ลักษณะดวงหมอดู ตอน1.

     ลักษณะดวงหมอดู ตอน1.

   

  ดวงชะตาผู้ที่เป็น นักพยากรณ์ หมอดู หรือ โหร นั้น ในดวงชะตา จะมีดวงดาว ..
อาทิตย์(๑)  อังคาร(๓)  พุธ(๔)  พฤหัส(๕)  เสาร์(๗)  ราหู(๘)  เกตุ(๙) มฤตยู(๐) 
ขาดแค่ ดาวจันทร์(๒) กับดาวศุกร์(๖) เองเน๊อะ 55555
และต้องที่มี ๓ ข้อนี้ สัมพันธ์ถึงกัน 

๑.ลัคนา คือ สภาพแวดล้อม สภาวะแวดล้อม จุดอิทธิพล ของเจ้าชะตา
๒.ตนุลัคน์ คือ ตัวตน วาสนา ของเจ้าชะตา
๓.ตนุเศษ คือ จิตใจ ความนึกคิด ความชอบ ความใส่ใจ ความสนใจ ของเจ้าชะตา

ซึ่งทั้ง ๓ ข้อนี้ ต้องมีจุดสัมพันธ์ กุม โยค เล็ง เป็นสามแก่ลัคนา หรือ เป็นสี่แก่กัน หรือแม้นแต่เบียนลัคนา(ทางจันทรคติ) 
แต่นั่นจะต้องสัมพันธ์ถึงกัน ไม่ว่าจะเรือน/ภพ ราศี หรือดวงดาว นั่นเอง 

ดาวอาทิตย์(๑)  เป็นจุดกำเนิด เป็นปัญญาของเจ้าชะตา
การคิดได้ แสดงถึงความรู้แจ้งในด้าน ความคิด ความกระตือรือร้น ความเชื่อมั่นในตัวเอง การเอาชนะ การมีชื่อเสียง อยากเด่น การยอมรับ ดาวอาทิตย์ที่มีตำแหน่งดาวมาตรฐาน มาพิจารณาในประเด็นหลักสำคัญบนดวง เพราะในดวงชะตาบางดวงที่มีดาวอาทิตย์เด่น เช่น อุจน์ มหาจักร หรือราชาโชค ก็มิหมายความว่า ดวงดวงนั้นจะมีความสามารถในการอ่านดวงได้ หรือจะเป็นหมอดูได้ เพียงแต่อย่างมากอาจจะมีความสนใจหรือความชอบเรื่องดวงก็เท่านั้น 

ฉะนั้นในดวงชะตา คนที่จะมีดวงเป็นหมอดูหรือโหรนั้น ไม่จำเป็นว่าดาวอาทิตย์ต้องเด่นบนดวงเสมอไป แต่ดาวอาทิตย์ต้องมีจุดสัมพันธ์ถึงลัคนา หรือถึงตนุลัคน์ หรือถึงตนุเศษ และยังต้องสัมพันธ์เรือนถึงกันด้วย


   

ตัวอย่างตามรูปภาพ 
จะเห็นว่าดาวอาทิตยฺ์(๑) ไม่ได้ตำแหน่งมาตราฐานดาวอะไร แต่ดาวอาทิตย์(๑) สัมพันธ์ถึงลัคนา นั่นคือดาวอาทิตย์กุมลัคนา ในราศีพิจิกนั่นเอง
  
       
ดาวอังคาร(๓) ดาวธาตุลม ดาวอังคาร(๓)เป็นดาวที่บ่งถึงการกระตือรือร้น ชิงไหวชิงพริบ ตัดสินใจรวดเร็วดี เฉียบขาด การกระทำสิ่งใดๆด้วยความกระตือรือร้น การบุกเบิก ริเริ่ม มีความเป็นอิสระไม่ขึ้นต่อใคร มีความทะเยอทะยาน มีความเชื่อมั่นในตัวเอง ขยันขันแข็ง ตัดสินใจเด็ดขาด แข่งขัน ในชอบลุย ทิฐิ

