โลก ราหู

                        โลก ราหู  โดย อาจารย์ ส.แสงตะวัน 

                               

                          โลก ราหู  โดย อาจารย์ ส.แสงตะวัน 

ได้มีหลายท่านด้วยกันในบทความของผมว่า โลกคือราหู และมีท่าน"พลูหลวง" ได้กรุณาอธิบายในทำนองว่าโลกไม่ใช่ราหู  โดยยกเอาเหตุผลจากตำรามาอธิบายให้ฟังโดยละเอียดเรื่องนี้ตามความเป็นจริงแล้ว ท่าน" พลูหลวง" กล่าวถูกต้องตามตำราทีเดียว และผมเองก็เชื่อเช่นนั้นจริงๆราหู คือ
จุดหมุนหรือจุดคราส และเป็นสิ่งที่เชื่อได้สนิท ผมเลยขอถือโอกาสขออภัยจากท่านที่ทรงคุณและท่านพลูหลวง เพราะเหตุว่าผมเป็นคนที่มีความรู้น้อข และเรียนแบบคนบ้านนอก โดยพกเอาความโง่ที่ตนนึกว่าฉลาดออกมาตีแผ่โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จะทำอย่างไรได้เล่าครับ ในเมื่อผมเองเป็นคนโง่อยู่แล้ว ดันไปพบเอาอาจารย์ที่โง่ๆ เข้า ผมก็เลยเป็นแบบอาจารย์ไปด้วย และรู้สึกดีใจที่อาจารย์ของผม ต่อมาท่านก็ชิงลาโลกไปเสียก่อน มิฉะนั้นแล้วอาจจะมีศิษย์เพิ่มมากขึ้น และเก็บเอาความโง่มาไว้ในสมองแบบเดียวกับผม ผมจะขอกล่าวประวัติที่ได้เล่าเรียนมาสักล็กน้อย และอาจจะไร้สาระสำหรับท่านก็ได้ นึกว่าฟังกันไว้เล่นๆ ก็แล้วกัน

      

เดิมทีเดียว มีท่านโหรใหญ่สมัยแผ่นดินที่ ๖ ได้กรุณานำผมไปฝากเป็นสานุศิษย์แห่งสำนักท่านอาจารย์แปลก จังหวัดนครศรีธรรมราช อายุท่านก็ชรามากอยู่แล้ว ท่านก็ยินดีรับเป็นศิษย์คนแรก และคนสุดท้ายในชีวิตของท่าน วันเริ่มเรียน คำพูดแรกที่ท่kนถามผม ท่านถามว่ารู้จักเรื่องโลกกับราหูแล้วหรือยัง ผมก็ตอบไปทันทีว่า รู้แล้ว ท่านถามว่ารู้อย่างไร ตอนนี้ผมอึ้งเพราะตอบไม่ถูก ก็เลยตอบไปว่าไม่รู้ ท่านถามอีกว่า เธอเชื่อไหมว่า โลกกับราหูคืออันเดียวกัน ตอนนี้ผมรู้สึกงงงวย ถ้าจะตอบว่าไม่ใช่ ก็เกรงไปว่าจะไม่ได้เรียน เลยตอบส่งเดชไปว่าใช่ ท่านถามอีกว่า ตัวเธอนี่แหละคือโลกและราหูด้วยเชื่อไหมผมตอบว่า เรื่องนี้เข้าใจยากจริง ถ้าเธออยากรู้ จงออกไปยืนกลางแดด เมื่อผมไปยืนแล้ว ท่านก็กล่าวว่า ตัวเธอเป็นโลก จงหาราหูซิว่าอยู่ที่ไหน เมื่อผมหาราหู ไปรอบๆ ตัว ก็ไม่เห็นว่าราหูอยู่ที่ไหน นอกจากงาดำของตัวเองจับกับพื้นดินเท่านั้นผมจึงตอบว่า เห็นแต่เงาของตัวเองเท่านั้นครับท่านบอกว่า นั่นแหละราหูล่ะ เมื่อกล่าวเช่นนี้ ผมก็ต้องหลับหูหลับตาเชื่อไปพลางๆ ก่อน เพื่อผลแห่งวิชา เพราะการขัดคอคนไม่เป็นสิ่งที่ผมปรารถนา

