข้ามาผสม  สำหรับพระเสาร์เป็นธาตุดินที่ใช้สำหรับเรื่องดินหรือแร่ธาตุที่อยู่ภายใต้พื้นดินทั้งหมด  ถ้าจะดูแร่เหล็กหรือหิน ต้องเอาตาวอังคารเข้ามาผสม ถ้าแร่ดีบุกต้องเอาพระศุกร์เข้ามาผสม  ถ้าแร่ทองคำ ต้องเอาอาทิตย์ศุกร์เข้าผสม ถ้าเพชรพลอย ต้องเอาอังคารพระศุกร์และพระเกตุเข้าผสม การแยกแยะออกไปได้มากๆ ย่อมจะมิผลดีในทางพยากรณ์

ธาตุน้ำ รวมถึงน้ำทุกชะนิตที่มีอยู่ในโลกและขั้นบรรยากาศของโลก แต่ดาวดรองแม่ธาตุน้ำมีอยู่  สองดวง คือดาวพุธกับดาวพระศุกร์ แต่บางครั้งเรายังต้องเอาดาวพระจันทร์กับพฤห้สบดี มาช่วยแปลงขยายธาตุน้ำให้กว้างขวางออกไปอีก แต่เป็นชั้นที่สองรองลงไป การขุตบ่อน้ำและรวมไปถึงน้ำที่ลงในโอ่ง ควรดาวพระพุธ ถ้าน้ำได้กลายสภาพเป็นนห้วยเป็นคลอง เราควรนำเอาจันทร์เข้ามาผสม  ถ้าเป็นแม่น้ำหรือทะเลเราควรเอาพฤหัสเข้ามาผสมกับดาวพุธ ถ้าเป็นน้ำจืดน้ำกลั่นน้ำประปา  หรือน้ำหวานทุกชะนิดที่เป็นเครื่องดื่ม  เราควรใช้ดาวพระศุกร์ ถ้าเป็นน้ำหมักดอง น้ำสุรา เบียร์  กระเเช่ ต้องเอาราหูผสมกับพระศุกร์

ธาตุลม  ได้แก่ลมทั่วไปตั้งแต่ลมที่อยู่ในโลก ไปจนถึงลมชั้นบรรยากาศ เราใช้ดาวซึ่งเป็นแม่ธาตุอยู่สองดวง ตาวอังคารกับราหู ธาตุลมนี้เรานำมาใช้ได้มากมายเหมือนกัน เช่นลมที่เกี่ยวกับแก๊ส  ลมที่ถูกอัดให้แน่นตัวอยู่ในถัง หรือลมที่ถูกอัดแล้วทำให้เกิดการระบิดได้ เช่น ลูกสูบเครื่องยนต์ เป็นต้น  เราควรใช้ดาวอังคาร ลมที่เกิดขึ้นในปอต หรือลมที่เกิดขึ้นในส่วนร่างกายทั่วไป และลมที่ให้ความเย็นอื่นๆ เช่นพัดลม เป็นต้น เราควรใช้ราหู

ธาตุลมดังที่กล่าวมานี้  ถ้าจะขยายให้กว้างขวางออกไปอีก จะต้องนำธาตุที่ได้จากดาวอื่นเข้ามาผสมประกอบอีกชั้นหนึ่ง เช่นลมเป่าลูกโป่ง  เป่าแตร เราจะต้องนำเอาดาวพุธเข้ามาผสมกับราหู และดาวคู่นี้ม้กจะอยู่ในเรือนปุตตะแก่ลัคนา ถ้าเป่าเครื่องแก้ว ต้องเอาตาวอังคารกับพระศุกร้เช้ามาผสมกับราหู แต่ต้องอยู่เรือน กดุมพะหรือเรือนปัตนิแก่ลัคนา

ธาตุไฟ ได้แก่ ไฟทุกชนิด ที่มีอยู่ในโลกไปจนถึงชั้นบรรยากาศ ดาวที่ใช้เป็นแม่ธาตุใหญ่ มีอยู่สองดวงเช่นเดียวกัน คือดาวอาทิตย์กับพระเสาร์  ในบางครั้งเราอาจจะต้องใช้ดาวอังคาร พระเกตุหรือพฤหัสบดีเข้ามาผสม ทั้งนี้เพื่อขยายธาตุให้กว้างขวางออกไป ธาตุไฟที่มีเปลวเพลิง ต่างๆ เราควรใช้ดาวพระเกตุเข้ามาผสมกับดาวอาทิตย์   ถ้าหากเป็นกระแสไฟฟ้า หรือวัตถุที่เสียดสีกันทำให้เกิดเป็นเปลวไฟขึ้นมา  เราควรใช้ดาวพระเกตุเข้ามาผสมกับตาวอาทิตย์ ถ้าเกี่ยวกับลูกระเบิต อาวุธปืน เราควรนำเอาอังคารพระเกตุเข้ามาผสมกับดาวอาทิตย์ การสร้างเตาอบเผาถ่าน การทำธูปบูชา หรือการใช้ความร้อนเพื่ออบสิ่งของต่างๆ