และดาวอังคาร(๓) เอง ถือครองเป็นเจ้าเรือนเกษตร สองเรือน คือ ราศีเมษและราศีพิจิก จะเห็นว่าได้ว่าดาวอังคาร(๓)ที่ราศีเมษคือการเกิด มีการคิดริเริ่ม การตื่นตัว การกระตือรือร้น ไม่มีวันสิ้นสุด และ
อังคาร(๓)ในราศีพิจิกคือการดับ หากเรานับตามนับลัคนาของโลก จะเห็นว่่าหากเรานับจากลัคนาของโลก ดาวอังคาร(๓)ที่ราศีพิจิก เป็นเรือนมรณะแห่งลัคนาทางโลก มรณะ หมายถึงตาย หมายถึงการดับ จึงหมายความถึงการมีปัญญาศึกษาศาสตร์ ที่ลี้ลับ ลึกลับ หรือยากแก่การพิสูจน์ นั่นเอง

ฉะนั้นสำหรับคนเรียนดวงหรือคนที่จะเป็นหมอดู  จะมีดาวอังคาร(๓)ที่จะสัมพันธ์ถึงลัคนา หรือ อาทิตย์(๑) ซึ่งหมายถึงปัญญา ไหวพริบ การพิจารณา การชอบเอาชนะ ฉะนั้นอังคาร(๓) ถึงอาทิตย์(๑) จึงทำให้เจ้าชะตา แข่งขัน จะไม่มีการไม่ย่นย่อต่อการศึกษา นั่นเอง 

   

ตัวอย่างตามรูปภาพ จะเห็นว่าดาวอังคาร(๓) สัมพันธ์ถึงดาวอาทิตย์(๑) นั่นคือดาวอังคาร(๓)อยู่ราศีสิงห์ เจ้าเรือนราศีสิงห์มีดาวอาทิตย์(๑) เป็นดาวเกษตร เรือนในอยู่ จึงจะเห็นได้ว่า ดาวอังคาร(๓)มีความสัมพันธ์ถึงดาวอาทิตย์(๑) และสัมพันธ์ถึงลัคนาราศีพิจิก และอังคาร(๓ กับอาทิตย์(๑) ยังสลับเรือนกันด้วย จึงทำให้ ยิ่งแข่งขันกับตนเองมากขึ้น ยิ่งทำให้ เจ้าชะตามีปัญญามากขึ้น นั่นเอง 
 
ดาวพุธ (๔ )  คนที่สนใจในวิชาโหราศาสตร์ ต้องมีดาวพุธ(๔) สัมพันธ์ถึง ลัคนา ตนุลัคน์ ตนุเศษ  เพราะดาวพุธ(๔) เป็นดาวที่พลิกแพลงได้รวดเร็ว ว่องไว จะเร็วมากๆ ก็ต้องสัมพันธ์ถึงอาทิตย์โดยตรงนั่นก็คือ ดาวพุธ(๔) กุม ดาวอาทิตย์(๑)

ดาวพุธ(๔)เป็นดาวธาตุน้ำ  ถือครองเป็นเจ้าเรือนเกษตร สองเรือนคือ ราศีเมถุนและราศีกันย์ ดาวพุธเป็นดาวเจ้าการ ความคิด ความจำ การพูด ภาษา  สื่อสาร สติปัญญา เรียนรู้ได้ง่าย  เรียนได้เร็ว พลิกแพลงได้เร็ว ไหวพริบปฏิภาณดี ชอบที่แสวงหาความรู้ เข้าใจอะไรได้ง่ายได้เร็ว พัฒนาอะไรไปได้เรื่อยๆเหมือนสภาวะแห่งน้ำ คือไม่มีการฟิตตายตัว มีการปรับมีความคิดพิเคราะห์ จึงทำให้พัฒนาได้เร็ว มีความกระตือรือร้นในด้านความคิด สมองปราดเปรียว คิดเร็ว ตื่นตัว พัฒนาได้เร็ว เปรียบดั่งสายน้ำนั่นเอง ถึงแม้นจะไม่มีลำน้ำให้ไหลผ่าน น้ำก็ยังสามารถแทรกซึมให้ผ่านไปได้ 