ระยะต่อมาท่านก็ถามขึ้นมาใหม่ว่า เธอจะเรียนภาคคำนวณหรือภาควิจารณ์ ผมตอบว่า ต้องการภาควิจารณ์ ท่านก็กล่าวอีกว่า ถ้าเธออยากเรียนภาควิจารณ์ เธอก็จงอย่าไปสู่รู้ในการคำนวณหรือภากดาราศาสตร์ ประเดี๋ยวจะไปพบกับปัญหาโลกแตกเข้า เพราะฝ่ายโน้นเป็นมุมตรงแค่ฝ่ายวิจารณ์ต้องเรียนทางมุมกลับ  มิฉะนั้นแล้วตำราฝ่ายภาควิจารณ์จะไม่เกิดขึ้นได้ ถ้าแตกฉานชำนาญแล้วก็กลับไปเรียนได้ แล้วเธอจะรู้เองว่าอะไรมันเป็นอะไร เพราะตำราเขาไม่กล้าเขียนตอนเหตุ เขามาจับเอาตอนผล เขากลัวจะไปเจอกับปัญหาโลกแตกเข้า ต่อจากนั้นเธอจะต้องเรียนเรื่ององศา เรื่องการใช้แสงและการผสมแสง เรื่องแสงนี้เป็นหัวใจของพวกโหร ตำราหาเรียนได้ยาก

ระยะต่อมาท่านก็อธิบายเรื่องธาตุ ธาตุต่ออธาตุย่อมมีการดึงดูดกัน ท่านได้ยกตัวอย่างให้ฟังดังนี้ คือ รูปของเธอเป็นราหู หนังที่ห่อหุ้มรูปของเธอ คือ พระเสาร์ หมายถึงธาตุดิน หนังนี้โปร่งแสง น้ำหรือลมย่อมระเหยเข้าออกได้ น้ำหรือหมอกละอองความเย็นผ่านมา หมายถึงพระศุกร์ หนังจะดูด
เอาน้ำเข้าไปไว้ ทำให้เกิดความเย็นขึ้น เช่น พระเสาร์ทับลัคนา โดยมีดาวมฤตยูได้รับแสงของอาทิตย์ ส่งมาถึงเสาร์ทำให้เกิดเป็นไข้ชนิดที่มีความร้อนสูง ถ้าบังเอิญดาวศุกร์ผ่าน เล็ง โยค ส่งพระเสาร์ ไข้จะหนักขึ้นอาจถึงตายได้ เพราะระบบธาตุในร่างกายเปลี่ยนไม่ทัน ถ้าจะเปรียบกันง่าย ๆ ดังเช่น เราไปทำงานมาเหน็ดหนื่อย และกำลังร้อนมาใหม่ ๆ ไปรีบอาบน้ำเข้า อาจจะเกิดเป็นไข้หวัด หรือป็นเพียงหวัดได้ เขาจับเหตุตรงนี้แต่งเป็นตำราว่า พระศุกร์ผ่านพระเสาร์หรือราหู จะได้ รำเค็ญ ลำบากมาก ถ้าไข้เจ็บหนักจักตาย ศัตรูจะให้โทษ ถ้าบังเอิญไข้นั้นเกิดตายขึ้นมา ธาตุแห่งพระเสาร์ก็จะกลับกลายเป็นดินไป รูปกายที่เป็นโลกหรือราหูก็จะละลายหายไปด้วย

นี่แหละครับ  ชีวิตของการเริ่มต้นที่ผมเรียนวิชาโหราศาสตร์ภาควิจารณ์ โหราจารย์เขา ต้องการเอาแต่เรื่องธาตุเป็นจุดสำคัญ โลกนั้นประกอบด้วยธาตุ ๔ มนุษย์เราเป็นส่วนหนึ่งของโลก มีองค์ประกอบด้วยธาตุ ๔ เหมือนกัน แต่ตามความเป็นจริงแล้ว มนุษย์เรามีเพิ่มอีก ๒ เรียกว่า วิญญาณ ธาตุและอากาศธาตุ เพื่อผลแห่งการวิจารณ์ในภาคพื้นที่เกิดแก่โลก หรือมนุษย์ ตลอดจนพืชพันธุ์ต่าง ๆ จึงต้องเอาโลกไปประมวลเข้าในเรื่องของราหู เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวต่าง เกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ สัตว์ พืช และวัตถุต่าง ๆ เหมือนการถอดโด้ตออกมาเป็นตัวหนังสือให้เราอ่านเรื่องราวต่าง ๆ ได้

บัดนี้ผมมาได้รับความสว่างเพิ่มอีก เมื่อได้อ่านบทความของท่าน พลูหลวง แล้วทำให้หูตาสว่างขึ้นอีกว่า สมัยนี้เขาเรียนโหราศาสตร์กันก้าวหน้ากันไปไกล บทความของผมในเดือนกรกฎาคมนั้น หากผิดพลาดไม่ตรงกับของผู้อื่นประการใดหวังว่าคงได้รับการอภัยจากผู้ทรงคุณ ในที่นี้ด้วย




​​​​​​​
#คุณยายกลิ่นโสม
#เรียนโหราศาสตร์ด้วยตนเอง.. ได้ที่ :
#บ้านคุณยายกลิ่นโสม # http://www.baankhunyai.com/
................................................


Visitors: 171,271