ตลอดจนความอบอุ่น ในส่วนของร่างกาย ควรใช้ดาวพระเสาร์  ถ้าสมมดิว่าผู้มาขอคำพยากรณ์เรื่องการค้าน้ำมัน และอยากให้ผู้พยากรณ์ชี้ขาดลงไปว่า  จะดีหรือไม่ ตอนนี้แหละอาจจะทำให้เราเกิดความสนเท่ห์ขึ้นมา ว่าควรจะใช้ดาวอะไรพยากรณ์ เพื่อให้ตรงกับหมายหรือใก้ลเคียงที่สุดเพราะเหตุว่าน้ำมันคือธาตุน้ำ แต่เป็นน้ำที่ทำให้เกิดเป็นเปลวไฟ ปัญหาเช่นนี้เคยประสพกับตนเองมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน  เมื่อได้รับคำแนะนำจากครูบาอาจารย์มา และใช้ความสังกตุมานานปีก็จับได้ว่า ดาวที่มีความลัมพันธ์กับน้ำนั้น ต้องใช้ดาวพระจันทร์ เป็นหลักแม่  อันที่จริงถ้าตูโดยผิวเผิน น่าใช้ดาวพุธหรือพระศุกร์จึงจะถูกแต่กลับกลายเป็นใช้พระจันทร์ไป คิดดูแล้วก็น่าแปลกใจอยู่เหมือนกัน แต่ถ้าหากใช้เหตุผลพิจารณาให้ลึกซึ้งจริงแล้ว ดาวจันทร์ตวนี้มีอิทธิพลทางธาตุน้ำของโลกด้วยเหมือนกัน เบ็นน้ำที่มีดินโคลนหรือตะถอนปนอยู่ แต่จันทร์ดวงนี้จะต้องไปอยู่ร่าศิธาตุน้ำด้วย จึงจะสามารถเปลี่ยนแปลงให้กลายสภาพ เป็นน้ำอย่างอื่นได้ ถ้าจะแปลงให้เป็นน้ำมันจะต้องเอาพระเสาร์กับพระเกตุ เข้ามามีส่วนผสมอยู่ด้วย แต่น้ำมันก็มีอยู่หลายชนิตด้วยกัน จะต้องผีกหัตนำเอาธาตุของดาวอื่น เข้ามาผสมเป็นตอน ๆ ไป เช่นน้ำมันแก๊ส เบนซิน หรือแอลกอฮอร์ ควรจะเอาอาทิตย์เข้ามาผสมกับจันทร์เสาร์พระเกตุ ถ้าเป็นน้ำมันชนิดข้นหรือจำพวกหล่อลื่นทั้งหลาย ควรเอาธาตุของดาวพุธเข้ามาผสม ถ้าเป็นน้ำมันแก้วหรือน้ำมันใส่ผมต่างๆ ควรเอาธาตุดาวพระศุกร์เข้ามาผสมดังนี้เบ็นต้น

การเข้าใจแบ่งแยกหรือขยายธาตุออกไปให้ได้มากๆ โดยรู้จักนำเอาธาตุจากอิทธิพลของดวงดาวเข้ามาผสมกับธาตุวัตถุ ย่อมจะได้เปรียบในทางพยากรณ์มากยิ่งขึ้น ธาตุก็จะนำมาใช้โดยทางดวงตาวเพื่อมาผสมกับธาตุวัตถุนั้นมได้หลายทางด้วยกัน เช่นทางเรือนเกษตร ทางร่วมธาตุในราศี  ทางโยค เล็ง และทางเบียฬกัน ดาวที่เป็นวินาศแก่กันนั้น ถ้าเป็นทางผสมธาตุ เราจะไม่อ่านเป็นวินาศ แต่จะกลับไปอ่านในทางเบียฬกัน คำว่าเบิยฬกันในที่นี้หมายถึงการเกาะถึงกัน หรือการผสมธาตุกัน การฝึกหัตผสมธาตุระหว่างดาวด้วยกันนั้น  ควรฝึกหัดจับเอาจับดวงหนึ่งดวงใดเป็นดาวแม่ก่อน แล้วจึงฝึกหัดจับเอาตาวอื่นเข้ามาผสมกันทีละดวง และพิจารณาดูให้ลึกซึ้งว่าจะออกมาในรูปไหน แล้วลองพยากรณ์ตู ถ้าผลที่ออกมานั้นผิตไป ก็จงอย่าท้อถอยควรจะฝึกหัดต่อไปใหม่  ต้องใช้ความอตทนและทำใจให้เยือกเย็น ควรพิจารณาหาสเหตุดูให้ดี อย่านึกมองออกไปให้ไกล จึงนึกมองรอบๆ ตัวเรานี่แหละ  เพราะวัตถุทั้งหลายชิ้นอยู่กับแม่  ธาตุทั้ง ๔ ทั้งนั้น ถ้าหมั่นฝึกหัดอยู่เสมอในไม่ช้าก็จะจับเหตุผลได้เอง

ที่กล่าวมานี้ท่านทั้งหลายอาจะคิดว่าเป็นเรื่องที่อุปโหลกขึ้นมากได้ เพราะเบ็นการขัดกับตำราอย่างชะนิตไม่น่าจะเป็นไปไต้เลย กระผมใคร่อยากจะขอร้องอย่าเพิ่งเชื่อในคำบรรยายในวันนี้เลย  จนกว่าท่านจะได้พิสูจน์ให้เห็นถ่องแท้แน่นอนเสียก่อน แล้วพิจารณาความเชื่อเอาเอง เพราะถือเอากาลเวลาเป็นเครื่องตัดสินให้เอง

#คุณยายกลิ่นโสม
#คุณยายเล่าเรื่องจากเรือนดาว
#โหราศาสตร์ไทยเรียนง่ายกว่าที่คิด
#เรียนโหราศาสตร์ไทยสไตล์คุณยายกลิ่นฯ
#อ่านดวงไทยสบายสบาย ตามสไตล์คุณยายกลิ่นโสม
#โหราศาสตร์ไทยเรียนด้วยตนเองฉบับคุณยายกลิ่นโสม   
#เรียนโหราศาสตร์ไทยฟรี ที่เวปนี้นะ:: htthttp://www.baankhunyai.com
  --------------------  
Visitors: 171,049