พุธ(๔)ในราศีเมถุนซึ่งเป็นธาตุลม มักเกี่ยวข้องการคิด การจิตนาการ การสื่อสารเชิงความคิด การพุด แต่พุธ(๔)ในราศีกันย์ ซึ่งเป็นธาตุดิน มักเกี่ยวข้อง การเขียนสิ่งพิมพ์ ซึ่งจะเน้นจากคำพูด มาเป็นตัวอักษร 

   
 
ตัวอย่างตามรูปภาพ จะเห็นว่าดาวพุธ(๔) กุมร่วมลัคนา ร่วมเรือน อาทิตย์ (๑) นั่นก็แสดงให้เห็นว่า พุธ(๔) สัมพันธ์ถึงลัคนา อาทิตย์(๑) 
พุธ(๔)อยู่ในราศีพิจิก ซึ่งเป็นเจ้าเรือนอังคาร(๓) พุธ(๔)ย่อมรับซึมซับนิสัยของอังคาร(๓)มา นั่นคือ ความคิดพลิกแพลง ได้รวดเร็วว่องไว นั่นเอง 

ดาวพฤหัส(๕)  คลังสมอง ความคิดความอ่านแบบเป็นระเบียบแบบแผน มีขั้นมีตอน ปัญญาญาณ ความรู้  วิชาความรู้  ความคิดแบบพฤหัสมักถูกจัดไว้เป็นขั้นตอน  แต่ทั้งนี้ดาวพฤหัสบดี(๕) เป็นดาวเจ้าเรือนเกษตร สองเรือน ได้แก่ ราศีธนู และราศีมีน

ราศีธนู (ภพศุภะของดวงโลก) ความที่ดาวพฤหัส(๕)เป็นดาวเจ้าเรือนเกษตรของราศีธนู อันเป็นเจ้าเรือนศุภะ แน่นอนว่าศุภะ หมายถึงการเรียน การศึกษา และ  
ราศีมีน เป็นเรือนวินาศของลัคนาโลก วินาศหมายถึงสิ่งปกปิด สิ่งลี้ลับ สิ่งที่ไม่สามารถหาได้โดยง่าย  ฉะนั้นจึงทำให้ทราบว่า คนที่จะเรียนรู้วิชาโหราศาสตร์ได้ดีจำต้อง ดาวพฤหัส(๕) สัมพันธ์ถึง ลัคนา สิ่งแวดล้อมเจ้าชะตา  ตนุลัคน์ สัมพันธ์ตัวตนของเจ้าชะตา  ตนุเศษ สัมพันธ์ถึงความชอบใจ ความสนใจ ของเจ้าชะตานั่นเอง 

   

ตัวอย่างตามรูปภาพ จะเห็นว่าดาวพฤหัส สถิตราศีเมษ เจ้าเรือนอังคาร(๓) ซึ่งพฤหัสเข้าสถิตราศีเมษเท่ากับ สัมพันธ์ถึงอังคาร(๓)โดยตรง พฤหัสอยู่ราศีเมษ ยังสัมพันธ์ถึงอังคาร(๓) คู่สมพล  คู่สมพลหมายถึงการประกอบการกระตือรืนร้น ตามคุณลักษณะของอังคาร(๓) และต้องเป็นการกระตือรือร้นในวิชาความรู้ การคิดด้วยสมอง มิใช่ด้วยแรงกายอย่างอังคาร(๓) เพียงอย่างเดียว จากรูปจึงรู้ได้ได้ว่า เจ้าชะตามีความขยัน กระตือรืนร้น ในการขวนขวาย ในศาสตร์ลี้ลับ ศาสตร์ที่ไม่ใช่พิสูจน์เชิงวิทยาศาสตรืนั่นเอง 

ฉะนั้นจึงสรุปได้ว่า ดาว ๔ ดวงนี้ ได้แก่...
อาทิตย์(๑) ลัมพันธ์ถึง ลัคนาเพราะกุมกันอยู่
อังคาร(๓) สัมพันธ์ถึงอาทิตย์(๑) เพราะ อาทิตย์(๑)เข้าร่วมเรือน อังคาร(๓)ในราศีพิจิก และสลับเรือนกันในราศีสิงห์ ราศีพิจิก
พุธ(๔) ร่วมกุมกันกับอาทิตย์และลัคนา และเข้าร่วมเรือนในราศีพิจิด เจ้าเรือนอังคาร(๓)
พฤหัส(๕) สัมพันธ์ถึงอังคาร(๓) เพราะพฤหัสสถิตในราศีเมษ เจ้าเรือนอังคาร (๓) นั่นเอง

การที่จะมีดวงเป็นโหร เป็นหมอดู ไม่ได้มีแค่ดาวอาทิตย์(๑) ดาวอังคาร(๓) ดาวพุธ(๔) ดาวพฤหัส(๕) จะต้องมีดาวที่บ่งถึงเรื่องเก่าๆ ดาวที่บ่งถึงความเก่าๆ แก่ๆ ก็เป็นดาวเสาร์(๗) ดาวราหู (๘) และ ดาวเกตุ(๙) เรามาเริ่มดูที่ดาวเสาร์(๗) กันนะ


ดาวเสาร์(๗) หมายถึงอะไรได้บ้าง เสาร์หมายถึง แก่ๆ เก่าๆ ช้าๆ คร่ำครึ เชื่อมั่นไม่เปลี่ยนแปลง ถ้าเป็นศาสตร์ก็จะเป็นศาสตร์เก่าๆ โบร่ำโบราณ ยึดมั่น ถือมั่น ไม่เปลี่ยนแปลงว

ดาวเสาร์(๗) เป็นราศีธาตุไฟ สถานะของธาตุไฟ คือให้พลังงานให้ความร้อน แต่ร้อนอย่างดาวเสาร์(๗) ย่อมไม่ได้ร้อนแบบไฟโชติช่วง เหมือนดั่งดาวอาทิตย์(๑)ที่ร้อนแผดเผา แต่เป็นการร้อนอย่างเสาร์จะเป็นการร้อนแบบสุมขอน ซ่อนไฟไว้ภายใน ซึ่งจะทำให้มีความร้อนแบบดับช้า ดับยาก และร้อนไปได้เรื่อยๆ 

คนที่จะมีดวงเป็นหมอดูหรือโหรนั้น จะต้องมีดาวเสาร์(๗) สัมพันธ์ดาวถึงอาทิตย์(๑) ดาวอาทิตย์(๑)เป็นดาวธาตุไฟ เมื่อดาวอาทิตย์(๑)ที่เป็นธาตุไฟ สนับสนุนดาวเสาร์(๗) ที่เป็นธาตุไฟเหมือนกันกัน ดาวอาทิตย์เป็นดาวแห่งการตื่นรู้ ดาวแห่งการตื่นเต้นการรู้สิ่งใหม่ แต่ดาวอาทิตย์เป็นดาวแห่งการจุดประกายเกิดขึ้น แต่เมื่อได้ไฟอย่างดาวเสาร์(๗) ที่เกิดยากและดับยาก มาสนับสุน นั่นก็คืออาทิตย์(/) เกิดขึ้น และได้ไฟอย่างดาวเสาร์(๗) หนุนไว้ จึงทำให้กว่าจะดับต้องใช้เวลานาน 
ฉะนั้นดาวเสาร์(๗) สัมพันธ์ถึงอาทิตย์(๑)ย่อมทำให้เกื้อกูลธาตุกัน ไฟจากอาทิตย์ดับ ยังได้ไฟจากเสาร์(๗)เกื้อกูล จึงทำให้เกิดเป็นพลังงานต่อเนื่องกันไป และ

ดาวเสาร์(๗) มีความสัมพันธ์ถึง อังคาร(๓) ดาวเสาร์(๗) เป็นดาวแห่งแบบแผน เชื่อมั่น ยึดมั่น ไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนอังคาร(๓)ซึ่งเป็นดาวที่มีความกระตือรือร้น กระชับกระเฉง ว่องไว นั้น  เมื่อดาวเสาร์(๗)มาสัมพันธ์ถึงย่อมทำให้ ดาวเสาร์(๗) มีการตื่นตัว กระตือรือร้น ไม่เฉื่อยช้าเหมือนทุกที  เมื่อความความเชื่อมั่นแบบดาวเสาร์(๗) ถูกดาวอังคาร(๓)สัมพันธ์ถึง จึงทำให้รูปแบบปรับเปลี่ยนไป นั้น จึงทำให้ความคิดความเชื่อถูกหักล้าง มีการคัดค้านมีการต่อต้าน นำพาสู่การวิเคราะห์ การพิสูจน์  

ดาวเสาร์(๗) ยังต้องสัมพันธ์ถึง ดาวพุธ(๔) ดาวเสาร์(๗) เป็นดาวแห่งแบบแผน เชื่อมั่น ยึดมั่น ไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนดาวพุธ(๔) เป็นปัญญา พลิกแพลง เมื่อดาวเสาร์(๗) สัมพันธ์ถึง ดาวพุธ(๔)จึงทำให้ดาวเสาร์ที่คิดช้า คิดอะไรได้รวดเร็วขึ้น พลิกแพลงดีขึ้น ละเอียดแบบมีวิธการใหม่ๆ ความที่ดาวพุ(๔) ถึงดาวเสาร์(๗) จึงทำให้มีความคิด ความสนใจ ในเรื่องเก่าๆ เรื่องโบราณ นั่นเอง 

   
ตัวอย่างตามรูปภาพ จะเห็นว่าดาวเสาร์(๗) อยู่ราศีกุมภ์ เป็นสี่แก่ลัคนา นั่นก็คือ เรื่องศาสตร์เก่าๆนี้เป็นเรื่องรู้มาแต่เดิมของเดิม  และดาวเสาร์(๗)ยังเอื้อมถึงลัคนา นั่นก็แสดงว่าสถานะ แวดล้อมอยู่แวดล้อมเก่าๆ เดิมๆ เรื่องโบราณๆ  ดาวเสาร์(๗)เอื้อมถึงลัคนา ลัคนากุมร่วมดาวอาทิตย์(๑) จึงเท่ากับดาวเสาร์(๗)ถึงดาวอาทิตย์(๑) และ ดาวพุธ(๔) 
ทั้งนี้ดาวเสาร์(๗) ยังเล็งดาวอังคาร(๓) ทำให้ดาวเสาร์รัศมีของดาวอังคาร(๓) ได้โดยปริยาย นั่นก็คือดาวเสาร์(๗)สัมพันธ์ถึงดาวอังคาร(๓) และ
ดาวเสาร์(๗)โยคถึงดาวพฤหัส(๕) นับดาวเสาร์ไปหาดาวพฤหัส(๕)เป็นสหัสชะ นั่นก็หมายความว่า เรื่องศาสตร์เก่าๆ เป็นสิ่งที่แสวงหา และสามารถเรียนรู้ทำความเข้าใจได้ และนับจากดาวพฤหัส(๕)หาดาวเสาร์(๗) จะเห็นว่าการศึกษาหาความรู้ในศาสตร์เก่าเป็นเรื่องความชอบใจ ความพึง ความสนุกสนานนั่นเอง
 
 
 
เขียนยังไม่จบ ราหู(๘)  เกตุฯ(๙)  มฤตยู(๐) 

 #By_คุณยายกลิ่นโสม 102100142 450
 #อ่านดวงไทยสไตล์คุณยายกลิ่นฯ
 #เรียนดวงโหราศาสตร์ไทยฟรีที่บ้านคุณยายกลิ่นโสม
 #โหราศาสตร์ไทยเรียนด้วยตนเองฉบับคุณยาย ได้ที่ #htthttp://www.baankhunyai.com 102100
 ----------------------------------
   สนใจดูดวงติดต่อ QR Code
  
Visitors: 170,756